ท่ามกลางสายฝนที่เทกระหน่ำลงมา ร่างของอดีตนายกรัฐมนตรีลี กวนยู ถูกนำออกจากอาคารรัฐสภา มาวางบนรถปืนใหญ่ และเริ่มเคลื่อนไปยังศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ อันเป็นสถานที่จัดงานรัฐพิธีศพ

เอเจนซีส์ – ชาวสิงคโปร์หลายหมื่นคนไม่ระย่อต่อสายฝนกระหน่ำหนักเมื่อวันอาทิตย์ (29 มี.ค.) เพื่อเข้าร่วมอำลารัฐบุรุษ ลี กวนยู พร้อมกับผู้นำและตัวแทนผู้ทรงเกียรติจากทั่วโลก ในงานรัฐพิธีที่จัดอย่างยิ่งใหญ่และมีนายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง บุตรชายคนโตของเขาเป็นผู้นำกล่าวสดุดี

        ผู้คนเป็นหมื่นๆ คนพากันยืนเนืองแน่นสองข้างทาง รอรับขบวนศพลี ซึ่งเคลื่อนออกจากอาคารรัฐสภา มุ่งสู่ศูนย์วัฒนธรรม มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ รวมเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก โดยโลงศพของลีคลุมด้วยธงชาติสีแดง-ขาว บรรจุอยู่ภายในกรอบแก้วกันฝนอีกชั้น และตั้งอยู่บนรถปืนใหญ่ 2 ล้อ

        ตลอดเส้นทาง ฝูงชนพากันตะโกนคำว่า “ลี กวนยู” ขณะถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนและโบกธงชาติสิงคโปร์ ทหารได้ยิงปืนใหญ่สลุต 21 นัด และเครื่องบินขับไล่เอฟ-16 จำนวน 4 ลำบินเหนือเกาะสิงคโปร์ และจัดขบวนในการบินแบบ “missing man formation" เพื่อทำความเคารพและระลึกถึงอดีตผู้นำ ขณะที่เรือตรวจการณ์ของกองทัพเรือส่งเสียงแตรสัญญาณ

        “สำหรับผู้ที่มองหาอนุสรณ์สถานของลี กวนยู ชาวสิงคโปร์สามารถตอบอย่างภาคภูมิใจว่า “มองไปรอบๆ สิ” นายกรัฐมนตรีลี เซียนลุง กล่าวสดุดีในงานศพเป็นคนแรกจากผู้ได้รับเกียรติให้ขึ้นกล่าว 10 คน ในพิธีศพที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน ซึ่งรวมถึงนักเรียนและชนชั้นนำของสิงคโปร์ รวมทั้งผู้นำจากทั่วโลก

        นายกฯ ลียังกล่าวอีกว่า ส่วนสำคัญของมรดกที่บิดาของตนทิ้งไว้ให้คือ “การมีสิทธิ์มีเสียงของสิงคโปร์ และเรามีอิทธิพลในเวทีโลกมากกว่าที่เราจะมีเหตุผลให้คาดคิดได้”

ขบวนศพเคลื่อนออกจากอาคารรัฐสภา ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพเพื่อให้ประชาชนเข้าไว้อาลัย

ขณะที่พิธีศพซึ่งจัดในรูปแบบรัฐพิธีอย่างสมเกียรติมาถึงตอนจบ มีการเปิดไซเรนดังทั่วทั้งเกาะสิงคโปร์เพื่อเป็นสัญญาณการสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยนาน 1 นาที โดยที่รัฐบาลได้ขอให้ระบบขนส่งสาธารณะหยุดดำเนินการระหว่างช่วงเวลาดังกล่าวด้วย

        ทั้งนี้ ระหว่างช่วงไว้อาลัยทั่วประเทศ 1 สัปดาห์ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันจันทร์ที่แล้ว (23) หลังการถึงอสัญกรรมของลี ในวัย 91 ปี มีประชาชนราว 450,000 คนเข้าแถวนานหลายชั่วโมงเพื่อเข้าไปเคารพศพรัฐบุรุษเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ณ อาคารรัฐสภา และผู้คนอีกราว 1 ล้านคนไปแสดงความไว้อาลัยที่ศูนย์ชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ

        การแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผยเป็นสิ่งที่พบได้ไม่บ่อยนักในหมู่ชาวสิงคโปร์ 5.5 ล้านคน ประเทศเกาะที่มีขนาดพื้นที่ประมาณ 4 เท่าตัวของกรุงวอชิงตัน ดีซีแห่งนี้ เป็นที่รู้จักทั่วโลกในฐานะศูนย์กลางการค้าและการเงินที่มั่งคั่ง และมีกฎระเบียบเคร่งครัด อาทิ ห้ามเคี้ยวหมากฝรั่งและการลงโทษด้วยการโบยในคดีอาญาบางประเภท

ประชาชนพากันเฝ้ารอเคารพขบวนศพ ถึงแม้ฝนจะตกหนัก

ลีเป็นนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์มากว่า 3 ทศวรรษ โดยปกครองด้วยกฎเหล็กจนกระทั่งอำลาตำแหน่งไปในปี 1990 เขาได้รับการยกย่องจากชาวสิงคโปร์ว่าเป็นผู้วางรากฐานความมั่นคั่งและความสัมพันธ์อันราบรื่นในหมู่ชนชาติ 3 ชนชาติของสิงคโปร์ อันได้แก่คนเชื้อสายจีน มาเลย์ และอินเดีย แต่ขณะเดียวกัน ระบอบอำนาจนิยมและการปราบปรามผู้ต่อต้านของเขาก็ยังทิ้งมรดกเอาไว้จนถึงทุกวันนี้ ทั้งในการจำกัดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การควบคุมสื่อ และประชาธิปไตยที่แคระแกร็น

        อิทธิพลของลีบนเวทีโลกที่เห็นได้จากการที่เขาเดินทางเยือนทำเนียบขาวเป็นประจำและยังถูกอ้างอิงเป็นหนึ่งในต้นแบบในการพัฒนาประเทศของเติ้ง เสี่ยวผิง อดีตผู้นำจีน ยังสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนอีกคำรบหนึ่งจากการที่มีผู้นำและอดีตผู้นำจากทั่วโลกเดินทางไปร่วมไว้อาลัยเขาเป็นครั้งสุดท้าย

        รองประธานาธิบดีหลี่ หยวนเฉาเป็นตัวแทนของจีน ขณะที่ตัวแทนของสหรัฐฯ คืออดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน และอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ เฮนรี คิสซิงเจอร์ ที่เป็นเพื่อนสนิทของลี ส่วนอังกฤษส่งวิลเลียม เฮก ประธานสภาผู้แทนราษฏรไปร่วมพิธี

        อย่างไรก็ตาม ผู้นำส่วนใหญ่ที่ไปร่วมไว้อาลัยคือผู้นำเอเชีย ซึ่งอาจสะท้อนถึงการที่เอเชียเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในช่วงชีวิตของลี

        นอกจากนี้ อินเดียยังประกาศให้วันอาทิตย์เป็นวันไว้อาลัยแด่ลี และรัฐบาลนิวซีแลนด์สั่งลดธงครึ่งเสาทั่วประเทศ

โลงศพของอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวนยู คลุมด้วยธงชาติสีแดง-ขาว บรรจุอยู่ภายในกรอบแก้วอีกชั้น และตั้งอยู่บนรถปืนใหญ่ 2 ล้อ

สลิล ทริปาติ นักเขียนในลอนดอนที่เคยเป็นผู้สื่อข่าวต่างชาติในสิงคโปร์ในทศวรรษ 1990 กล่าวว่า สาเหตุที่ลีมีอิทธิพลอย่างไม่สมส่วนในการเมืองระหว่างประเทศ เนื่องจากผลงานของเขาในการทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่เป็นประโยชน์ต่อระเบียบโลกทั้งด้านการเมืองและเศรษฐกิจ

        “อัจฉริยภาพของลีทำให้เขามีรัศมีของการเป็นรัฐบุรุษอาวุโส และทำให้ผู้ที่ชื่นชมเขาทั้งในสิงคโปร์และต่างแดน พากันมองข้ามความจริงอันซับซ้อนเกี่ยวกับตัวเขา ซึ่งรวมถึงการปฏิบัติต่อศัตรูทางการเมือง และการปิดกั้นจินตนาการความคิดสร้างสรรค์บนเกาะเล็กๆ ที่แออัดของสิงคโปร์”

        ทั้งนี้ ศพของลี ที่จากไปก่อนที่สิงคโปร์จะฉลองครบรอบการประกาศเอกราช 50 ปีเพียงไม่กี่เดือน จะถูกนำไปเผาในพิธีที่จัดขึ้นเป็นการส่วนตัวภายในครอบครัวในค่ำวันอาทิตย์

ภายหลังเสร็จสิ้นงานรัฐพิธีศพ กองเกียรติยศยกโลงบรรจุศพอดีตนายกรัฐมนตรี ลี กวนยู เพื่อนำไปยังสถานฌาปนกิจ โดยงานฌาปนกิจมีขึ้นในตอนค่ำ และถือเป็นพิธีภายในครอบครัว

ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์

สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ