ลดธง ครึ่งเสา แด่ เสนีย์ เสาวพงศ์ คารวะ อาลัย
เย็นย่ำของวันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม ร่างอันเป็น "นามรูป" แห่ง ศักดิชัย บำรุงพงศ์ ก็ถึงวาระแยกสลายอย่างเป็นจริง
ดินคืนสู่ดิน น้ำคืนสู่น้ำ ลมคืนสู่ลม ไฟคืนสู่ไฟ
หากมองไปในทิศทางแห่ง "ทิพยรูป" อัน อัศนี พลจันทร์ ได้เคยให้อนุศาสน์ไว้ในกวีนิพนธ์เรื่อง "ความเปลี่ยนแปลง"
นั่นหมายถึง การเข้าสู่ "สวรรค์ชั้นกวี"
เท่ากับเป็นการตาม อิศรา อมันตกุล เท่ากับเป็นการตาม อุทธรณ์ พลกุล เท่ากับเป็นการตาม นรา พฤฒินันท์ เท่ากับเป็นการตาม ทองเติม เสมรสุต เท่ากับเป็นการตาม อุดม ศรีสุวรรณ
ใครที่อ่าน "ไม่มีข่าวจากโตเกียว"
จะเห็นถึงการคาดหวังของ เสนีย์ เสาวพงศ์ ที่จะได้เห็นเพื่อนอีก 2 คน จากหนังสือพิมพ์ "สุวัณณภูมิ" มาคอยรับ ณ ท่าเรือบินดอนเมือง
1 คือ อิศรา อมันตกุล 1 คือ ทองเติม เสมรสุต
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า เมื่อ บุญส่ง บำรุงพงศ์ เขียนและตีพิมพ์หนังสือเรื่อง "สตาลิน" เมื่อปี พ.ศ.2481 คนทำปกคือ "ทอสส."
นี่คือ "ทะแกล้วทหาร 3 เกลอ" แห่งค่าย "สุวัณณภูมิ"
วงการหนังสือพิมพ์ในยุคแห่ง กุหลาบ สายประดิษฐ์ ต่อมายัง อิศรา อมันตกุล ต่อมายัง อุทธรณ์ พลกุล เป็นยุคแห่งการต่อสู้ทางความคิด
พื้นฐาน คือ "ประชาธิปไตย" กับ "เผด็จการ"
หนังสือพิมพ์ยังมิได้เป็นธุรกิจอย่างชนิดเต็มร้อย คนที่นำเงินมาทำหนังสือพิมพ์มีเป้าหมายเพื่อชื่อเสียง เกียรติยศ อย่างเป็นด้านหลัก
หากไม่ "ขาดทุน" ก็ถือว่า "ยอดเยี่ยม"
ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าทุนอยู่ในระยะแห่งการขยายตัว กระแสโฆษณาบนหน้าหนังสือพิมพ์ยังไม่เติบใหญ่
"นักเขียน" กับ "นักหนังสือพิมพ์" ยังอยู่ร่วมกัน
ยังมิได้แยกออกไปเหมือนในยุคของ "บางกอก" รายสัปดาห์ ยังมิได้แยกออกไปเหมือนในยุคของ "สกุลไทย" รายสัปดาห์
กุหลาบ สายประดิษฐ์ จึงต้องเล่นบท "ศรีบูรพา"
อิศรา อมันตกุล จึงต้องเล่นบท "รติรมย์" เมื่อเขียนคอลัมน์ เริง อภิรมย์ และหรือ นที บุรีรมย์ เมื่อเขียนนวนิยาย
ภายหลัง "รติรมย์" ก็มาเป็นนามปากกา รมย์ รติวัน ของ ทวี เกตะวันดี
"ธุรกิจ" จึงเป็นเรื่องอันตามมาเมื่อ "ทุน" เริ่มเข้ามาเป็นด้านครอบงำ
ความสัมพันธ์ในแบบที่ อุทธรณ์ พลกุล มีให้กับ กุหลาบ สายประดิษฐ์ ในแบบที่ เสนีย์ เสาวพงศ์ แนบแน่นกับ อิศรา อมันตกุล
และ "อินทรายุธ" เขียนให้เมื่อ ทองเติม เสมรสุต ทำ "สายธาร"
ได้กลายเป็น "อดีต" เหมือนกับการดำรงอยู่อย่างแนบแน่นระหว่างสภาวะแห่งความเป็น "นักเขียน" กับ "นักหนังสือพิมพ์"
ปรากฏการณ์ 1 อันควรจดจารเอาไว้
เมื่อ นรา พฤตินันท์ ก่อตั้งสำนักพิมพ์มิตรนราขึ้น เขานี่แหละที่พิมพ์ "ความรักของวัลยา" และรวมทั้ง "ปีศาจ" ในยุคก่อนสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516
และขณะซึ่ง อิศรา อมันตกุล นอนป่วยที่โรงพยาบาล ห้วงเวลาใกล้เคียงนั้น สำนักพิมพ์มิตรนราก็ตีพิมพ์รวมเรื่องสั้นในชุด
"ข้าจะไม่แพ้" ออกมาเสมือนกับเป็น "กำลังใจ"
แน่นอน คนทำปกเจ้าประจำคือ ม.ล.เฉลิมจิตร คเณจร
แน่นอน คนที่ให้ความช่วยเหลือเงียบๆ ยังเป็น ม.ล.จิตรสาร ชุมสาย แห่ง "บริการทอง" สามีของ ประคิณ ชุมสาย ณ อยุธยา เจ้าของนามปากกา นิด นรารักษ์ แห่งคอลัมน์นี่แหละโลก เจ้าของนามปากกา "อุชเชนี"
ณ มุมเหงาๆ โพ้น ใครคนหนึ่ง ไม่ว่าจะรู้จักในนาม ศักดิชัย บำรุงพงศ์ ไม่ว่าจะรู้จักในนาม เสนีย์ เสาวพงศ์ หรือ โบ้ บางบ่อ
เขาคือ คนทำหนังสือพิมพ์จากค่าย "สุวัณณภูมิ" เขาคือคนเขียนหนังสือเจ้าประจำแห่ง "สยามสมัย" และ "ปิยมิตร" รายสัปดาห์
เขาคือ "นักหนังสือพิมพ์" ซึ่งเป็น "นักเขียน"
(มติชนรายวัน ฉบับวันที่ 13 ธันวาคม 2557)
ขอบคุณ มติชนออนไลน์ - มติชนรายวัน อาทิตยวารสิริสวัสดิ์ค่ะ
Create Date : 14 ธันวาคม 2557 |
Last Update : 14 ธันวาคม 2557 8:41:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1876 Pageviews. |
|
|