bloggang.com mainmenu search
  สวัสดีค่ามีสีผมใหม่มาอัพเดทอีกแล้ว ฮี่ๆ
ไม่รู้จะดีใจไหมที่เป็นคนผมยาวเร็วด้วยกรรมพันธุ์ไม่ได้บำรุงอะไร
คือก็น่าดีใจที่ตัดผมแป๊บๆเดี๋ยวก็ยาวเหมือนเดิม
แต่เวลาทำสีนี่สิแป๊บเดียวโคนดำยาวเป็นตะขาบละเฮ้อ Smiley
ครั้งนี้ทางร้าน Mark Thawin เชิญมาให้เข้าไปลองรับบริการค่ะ
จริงๆทรายเคยไปงานที่ร้านนี้สองสามครั้งแล้วแต่ยังไม่เคยได้ลองใช้บริการเสียที
ครั้งนี้ได้ลองเปลี่ยนสีผมซึ่งบอกเลยว่าสีที่ได้กรี้ดดดดมาก คือสวยม๊ากกกกก
อยากรู้ว่าบริการเป็นอย่างไร สีที่ได้เป็นแบบไหนมาชมกันเลยจ้า



สี BEFORE ของอิชั้น สีปลายยังสวยยังชอบอยู่เลย
แต่คือโคนดำยาวมากกๆๆๆๆไม่ไหวแล้ว ฮือ เค้าเพิ่งทำสีไปเมื่อกลางเดือนกุมภาเองง่ะ
นี่ปลายเมษาเพิ่งผ่านไปสองเดือนครึ่งเองต้องต้องมาทำใหม่อีกแล้ว
สีเดิมที่ทำไปไม่ใช่สีนี้แต่สีนี้คือผมที่ผ่านการฟอกแล้วสีเฟดหมดแล้วจ้า
สีเดิมที่ทำก่อนหน้าเข้าไปชมได้ที่



ขั้นแรกเลยก็ต้องทำการล้างสีผมที่โคนให้อ่อนเท่าปลายที่เคยฟอกสีก่อน
โดยที่ร้านนี้จะใช้ผลิตภัณฑ์ทุกอย่างเป็นออร์แกนิกส์เน้นส่วนผสมสกัดจากธรรมชาติ
แต่อย่างไรก็ตามการบลีชสีให้อ่อนลงต้องทำใจนะฮะว่าผมมันต้องแห้งลงบ้าง
ใครผมไม่แข็งแรงเท่าที่ควรไม่แนะนำให้เล่นสีอ่อนมากแบบเค้า
ซึ่งอันนี้ทางช่างที่ร้านจะทำการชี้แจงและวิเคราะห์สภาพเส้นผมเราก่อนเสมอ
ว่าสภาพผมเราพอจะบลีชสีไหวไหม ถ้าไม่ไหวเค้าจะแนะนำว่าอย่าเพิ่งทำ
เพราะที่ร้านซีเรียสมากเรื่องการทำผมลูกค้าแล้วเกิดปัญหาผมพังตามมาฮะ
นี่คือสิ่งที่เค้ารู้สึกดีนะบางร้านก็ฟังความต้องการลูกค้าอย่างเดียว
โดยไม่ดูเลยว่าสภาพผมมันไหวไหม พอทำไปแล้วผมพังก็ต้องตัดทิ้ง
ถามว่ามันคุ้มกันไหม? ลองฟังช่างดูบ้างอย่าเอาแต่ความต้องการของตัวเองเน้อ

โดยขั้นตอนการบลีชสีของที่นี่จะล้างสีที่โคนให้อ่อนเท่าปลายก่อน
แล้วค่อยๆนวดน้ำยาล้างสีไล่ลงมาที่ปลายเพื่อให้สีเฟดความอ่อนอย่างสม่ำเสมอ
ปลายผมที่เคยผ่านการฟอกและทำสีจะไม่ได้สีเสมอกับโคนเป๊ะๆนะฮะ
แต่เค้าจะทำให้สีไล่กันอย่างสม่ำเสมอที่สุดเวลาลงสีแล้วจะได้ดูกลมกลืน
เทคนิคอย่างนึงที่เค้าประทับใจคือในขั้นตอนการบลีชสีที่โคนมันจะใกล้หนังศีรษะมาก
แน่นอนว่าแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์แบบออร์แกนิกส์มันก็ต้องแสบหนังหัวบ้าง
ยิ่งช่วงนี้อากาศร้อนมีทั้งความร้อน เหงื่อ มลภาวะ หนังศีรษะเราอาจจะระคายเคืองง่ายขึ้น
จึงมีการใช้เครื่องฮีตเตอร์ให้ความร้อนครอบไว้เพื่อเร่งปฏิกิริยาให้สีอ่อนลงไวขึ้น
ทำให้ไม่ต้องทิ้งไว้นานเท่าปกติ ลดภาระหนังศีรษะที่จะต้องทนอาการแสบไปได้มากกก
ถือเป็นเรื่องที่เค้าให้ความใส่ใจในขั้นตอนการทำว่าลูกค้าจะรู้สึกไม่สบายระหว่างทำไหม ดีเนอะSmiley

---------------------------------------------------------------------------------------

อ้ออีกหนึ่งอย่างคือร้าน
Mark Thawin จะมีมาตรฐานอยู่ 7 ขั้นตอน
ซึ่งเค้าจะค่อยๆบอกไปละกันเนอะว่าแต่ละขั้นนั้นคืออะไร
ข้อแรก เลยคือเรื่อง "อากาศสะอาด"  ในร้านจะต้องไร้กลิ่นสารเคมี
ซึ่งข้อนี้เค้าเห็นด้วยมาก ปกติถ้าไม่ทำสีเค้าจะไม่เข้าร้านทำผมเลย
เพราะเกลียดกลิ่นฉุนๆในร้าน นั่งแล้วเวียนหัวแสบจมูกจริงๆนะ
แต่ที่นี่ตัดปัญหาไปได้เพราะเค้ามีเครื่องฟอกอากาศเป็นสิบจุด
พร้อมด้วยเครื่องฟอกอากาศไอออนิกช่วยฆ่าเชื้อไวรัส
บอกได้เลยว่าตอนบลีชสีได้กลิ่นอ่อนๆจากหัวเค้าเองนี่แหละ
แต่บริเวณอื่นในร้านไม่มีกลิ่นเคมีเลยจ้า เริ่ด!



พอทิ้งไว้จนครบเวลาสีโคนและปลายได้ที่แล้วก็มาทำการล้างออก
มาถึงมาตรฐานข้อที่สอง คือ "การนอนสระผมอย่างถูกสุขลักษณะ"
เตียงสระที่นี่เป็นแบบไฮโดรลิกจะปรับเอนตามลักษณะของสรีระของเรา
เพื่อไม่ทำให้เกิดปัญหาเจ็บคอปวดหลังจากการผิดรูปของหมอนรองกระดูก
เหยยยยคือเค้าตัวเล็กและเตี้ยนะแต่มันปรับให้รับหลังเราพอดีอ้ะ
คอจะพาดพอดีขอบอ่านไม่ต้องเกร็งไม่ต้องเงยมากว่าปกติ
เหมือนนอนชิลๆบนที่นอนเลยบอกได้ว่าสบายสุดตั้งแต่เคยนอนเตียงสระผมมา เกือบหลับ!
ได้ข่าวว่าเตียงนี้นำเข้าจากต่างประเทศราคาอลังการงานสร้างนะฮร้า

ข้อที่สาม คือ "เรื่องน้ำที่ไม่มองข้าม"
น้ำที่ใช้ในร้านทั้งตึกต้องผ่านเครื่องกรองน้ำ OMG!!!
เพราะน้ำต้องสัมผัสเส้มผมและหนังศีรษะโดยตรง
จึงต้องมั่นใจว่าปราศจากสิ่งสกปรกและสารเจือปน



ขั้นต่อมาคือการเช็คว่าสีที่บลีชไปมีตรงไหนไม่สม่ำเสมอไหม
เค้าจะมีการเก็บงานเช็ครายละเอียดอีกหนึ่งรอบ
เช็คแบบจุดเล็กจุดน้อยทั่วหัวเลย ละเอียดจริงจัง!



หลังขั้นตอนการบลีชเสร็จเรียบร้อยจะทำการเตรียมผมก่อนลงสีผม
ด้วยการใช้เครื่อง NANOMOIST เป็นเครื่องพ่นไอน้ำความละเอียดสูงระดับนาโน
ในการเติมความชุ่มชื่นให้กับเส้นผม ซึ่งเครื่องจะพ่นไอน้ำที่ละเอียดมากๆ
สามารถส่งผ่านเข้าไปในแกนผมได้ ผมจะชุ่มชื่นขึ้นทันที
ซึ่งครูหญิงที่ดูแลผมให้ทรายบอกว่าเครื่องนี้ละเอียดขนาดที่ว่า
เมื่อพ่นใส่กระดาษทิชชู่ ละอองสามารถทะลุผ่านได้แบบสบายๆเลย



ได้เวลาลงสีผม วู๊วๆๆตื่นเต้น สีผมที่ใช้เป็นของญี่ปุ่นซึ่งทางร้านไม่ขอบอกยี่ห้อนะค้า
ซึ่งเป็นสีเฉพาะที่ใช้ในซาลอนเท่านั้น ต้องทำการผสมสีไม่ใช่สีสำเร็จที่หาซื้อได้ทั่วไปค่ะ
มาถึง
ข้อที่สี่ ก็คือ "ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์" ไม่ว่าจะเป็นแฮร์แคร์หรือแฮร์คัลเลอร์
เหมือนที่บอกไปตั้งแต่ตอนบลีชสีผม โดยสีผมของที่นี่จะเป็นแบบไม่มีแอมโมเนีย!
จึงไม่มีกลิ่นฉุนและจะไม่ทำให้ผมเสียมากขึ้นกว่าเดิม
โดยปกติแอมโมเนียจะใช้ในการเปิดเกล็ดผมออกเพื่อให้สีซึมเข้าไปได้
แต่สีของที่ร้านจะใช้สาร MEA  ในการนำพาเม็ดสีเข้าสู่เส้นผมแทน
ไม่ต้องทำให้เกล็ดผมเปิดอ้าออก หลังทำสีผมจึงไม่เสียไปมากกว่าก่อนทำจ้า

เทคนิคของที่นี่คือการผสมสีสีถ้วยสำหรับใช้ลงบริเวณโคนผมและปลายผม
โดยมีความเข้มข้นและสีต่างกันเพื่อให้ทำออกมาแล้วสีเสมอกัน
เนื่องจากบริเวณโคนคือผมที่งอกใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการทำสี
แต่ปลายเป็นผมที่เคยโดยสีผมอื่นๆมาก่อนแล้ว บางครั้งการลงสีเหมือนกัน
จึงอาจประสบปัญหาว่าโคนกับปลายสีต่างกันมากเกินไป

สีที่เค้าทำนั้น อาจารย์ Mark เป็นคนเลือกให้เองโดยเค้ารีเควสว่า
สีอะไรก็ได้แต่ขอให้เป็นโทนสว่าง และให้เฟดออกแล้ว
ไม่ออกส้ม
อาจารย์เลยเลือกให้เป็นโทนน้ำตาลแมท แต่จะทำสีเข้มกว่าที่ต้องการนิดนึง
เพราะผมเค้าเป็นผมที่ผ่านการล้างสียิ่งสระไปเรื่อยๆสีมันจะยิ่งอ่อนลงอยู่แล้วจ้า

การลงสีรอบนี้คือลงที่โคนก่อนแล้วค่อยลงที่ปลาย
พอลงครบทั้งหัวแล้วก็ทำการรูดสีที่โคนให้ผสมกับที่ปลาย
เพื่อให้สีที่ติดผมเกิดการเบลนไล่เฉดไม่แบ่งเป็นขั้นๆ
เริ่มตั้งแต่ลงสีใช้เวลาทิ้งไว้ประมาณ 35 นาที ก็ไปทำการล้างออก
โดยหลังล้างมีการทำทรีทเมนต์บำรุงผมให้เลยในตัว
เป็นการบำรุงแบบ 5 ขั้นตอน เหมาะกับผมที่ผ่านเคมีมาอย่างโชกโชนแบบเค้า
แต่ตอนทำทรีทเมนต์ทำที่เตียงสระผมอีกห้องซึ่งแสงน้อยเค้าเลยไม่ได้ถ่ายมาจ้า
จะบอกว่ามีการมาส์กผมทิ้งไว้ประมาณ 10 นาทีได้
และด้วยความที่เตียงสบาย หมูเผลอหลับ 555



กรี้ดดดๆๆๆมาแล้วสีผมที่ได้ตื่นเต้นมาก ตอนผมเปียกสีจะเข้มยังไม่ค่อยเห็นสีจริง
ก่อนเป่าแห้งครูหญิงได้ทำการสไลด์ปลายให้เค้าด้วย จะได้ม้วนผมง่ายขึ้น
เพราะผมเดิมเค้ามาแบบตัดตรงเป๊ะ เวลาม้วนผมมันจะจัดทรงยากนิดนึง
หลังจากดัดเสร็จก็ทำการเป่าให้แห้ง มาถึงมาตรฐาน
ข้อที่ห้า พอดี
ก็คือ "เป่าผมด้วยไดร์ Ionic" เป็นไดร์แบบที่ปล่อยประจุลบออกมา
จึงไม่ไปทำลายความชุ่มชื้นของเส้นผม และเป็นไดร์แบบที่ไม่มีแร่ใยหิน
ซึ่งในไดร์ปกติจะใช้ฉนวนเป็นแร่ใยหินที่เป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็งปอดได้

และ
ข้อที่หก คือ "แปรงหวีผมที่ไม่สะสมเชื้อโรค"
ที่นี่จะใช้แปรง Silver Nano Nylon ที่ช่วยฆ่าเชื้อโรค
และแบคทีเรียได้ในขณะแปรงผม ใส่ใจในทุกรายละเอียกมากเนอะ



พอเป่าผมแห้ง กรี้ดดดดดกับสีผมเลย มันสวยมากกกก!!!
เป็นสีน้ำตาลนัวๆนวลๆดูละมุนละไมที่สำคัญคือดูไม่ซ้ำใครนี่แหละ อิอิ
สีนี้ทางร้านตั้งชื่อไว้ว่า "Episode-Magnum Color" ชื่ออลัง 555
ในการทำสีทุกครั้งทางร้านจะตั้งชื่อสีขึ้นมาเองไม่ใช่สีสำเร็จ
ดังนั้นไม่สามารถไปหาซื้อสีมาทำตามได้ฮะ
ต้องมาแล้วแจ้งชื่อสีหรือเปิดรูปให้ทางร้านดูเท่านั้น
เป็นสิ่งที่เค้าปลื้มมากเพราะเป็นคนไม่ชอบทำสีซ้ำกับใคร
ช่วงไหนเทรนด์สีไหนมาเค้าจะเลี่ยงไม่ทำสีแบบนั้นแบบว่าอาร์ตอ่าฮร่ะ Smiley

และก็มาถึง
ข้อที่เจ็ด ข้อสุดท้าย คือ "ทีมสไตล์ลิสมืออาชีพ"
โดยทางร้านจะแบ่งราคาค่าบริการตามระดับช่าง
มีทั้ง Top Stylist , Senier Stylist , Stylist ฯลฯ
สำหรับผมเค้าวันนี้ได้รับการดูแลสีผมโดย Stylist พี่อ้อย , ครูหญิง
และ เซ็ตจัดแต่งทรงโดย Sytlist พี่ต้น จ้า



ทรงที่เซ็ตจะเป็นการม้วนลอนด้วยแกนประมาณ 30 mm
โดยม้วนแบบถือแกนคว่ำลงแล้วพันรอบแกนม้วนเข้ากรอบหน้า
ถือแกนลักษณะเดียวกับที่เค้าเคยสอนม้วนด้วยแกน Spiral อ่าฮะ
ลอนที่ได้จะเป็นลักษณะคลื่น Wave ไม่ใช่แบบหลอดๆเหมือนเราถือแกนตั้งขึ้น
ซึ่งพอสางออกเบาๆก้มหัวแล้วสะบัดได้ผมลอนคุณหนูที่ซู้ดดดดดด Smiley
ไว้ขอเค้าลองหัดม้วนให้คล่องก่อนนะจะทำฮาวทูสอนม้วนแบบนี้ให้ชมกันฮ้าฟ



ท๊าดา~ นี่คือทรงที่ได้กรี้ดดดป่ะล่า Smiley
ได้ลอนแบบคลื่นนุ่มๆพองๆผมแลดูหนาได้ใจ ปลื้มฝุดๆ
ผมเค้าไม่ได้ตัดเอาความยาวออกนะฮะ
แต่พอม้วนแล้วลอนมันเด้งขึ้นเลยดูสั้นลงจ้า



เทียบ BEFORE & AFTER ให้ชมกัน



สีผมเปลี่ยนลุคเปลี่ยนเลยเนอะ
โทนสีน้ำตาลแบบนี้ขับผิวให้ผิวดูนวลๆดีจัง
สีนี้ไม่ต้องกลัวทำได้ทั้งคนผิวขาวและผิวสองสีจ้า
ถ้าใครอยากได้สีแบบเค้าเป๊ะๆเลย ก็ต้องยอมล้างสีผม
แต่ถ้าอยากได้แค่สีใกล้เคียงไม่อยากล้างสีโทนที่ได้จะเข้มกว่าเค้าฮับ



โฉมหน้าชัดๆของ
Stylist พี่อ้อย และ ครูหญิง
ที่เนรมิตสีผมสวยๆให้ครั้งนี้นะค้า สวยงามโดนใจที่ซู้ดขอบคุณมากคร้าบ



โฉมหน้า
Sytlist พี่ต้น ผู้เซ็ตลอนผมงามๆให้
ลอนไฮโซววววมาก ขอบคุณมากๆนะค้า



สีผมแบบแสงธรรมชาติตอนกลางวัน
กับลอนผมทรงเดียวกันแต่คลายแล้ว แหะๆ
ผมเค้าตรงมากมันคลายลอนไวไปหน่อยเสียดายเนอะ
อยากให้ลอนที่พี่ต้นเซ็ตให้อยู่ซักสามวันจะได้ไม่ต้องเซ็ตเอง 555



นี่แหละคือสี 
"Episode-Magnum Color"
น้ำตาลแมทสูตรเฉพาะของร้าน
Mark Thawin



เป็นสีซอฟต์ๆที่ให้ลุคที่ไม่ซ้ำใคร
แอบดีใจอ้ะคนมาถามสีผมเยอะเลย กรี้ดๆ

--------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับเรื่องราคาต้องยอมรับว่าราคาปกติค่อนข้างสูงค่ะ
แต่ก็ตามระดับของมาตรฐานร้านอ่าน้า
ทำสีโดยทั่วไปแบบไม่ได้ล้างสีจะอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท
รายละเอียดต้องสอบถามจากร้านโดยตรง
เนื่องจากเค้าจะต้องดูความยาว ความหนา สีผมเดิม
รวมถึงสีผมที่เราอยากได้ว่าต้องทำการล้างสีหรือไม่ ฯลฯ
ซึ่งสามารถสอบถามเข้าไปได้ที่แฟนเพจของร้านตามลิงค์ด้านล่างนี้จ้า

https://www.facebook.com/Markthawin

//www.markthawin.com


ร้านจะตั้งอยู่ใน Town in Town ถนนเส้นหลักเลย สังเกตง่ายตรงข้ามอบอร่อยฮะ
รายละเอียดเบอร์โทรและแผนที่ตามภาพด้านล่างนี้จ้า



แต่ถ้าใครมีงบจำกัดสามารถเลือกเป็น Salon Solution ที่ชั้น 3
คือบริการแบบเดียวกันแต่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ได้จ้า
ราคาก็จะย่อมเยาว์กว่าฮะ โทรสอบถามได้ตามรายละเอียดด้านล่างจ้า



Disclaimer : Sponsored Content By Mark Thawin , All Free.

--------------------------------------------------------------------------------------------

ขอบคุณร้าน
Mark Thawin ที่เชิญไปทดลอง
สัมผัสประสบการณ์การเปลี่ยนสีผมในครั้งนี้นะค้า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาเยี่ยมชมล่วงหน้าด้วยค่ะ Smiley

Create Date :06 พฤษภาคม 2557 Last Update :6 พฤษภาคม 2557 23:02:56 น. Counter : 22176 Pageviews. Comments :2