ด่วน ! เอ็กซ์ จักรกฤษณ์ โดนลอบยิงทนพิษบาดแผลไม่ไหวสิ้นใจแล้ว
โดย ทีมข่าวอาชญากรรม
"เอ็กซ์ จักรกฤษณ์"ถูกคนร้ายลอบยิง 3 นัดคารถปอร์เช่สีดำคันหรู กระสุนทะลวงอกทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิต ด้านตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ลงพื้นที่ตรวจสอบทันทีแกะรอยปมชนวนเลือด!
เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (19 ต.ค.) พ.ต.ท.ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.มีนบุรี ได้แจ้งเหตุมีผู้ลอบยิงได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากซอยรามคำแหง 166 ถนนรามคำแหง แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.
จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พ.ต.ท.พงษ์กิตติ์ พินิจสิขิตศักดิ์ รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี พ.ต.ท.สมคิด ประเชิญสุข สว.สส. ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี ตำรวจฝ่ายสืบสวน บก.น.3 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) และอาสาสมัครมูลนิธิร่มไทร ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณริมถนน เจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกกระจายอยู่ 4 ปลอก ห่างไป 100 เมตร พบรถยนต์ยี่ห้อเปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ชส 2223 กรุงเทพมหานคร จอดสตาร์ทติดเครื่องยนต์อยู่ จากตรวจสอบเจ้าหน้าที่พบร่องรอยกระสุนปืนที่กระจกฝั่งคนขับจำนวน 3 นัด และตัวรถอีก 3 นัด
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.เสรีรักษ์ ไปก่อนหน้านี้จำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายจักรกฤษณ์ หรือเอ็กซ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ถูกยิงเข้าที่หน้าอกจำนวน 3 นัด อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กำลังผ่าตัดช่วยเหลือชีวิตเป็นการด่วน
และอีก 1 ราย เป็นแม่บ้านหญิงไม่ทราบ ชื่อถูกกระสุนปืนที่ขาขวา 1 นัด ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน มีภรรยา และญาติเข้าเยี่ยมติดตามอาการอย่างใกล้ชิดที่ห้องไอซียู จากสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นรถเปอร์เช่คันดังกล่าวขับมาตามถนน ก่อนจะชลอรถเพื่อให้รถยนต์ที่อยู่ภายในซอยรามคำแหง 166 ออกมาก่อน จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน สวมหมวกกันน็อคเต็มใบสีขาวทั้ง 2 คน ไม่ทราบการแต่งกาย ขับรถ จยย.ฮอนด้า สกู๊ปปี้ ไอ (ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน) ขับตามมาจากด้านหลัง
จังหวะนั้นคนร้ายได้ขับ จยย.แซงทางด้านขวา ก่อนที่คนร้ายนั่งซ้อนท้ายจะชักอาวุธปืนออกมายิงไปที่คนขับจำนวน 4 นัด ก่อนจะขับรถมุ่งหน้าหน้าไปตามถนนรามคำแหง แล้วเร่งเครื่องหลบหนีมุ่งหน้าไปทางรามคำแหง ส่วนรถที่ถูกยิงไหลไปประมาณ 100 เมตร ก่อนที่จะจอดนิ่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ล่าสุดนายอธิปัฐ กาญจนสุวรรณ รักษาการนายกสมาคมยิงปืน ออกมายืนยันหน้าห้องฉุกเฉินว่า เอ็กซ์ จักกฤษณ์ ได้เสียชีวิตลงแล้ว ซึ่งทางญาติจะนำศพไปตั้งสวดพระอภิธรรมที่วัดเทพศิรินทร์ พร้อมกล่าวว่าจะจัดตั้งมูลนิธิจักกฤษณ์ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือทางครอบครัวพณิชย์ผาติกรรมต่อไป นายแพทย์ประกิจ เปี่ยมเพชรกุล นายแพทย์ที่ทำการรักษานายจักรกฤษณ์ กล่าวว่าหลังจากรับตัวผู้บาดเจ็บมาแล้วขณะนั้นไม่ได้สติไม่มีสัญญาณชีพจร ทางโรงพยาบาลต้องใส่เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา หลังเข้าห้องไอซียู ก็ได้ทำการรักษาโดยการผ่ากลางอก และทำการเปิดช่องปอด เพื่อทำการปั้มหัวใจโดยตรง
ซึ่งจากการตรวจบาดแผลพบว่าถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่หัวใจด้านบนฝั่งซ้ายและออกสีข้างด้านขวา มีกระสุนที่ไหลขวาสองนัด มีเลือดออกในปอดจำนวนมากถึง 2,000 ซีซี และจากเอ็กซเรย์มีกระสุนค้างอยู่ในช่องท้องสองนัด รวมทั้งสิ้นโดนยิง 3 นัด
จนเวลา 20.30 น.ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ นายจักรกฤษณ์จึงเสียชีวิตลง จากนั้นเวลา 22.50 น.ทางโรงพยาบาลเสรีรักษ์ได้เคลื่อนย้ายศพนายจักรกฤษณ์ส่งไปยังสถาบันนิตเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ต่อไป นางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม มารดานายเอ็กซ์ กล่าวว่าหลังทราบข่าวรู้สึกตกใจมาก เอ็กซ์คงหมดเวรหมดกรรรม เหนื่อยมาเยอะรับใช้ชาติมาเยอะขอให้ไปสู่สุคติ เท่าที่พูดคุยกับลูกชาย ไม่เคยเล่าเรื่องปัญหาขัดแย้งให้ฟัง ส่วนความสัมพันธ์กับภรรยาดีขึ้นมาก และยังเคยคุยกันว่าหลังสร้างบ้านเสร็จจะมาอยู่ด้วยกันไม่คิดว่าจะไปเร็วแบบนี้ โดย พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รองผบก.น.3 กล่าวว่า เบื้องต้นชุดสืบสวนได้ตั้งประเด็นการสังหารไว้หลายเรื่อง
1. ยาเสพติด 2. ชู้สาว 3. การพนัน และ 4. ความโกรธแค้นส่วนตัว
โดยให้น้ำหนักไปที่ประเด็นหลังมากที่สุด ส่วนคดีความกับภรรยาที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ตัดทิ้ง ซึ่งภรรยาของเอ็กซ์ไม่น่าจะโกรธแค้นถึงขั้นลงมือสังหาร แต่อาจจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับภรรยา เช่น ญาติพี่น้อง
ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบภาพวงจรปิด และรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด เพื่อติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี สำหรับนายจักรกฤษณ์ เกิดวันที่ 31 ม.ค.2516 เป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ประเภทปืนสั้นอัดลมยิงช้า เจ้าของเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ และเอเชียนเกมส์หลายเหรียญ จบการศึกษา ปวส. เครื่องกล จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
นายจักรกฤษณ์ เริ่มหัดยิงปืนตั้งแต่อายุ 15 ปี หลังจากติดตามบิดาที่เป็นนักกีฬาทีมชาติมาตั้งแต่เด็ก ติดทีมชาติครั้งแรกเมื่ออายุ 18 ปี ในโอลิมปิกฤดูร้อน 2008 ได้อันดับ 8
นอกจากนี้ยังมีผลงานแสดง ภาพยนตร์เรื่อง หมากเตะรีเทิร์นส์ ในบทผู้จัดการทีมชาติลาว, ลิ้มโต๊ะเคี่ยม ในภาพยนตร์ปืนใหญ่จอมสลัด และ อุปราชมังระ ในขุนรองปลัดชู ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์
อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 20 ตุลาคม 2556 |
|
0 comments |
Last Update : 20 ตุลาคม 2556 5:11:22 น. |
Counter : 1973 Pageviews. |
|
|
|