ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยังเคลียร์สถานการณ์เรื่องผู้รักษาประตูไม่ได้ ว่าดาวิด เด เกอาจะอยู่เฝ้าเสาต่อ หรือใครจะเข้ามาทำหน้าที่แทนในฤดูกาลหน้า อาร์เซนอลก็ต้องปวดหัวเหมือนกันกับตำแหน่งนายทวาร

ไม่ใช่เพราะต้องเสียใครไปหรือไม่มีตัวเลือกดี ๆ แต่ปัญหาของปืนใหญ่ทำท่าว่าจะอยู่ที่การมีผู้รักษาประตูฝีมือดีให้ใช้งานพร้อมกันทีเดียวถึงสองคน เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก จ่อจรดปากกาเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการแล้ว

ด้วยดีกรีที่สั่งสมมามากมายของนายทวารวัย 33 ปีที่เฝ้าเสาให้เชลซีมานานถึง 11 ฤดูกาล ทำให้เขาถูกคาดหมายว่าน่าจะย้ายมาเป็นมือหนึ่งคนใหม่ในใจของ อาร์แซน เวนเกอร์

และนั่นหมายความว่าดาวิด ออสปิน่า ที่เพิ่งยึดตำแหน่งมือหนึ่งของ อาร์เซนอล มาได้เพียงครึ่งฤดูกาล จะต้องหลุดไปเป็นมือสอง ส่วน วอยเชียค เซชนี่ มือหนึ่งตอนออกสตาร์ทฤดูกาลที่แล้ว ต้องขยับถอยไปเป็นมือสาม

หรืออีกความเป็นไปได้ก็คือนายประตูทีมชาติโคลอมเบีย อาจเลือกที่จะอำลา เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปเลย แม้จะเพิ่งย้ายมาร่วมทีมได้แค่ปีเดียว เพราะไม่ต้องการอยู่เป็นแค่มือสองในทีม

หลังจากเป็นหนึ่งในดาวเตะที่แจ้งเกิดบนเวทีโลกได้อย่างเต็มตัวในฟุตบอลโลก 2012 ที่บราซิล ออสปิน่า ก็ถูกอาร์เซนอลคว้าตัวมาจากนีซในลีกเอิง ด้วยค่าตัวแสนถูกกเพียง 3 ล้านปอนด์เพราะเขาเหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว

ออสปิน่าไม่มีโอกาสได้ออกสตาร์ทฤดูกาลก่อนพร้อมกับอาร์เซนอล เพราะได้พักยาวเป็นพิเศษเช่นเดียวกับนักเตะที่ลงเตะในฟุตบอลโลกรอบลึก ๆ และเขายังมีปัญหาการบาดเจ็บรบกวนอีกด้วย ทำให้ยังไม่สามารถแย่งมือหนึ่งมาจากเซชนี่ได้ในช่วงครึ่งฤดูกาลแรก

แต่เมื่อฟิตสมบูรณ์ดีแล้ว ออสปิน่าก็ได้โอกากสลงเฝ้าเสแทนเซชนี่ที่ฟอร์มตกในช่วงเดือนมกราคม และยึดตำแหน่งเอาไว้ได้อย่างถาวร ด้วยฝีไม้ลายมืออันเป็นที่ยอมรับ และกลายมาเป็นมือหนึ่งของปืนใหญ่อย่างเต็มตัวและสมราคา

ขณะที่เช็กนั้นเพิ่งเสียตำแหน่งมือหนึ่งในทีมเชลซีเป็นครั้งแรกในฤดูกาลที่ผ่านมา เมื่อ ติโบต์ กูร์กตัวส์ ถูกดึงตัวกลับมา หลังไปบ่มเพาะฝีมือจนแก่กล้ากับ แอตแลติโก มาดริด มานานถึง 3 ปี และโจเซ่ มูรินโญ่ก็เลือกที่จะให้ขารับหน้าที่มือหนึ่งคนใหม่ในทีม

ฟอร์มที่ดีของทั้งเชลซีและกูร์กตัวส์ทำให้เช็กไม่มีลุ้นที่จะเบียดทวงตำแหน่งได้เลย และได้ลงเล่นบ้างแค่ในบอลถ้วย หรือในบอลลีกตอนที่กูร์กตัวส์เจ็บเท่านั้น

เมื่อรวมกับการที่เขาเหลือสัญญาอีกแค่ปีเดียว บวกกับความใจกว้างของโรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมเชลซี เช็กจึงได้รับคำมั่นสัญญาว่าเขาจะย้ายทีมได้ตามต้องการในซัมเมอร์นี้ และเจ้าตัวก็เลือกอาร์เซนอลเหนือแมนฯ ยูไนเต็ด

การแสดงออกอย่างไม่ปิดบังของมูรินโญ่ที่ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเจ้าของทีมในครั้งนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเสียนายประตูมือดีให้กับคู่แข่งลุ้นแชมป์ร่วมเมือง บอกได้เป็นอย่างดีถึงคุณภาพของเช็ก และเขาคงไม่อยากย้ายจากการเป็นสำรองของทีมหนึ่งมาเป็นสำรองของอีกทีมหนึ่งแน่

และนั่นทำให้หลายคนเชื่อว่าเช็กน่าจะมีโอกากสมากกว่าออสปิน่าในตำแหน่งมือหนึ่งของอาร์เซนอลในฤดูกาลใหม่นี้

แต่ฟอร์มล่าสุดของออสปิน่าในศึกโคปา อเมริกาที่เขาโชว์การเซฟได้อย่างเหนียวหนึบ โดยเฉพาะในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้ายกับอาร์เจนตินา ก็ทำให้แฟนปืนใหญ่ถึงกับเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง เพราะตัดสินใจไม่ถูกว่าอยากให้ใครลงเฝ้าเสากันแน่

เวนเกอร์เองก็คงคิดหนักเช่นกัน เพราะผลงานของออสปิน่าเมื่อฤดูกาลที่แล้วก็ถือว่าไม่ขาดตกบกพร่องอะไร การจะดร็อปเขาไปเป็นมือสองดื้อ ๆ เพราะผู้รักษาประตูชื่อดังกว่าย้ายมาร่วมทีม จึงดูไม่เป็นมืออาชีพเท่าที่ควร

แถมเมื่อคิดเป็นสถิติระหว่างผู้รักษาประตูของเชลซีและอาร์เซนอลใน 5 ฤดูกาลหลังสุด เฉพาะผู้รักษาประตูที่ต้องป้องกันลูกยิงในพรีเมียร์ลีก 10 ลูกขึ้นไป ว่าใครมีเปอร์เซ็นต์การเซฟได้มากกว่ากัน

สถิติของ ออสปิน่า ออกมาที่ 81% ในอันดับ 2 ขณะที่ เช็ก มีสถิติอยู่ที่ 75% ในอันดับ 3 รองลงไปคือ ลูคัซ ฟาบียนสกี้ 73% และ กูร์กตัวส์ 71%

ส่วนอันดับหนึ่งเป็น มาร์ค ชวาร์เซอร์ ซึ่งได้ลงเฝ้าเสาให้เชลซีแค่ 4 นัดเท่านั้น ทำให้สถิติสูงถึง 85%

การที่ออสปิน่าเพิ่งเสร็จจากการเล่นให้ทีมชาติ ทำให้เขาอาจจะได้พักนานเป็นพิเศษอีกครั้ง ก่อนจะกลับมาซ้อมกับทีมในช่วงปรีซีซั่น และนั่นก็อาจจะเป็นโอกาสให้เช็กได้ลงเฝ้าเสาก่อนในช่วงออกสตาร์ทฤดูกาล

ตอนนี้คงได้แต่เดากันไปว่าใครคือตัวเต็งที่จะได้เป็นมือหนึ่งคนใหม่ของอาร์เซนอลในฤดูกาลที่จะถึง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเต็งจะกลายเป็นตัวจริงเสมอไป

และถ้าออสปิน่าเลือกที่จะอยู่สู้ต่อ หรือปืนใหญ่ไม่ยอมขายเขา การมีผู้รักษาประตูเก่งๆ ให้ใช้งานพร้อมกันทีเดียวสองคน น่าจะเป็นข่าวดีมากกว่าข่าวร้าย

แม้ว่าอาจจะต้องหนักใจหรือปวดหัวอยู่บ้างในช่วงแรก ๆ ก็ตาม

สนับสนุนเนื้อหา