bloggang.com mainmenu search
10 พฤศจิกายน 2553 : "9 มหัศจรรย์ แห่งความสุข" The Happiness of 9 Wonders [วันลองไฟ]

กิจกรรมพิเศษ ไฮไลท์ของงานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ในปีนี้ บริเวณรอบๆ คูเมืองในส่วนที่่เป็นประตูเมือง แลแจ่งต่างๆ จะตกแต่งให้ชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้สัมผัสแสงสีแห่งรัตติกาลครั้งแรก ณ ดินแดนเชียงใหม่ เมืองน่าท่องเที่ยวที่สุดอันดับ 2 ของโลก
ชมประติมากรรมโคมไฟสีสันยี่เป็งเชียงใหม่ เป็นการจัดแสดงประติมากรรมโคมไฟ "9 มหัศจรรย์ แห่งความสุข" The Happiness of 9 Wonders



จุดแสดง 9 มหัศจรรย์แห่งความสุข สามารถติดตามชมได้รอบๆ คูเมือง ในส่วนของประตูเมือง และบริิวณแจ่งต่างๆ ดังนี้
1. มหัศจรรย์ช้างมงคลคู่พระบารมี จัดแสดงที่ ประตูช้างเผือก
2. มหัศจรรย์เทพยแห่งบุปผา จัดแสดงที่ แจ่งศรีภูมิ
3. มหัศจรรย์โคมไฟล้านนาเทิดพระเกียรติ จัดแสดงที่ ประตูท่าแพ
4. มหัศจรรย์โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ ใต้แสงแห่งพระบารมี จัดแสดงที่ แจ่งขะต๊ำ
5. มหัศจรรย์พญานาคาเบิกฟ้ายี่เป็งล้านนาเชียงใหม่ จัดแสดงที่ แจ่งกู่เฮือง
6. มหัศจรรย์หิมพานต์สัตว์มงคลแห่งขุนเขา จัดแสดงที่ ประตูสวนดอก
7. มหัศจรรย์สายธานแห่งพระมหาชนก จัดแสดงที่ แจ่งหัวริน
8. มหัศจรรย์พรรณไม้งาม จัดแสดงที่ สี่แยกกลางเมือง
9. มหัศจรรย์โคมไฟนานาชาติ จัดแสดงที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์


เริ่มจากจุดที่ 1 มหัศจรรย์ช้างมงคลคู่พระบารมี จัดแสดงที่ ประตูช้างเผือก




ช้างมงคล 10 ตระกูล มีดังนี้

กาฬวกหัตถี
เป็นช้างที่มีสีกาย ผิวหนัง และรูขุมขนทั่วร่างประดุจสีปีกกา หรือ ตระกูลช้างที่เกิดใกล้กับเขากาฬคีรี ในประเทศอินเดีย




คังไคยหัตถี
เป็นช้างที่เกิดอยู่ในหัวเมืองที่ตั้งอยู่ใกล้กับแม่น้ำคงคา ในประเทศอินเดีย




ปัณฑรหัตถี
เป็นช้างที่สีกายดุจเขาไกลาศ คือมีหนังและขนขาวเลื่อม เป็นมันดังหิมะ ที่ตกปกคลุมยอดเขาที่ต้องแสงอาทิตย์ในตอนรุ่งเช้า




ตามพหัตถี
เป็นช้างที่มีผิวกายสีทองแดง ตัวค่อนข้างเผือกออกเป็นแดง ขนหางแลดูคล้ายเป็นดอกบัวแดง




ปิงคลหัตถี
เป็นช้างที่มีผิวกายเหลืองอ่อน ขนยาวเป็นดอกเลาทั่วร่างกาย




คันธหัตถี
เป็นช้างที่มีลักษณะเป็นดังไม้กฤษณา สังเกตได้จากกลิ่นทั่วกายหอม มูลถ่ายออกมาก็หอม




มงคลหัตถี
เป็นช้างที่นับว่าเป็นมิ่งมงคล มีสีกายดำปนเขียวประดุจนิลอัญชัน
ถ้าอยู่เมืองใด เมืองนั้นบ้านนั้นจะมีแต่ความสุขความเจริญ




เหมหัตถี
เป็นช้างที่มีลักษณะ สีกายประดุจสีทอง




อุโบสถหัตถี
เป็นช้างที่มีสีกายเหลืองอร่าม ประดุจดังสีทอง




ฉันทันตหัตถี
เป็นช้างที่มีลักษณะ เท้าแดง ปากแดง ขาวเผือกงามบริสุทธิ์ ประดุจสีเงินยวง



จุดที่ 2 มหัศจรรย์เทพยแห่งบุปผา จัดแสดงที่ แจ่งศรีภูมิ








จุดที่ 3 มหัศจรรย์โคมไฟล้านนาเทิดพระเกียรติ จัดแสดงที่ ประตูท่าแพ
































จุดที่ 4 มหัศจรรย์โคมไฟเฉลิมพระเกียรติ ใต้แสงแห่งพระบารมี จัดแสดงที่ แจ่งขะต๊ำ










จุดที่ 5 มหัศจรรย์พญานาคาเบิกฟ้ายี่เป็งล้านนาเชียงใหม่ จัดแสดงที่ แจ่งกู่เฮือง











จุดที่ 6 มหัศจรรย์หิมพานต์สัตว์มงคลแห่งขุนเขา จัดแสดงที่ ประตูสวนดอก

พญาหงส์


กาสรสิงห์


บันทุราชสีห์


เหมราช


ตุรงค์ปักษิณ


พญาครุฑ


พญาสิงห์


กิเลนไทย


ติณราชสีห์


มัจฉานุ




จุดที่ 7 มหัศจรรย์สายธานแห่งพระมหาชนก จัดแสดงที่ แจ่งหัวริน








จุดที่ 8 มหัศจรรย์พรรณไม้งาม จัดแสดงที่ สี่แยกกลางเมือง








จุดที่ 9 มหัศจรรย์โคมไฟนานาชาติ จัดแสดงที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์

















ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายใน blog ชุดนี้ด้วยครับ






*********** ข่าวประชาสัมพันธ์เดือน พฤศจิกายน

18-22 พ.ย. 53 งานประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่





20 พ.ย. 53 งาน ยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา ปล่อยโคมลอยห้าพันดวงเป็นพุทธบูชา ที่ ธุดงคสถาน สันทราย จ.เชียงใหม่





*** ข่าวประชาสัมพันธ์ เดือนธันวาคม 2553
มีอีก 1 งาน น่าสนใจเช่นกันครับ
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดงานสวนพฤกษศาสตร์แฟร์ ครั้งที่่ 1
โดยภายในงานมีกิจกรรมทางด้านพฤกษศาสตร์ และร่วมชื่นชมพรรณไม้นานาพันธุ์ภายในสวนฯ
ขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้สนใจร่วมงานในระหว่างวันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2553
ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-5384-1234 ส่วนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์

4 - 12 ธ.ค. 53 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม

งานนี้ไปถ่ายภาพดอกไม้ สวยๆ พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดกันได้ฟรี นะครับ




***
งานของเดือนธันวาคม และต่อเนื่องไปจนถึงมกราคม 54 เพิ่งทราบมาครับ
งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์

(Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek)



อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้จัดงานชมสวนราชพฤกษ์มาแล้วในปี 2552 และจะจัดเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสวนต่างๆ ให้สวยงามอยู่เสมอและพร้อมที่จะจัด “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ขึ้นอีกครั้งในระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 31 มกราคม 2554 รวม 62 วัน ซึ่งในครั้งนี้อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้เตรียมการจัดและตกแต่งสวนให้สวยงามด้วยดอกไม้เมืองหนาวและพรรณไม้นานาชนิดจากมูลนิธิโครงการหลวงที่เน้นความสวยงามแปลกตา เพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เข้ามาเที่ยวชมงานเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

การจัดงานครั้งนี้จะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่และตระการตาในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เวลา 17.30 น. โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ณ บริเวณลานราชพฤกษ์ ซึ่งจะประกอบด้วย พิธีเปิดที่ตระการตา ชมต่างแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงSymphony Orchestraบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 9เพลงจากนักร้องรับเชิญกิตติมศักดิ์ การแสดงชุดชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์จากออย ธนา, ลิเดีย คู่พระนางจากละครเรื่องระบำดวงดาว และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน ตุ้ย AF3

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมการแสดงการละเล่นพื้นบ้านและการแสดงดนตรีในสวน (Music in the Garden) จากศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาแสดงฟรีคอนเสิร์ต ทุกวันเสาร์และวันหยุดสำคัญ อาทิ นันทิดา แก้วบัวสาย/แอม เสาวลักษณ์/ETC./Best Sellor/Now and Then/เบน ชลาทิศ/แสตมป์/ลุลา/แคลอรี่ บลาบลา/โก้ Sax man/ป้อม ออร์โต้บาห์น/มิ้นท์ มาลีวัลย์/LADY BZ /The wind/ Caption Loma เป็นต้น

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้มีการจัดการส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรต่างๆ เช่น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พืชสวนและความหลากหลายทางชีวภาพ การตกแต่งสวนและภูมิทัศน์ และพืชสวนสมุนไพร รวมทั้งเป็นแหล่งความรู้ในการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสวนรวมทั้งในด้านพรรณไม้และ ความหลากหลายทางชีวภาพ

ขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย ใน “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 6 กุมภาพันธ์ 2554 พร้อมร่วมชมพิธีเปิดงานแบบสวยงามและอลังการ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ณ ลานราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานได้ที่

//www.royalparkrajapruek.com


*** และอีก 1 ไฮไลท์ของคนชอบชม และถ่ายภาพพลุ

จัดประกวดสุดยอดพลุระดับโลกที่เชียงใหม่รับปี 2554 (31 ธ.ค. 53)



ชาวเชียงใหม่โชคดี กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดแสดงพลุใหญ่ที่สุดในโลก เฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมกับต้อนรับศกใหม่ จัดแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มีพลุลูกมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 12 นิ้ว พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 600 เมตร แสดงเป็นไฮไลท์

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 53 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมงานจัดการแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน” ครั้งที่ 3 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมและให้ความคิดเห็น เพื่อให้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยิ่งใหญ่ ซึ่งรายละเอียดของงานดังกล่าว พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้จัดการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ครั้งที่ 2 ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแนวค ิดจัดครั้งที่ 3 ขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.53 ถึงวันที่ 1 ม.ค.54 ต้อนรับศกใหม่ ณ บริเวณสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดงาน

การจัดครั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลอง และเทิดพระบารมี เป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ถือเป็นงานแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยใช้งบประมาณพอสมควร นับว่าเป็นความโชคดีของเชียงใหม่ที่กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดงาน พลุที่จะนำมาแสดง มีตั้งแต่ขนาด 8-12 นิ้วจุดได้สูงกว่าการแสดงครั้งที่ผ่าน ๆ มาจากทั่วโลก และจะจุดให้ยาวนานที่สุดในโลกจนนับไม่ถ้วนว่ามีกี่ลูก บางลูกจะมีความสูงถึง 600 เมตร โดยแสดงเป็นรูปหัวใจหลาย ๆ ดวงเต็มท้องฟ้า และบางรูปเป็นหน้าคนยิ้ม โดยจะหยุดการแสดงเป็นห้วง ๆ เพื่อให้มีการแสดงคอนเสิร์ตสลับให้ชมจากศิลปิน วี.อาร์.วัน ทั้งนี้กิจกรรมมีขึ้นในห้วงที่จังหวัดเชียงใหม่จัดงานฤดูหนาวและกาชาดประจำปี ประชาชนที่มาเที่ยวชมในงานฤดูหนาวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับ ภายในสนามฯ คณะกรรมการจะจัดที่นั่งบนอัฒจรรย์ด้านไม่มีหลังคาให้รับชม ส่วนด้านหลังอัฒจรรย์ที่เป็นลานจะจัดเก้าอี้ 2,000 ตัวให้ได้นั่งชมพลุ และมีจอโปรเจคเตอร์ถ่ายทอดการแสดงภายในสนามฟุตบอล โดยเปิดให้ชมฟรีตลอดงาน คาดว่าจะสามารถจุคนดูได้ประมาณ 80,000 ถึง 100,000 คน
สำหรับตำแหน่งวางพลุ ตั้งไว้หลายจุดดังนี้
- ภายในสนามฟุตบอล
- บนอัฒจรรย์มีหลังคา
- ด้านหลังอัฒจรรย์ทิศตะวันตก
และบนสันเขื่อนอีกหนึ่งจุด

ด้านทิศตะวันออกทางเข้างาน มีเต็นท์ศูนย์อาหาร และโอทอปในเชียงใหม่ร่วมแสดง และจำหน่ายด้วย นอกจากประเทศไทยจัดแสดงพลุครั้งนี้แล้ว ยังมีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดนมาร์ค ออสเตรีเลีย และสหรัฐอเมริกา ก็จัดส่งสุดยอดพลุเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ด้วย.

เลือกภาพพลุ จากวันปีใหม่ ปี 2008 ที่เชียงใหม่
และนี่ก็คงจะเป็นการถ่ายภาพพลุในปีแรกๆ ที่หัดถ่ายภาพ
นำมาให้ชมรวมๆ กัน 1 ภาพด้วยครับ

งานนี้เชื่อว่า คงมีคนรักการถ่ายภาพพลุ มางานนี้กันอย่างคับคั่งทีเดียว
สงสัยต้องไปตากแดด แอบจองที่กันล่วงหน้าทีเดียวละครับ
และก็คงได้หยิบเลนส์ไวด์มาใช้ถ่ายภาพงานนี้อีกครั้งล่ะครับ
....นานๆ ใช้ที เกือบขายไปซะแล้ว 5555

*****************


Create Date :10 พฤศจิกายน 2553 Last Update :11 พฤศจิกายน 2553 10:56:27 น. Counter : Pageviews. Comments :16