BlogGang.com : : sirivinit : เรื่องเล่าอาจารย์ชา "นอกเหตุเหนือผล"

เรื่องเล่าอาจารย์ชา "นอกเหตุเหนือผล"

สิริจันทรวารสวัสดิ์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๒ ค่ะ

เรื่องเล่า อาจารย์ชา
จากสวนโมกข์ ถึง หนองป่าพง
มี สุญญตา เชื่อมประสาน

มิได้เป็นของแปลก หากว่าการเสนอในเรื่อง ความว่าง จะมาจากสำนักสวนโมกขพลาราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งจาก ท่านพุทธทาสภิกขุ
กระนั้น เรื่องของ ความว่าง ก็ปรากฎขึ้นจากสำนักหนองป่าพงเช่นกัน

"คำสอนที่เข้าใจผิดกันมากที่สุดตามความคิดของคนก็คือ เรื่อง การปล่อยวางหรือ การทำงานด้วยจิตว่าง นี่แหละเป็นพระธรรมเทศนาของ พระอาจารย์ชา สุภัทโท เมื่อเดือน มีนาคม 2520 โดยแสดงธรรมเทศนานี้ให้กับพระภิกษุชาวตะวันตก ซึ่งมาจากวัดบวรนิเวศวิหาร
.............

"การพูดอย่างนี้ เรียกว่าพูด ภาษาธรรม เมื่อเอามาคิดเป็น
ภาษาโลก มันก็เลยยุ่ง"
.............

ดังได้สดับมาในหัวข้อเรื่อง "นอกเหตุเหนือผล" ดังนี้
โลกเขาว่าทำงานอันนี้เพราะต้องการอันนั้น เขาว่าเป็นคนมีเหตุผล แต่พระท่านสอนยิ่งไปกว่านั้นอีก ท่านว่าทำงานอันนี้ ทำไป แต่ไม่ต้องการอะไร
ทำไมไม่ต้องการอะไร

โลกเขาทำงานอันนี้ เพื่อต้องการอันนั้น ทำงานอันนั้นเพื่อต้องการอันนี้
นี่เป็นเหตุผลอย่างชาวโลกเขา

พระพุทธองค์ท่านทรงสอนว่า ทำงานเพื่องานไม่ต้องการอะไร

ถ้าคนเราทำงานเพื่อต้องการอะไรก็เป็นทุกข์ ลองดูก็ได้ พอนั่งปั๊บก็ต้องการความสงบ ก็นั่งอยู่นั่นแหละ กัดฟันเป็นทุกข์แล้ว
มันละเอียดกว่ากัน คือ ทำแล้วปล่อยวาง ปล่อยวาง

ครั้งแรกเราทำก็ปรารถนาให้มันเป็นอย่างนั้น ทำไป ทำไป ทำจนกว่าที่เรียกว่าไม่ปรารถนาอะไรแล้ว ทำเพื่อปล่อยวาง

จะทำอะไรก็ไม่ต้องคิดว่า จะต้องการอะไรทั้งนั้น ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น แล้วมันจะเป็นอะไร

ก็ไม่เป็นอะไร

ถ้าเป็นอะไรมันก็ทุกข์เท่านั้นแหละ การทำงานไม่ได้เป็นอะไรนั้น เรียกว่าทำจิตให้ว่างแต่การกระทำมีอยู่

ความว่างนี้ พูดให้คนฟังไม่รู้เรื่อง แต่คนทำไปจะรู้จักความว่างเปล่านี้ว่ามีประโยชน์ ไม่ใช่ว่ามันว่างในสิ่งที่มันไม่มี มันว่างในสิ่งที่มันมีอยู่ เช่น ไฟฉายนี้มันไม่ว่าง แต่เราเห็นไฟฉายนี้มันว่าง

ว่างก็เพราะมีไฟฉายนี้ ไฟฉายนี้เป็นเหตุให้มีว่าง ไม่ใช่ว่างขณะนั้นมองดูไม่มีอะไร ไม่ใช่อย่างนั้น ต้องเข้าใจความว่างในของที่มีอยู่ ไม่ใช่ความว่างในของที่ไม่มี

ในทางพุทธศาสนาให้ทำเพื่อไม่ต้องการอะไร ถ้ามีเพื่ออะไรมันไม่หมด

ถามว่า เหตุปัจจัยอะไร ทำให้นำเอาเรื่องเล่าอันเกี่ยวกับ ความว่าง อันเกี่ยวกับ การทำงานด้วยจิตว่าง ขึ้นมาเน้นย้ำ

คำตอบ 1 เพราะต้องการแสดงให้เห็นลักษณะสมารมณ์ทางความคิด
เป็นอาการสมารมณ์ทางความคิดจากสำนักสวนโมกขพลารามของ ท่านพุทธทาสภิกขุ ไปยังสำนักวัดหนองป่าพงของ พระอาจารย์ชา สุภัทโท

คำตอบ 1 เพราะต้องการแสดงให้เห็นลักษณะเชื่อมร้อยประสานเข้ากับท่วงทำนองเซน

ใครที่อ่าน "สูตรของเว่ยหล่าง" อันเป็นเรื่องราวของ ท่านฮุยเหนิง
ย่อมประจักษ์ในประเด็นว่าด้วย ความว่าง ว่าด้วย สุญญตาคล้ายกับ เซน เป็นเรื่องของ มหายาน ขณะที่กล่าวไปแล้วทั้ง ท่านพุทธทาสภิกขุ และ พระอาจารย์ชา สุภัทโท ล้วนเติบใหญ่อยู่ในร่มเงาของ เถรวาท อันเป็นอิทธิพลความคิดที่ส่งผ่านอินเดียใต้มายังลังกา พม่า สยาม

กระนั้น ในที่สุดแล้ว ไม่ว่า เถรวาท หรือ มหายาน ล้วนมีเป้าหมายเพื่อดับทุกข์เหมือนกัน

จากคอลัมน์ ดังได้สดับมา
โดย วิเวกา นาคร
มติชนสุดสัปดาห์ หน้า 62
ฉบับที่ 1506 วันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค.2552
ขอขอบคุณ

Create Date : 29 มิถุนายน 2552

Last Update : 29 มิถุนายน 2552 22:09:00 น.

0 comments

Counter : 946 Pageviews.