Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2551
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
13 ตุลาคม 2551
 
All Blogs
 

:: ปิดฉาก “ปู่เย็น” เฒ่าทระนงแห่งลุ่มน้ำเพชรฯ





ปิดฉาก “ปู่เย็น” เฒ่าทระนงบนหนทางพอเพียง
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 12 ตุลาคม 2551 13:12 น.


ปิดฉากชีวิตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับเฒ่าชราผู้ทระนงวัย 108 ปี “ปู่เย็น” ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวหลังถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจากการเกิดอาการช็อกหมดสติอยู่ภายในเรือ ในช่วงสายของวันนี้ (12 ต.ค.)

เฒ่าชราคนนี้อาจจะไม่ได้เป็นนักร้อง ไม่ได้เป็นนักแสดง แต่เฒ่าชราคนนี้ก็เป็นดาราในหัวใจของใครต่อใครหลายๆ คน

ในหนังสือ ฅ คน ฉบับปฐมฤกษ์ ระบุชื่อจริงของปู่เย็นไว้ว่า “เย็น แก้วมะณี” อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 274/4 ถ.มาตยาวงศ์ ต.ท่าราบ อ.เมืองเพชรบุรี ในอดีตมีอาชีพรับจ้างเลี้ยงวัว

ปู่เย็นชาวมุสลิม มีภรรยาเป็นไทยพุทธ ชื่อ “ย่าเอิบ” อยู่ด้วยกันโดยไม่มีใครเปลี่ยนศาสนาโดยไม่มีลูกเพราะปู่เย็นเป็นหมัน แต่มีลูกสาวบุญธรรม 2 คน ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองเติบโตต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวของตน

ในวันที่ 16 มีนาคม 2536 ปู่เย็นก็ต้องมาสูญเสียภรรยาคู่ชีวิตไปอย่างไม่มีวันกลับ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ชายชราวัย 94 ในขณะนั้นต้องร้องไห้นานกว่า 3 เดือน

เมื่อไร้คนที่ตนรักปู่เย็นจึงตัดสินใจขนทรัพย์สมบัติไม่กี่ชิ้นไปอยู่ในบ้านหลังใหม่ในน้ำที่ไม่มีทั้งเสา ไม่มีทั้งหลังคา หาเลี้ยงชีวิตด้วยการดักอวนหาปลา หากเหลือกินก็ขายในราคาถูกๆ ซึ่งหากใครจะเอาเงินให้ฟรีๆ จะทำให้ปู่เย็นรู้สึกโกรธ

หลังใช้ชีวิตมานานกว่า 10 ปี ชื่อของปู่เย็นก็ถูกเผยแพร่เป็นที่รู้จักในวงกว้างผ่านรายการ “คนค้นฅน” ในตอนที่มีชื่อว่า “ปู่เย็น เฒ่าทระนง" ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคารที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548 และอีก 2 ตอนต่อมา

ด้วยหลักการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจ มีแง่คิดมากมายโดยตั้งอยู่บนความเรียบง่าย-พอเพียง และความอารมณ์ดีนั่นเองที่ทำให้ชื่อของปู่เย็นเกิดเป็นกระแสโด่งดังเป็นอย่างมาก กระทั่งมีการเรียกร้องให้นำเอาเทปรายการดังกล่าวมาออกอากาศอีกครั้ง

“ดูแต่หอยสิ ไม่มีมือไม่มีตีน มันยังหากินได้เอง ประสาอะไรกับคนมีมือมีเท้า หากินเองไม่ได้ก็อายหอย...”

“ขายอย่าให้แพง คนเขาจะได้กินลง ฉันขายถูกๆ เอาไปเถอะ ซื้อไปแกงให้พอหม้อ...”

“มีก็กิน ไม่มีก็ไม่กิน ไม่ขอใคร คนเราอดตาย หายาก ถ้าไม่เจ็บไม่ไข้นะ...”

“ชีวิตคนเหมือนสะพาน มีขึ้น มีลง มีสูง มีต่ำ พอสุดท้าย ก็ตาย...”

ประโยคง่ายๆ เหล่านี้อาจจะไม่ใช่ปรัชญายิ่งใหญ่ที่เอาไว้ให้ใครต่อใครได้ท่องจำ แต่มันคือหลักที่ปู่เย็นใช้ในการดำเนินชีวิตบนเรือตลอดมา

23 มีนาคม 2548 ปู่เย็นได้รับพระมหากรุณาธิคุณเพื่อเข้ารับเรือพระราชทานต่อเบื้องพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นชื่อของปู่เย็นก็กลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแม่น้ำเพชร และจังหวัดเพชรบุรีไปโดยปริยาย มีคนมากมายจากทั่วสารทิศมาเยี่ยมชนิดที่หัวบันไดสะพานลำไยไม่เคยแห้ง

จากการกลายเป็น “ดารา” นี้เองที่ทำให้หลายคนเกิดความเป็นห่วงว่าผลการเปลี่ยนแปลงต่างๆ จากคนรอบข้างจะเกิดผลกระทบกับชายชราวัย 100 กว่าปีคนนี้ทั้งในเรื่องของสุขภาพ และรูปแบบการดำเนินชีวิต

เหมือนกับคำบอกกล่าวของปู่เย็นที่ว่า...ชีวิตคนนั้นเหมือนสะพาน มีขึ้นก็ต้องมีลง...ระยะหลังชื่อของปู่เย็นค่อยๆ เงียบหายไปตามกระแสธารกาลเวลา จะมีข่าวคราวบ้างเป็นครั้งคราวเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยทั้งกรณีเป็นฝีที่คอ ปอดติดเชื้อ รวมถึงอุบัติเหตุจากการหกล้ม

อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่ พ.ศ.2548 กระทั่ง พ.ศ.2551 ปู่เย็นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าชายวัยชราคนนี้เป็น “ดารา” นอกจอตัวจริงเพียงใด เพราะห้วงเวลาที่ผ่านไปแม้สังคมและคนรอบข้างจะเปลี่ยนแปลง แต่ปู่เย็นก็ยังคงเป็นปู่เย็นคนเดิมผู้สมถะ ใช้ชีวิตด้วยการหาปลาตามเดิม ไม่อยากให้ใครมาสงสารหากมีแต่ความสงสารและเกรงใจคนอื่นๆ

“ไม่เอาง่ะ เกรงใจมัน...กินฟรีได้ แต่ไม่กิน เกรงใจ ไม่เอา อาย ของเขาซื้อเขาขาย ไหนต้องตัก ไหนต้องล้าง..." คือคำตอบที่ยืนยันถึงนิสัยส่วนตัวของเฒ่าชราคนนี้เกือบตลอดทุกครั้งที่มีใครหยิบยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ในรูปของอาหารและเงินทอง

นับจากวันที่ภรรยาเสียชีวิต วันที่ 20 กันยายน 2551 ที่ผ่านมาน้ำตาแห่งความเสียใจของผู้เฒ่าคนนี้ต้องไหลนองหน้าอีกครั้งหลังเรือพระราชทานฯ ที่เปรียบเสมือนบ้านได้เกิดพลิกคว่ำจากพายุฝนที่ตกกระหน่ำอย่างหนัก

ค่ำคืนดังกล่าวแม้ตัวของปู่เย็นจะทุลักทุเลอยู่ในน้ำนานร่วมชั่วโมง แต่สิ่งเดียวที่แกห่วงก็หาใช่ชีวิตของตนเองไม่

“เรือ เรือมันจมแล้ว...” ปู่เย็นบอกเสียงสั่นตื่นตระหนกพร้อมกับใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา

ตลอดช่วงเวลาที่เรือถูกนำไปซ่อมแซมโดยวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยานั้น ปู่เย็นมีอาการซึมเศร้าอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มอันคุ้นเคยในวันที่เจ้าตัวได้เรือดังกล่าวกลับคืนมาเมื่อ 1 ตุลาคม 2551

“จะตายบนเรือลำนี้แหละ...” เฒ่าวัย 108 ปี ลั่นไว้ก่อนกลับไปใช้ชีวิตในเรืออีกครั้ง

น่าเสียดายเหลือเกินที่วันนั้นได้มาถึงแล้วในวันนี้

...

หมายเหตุ - สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 2 แสนบาท เพื่อช่วยเหลือการจัดพิธีศพของ “ปู่เย็น” ที่จะถูกนำไปตั้งที่มัสยิดกลาง จ.เพชรบุรี ต.ท่าแร้ง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี และจะทำพิธีละหมาดขอพร ฝังร่างในเวลา 10.00 น.ของวันพรุ่งนี้ (13 ต.ค. 2551)


Special Thanks : //www.manager.co.th




 

Create Date : 13 ตุลาคม 2551
3 comments
Last Update : 13 ตุลาคม 2551 8:41:08 น.
Counter : 580 Pageviews.

 

ไม่ได้เป็นเรื่องของญาติมิตรของเราเลยแม้แต่น้อย
แต่อ่านแล้ว นั่งร้องไห้อยู่คนเดียวที่ออฟฟิศที่ยังไม่มีใครมาเลย

หลับให้สบายนะคะปู่เย็น

 

โดย: gluhp 13 ตุลาคม 2551 9:48:29 น.  

 

ได้ติดตามเรื่องราวชีวิตพอเพียง แต่ยังคงทรนงในศักดิ์ศรีตน
ตั้งแต่ ปู่อายุ 104

เพื่อนไปเที่ยวเพชรบุรี เห็นปู่เย็นนั่งขายของแถวตลาด ก็เล่าว่าอยากขอไปถ่ายรูปด้วย
แต่กลัวรบกวนปู่ เลยได้แค่แอบถ่ายรูปมาให้ชื่นชม
น่าอิจฉาจัง ...
ถ้าเป็นไปได้ อยากไปกราบปู่สักครั้ง ... เห็นคนแก่แล้วนึกถึงพ่อตัวเอง อยากกอด

เช้านี้ตื่นมาดูข่าวทีวี แล้วตกใจ ... ใจหาย
แต่เชื่อว่า อย่างไรก็ตาม วิญญานปู่เย็น จะไปสู่สรวงสวรรค์ อย่างสงบแน่นอนค่ะ

"อำลา อาลัย นะคะ ปู่เย็น"



 

โดย: แม่ส้มแป้น 13 ตุลาคม 2551 10:59:49 น.  

 

 

โดย: big-lor 13 ตุลาคม 2551 13:10:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เจ้าการเวกเสียงหวาน
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




สิ่งไหนยากกว่ากันระหว่าง
การหาคำตอบ
กับ
การพิสูจน์ว่าคำตอบ
ที่คนอื่นหามาได้นั้นถูกต้องหรือไม่
Friends' blogs
[Add เจ้าการเวกเสียงหวาน's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.