ศุกรวารสิริสวัสดิ์-หายใจให้เป็นสุข
สิริศุกรวารสวัสดิ์-มัยมนัสภิรมยา ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๒ ค่ะ
หายใจให้เป็นสุข
พระโอวาทธรรมบรรยาย สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก
"ลมหายใจเข้าออกของทุกๆ คนนี้ เป็นแหล่งบังเกิดขึ้นแห่งสมาธิและสติปัญญา
ซึ่งพระพุทธเจ้าเอง ตามที่ปรากฏในพระสูตร ก็ได้ทรงจับปฏิบัติกำหนด ตั้งแต่เป็นพระราชกุมารดังได้กล่าวแล้ว
และเมื่อทรงพบทางอันเป็นมัชฌิมาปฏิปทา ก็ได้ทรงหวนระลึกถึงสมาธิ ที่ทรงได้จากการกำหนดลมหายใจเข้าออก ในขณะเป็นพระราชกุมารนั้น จึงมาทรงจับกำหนดลมหายใจเข้าออก
และก็เป็นอันว่า ทรงพบทางที่เป็นมัชฌิมาปฏิปทา ข้อปฏิบัติอันเป็นหนทางกลาง เป็นการเริ่มแรก
จึงกล่าวได้ว่า เหมือนกับทรงได้พระองค์เอง ขณะเมื่อเป็นพระราชกุมารน้อยนั้น มาเป็นพระอาจารย์บอกทางปฏิบัติแก่พระองค์ ในขณะที่ทรงผนวชแล้วนั้น เพราะฉะนั้น ในสติปัฏฐานสูตร จึงได้ตรัสแสดงอานาปานัสสติ สติกำหนดลมหายใจเข้าออกไว้ข้อแรก
และก็ได้กล่าวแล้วว่า ผู้ปฏิบัติควรจะถือเอาหลักที่ทรงสั่งสอนไว้ด้วยพระองค์เอง ในการทำอานาปานัสสติเป็นหลักสำคัญ พิจารณาให้เข้าใจในแนวทางปฏิบัติที่ได้ตรัสสอนไว้
ส่วนแนวทางปฏิบัติของพระอาจารย์ทั้งหลาย เลือกปฏิบัติมาประกอบเข้าตามที่เหมาะสมแก่อัธยาศัยของตน
และที่ตรัสสอน ให้นั่งบัลลังก์ ตั้งกายตรง ดำรงสติมั่น รวมจิตเข้ามากำหนด หายใจเข้าก็ให้รู้ หายใจออกก็ให้รู้ แม้ว่า จะนั่งบัลลังก์หรือขัดสมาธิ (หมาด) ไม่สะดวก จะนั่งเก้าอี้ก็ใช้ได้ และการตั้งกายตรงไม่พิงนั้น ถ้าทำได้ก็เป็นการดี แต่ถ้าทำไม่ได้ก็พิงได้
แต่ว่าการตั้งสติไว้จำเพาะหน้า คือไม่ส่งสติไปข้างไหน เป็นสิ่งที่ต้องทำ รวมใจเข้ามานั้นเอง
เมื่อรวมใจเข้ามาดังนี้ ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ก็จะปรากฏแก่ความรู้ เพราะว่าจิตนี้เป็นธาตุรู้ จิตอยู่ที่ไหน ก็รู้ที่นั่น
เมื่อจิตเกาะอยู่กับอารมณ์ภายนอก ก็รู้อารมณ์ภายนอกนั้น เมื่อจิตปล่อยอารมณ์ภายนอก เข้ามาตั้งอยู่ในลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ก็ย่อมรู้ลมหายใจเข้า ลมหายใจออกได้ นี้เป็นความรู้ขั้นแรก..."
กราบทูลนมัสการมาด้วยความเคารพอย่างสูง
ตัดตอนมาจากคอลัมน์ ของดีมีอยู่ โดยขรรค์ชัย บุนปาน มติชนสุดสัปดาห์ หน้า 106 ฉบับที่ 1511 วันที่ 31 ก.ค.-6 ส.ค. 2552 ขอขอบคุณ
ศุกรวารวรสวัสดิ์-มานมนัสปราโมทย์ที่มาอ่านค่ะ
Create Date : 07 สิงหาคม 2552 |
|
0 comments |
Last Update : 7 สิงหาคม 2552 14:06:15 น. |
Counter : 855 Pageviews. |
|
|
|