"สาธุคุณซัน เมียงมูน" ผู้ก่อตั้ง "มูลนิธิโบสถ์แห่งความสามัคคี" เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 92 ปี
สาธุคุณซัน เมียงมูน
สาธุคุณซัน เมียงมูน ผู้ก่อตั้งมูลนิธิโบสถ์แห่งความสามัคคี ซึ่งสร้างชื่อเสียงในการจัดพิธีสมรสหมู่หลายพันคู่ภายในคราวเดียว เสียชีวิตแล้วเช้าวันนี้ที่เกาหลีใต้ด้วยวัย 92 ปี
สาธุคุณมูนก่อตั้งมูลนิธิซึ่งมีสมาชิกที่มักถูกเรียกว่า "มูนีส์" (Moonies) ในยุค 1950 ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ เขาอ้างว่ามูลนิธิมีสมาชิกหลายล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐฯ
แต่ถูกกล่าวหาว่ามีแนวคิดล้างสมองและหากำไรเกินควร จากสมาชิก เขายังสร้างอาณาจักรทางธุรกิจระดับโลก หนังสือพิมพ์ โรงงานผลิตอาวุธ มหาวิทยาลัย และบริษัทจัดจำหน่ายอาหาร
โฆษกแถลงว่า สาธุคุณมูน เข้าโรงพยาบาลเพราะมีอาการแทรกซ้อนจากปอดอักเสบตั้งแต่ 2 สัปดาห์ก่อน และเสียชีวิตก่อนเวลา 02.00 น.วันนี้ (3 ก.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่โรงพยาบาลในสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิในเมืองกาพยอง ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงโซล
หลังจากเข้าโรงพยาบาลเมื่อสองสัปดาห์ก่อนจากโรคปอดบวม และต้องใช้เครื่องพยุงชีพตั้งแต่วันศุกร์ เนื่องจากอวัยวะล้มเหลวขั้นวิกฤติ
มูลนิธิจะจัดพิธีศพของเขาเป็นเวลา 13 วัน ก่อนหน้าพิธีศพในวันที่ 15 กันยายนนี้ และร่างของเขาจะถูกฝังที่ภูเขาชอนซุง ใกล้บ้านเกิดของเขา
สาธุคุณมูน เกิดในครอบครัวชาวนาเมื่อปี 1920 ที่จังหวัดเปียนกัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเกาหลีเหนือ เขาอ้างว่า ขณะอายุ 15 ปีเห็นพระเยซูในนิมิตให้เขาสานต่องานของพระองค์ที่ชะงักไป เพราะการถูกตรึงกางเขน โดยการสร้างอาณาจักรแห่งพระเจ้า มูนอ้างว่าเขาปฏิเสธถึง 2 ครั้ง แต่รับปากในครั้งที่ 3
ต่อมาเขาได้ตั้งมูลนิธิโบสถ์แห่งความสามัคคีในปี 1954 และไม่ได้รับการยอมรับจากคริสตจักรโปรเตสแตนท์เกาหลี มูลนิธินี้ได้เผยแพร่ความเชื่อไปทั่วโลก โดยอ้างว่ามีสมาชิกแล้ว 3 ล้านคน
และตกเป็นที่ครหาในยุค 1960-1970 ว่าทำการล้างสมองสมาชิก ทำให้ครอบครัวแตกแยก และหาเงินเข้ากระเป๋าตนเอง ก่อนที่จะถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 11 เดือนในสหรัฐฯ และย้ายไปที่นั่นในช่วงต้นยุค 1970 หลังจากถูกตั้งข้อกล่าวหาหลบเลี่ยงภาษีในปี 1982
เขายังเป็นที่รู้จักจากการจัดงานสมรสหมู่หลายพันคู่ ในสนามกีฬาโดยเขาทำหน้าที่เป็นประธานในพิธี คู่สมรสส่วนใหญ่ไม่รู้จักกันมาก่อนและจับคู่ให้โดยสาธุคุณมูน หลายคู่เป็นคนต่างชาติต่างภาษากัน
งานสมรสหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่ง จัดขึ้นที่สนามกีฬาจัมซิลในกรุงโซลเมื่อปี 1992 เป็นการแต่งงานหมู่ 30,000 คู่ ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยตำหนิว่า เป็นนิกายล้างสมองสาวก
มูลนิธินี้เติบโตมากในช่วงคริสต์ศวรรษหลังปี 1970 และ 1980 ขณะเดียวกันได้ดำเนินอาณาจักรธุรกิจครอบคลุมทั้งด้านการก่อสร้าง เครื่องจักรหนัก อาหาร การศึกษา สโมสรฟุตบอล ก่อตั้งหนังสือพิมพ์วอชิงตันไทมส์ และสำนักข่าวยูไนเต็ดเพรสอินเตอร์เนชันแนล ผูกขาดธุรกิจตกปลาและร้านซูชิในสหรัฐฯ
นอกจากนั้น เขายังผูกสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ ได้พบปะกับนายคิม อิล-ซุงเมื่อปี 1991 และส่งผู้แทนเข้าร่วมพิธีศพของนายคิม จอง-อิล เมื่อปีก่อน
สาธุคุณมูน ย้ายกลับมาอาศัยที่เกาหลีใต้เมื่อปี 2006 และส่งต่อธุรกิจต่างๆให้แก่บุตรธิดารวม 14 คน โดยนายฮยุง จินมูน ซึ่งเป็นบุตรชายคนสุดท้องจากทั้งบุตรชายทั้งหมด 7 คนขึ้นรับตำแหน่งผู้นำมูลนิธิต่อจากเขาเมื่อปี 2008 ขณะอายุ 28 ปี
ขอบคุณ มติชนออนไลน์
สิริสวัสดิ์จันทรวารค่ะ
Create Date : 03 กันยายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 3 กันยายน 2555 11:21:07 น. |
Counter : 3464 Pageviews. |
|
|
|