|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
== ข้อความบังเอิญ ==
ได้รับเมลล์มาฉบับหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว อ่านแล้วประทับใจมาก เลยเอามาแบ่งกันอ่าน
+ + + + + + + + + + + + + + + +
Subject : ข้อความบังเอิญ พอดีมีเพื่อนส่งมาให้ อ่านแล้วรู้สึกดี ยาวไปนิด แต่ก็อยากให้ทุกคนอ่าน...
"มีคนเคยบอกว่า...ชีวิตคือความบังเอิญ.. แต่ความบังเอิญบางครั้งก็เปลี่ยนแปลง..มุมมองเราใหม่ทั้งชีวิต"
ผมไม่เคยเชื่อในข้อความนี้...จนกระทั่งวันธรรมดาวันหนึ่งที่ผมเปิดมือถือขึ้นตอนเช้า
ผมได้รับข้อความ SMS บอกว่า ผมมีข้อความเสียงฝากไว้ ใน Voice Mail Box ของผมให้โทรเข้าไปฟัง...
ผมกดเข้าไปฟัง แต่พอฟัง...ผมกลับรู้สึกแปลกใจใหญ่เพราะเสียงของคนที่ฝากข้อความไว้นั้นผมไม่คุ้นเอาเสียเลย...
และยิ่งฟังข้อความที่ฝากไว้...ยิ่งน่าจะไม่เกี่ยวกับผมเลยด้วยซ้ำ แต่เสียงเศร้า ของชายสูงวัยนั้น ทำให้ผมสะดุดใจผมอย่างยิ่ง
"ชัย...นี่พ่อนะ พ่อพยายามติดต่อลูกหลายครั้ง แต่ติดต่อไม่ได้ คือ พ่อต้องเข้ารพ.ไปผ่าตัดอาทิตย์หน้าและหมอให้พ่ออยู่ที่ โรงพยาบาลตั้งแต่พรุ่งนี้..ที่บ้านไม่มีคนอยู่..ถ้าลูกว่างก็แวะมาได้ที่ โรงพยาบาลโคราช บางทีพ่ออาจจะเหลือเวลาไม่มาก......"
เสียงปลายทาง..สิ้นสุดลง ผมอึ้งและ...งง กับข้อความที่เพิ่งฟังจบไป อยู่พักหนึ่ง
ผมไม่ได้ชื่อชัย...และผม ก็ไม่มีพ่ออยู่โคราช พ่อผมเสียไปนานมากแล้ว...
ผู้ชายคนนั้นคง..กดเบอร์โทรผิด ผมคิดแค่นั้น และพยายามไม่ได้สนใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งฟังมา
ทำไมต้องสนใจ????..มันไม่เกี่ยวกับผม..!
แต่ตลอดวันนั้น เสียงล้าๆ เหนื่อยๆ ของชายคนนั้นที่ฝากไว้ใน Voice Mail Box วนเวียนเข้ามารบกวนใจผมเป็นระยะ...
ผมได้แต่คิดว่า ผมมีสิทธิ์ที่จะลืมมัน? มันไม่ใช่หน้าที่อะไรของผมที่จะต้องสนใจกับแค่การฝากข้อความผิดเบอร์..
แต่ประโยค "บางทีพ่ออาจจะเหลือเวลาไม่มากนัก......" มันทำให้ผมรู้สึกแย่ หากไม่ลุกมาทำอะไรสักอย่าง
ผมตัดสินใจโทรกลับไปที่หมายเลขที่โทรมาฝากข้อความไว้....ซึ่งเป็นโทรศัพท์บ้าน...
ผมโทรไปหลายต่อหลายครั้ง ไม่มีคนรับสาย....ใช่ป่านนี้เค้าคงอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
ผมได้แต่ถอนใจและพยายามบอกว่าตัวเองทำดีที่สุดแล้ว...
แต่ตอนเย็นของวันนั้น ในที่สุด ความสำนึกดี..(ที่มีอยู่ไม่มากนักในตัวผม) ก็(ดัน)ดลบันดาลในให้ผมหาทางออกได้ว่า
ผมน่าจะลองโทรไปหาเบอร์มือถือที่ใกล้เคียงกับผมดู เผื่อบางที อาจจะมีเบอร์ใด...ที่อาจจะเป็นลูกชายของคนที่ฝากข้อความไว้ก็ได้ เพราะถ้ากดผิดได้แสดงว่าหมายเลขคงจะห่างกันไม่มาก
ผมตัดสินใจไล่...กดเบอร์มือถือ ที่ใกล้เคียงกับเลขหมายโทรศัพท์ของผม ตั้งใจว่าจะกด แค่สิบเบอร์แรก...เท่านั้น
โดยเรียงจากเลขที่ใกล้เคียงกันมากที่สุด...ผมทำมันด้วยความไม่เต็มใจเท่าไหร่นักหรอก..
เพราะมันไม่สนุกเลยที่คุณจะต้องโทรไปหาใครที่ไม่รู้จักแล้วบอกเค้าว่า
"สวัสดีครับ คุณชื่อชัยหรือเปล่าครับ...ผมเป็นคนที่มีเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ใกล้เคียงกับคุณ คือ คุณพ่อคุณคงกดเบอร์ผิดและฝากข้อความไว้ที่ Voice Mail ของผม คือ ท่านบอกว่า เค้ากำลังจะเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลที โคราชอาทิตย์หน้า...."
ทายซิครับ...ผมได้รับคำตอบ....อะไรบ้าง?
บ้างก็วางสายใส่อย่างไม่ปราณี... บ้าง..ก็ถามกลับมาว่า คุณบ้าหรือเปล่า?
แต่คำตอบยอดนิยมที่ผมได้รับ...คือ...."ขอโทษนะค่ะ...ดิฉันไม่ซื้อประกันตอนนี้...และทำบัตรเครดิตครบทุกธนาคารแล้วค่ะ"
ผมอยากจะบ้าตาย..ผมไม่ได้พูดอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องประกัน กับ บัตรเครคิตซะหน่อย..เฮ้อ...
บางที...คนสมัยนี้ คงยุ่งเกินกว่าที่จะ คุยกับคนแปลกหน้า..ก็ได้...มั้ง
ผมนึกโกรธ เจ้าความสำนึกดีในตัวเอง...ที่มันยังดึงดันพยายามต่อ...
จากที่ตั้งใจว่า จะโทรแค่ 10 เบอร์ที่ใกล้เคียงเท่านั้น แล้วผมก็ลามปราม...โทรไปถึง..สามสิบเบอร์
แต่ในที่สุด..ผมก็ต้อง..ถอนใจ ...หมดหวัง..เมื่อเบอร์สุดท้ายก็ติดต่อไม่ได้
ผม...ตัดสินใจฝากข้อความ Voice Mail ของหมายเลขที่ผมลองสุ่มโทรไป... ด้วยประโยคที่ผมพูดซ้ำกันมากกว่า 30 รอบ อย่างเชี่ยวชาญ
"สวัสดีครับ คุณชื่อชัยหรือเปล่าครับ...ผมเป็นคนที่มีเลขหมายโทรศัพท์มือถือ ใกล้เคียงกับคุณ คือ คุณพ่อคุณคงกดเบอร์ผิด และฝากข้อความไว้ที่ Voice Mail ของผม คือ ท่านบอกว่า เค้ากำลังจะเข้าผ่าตัดที่โรงพยาบาลทีโคราชอาทิตย์หน้า...."
ผมวางสาย...เบอร์โทรที่เป็น...เป้าหมายสุดท้าย...เสร็จสิ้นไปแล้ว...
ผมพยายามปลอบใจตัวเองว่า...ผมทำดีที่สุดแล้ว...และไม่ควรรู้สึกผิดอะไรอีก
ผมหลับตานึกภาพพ่อของคนที่ชื่อชัย....ที่ต้องนอนป่วยโดดเดียวที่โรงพยาบาล
ผมได้แต่หวังว่า เค้าจะมีช่องทางการติดต่อสื่อสารอย่างอื่นที่ทำให้สองคนนี้ได้คุยกันได้
แต่แล้ว...สวรรค์ ก็คงมีตาอยู่บ้าง...
(จริงๆผมว่า สวรรค์น่าจะมี Call Center เพราะถ้ามีแค่ตาบางทีอาจจะมองไม่เห็นทุกคนที่เดือดร้อน...)
แล้วอยู่ๆ ก็มีเสียงโทรศัพท์จากเลขหมายหนึ่งเข้ามา....
นั่นคือ...เลขหมายสุดท้ายที่ผมฝากข้อความไว้ใน Voice Mail นั้นเอง
"ขอโทษนะครับ...คุณใช่คนที่ฝากข้อความไว้ใน Voice mail ของผมหรือเปล่า? ผมชื่อชัย
"
และแล้ว...ภาระกิจอันยิ่งใหญ่...ของผมก็สำเร็จ...เมื่อคนที่ชัยโทรกลับมาจริงๆ
แม้ในน้ำเสียงของเค้าดูจะไม่ค่อยไว้วางใจกับเรื่องที่ผมเล่าเท่าไหร่...และยังสงสัยอยู่หลายประเด็น
แต่เมื่อผมบอกว่า...เขาสามารถโทรไปสอบถาม ที่โรงพยาบาลโคราชได้ว่ามีชื่อพ่อเค้าอยู่หรือเปล่า
เขาวางหูและเงียบหายไปพัก...และโทรกลับมาขอบคุณผม
เพราะที่โรงพยาบาลโคราชยืนยันว่ามีคนป่วยเป็นมะเร็งขั้นสุดท้ายที่ชื่อตรงกับคุณพ่อของเค้าจริงๆ
ผมอึ้งไปพัก..เมื่อรู้ว่า...น้ำเสียงล้าๆ...ที่ผมได้ยินจาก Voice Mail Box นั้นเกิดจากการเป็นโรคร้ายระยะสุดท้าย..
ชัยรีบเดินทางกลับไปโคราช เขาไปถึงก่อนที่พ่อจะผ่าตัด..แค่หนึ่งวัน
ชัย โทรมาขอบคุณผมอีกครั้ง
เขาเล่าว่าสาเหตุที่..เขาต้องปิดมือถือ หนีหน้าครอบครัว..และคนอื่น..เพราะธุรกิจที่เขาที่กรุงเทพมีปัญหา...เขาต้องหนีเจ้าหนี้...ที่ตามทวงอย่างหนัก
เขาบอกว่า..แต่สิ่งที่โชคดีที่สุดของเขาตอนนี้ อย่างน้อยเขาก็ได้มีเวลาได้ดูแลพ่อ แม้จะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายก็ตาม
ผมยังเก็บข้อความเสียง ของคุณพ่อของชัยเอาไว้ และ แอบกด เข้าไปฟังอีกหลายครั้ง
เพราะท่ามกลางชีวิตที่ยุ่งวุ่นวาย..จนไม่มีเวลาจะสนใจคนอื่น..ของผม
ข้อความเสียงนั้น ใน Voice Mail Box ที่ผมได้รับโดยบังเอิญนั้น...คอยเตือนให้ผมรู้ซึ้ง ถึงความหมายของคำว่า
"การที่เรายอมลำบากเพียงเล็กน้อย...เพื่อคนอื่นบ้างนั้น ใครจะรู้ว่า...บางที มันอาจจะหมายถึงสิ่งที่มีค่าที่สุดของอีกคนหนึ่งก็ได้"
+ + + + + + + + + + + + + + + +
Create Date : 19 มิถุนายน 2551 |
Last Update : 19 มิถุนายน 2551 10:12:13 น. |
|
3 comments
|
Counter : 499 Pageviews. |
|
|
|
โดย: latics1 วันที่: 20 มิถุนายน 2551 เวลา:9:38:54 น. |
|
|
|
โดย: Muramarsa IP: 61.7.230.253 วันที่: 20 ตุลาคม 2551 เวลา:14:40:26 น. |
|
|
|
โดย: พันช่าง IP: 125.26.32.241 วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:07:08 น. |
|
|
|
|
|
|
|