bloggang.com mainmenu search
25 กุมภาพันธ์ 2554 : หุ่นช่างฟ้อนโจ-หน่า กับฉากใหม่

ภาพ set นี้ถ่ายภาพในวันเดียวกันกับ blog เมื่อวานนี้ที่ถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ของน้องๆ นักศึกษา มทร.ราชมงคลล้านนา (13 ก.พ. 54) ที่ลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ เชียงใหม่ และในวันอาทิตย์บริเวณดังกล่าวก็มีถนนคนเดินอยู่ด้วย

ช่วงที่ยังไม่มีการเดินแบบแฟชั่นโชว์ ของน้องๆ นักศึกษา มทร.ล้านนา
ช่วงว่างเลยเดินไปหาพี่โจ พี่หน่า ที่แสดงหุ่นช่างฟ้อนอยู้ใกล้ๆ บริเวณดังกล่าว เพื่อหวังทักทายสวัสดีกัน เพราะไม่ได้เจอะเจอกันมาหลายเดือนแล้ว

แต่พอเดินไปถึงจุดที่เป็นสถานที่การแสดง พบว่าคนห้อมล้อมชมการแสดงอยู่แน่นหนาเลย
แอบดีใจแทนหุ่นช่างฟ้อนโจ-หน่า ด้วยเลยครับ ที่ตอนนี้มีผู้ชมมารอชมกันเยอะกว่าทุกๆ ครั้งที่เคยได้ชมมาแล้ว

และวันนั้นก็แอบดีใจ ที่เห็นว่าหุ่นช่างฟ้อนโจ-หน่า มีฉากการแสดงรูปแบบใหม่แล้ว ชวนให้น่าชมมากมาย จากที่จะแวะไปทักทาย เลยไปรวมกลุ่มกับคนดูและถ่ายภาพการแสดงของหุ่นช่างฟ้อนโจ-หน่า มาให้ชมกันด้วยครับ


แอบชื่นชอบหนูน้อย 2 คนนี้อย่างโดนใจ ที่ไปยืนชมการแสดงอย่างใกล้ชิด


ยืนชมอย่างใกล้ชิดไม่พอ มือไม้ของ 2 หนุน้อย แอบมีขยับตามไปด้วยเลย เห็นแล้วชื่นชอบจริงๆ กับแฟนคลับตัวน้อย


มาชมคุณโจ กันก่อนกับการเชิดหุ่นช่างฟ้อน ""เจ้าน้อยศุขเกษม" "













และคุณหน่า กับหุ่นช่างฟ้อน "มะเมี๊ยะ"
ชุดนี้น่าจะเป็นการแสดง จากตำนานรักอมตะมะเมี๊ยะ (Princess of Love) ระหว่าง "มะเมี๊ย" กับ "เจ้าน้อยศุขเกษม"



















เมื่อคืนนั่งทำภาพ set นี้ แบบว่าใจแป้วไปเลย
เพราะแต่ละภาพแทบจะไม่คมชัดเลย
มาดูการตั้งค่าการถ่ายภาพ
speed อยู่ที่ 1/100 ก็ว่าน่าจะ โอ แล้ว
F อยู่ที่ 2.8 เพราะถ่ายภาพช่วงใกล้แสงหมดแล้ว เลยเปิด F ซะกว้างไปเลย
ISO อยู่ที่ 3200

ดูจากการตั้งค่าการถ่ายภาพแล้ว ต้องบอกว่าฝีมือตกไปจริงๆ
หลายภาพโฟกัสไม่ได้ ไม่คมเป๊ะ
สงสัยจะเป็นว่านานๆ หยิบเลนส์ตัวยาว (70-200 มม.) มาใช้ แล้วมือไม่นิ่งพอ
ภาพ set นี้เลยผ่านกระบวนการ sharpen มามากกว่าปรกติครับ
ทุกครั้งแค่ใช้ unsharp ตามสูตรการย่อภาพ และขนาดไฟล์ภาพ
แต่ครั้งนี้ยังต้องทำภาพ sharpen มาอีกนิดหน่อย ไม่งั้นคงดูไม่ได้เลย

ทุกครั้งที่ถ่ายภาพการแสดง น้อยครั้งจริงๆ ถึงจะยอมลด speed ลงมาแค่ 1/100
speed ที่น่าจะยอมรับได้สำหรับการแสดงรำ การเคลื่อนไหวคล้ายๆ แบบนี้ อย่างน้อยก็น่าจะต้องใช้ 1/160 - 1/200
แต่ภาพนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นภาพเบลอๆ จากการเคลื่อนไหว
ดูแล้วเป็นเหมือนมือสั่น หรือ อาจจะไปใช้ Focus แบบหลายๆ จุด
ไว้ต้องไปเปิดดูจากคอมพ์อีกที
จะได้เก็บไว้เป็นบทเรียน(สอนใจ) ในครั้งต่อๆ ไป


มาชมกันต่อครับ กับภาพการแสดงด้วยหุ่นในรูปแบบใหม่ๆ
อาจจะไม่ค่อยได้นำมาให้ชมกัน แต่ได้ชมมา 2-3 ตรั้งแล้ว






2 หุ่นหนุ่มสาว แอบนั่งคุยจู๋จี๊ มีแบบพ่อแง่ แม่งอนกันด้วย
การแสดงชุดนี้เหมือนจะประกอบบทเพลงของฝรั่ง จำคลับคล้ายคลับคราว่าจะนึกชื่อเพลงออก แต่จำไม่ได้ซะแล้ว ไว้ไปถามมาใหม่ละกันว่าเป็นบทเพลงอะไร








ถ่ายภาพไปมา จนตอนจบการแสดงชุดนี้
แสงก็หมดไปแล้ว เลยได้ติดแสงสีเหลืองๆ มาด้วย


จบจากการแสดงชุดนี้ ก็รีบวิ่งกลับไปถ่ายภาพช่วงพิธีเปิดของแฟชั่นโชว์

และพอจบจากการถ่ายภาพแฟชั่นโชว์ ว่าจะเดินไปทักทายคุณอ้อม ไม้เมือง (ซึ่งแสดงอยู่อีก 1 สี่แยก ได้ไปเจอะเจอมาเหมือนกัน และได้ฟังเพลงชุดใหม่ๆ ของคุณอ้อม ไม้เมืองด้วย)

ขากลับมาทางเดิม ที่จุดแสดงหุ่นช่างฟ้อน ก็พบว่ามีคนชมหนาแน่นอยู่มากขึ้นเหมือนเดิม
เลยแอบแจมๆ ถ่ายภาพมาให้ชมกันอีกชุดหนึ่ง
ชุดนี้คิดไว้เล่นๆ เลยว่า ถึงมืดอย่างไรก็จะไม่ใช้แฟลชถ่ายภาพ
ยอมดัน ISO สูงไปถึง 5000-6400
และใช้ speed ถ่ายภาพอยู่ที่ 1/60
(ปรับมาไม่ถึง 1/100 หรือ 1/125 อย่างที่ตั้งใจ)
แต่ค่า F หนนี้ใช้อยู่ประมาณ 3.2-3.5
เรียกว่าเป็นไงเป็นกัน
คิดว่าไม่ได้ภาพก็ถ่ายเล่นๆ อยู่กับเพื่อนๆ อยู่กับคนดู ก็แล้วกัน

มาชมกันอีก 2 การแสดงครับ










ชมกันอีก 1 การแสดง ที่เป็นการแสดงหุ่นคู่หนุ่มสาวเหมือนช่วงแรกที่ได้ชมไป
แต่คราวนี้มาเน้นๆ กับอารมณ์ของพี่หน่า ภายใต้หน้ากากอารมณ์เศร้าๆ




การแสดงภายใต้หน้ากากแบบนี้ อยากเก็บภาพอารมณ์ของนักแสดงจากแววตา
แต่แสงในการแสดงค่อนข้างมืด เลยเก็บภาพได้ค่าแสง และ แววตา - อารมณ์เศร้าๆ ได้มาเพียงเท่านี้













และอีก 1 ชุดการแสดงที่ยิ่งเคลื่อนไหวมากกว่าเดิม มีให้ชมกัน 3 ภาพครับ

ชุดนี้เหมือนการเต้นรำระหว่างคนกับหุ่น
พริ้วไปพริ้วมา เลยถ่ายภาพแบบเท่าที่พอจะถ่ายภาพมาได้ กับ 3 ภาพนี้





ขอบคุณพี่โจ-ภาสกร และพี่หน่า-ทรัพย์ทวี ที่เป็นแบบถ่ายภาพใน blog นี้
และได้พูดคุยทักทายกัน ถามไถ่เรื่องการแสดง เรื่องการประกวดหุ่นโลก
ซึ่งในปีนี้หุ่นช่างฟ้อนคงจะไม่ไปร่วมแข่งขันการประกวดหุ่นโลก
แต่จะยังคงไปแสดงในต่างประเทศกันอีกครั้งหนึ่ง

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายชุดนี้ด้วยนะครับ


*** คุยกันท้าย Blog นิดหนึ่งครับ
จากค่าการถ่ายภาพที่เขียนไว้ให้ทราบกัน
อยากบอกไว้กับเพื่อนๆ ว่า
การถ่ายภาพแสงน้อยๆ แบบนี้ อาจจะต้องพึ่งคุณสมบัติของกล้องดีๆ ด้วย

ตัวเองยอมซื้อกล้องคุณภาพสูงๆ มาใช้ ก็เป็นเพราะว่า เกือบจะ 80-90% จะถ่ายภาพแต่แสงน้อยๆ (ไม่ค่อยไปยอมโดนแสงอาทิตย์เท่าไร)

เพื่อนๆ ก็มักแซวว่า ซื้อมาทำไม กล้องตัวตั้งแพง
มาถ่ายภาพลง blog กับไฟล์แค่ไม่เกิน 150K
ดูแล้วไม่เห็นคุ้มอะไรเลย

ได้แต่บอกกับเพื่อนๆ ไปว่า อย่างน้อยก็สนุกสนานกับการถ่ายภาพ

ตัวเองเคยใช้กล้องที่มีคุณภาพปานกลางมาถ่ายภาพในที่แสงน้อยๆ แบบนี้
มี noise เยอะไปจนตัวเองรับไม่ได้ ก็ไม่ได้ใช้กล้องตัวนั้นมาถ่ายภาพงานแบบนี้

และวันๆ ที่ไปถ่ายภาพก็ไม่ได้ไปถ่ายภาพ เหมือนอย่างเพื่อนๆ ที่ไปออกทริปถ่ายภาพกัน เรียกว่าใช้งานถ่ายภาพต่างรูปแบบกัน

อย่างภาพ set นี้ถึงแม้จะใช้ ISO สูงมากๆ จะมี noise มาบ้างมากน้อยอย่างไร ก็ไม่ได้ใช้โปรแกรมลบ noise แต่อย่างใด

ดังนั้นเลยสรุปกันว่า หากได้ใช้กล้องถ่ายภาพและมีการจดค่า จำค่าการถ่ายภาพกันอยู่บ้าง หากไปลองถ่ายภาพกันแล้ว ได้ภาพไม่สวยๆ มี noise เยอะๆ ก็อยากให้ลองปรับตั้งเพิ่มโน่น ลดนี่กันดูด้วย

และก็อยากให้มีความเข้าใจในคุณสมบัติของกล้องที่ใช้กันอยู่ กล้องตัวที่ใช้อยู่มีข้อดี ข้อเสียอะไร จะได้ปรับลดแก้ไขกันไปตามแต่ละสถานการณ์ด้วยครับ

เพราะความผิดแบบนี้ ครั้งที่แนะนำให้เพื่อนถ่ายภาพโคมลอยที่ธุดงคสถานล้านนา ยังติดอยู่กับตัวตลอดเวลา
เพื่อนใช้กล้องกันคนละยี่ห้อกับเรา แต่ดันไปแนะนำว่าตั้งค่าแบบเดียวกับเรา
รับรองได้ภาพมาแน่ๆ
งานนั้น เพื่อนคนนั้น แทบจะมาต่อว่ากัน ไหนบอกว่าได้ภาพสวยๆ
มาดูภาพแล้วมีแต่ noise เต็มไปหมด
เอาไฟล์ภาพเค้ามานั่งแก้ ก็แก้คืนไม่ได้อยู่ดี รู้สึกเสียใจที่แนะนำบอกไปแบบนั้น โดยไม่ได้คิดถึงว่ากล้องต่างยี่ห้อ ต่างรุ่นกันด้วย
Create Date :25 กุมภาพันธ์ 2554 Last Update :25 กุมภาพันธ์ 2554 16:21:55 น. Counter : Pageviews. Comments :20