ข้าวตอกพระร่วง
ข้าวตอกพระร่วง
คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง โดย ราม วัชรประดิษฐ์
คำว่า "พระร่วง" เป็นลักษณะของบุคลาธิษฐานที่ปรากฏเรื่องเล่าสืบต่อกันมาในรูปแบบของตำนานเมือง ตำนานพื้นบ้าน และตำนานทางศาสนา โดยแพร่หลายในดินแดนภาคเหนือตอนล่างและทางตอนเหนือของสยามประเทศ ก่อนจะกระจายตัวมายังดินแดนภาคกลางในเขตเมืองละโว้หรือลพบุรี
เค้าโครงเรื่องเล่าของพระร่วงจะปรากฏให้เห็นในเอกสารต่างๆ เช่น พงศาวดารลาวเฉียง ซึ่งต่อมาเรียก "พงศาวดารโยนก" ตลอดจนชินกาลมาลีปกรณ์ และตำนานพุทธสิหิงค์ ได้ให้ภาพลักษณ์ของพระร่วงในลักษณะของผู้นำหรือวีรบุรุษทางวัฒนธรรม (Culture hero)
โดยแสดงลักษณะของผู้มีฤทธิ์ ผู้มีอำนาจ มีความรู้ความสามารถ โดยมีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมทางวัฒนธรรม ผูกพันกับชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของชาวบ้าน ตลอดจนแสดงให้เห็นในลักษณะของ "ภูมินาม" ในสถานที่ต่างๆ ตามเรื่องเล่าและคติความเชื่อที่สืบทอดกันมา
เรื่องราวของ "พระร่วง" ปรากฏในบริบททางประวัติศาสตร์ไทย ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 21 โดยมีลักษณะเป็นตำนานบรรพบุรุษในตำนานเมือง ซึ่งแพร่หลายในแถบเขมรและมอญ ก่อนจะถูกเชื่อมโยงเข้ากับประวัติความเป็นมาของเมืองในแถบภาคเหนือตอนล่าง
รู้จักกันในรูปแบบของ เพลงพระโถง (พระทอง) และเพลงนางนาค ซึ่งทั้งสองเพลงนี้ก็ได้เผยแพร่เข้ามายังสยามประเทศ โดยเฉพาะในสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น มีการบรรเลงเพื่อใช้ประกอบพิธีแต่งงาน ต่อมาได้รับการยกย่องให้เป็นเพลงไทยเดิมโบราณยุคแรกๆ ของไทย
ซึ่งผูกจากตำนานที่กล่าวถึงพระทองผู้เป็นเจ้าเมือง ได้บำเพ็ญตบะอยู่ริมแม่น้ำใหญ่จนพบกับนางนาค และได้ร่วมอภิรมย์สมสู่ จนเกิดเป็นทารกชายได้นามต่อมาว่า "พระร่วง" และสืบราชสมบัติของพระทอง
นอกจากนี้ เรื่องราวของ "พระร่วง" ยังเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตำนานนิทานพื้นบ้าน ที่สอดรับกับภูมิประเทศและลักษณะทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น เช่น ตำนานพระร่วงส่วยน้ำ, ตำนานขอมดำดิน, เรื่องพระร่วงมีวาจาสิทธิ์, ตำนานพระร่วงอรุณราชกุมาร, ตำนานพระร่วง-พระฤๅ (พระลือ), เรื่องพระร่วงทรงว่าว, ข้าวตอกพระร่วง, ปลาพระร่วง, โซกพระร่วง (เรื่องพระร่วงลับพระขรรค์),
ตำนานการทอดยอดผักบุ้งจากแก่งหลวง แม่น้ำยม ศรีสัชนาลัย ที่กล่าวถึงเรื่องพระร่วงเสด็จไปหามารดาในนาคพิภพและหายลงไปในแก่งหลวง โดยเชื่อกันว่า เมื่อใดที่ผักบุ้งจากแก่งหลวงทอดยอดขึ้นไปพันพระบรมธาตุ พระร่วงจะเสด็จคืนนคร ฯลฯ
สำหรับ "ข้าวตอกพระร่วง" นั้น ความจริงเป็นออกไซด์ของเหล็กชนิดหนึ่ง เรียกว่า "แร่ LIMONITE" ซึ่งสามารถเกิดผลึกโดยอาศัยรูปผลึกของแร่ชนิดอื่นได้ มักพบตามแผ่นหินผุตามเทือกเขา โดยเฉพาะบริเวณเชิงเขาพระบาทใหญ่ จ.สุโขทัย
เมื่อทุบแผ่นหินผุให้แตกจะพบหินสีสนิมเหล็กคล้ายลูกเต๋า บ้างก็เป็นสีน้ำตาลไหม้ ใหญ่บ้างเล็กบ้าง ถ้าก้อนใหญ่ทุบอีกก็จะแยกเป็น สี่เหลี่ยมเล็กๆ ซึ่งชาวบ้านจะเรียกชื่อว่า "ข้าวตอกพระร่วง" ตามความเชื่อที่ว่า
... พระร่วงได้เสด็จออกผนวชในวันตักบาตรเทโว ณ วัดเขาพระบาทใหญ่ สุโขทัย หลังจากฉันภัตตาหารเสร็จแล้ว ได้โปรยเศษข้าวกลายเป็นหิน เรียกว่า "ข้าวตอกพระร่วง" บางส่วนมีลักษณะคล้ายเมล็ดข้าวสาร เรียก "ข้าวพระร่วง" หรือ "ข้าวสารพระร่วง" ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ เพราะเกิดจากวาจาสิทธิ์ของพระร่วงเจ้า ...
"ข้าวตอกพระร่วง" นี้ ได้รับความนิยมสะสมอย่างกว้างขวางและต่อเนื่องมาแต่โบราณ โดยเชื่อว่าเป็นสิริมงคลสูง หรือหากนำมาฝนกับหินบดยาผสมน้ำทาแก้พิษ สัตว์พิษต่างๆ ได้ บางคนนำใส่ตลับสีผึ้งไว้ทาปาก เพื่อความเมตตามหานิยมและเกี่ยวเนื่องกับความมีวาจาสิทธิ์ของพระร่วงเจ้าอีกด้วย
ต่อมามีการนำหินแร่ชนิดนี้มาเจียระไนสร้างวัตถุมงคล หรือดัดแปลงเป็นเครื่องประดับในรูปแบบต่างๆ อย่างสวยงาม เพื่อสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ปัจจุบันค่อนข้างหายากขึ้นทุกทีครับผม
หน้า 31
ขอบคุณ ข่าวสดออนไลน์ คอลัมน์ พันธุ์แท้พระเครื่อง คุณราม วัชรประดิษฐ์
ภุมวารสวัสดิ์วัฒนาค่ะ
Create Date : 20 ธันวาคม 2554 |
|
0 comments |
Last Update : 20 ธันวาคม 2554 15:31:09 น. |
Counter : 4529 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|