bloggang.com mainmenu search
21 พฤศจิกายน 2553 : ค่ำคืนแห่งดวงดาว ตระการตา ยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา ปล่อยโคมลอยถวายเป็นพุทธบูชา ที่ ธุดงคสถาน สันทราย จ.เชียงใหม่ เมื่อค่ำคืนของวันที่ 20 พฤศจิกายน 2553

ได้มาชื่นชมความตระการตา และมาร่วมถ่ายภาพอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้มาเร็วจากครั้งก่อนๆ อีก 1 ชั่วโมง (จากครั้งแรกๆ ออกมาจากในตัวเมืองตอน 5 โมงเย็น และ 4 โมงเย็น ครั้งนี้ร่นเวลามาเป็น บ่าย 3 โมง) ทำให้พอเลือกมุมได้มากกว่าครั้งก่อนๆ แต่ก็เลือกมาที่จุดเดิมอยู่ เพราะอยู่ถ่ายภาพได้สบายๆ ไม่ต้องห่วงเรื่องมด เรื่องยุงในสนามหญ้า

เลือกภาพมาให้ชมกันในส่วนที่เป็นพลุไฟ กับโคมลอยให้ชมกันก่อน
เพราะไปถ่ายภาพมา 3-4 ครั้ง ยังไม่เคยได้ภาพ set นี้เลย

ก่อนชมภาพก็ขอเล่าเรื่องหนึ่งก่อนว่า
ครั้งนี้ทางธุดงคสถาน จัดให้มีการปล่อยโคมลอยที่แตกต่างกันไปอยู่นิดหน่อย เรียกว่าทำให้ surprise เลยก็ได้ จากที่ปล่อยโคมลอยนับหลายพันดวง ล่องลอยขึ้นไปแล้ว เรียกว่าหายไปในพริบตา ยังไม่ทันชื่นชม ยังไม่ทันได้ถ่ายภาพกันดี โคมลอยก็ล่องลอยไปไกลแล้ว
สิ่งที่ทำให้ดูสนุกสนานและประทับใจมากขึ้นก็คือ ปีนี้มี เทค 2
ทางธุดงคสถาน น่าจะแจกโคมลอยไว้ให้แต่ละจุด 2 ลูกด้วยกัน พอปล่อยชุดแรกที่ยังซาบซึ้งประทับใจไม่หาย อิ่มบุญอิ่มใจกันอยู่แล้วกับการปล่อยโคม
พอมาปล่อยชุดที่ 2 ให้ตื่นตาตื่นใจกันอีก 1 ชุด เรียกว่าทำให้อิ่มบุญ อิ่มใจกับการมางานบุญในครั้งนี้เป็น 2 เท่าเลยทีเดียว

คราวนี้ใครถ่ายภาพชุดแรกไม่ทัน เรียกว่ามีให้แก้มือ ไม่ต้องรอมาปีหน้า
แล้วที่ประทับใจอีกอย่าง ในการจุดพลุไฟ ทุกๆ ปีที่ผ่านจะจุดลูกแรกลูกเดียว แต่พอเทค 2 คราวนี้มียิงเป็น 10 ลูก ทำให้ครั้งนี้ได้มาแก้มือกับภาพพลุไฟ และโคมลอยด้วย

ภาพ set นี้ คงจะไม่ได้นำมาให้ชมแบบเรียงลำดับการถ่ายภาพ
เพราะจะเลือกภาพช่วงที่มีภาพพลุไฟกับโคมลอยมาให้ชมก่อน







ภาพ set นี้ ที่มีโคมลอยและพลุไฟเป็นฉากหลัง
ต้องรีบปลดกล้องออกจากขาตั้งกล้อง แล้วมาถ่ายด้วยมือแทน
เพราะต่ำแหน่งที่ยืนถ่ายภาพอยู่นั้น มุมจะสูงไปหน่อย ไม่สามารถลดขาตั้งกล้องลงมาถ่ายภาพช้อนขึ้นไปเอาภาพพลุของได้หมด เลยจำเป็นต้องยกกล้องมาถ่ายภาพด้วยมือแทน































มาชมภาพเองเมื่อเช้านี้ แล้วก็เลือกที่จะชมภาพที่ถ่ายภาพโคมลอยกับพลุไฟนี้ก่อนเพื่อนเลย
อยากเห็นเหมือนกันว่าพอจะเป็นภาพแก้มือ จากครั้งแรกๆ ที่หลงประเด็นกับพลุไฟ และครั้งต่อๆ มาจนถึงครั้งนี้ด้วย
ที่พอพลุไฟลูกแรกจุดขึ้น ทำให้ต้องรีบเบนกล้องตามไป
แล้วก็ไม่ได้อะไรสักที เพราะช่วงเลนส์ไม่พอ

ดีว่าครั้งนี้มีเทค 2
รีบปลดกล้องมาจัดท่าทาง การวางภาพ วางตำแหน่งแบบสบายๆ
แต่ก็ห่วงกับภาพที่จะไม่คมชัดอยู่เหมือนกัน

ชมเองในหลายๆ ภาพ แล้วก็มองดูว่าในภาพพลุไฟ ช่วงที่ระเบิดออกมานั้น
เหมือนจะระเบิดให้โคมลอย ล่องลอยกระเด็นออกมาจากแรงระเบิด

แต่จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะจุดที่ยิงพลุไฟ เป็นฉากหลังนั้น ยังห่างกับตัวโคมลอยอยู่พอสมควร














รูปโคมลอย และ ฉากหลังที่เป็นพลุไฟ ถ่ายภาพมาไ้ด้ประมาณนี้ล่ะครับ
ที่เหลือจะลงให้ชมกันอีกที แต่ขอไปทำภาพให้เสร็จทั้งหมดก่อนล่ะกัน

ขอบคุณธุดงคสถาน ที่จัดงานยี่เป็งสันทรายถวายพุทธบูชา และงานกฐิน ได้ทั้งอิ่มบุญ อิ่มใจ ประทับใจ และเป็นค่ำคืนแห่งความทรงจำ ประทับใจมากๆ

ขอบคุณทุกๆ ท่านที่แวะมาชมภาพถ่ายใน Blog ด้วยครับ


ปิดท้าย blog ไว้กับฝีมือการถ่ายภาพของ PedKibKab ที่ไปถ่ายภาพด้วยกันครับ



และกับงานเทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ที่ได้เริ่มจัดงานมาบ้างแล้วในบางกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 18 และมีไปถึงวันที่ 22 พ.ย. 53
ตารางกิจกรรมต่างๆ ของ งานประเพณียี่เป็ง เชียงใหม่ ตามด้านล่างนี้ครับ






*** ข่าวประชาสัมพันธ์ เดือนธันวาคม 2553
มีอีก 1 งาน น่าสนใจเช่นกันครับ
องค์การสวนพฤกษศาสตร์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะจัดงานสวนพฤกษศาสตร์แฟร์ ครั้งที่่ 1
โดยภายในงานมีกิจกรรมทางด้านพฤกษศาสตร์ และร่วมชื่นชมพรรณไม้นานาพันธุ์ภายในสวนฯ
ขอเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา ประชาชนผู้สนใจร่วมงานในระหว่างวันที่ 4 - 12 ธันวาคม 2553
ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-5384-1234 ส่วนเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์

4 - 12 ธ.ค. 53 ณ สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ อ.แม่ริม

งานนี้ไปถ่ายภาพดอกไม้ สวยๆ พืชพันธุ์ไม้นานาชนิดกันได้ฟรี นะครับ




***
งานของเดือนธันวาคม และต่อเนื่องไปจนถึงมกราคม 54 เพิ่งทราบมาครับ
งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์

(Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek)



อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้จัดงานชมสวนราชพฤกษ์มาแล้วในปี 2552 และจะจัดเป็นประจำต่อเนื่องทุกปี โดยอุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงสวนต่างๆ ให้สวยงามอยู่เสมอและพร้อมที่จะจัด “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ขึ้นอีกครั้งในระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 31 มกราคม 2554 รวม 62 วัน ซึ่งในครั้งนี้อุทยานหลวงราชพฤกษ์ได้เตรียมการจัดและตกแต่งสวนให้สวยงามด้วยดอกไม้เมืองหนาวและพรรณไม้นานาชนิดจากมูลนิธิโครงการหลวงที่เน้นความสวยงามแปลกตา เพื่อดึงดูดความสนใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศให้เข้ามาเที่ยวชมงานเพิ่มมากขึ้น และยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจของจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียงอีกด้วย

การจัดงานครั้งนี้จะมีพิธีเปิดอย่างยิ่งใหญ่และตระการตาในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 เวลา 17.30 น. โดยหม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี องค์ประธานมูลนิธิโครงการหลวง ณ บริเวณลานราชพฤกษ์ ซึ่งจะประกอบด้วย พิธีเปิดที่ตระการตา ชมต่างแสดงต่างๆ อาทิ การแสดงSymphony Orchestraบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ 9เพลงจากนักร้องรับเชิญกิตติมศักดิ์ การแสดงชุดชมอุทยานหลวงราชพฤกษ์จากออย ธนา, ลิเดีย คู่พระนางจากละครเรื่องระบำดวงดาว และมินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน ตุ้ย AF3

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมการแสดงการละเล่นพื้นบ้านและการแสดงดนตรีในสวน (Music in the Garden) จากศิลปินที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยมาแสดงฟรีคอนเสิร์ต ทุกวันเสาร์และวันหยุดสำคัญ อาทิ นันทิดา แก้วบัวสาย/แอม เสาวลักษณ์/ETC./Best Sellor/Now and Then/เบน ชลาทิศ/แสตมป์/ลุลา/แคลอรี่ บลาบลา/โก้ Sax man/ป้อม ออร์โต้บาห์น/มิ้นท์ มาลีวัลย์/LADY BZ /The wind/ Caption Loma เป็นต้น

อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ได้มีการจัดการส่งเสริมการเรียนรู้หลักสูตรต่างๆ เช่น ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง พืชสวนและความหลากหลายทางชีวภาพ การตกแต่งสวนและภูมิทัศน์ และพืชสวนสมุนไพร รวมทั้งเป็นแหล่งความรู้ในการเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพืชสวนรวมทั้งในด้านพรรณไม้และ ความหลากหลายทางชีวภาพ

ขอเชิญนักท่องเที่ยวทุกท่าน ร่วมสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและการเกษตรที่สำคัญของประเทศไทย ใน “งานเทศกาลดอกไม้บาน ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ (Flora Fest’ @ Royal Park Rajapruek) ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2553 – 6 กุมภาพันธ์ 2554 พร้อมร่วมชมพิธีเปิดงานแบบสวยงามและอลังการ ในวันที่ 1 ธันวาคม 2553 ณ ลานราชพฤกษ์ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 053-114110 สามารถติดตามความเคลื่อนไหวของการจัดงานได้ที่

//www.royalparkrajapruek.com


*** และอีก 1 ไฮไลท์ของคนชอบชม และถ่ายภาพพลุ

จัดประกวดสุดยอดพลุระดับโลกที่เชียงใหม่รับปี 2554 (31 ธ.ค. 53)



ชาวเชียงใหม่โชคดี กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดแสดงพลุใหญ่ที่สุดในโลก เฉลิมฉลองในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา พร้อมกับต้อนรับศกใหม่ จัดแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ มีพลุลูกมหึมาเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 12 นิ้ว พุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงถึง 600 เมตร แสดงเป็นไฮไลท์

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 53 ที่ห้องประชุม 3 ชั้น 3 อาคารอำนวยการ ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ มล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานประชุมผู้เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมงานจัดการแสดง และประกวดพลุนานาชาติเฉลิมพระเกียรติ “ดวงประทีปพราวนภา เทิดราชาราชินี บารมีศรีแผ่นดิน” ครั้งที่ 3 โดยมีหน่วยงานทั้งภาครัฐ และภาคเอกชนเข้าร่วมประชุมและให้ความคิดเห็น เพื่อให้งานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และยิ่งใหญ่ ซึ่งรายละเอียดของงานดังกล่าว พล.อ.มล.ประสบชัย เกษมสันต์ ที่ปรึกษาพิเศษ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า กระทรวงกลาโหม ได้จัดการแสดงพลุเฉลิมพระเกียรติมาแล้ว 2 ครั้ง ๆ แรกที่เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ครั้งที่ 2 ที่ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแนวค ิดจัดครั้งที่ 3 ขึ้นในวันที่ 31 ธ.ค.53 ถึงวันที่ 1 ม.ค.54 ต้อนรับศกใหม่ ณ บริเวณสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ เป็นสถานที่จัดงาน

การจัดครั้งนี้ เพื่อเฉลิมฉลอง และเทิดพระบารมี เป็นการแสดงความจงรักภักดีแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม 2554 ถือเป็นงานแสดงพลุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกโดยใช้งบประมาณพอสมควร นับว่าเป็นความโชคดีของเชียงใหม่ที่กระทรวงกลาโหมเลือกเป็นสถานที่จัดงาน พลุที่จะนำมาแสดง มีตั้งแต่ขนาด 8-12 นิ้วจุดได้สูงกว่าการแสดงครั้งที่ผ่าน ๆ มาจากทั่วโลก และจะจุดให้ยาวนานที่สุดในโลกจนนับไม่ถ้วนว่ามีกี่ลูก บางลูกจะมีความสูงถึง 600 เมตร โดยแสดงเป็นรูปหัวใจหลาย ๆ ดวงเต็มท้องฟ้า และบางรูปเป็นหน้าคนยิ้ม โดยจะหยุดการแสดงเป็นห้วง ๆ เพื่อให้มีการแสดงคอนเสิร์ตสลับให้ชมจากศิลปิน วี.อาร์.วัน ทั้งนี้กิจกรรมมีขึ้นในห้วงที่จังหวัดเชียงใหม่จัดงานฤดูหนาวและกาชาดประจำปี ประชาชนที่มาเที่ยวชมในงานฤดูหนาวสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

สำหรับ ภายในสนามฯ คณะกรรมการจะจัดที่นั่งบนอัฒจรรย์ด้านไม่มีหลังคาให้รับชม ส่วนด้านหลังอัฒจรรย์ที่เป็นลานจะจัดเก้าอี้ 2,000 ตัวให้ได้นั่งชมพลุ และมีจอโปรเจคเตอร์ถ่ายทอดการแสดงภายในสนามฟุตบอล โดยเปิดให้ชมฟรีตลอดงาน คาดว่าจะสามารถจุคนดูได้ประมาณ 80,000 ถึง 100,000 คน
สำหรับตำแหน่งวางพลุ ตั้งไว้หลายจุดดังนี้
- ภายในสนามฟุตบอล
- บนอัฒจรรย์มีหลังคา
- ด้านหลังอัฒจรรย์ทิศตะวันตก
และบนสันเขื่อนอีกหนึ่งจุด

ด้านทิศตะวันออกทางเข้างาน มีเต็นท์ศูนย์อาหาร และโอทอปในเชียงใหม่ร่วมแสดง และจำหน่ายด้วย นอกจากประเทศไทยจัดแสดงพลุครั้งนี้แล้ว ยังมีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดนมาร์ค ออสเตรีเลีย และสหรัฐอเมริกา ก็จัดส่งสุดยอดพลุเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ด้วย.

เลือกภาพพลุ จากวันปีใหม่ ปี 2008 ที่เชียงใหม่
และนี่ก็คงจะเป็นการถ่ายภาพพลุในปีแรกๆ ที่หัดถ่ายภาพ
นำมาให้ชมรวมๆ กัน 1 ภาพด้วยครับ

งานนี้เชื่อว่า คงมีคนรักการถ่ายภาพพลุ มางานนี้กันอย่างคับคั่งทีเดียว
สงสัยต้องไปตากแดด แอบจองที่กันล่วงหน้าทีเดียวละครับ
และก็คงได้หยิบเลนส์ไวด์มาใช้ถ่ายภาพงานนี้อีกครั้งล่ะครับ
....นานๆ ใช้ที เกือบขายไปซะแล้ว 5555

*****************
Create Date :21 พฤศจิกายน 2553 Last Update :25 มกราคม 2554 8:57:26 น. Counter : Pageviews. Comments :23