ToGethel2
Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
28 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
สภาพแวดล้อมทั่วไป, สถานการณ์เฉพาะ, ปัญหาของจีน, การดำเนินนโยบายต่อประเทศใน ASEAN

lozocatlozocat
สาธารณรัฐประชาชนจีน


1. สภาพแวดล้อมทั่วไป
จีนมีพื้นที่กว้างขวาง มีแม่น้ำและทะเลสาบจำนวนมาก น้ำส่วนใหญ่ไหลจากตะวันตกไปทางตะวันออกลงสู่ทะเลจีนและมหาสมุทรแปซิฟิก เว้นบางสายไหลลงมหาสมุทรอินเดีย แม่น้ำสายสำคัญคือฉางเจียงหรือแยงซีเกียงที่มีความยาวมาก และแม่น้ำหวางเหอ ฮวงโหหรือแม่น้ำเหลืองซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมจีน ที่มีบ้านเรือนหนาแน่นด้านตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนทางตะวันตก-เฉียงเหนือมีประชากรอยู่เบาบาง ซึ่งมีความเจริญต่างกันมากทำให้จีนเร่งการพัฒนาทางด้านตะวันตกมากยิ่งขึ้น
จีนมีประชากรประมาณ 1,300 ล้าน เป็นชนกลุ่มน้อย 56 เผ่า ส่วนใหญ่ 94% เป็นชนเผ่าฮั่น ทางตะวันตก เช่นมณฑลซินเจียง และมณฑลซีเจียง(ธิเบต) มีความคิดที่จะแยกเป็นอิสระจากการปกครองของจีน ปัจจุบันมีชาวนาสูงถึง 70% ของประชากรทั้งประเทศ แนวโน้มทางการจีนต้องออกมาตรการต่างๆ มาเพื่อช่วยเหลือหรือปกป้องคนเหล่านี้ เช่น ที่นำมาใช้แล้ว คือ การอนุญาตให้มีการเปลี่ยน/ขายสิทธิในการใช้ที่ดินในชนบทรวมทั้งมาตรการอุดหนุนต่าง ๆ
จีนเรียนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตนเองที่ไม่ยึดระบบเศรษฐกิจ และการเมืองเหนียวแน่น แต่มีการเปิดประเทศให้ต่างชาติเข้ามาลงทุน จีนมีความมุ่งมั่นในเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีโลก แต่ประเทศตะวันตกมองว่าจีนเป็นภัยคุกคาม ทั้งที่ตั้งแต่ปี 2523 - 2530 จีนไม่เคยเพิ่มงบประมาณด้านการทหาร แต่จะใช้วิธีการลดกำลังพล ในปี2535 จีนเพิ่มงบประมาณด้านการทหารมากขึ้นทั้งกองทัพเรือ กองทัพอากาศ กองทัพบก เน้น High Technology และ Strategic Weapon เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง Strategic Landscape ของโลกหลังคอมมิวนิสต์ล่มสลาย โซเวียตซึ่งเป็นตัวถ่วงดุลยอำนาจกับสหรัฐฯเริ่มหมดบทบาททำให้จีนวิตกว่าจะตกเป็นเป้าหมายต่อไป การเกิดสงครามอ่าวฯสหรัฐฯได้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการพัฒนาอาวุธ ทำให้จีนกังวลว่าอาจจะถูกกดดันจากสหรัฐฯ และจีนมีปัญหาขัดแย้งกับประเทศ ASEAN ในปัญหาหมู่เกาะแสปรตลี่ ทำให้จีนถูกมองว่าอาจเป็นภัยคุกคามทั้งทางด้านเศรษฐกิจและด้านการทหาร
ข้าราชการจีนมีความตั้งใจ มีคุณภาพ และเอาใจใส่งานดีมาก มีการพัฒนาคน และให้สิ่งจูงใจกับคนที่ไปอยู่ในต่างประเทศให้กลับมาช่วยพัฒนาประเทศ จีนมีทรัพยากรจำนวนมาก ประชาชนให้การสนับสนุนรัฐบาล“มณฑล”ที่แข็งแรงกว่าก็จะเป็นพี่เลี้ยง”มณฑล”ที่อ่อนแอกว่า ทำให้จีนรู้ว่าถ้าควบคุมเศรษฐกิจได้ก็จะสามารถควบคุมประเทศได้มีการวางมาตรการต่างๆอย่างเข้มงวด มีแผนพัฒนาเศรษฐกิจมากว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมาแม้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจในหลายประเทศแต่จีนอยู่รอดมาได้ ทำให้นักลงทุนพากันเข้าไปลงทุนในจีนมากขึ้น การเมืองภายในจีนก็มีความมั่นคงมาก

2. สถานการณ์เฉพาะ
2.1 สถานการณ์ทางการเมือง
ในภูมิภาค ASIA จีนมองภาพรวมของ ASIA กว้างกว่าสหรัฐอเมริกา เพราะจีนรวมเอา รัสเซีย อินเดีย และเกาหลีเหนือ เข้าไว้ด้วย จีนมีความกังวลในปัญหาการก่อการร้าย โจรสลัด ยาเสพติด และผู้อพยพ เช่นประเทศอื่น ๆ หลายฝ่ายคิดว่าจีนมีอิทธิพลต่อเกาหลีเหนือมาก และต้องการผลักดันให้จีนคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แต่จีนก็ไม่สามารถทำได้เพราะจีนก็กังวลกับเกาหลีเหนือเช่นกัน นอกจากต้องระวังอินเดีย และปากีสถานแล้วยังต้องระวังเกาหลีเหนือด้วย จีนต้องการความสงบในแถบนี้เพราะต้องการพัฒนาเศรษฐกิจมากกว่า
การพัฒนากองทัพจีน เป็นไปอย่างช้าๆ และเป็นระบบที่พัฒนาการเพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น แม้ว่าจะใช้งบประมาณมากก็ตามส่วนปัญหาระหว่างจีนกับไต้หวันเป็นปัญหาภายในระหว่างกันเท่านั้น สหรัฐอเมริกาจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว ถ้าเศรษฐ์กิจของจีนเข้มแข็งมากขึ้นจีนก็อาจหันมาจัดการปัญหาไต้หวันให้จบได้ การจัดการปัญหาความมั่นคงของจีนจีนสนับสนุนให้มีเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์ในแถบASEAN จีนพูดเสมอว่าให้การสนับสนุนพร้อมให้ความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค แต่จากการประชุม SHANGALILA DIALOG ในปีต่อมาจีนไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเนื่องจากมีสมาชิกบางประเทศต่อต้านจีน
การต่อต้านญี่ปุ่นของจีน ในปัจจุบันลดน้อยลงมาก และในอนาคตจีนกับญี่ปุ่นจะร่วมมือกันมากขึ้นแต่จีนไม่ต้องการให้ญี่ปุ่นร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาโดยเฉพาะด้านความมั่นคงและการพัฒนาอาวุธร่วมกัน การเติบโตของจีนทำให้ญี่ปุ่นต้องเข้ามาร่วมพัฒนาเศรษฐ์กิจในจีนรูปแบบ REGIONAL ECONOMIC CORPORATION มากขึ้นโดยผ่านทาง ASEAN+3 และกรณีเกาหลีเหนืออาจทำให้จีน กับญี่ปุ่นร่วมมือกันได้ หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าจีนกับญี่ปุ่นจะร่วมมือกันได้ แต่ทำไมต้องผ่านASEAN อาจจะใช้ ASEAN เป็นจุดเชื่อมระหว่างจีนกับญี่ปุ่น
ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา มีการปรับปรุงความสัมพันธ์ในภูมิภาค ASIA กลุ่มอนุรักษ์นิยมสหรัฐฯมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามแต่จีนไม่แสดงออก แต่ยอมรับว่าสหรัฐฯเป็น GLOBAL ECONOMIC POWER และไม่ห่วงเรื่องการถ่วงดุลกับสหรัฐฯในการสร้างความสัมพันธ์กับรัสเซียและอินเดีย จีนมองว่าสหรัฐฯเป็นผู้นำที่ให้ประโยชน์ต่อจีน การมีความสัมพันธ์กับสหรัฐฯอย่างคงที่และมีเสถียรภาพทำให้มีบริษัทอเมริกันใหญ่ ๆ เข้าไปลงทุนในจีนมาก จีนไม่เห็นที่สหรัฐฯใช้กำลังทหารในอิรักโดยเข้าข้างรัสเซีย ฝรั่งเศส และเยอรมัน พยายามทานการใช้อำนาจทางทหารของสหรัฐฯแต่ไม่สำเร็จ จึงไม่คัดค้านอีกเพราะเห็นว่าร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาน่าจะได้ประโยชน์มากกว่า
มีการเลือกคนเก่ง มีความรู้ ความสามารถ เข้ามาบริหารประเทศ ที่มีจิตสำนึกในผลประโยชน์ของชาติ จีนสร้างมิตรภาพไปทั่วโลก โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่สนับสนุนไต้หวันให้กลับมาสนับสนุนจีน มุ่งมั่นทำให้เศรษฐกิจและเทคโนโลยีเข้มแข็งเพื่อประชนที่มีความเป็นปึกแผ่น มุ่งมั่นในนโยบาย “จีนเดียว” และไม่คิดจะเข้าไปครอบครองประเทศอื่นๆ จีนในอดีตรัฐบาลเข้าควบคุมทุกด้าน แต่ปัจจุบันมีการเปิดกว้างในระบบเศรษฐกิจที่ผสมระหว่าง เผด็จการและทุนนิยม เหมือนกับประเทศอื่น ๆ ที่มี BOI มาควบคุม แต่การเมืองจีนยังเป็นสังคมนิยม
ความแตกแยกทางการเมืองภายในของจีนไม่เหมือนกับของประเทศอื่น เพราะการจัดระบบการเมืองของจีน มีการแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบให้แต่ละฝ่ายเป็นคนละด้านอย่างชัดเจนไม่ก้าวก่ายกัน แต่ถ้าเกิดความขัดแย้งขึ้นมาก็สามารถจัดการได้โดยเด็ดขาด เช่น กรณี จ้าว จื่อ หยาง กรณีเทียนอันเหมิน เป็นต้น จีนมีการเตรียมการสร้างนักการเมืองรุ่นใหม่ ๆ ขึ้นมาโดยเฉพาะนักการเมืองสตรี อีกทั้งจีนให้ความสำคัญกับ “ ชนกลุ่มน้อย ” ในประเทศมาก แต่ก็ไม่ทำอย่างอึกทึกคึกโครมเท่านั้น
ส่วนการเลือกตั้งในฮ่องกงมีการประเมินก่อนลงคะแนนว่ากลุ่มสนับสนุน ประชาธิปไตยจะได้คะแนนเสียงข้างมาก แต่หลังจากมีการลงคะแนนกลับปรากฏว่ากลุ่มที่สนับสนุนจีนกลับมีคะแนนเสียงท่วมท้นเหมือนเดิม ทำให้เห็นว่าการปรับเปลี่ยนในจีนมีความแตกต่างไปจากเดิมโดยเฉพาะการจะเป็นประชาธิปไตยที่เร็วเกินไปในขณะที่จีนยังต้องการให้เปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆค่อยเป็นค่อยไป และฐานอำนาจของรัฐบาลจีนในส่วนกลางยังเข้มแข็งอยู่

3. ปัญหาของจีน
นอกจากมองโกเลียและธิเบตแล้ว ปัจจุบันชนชาติส่วนน้อยรวม 55 ชนชาติของจีนต่างก็มีผู้แทนของตน ทั้งในองค์กรนิติบัญญัติสูงสุด ซึ่งก็คือสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติรวม 424 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 14.37 ของทั่วประเทศ และในคณะกรรมการแห่งชาติแห่งสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีนรวม 257 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 11.7 ของทั่วประเทศ ขณะเดียวกันก็มีเขตการปกครองตนเองของคนกลุ่มน้อยในระดับมณฑล 5 เขต มีจังหวัดปกครองตนเอง 30 จังหวัด มีอำเภอปกครองตนเอง 120 อำเภอ และมีตำบลปกครองตนเอง 1,200 กว่าตำบล ที่สำคัญ คือกฎหมายปกครองยังระบุเอาไว้ชัดเจนว่า
ตำแหน่งประธานหรือรองประธานคณะกรรมการประจำสภาผู้แทนประชาชน ประจำเขตชนชาติส่วนน้อยที่ปกครองตนเอง ให้ชาวชนชาติส่วนน้อยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประธานของเขตปกครองตนเองหรือผู้นำของจังหวัดหรืออำเภอปกครองตนเองของชนชาตินั้น ๆ ไม่เพียงแค่เรื่องการปกครอง รัฐบาลกลางจีนยังให้ความสำคัญต่อสิทธิการศึกษาและวัฒนธรรมของชนชาติส่วนน้อยอีกด้วย โดยในปี พ.ศ. 2550 จำนวนครูของชนชาติส่วนน้อยต่าง ๆ ทั่วประเทศได้เพิ่มขึ้นเป็น 833,200 คนจากคนใน ค.ศ. 1978 ที่มีเพียง 433,000 คน ส่วนจำนวนนักเรียนชนชาติส่วนน้อยในโรงเรียนหรือสถานอุดมศึกษาต่าง ๆ ก็ได้เพิ่มจาก10,248,000 คน มาเป็น 29 ล้านคน ทั้งยังมีกฎหมายที่ประกันให้ชนชาติส่วนน้อยมีเสรีภาพในการใช้ และพัฒนาทั้งภาษาพูดและภาษาเขียนของตนเอง ตลอดจนมีเสรีภาพในการรักษาหรือปฏิรูปประเพณีบางอย่างรวมถึงเสรีภาพในการนับถือศาสนาอีกด้วย
กลุ่มลัทธิฝ่าหลุนกงในจีนที่มีประเทศมหาอำนาจหนุนหลังพยายามที่จะก่อกวนความสงบภายในประเทศ แต่จีนสามารถควบคุมได้ หากไม่สามารถควบคุมในจีนอาจจะล่มสลายแบบรัสเซียได้

4. การดำเนินนโยบายต่อประเทศใน ASEAN
จีนรู้ว่า ASEAN มีความกังวลต่อการเข้าเป็นสมาชิก WTO ของจีน และกลัวว่าจีนจะเป็นคู่แข่งทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจีนจึงเสนอให้มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับ ASEAN ในรูปแบบของการค้าเสรี(FTA) เพื่อลดความหวาดระแวงระหว่างกัน ในด้านความมั่นคงจีนประกาศว่าจะใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่มีเพื่อป้องกันตนเอง และจีนยอมทำความตกลงกับ ASEAN ใน 2 ประเด็นคือ เรื่องหมู่เกาะแสปรตลี่ จีนลงนามใน Decoration of the Conduct of Party อันเป็นปฏิญญาเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติของประเทศที่เกี่ยวข้องกับแสปรตลี่ คือ จะไม่ใช้กำลังในการดำเนินการต่าง ๆ และจีนยอมรับ Trinity of Amity and Corporation ของ ASEAN ว่า ถ้าเกิดข้อขัดแย้งจีนจะใช้การเจรจาโดยสันติเพื่อแก้ปัญหา ทำให้ประเทศในกลุ่ม ASEAN พึงพอใจในท่าทีของจีน
จีนเสนอนโยบายความมั่นคงใหม่ ไม่ใช่มิติทางทหารอย่างเดียว แต่รวมเอาเศรษฐกิจและสังคมเข้ามาไว้ด้วย จีนตระหนักถึงอิทธิพลทางการทหารของสหรัฐฯในภูมิภาคนี้ เพราะจีนยังเป็นรองในกำลังทางทหาร และด้านความมั่นคง จึงเสนอ SECURITY POLICY CONFERENCE โดยมีการประชุมปัญหาความมั่นคงในภูมิภาคซึ่งจีนเป็น CO–ORDINATOR จากการประชุมทำให้จีนสามารถกำหนด agenda ต่าง ๆได้ จีนต้องการใช้เวทีนี้ขัดขวางสหรัฐอเมริกาทางด้านความมั่นคงเพื่อไม่ให้อิทธิพลของสหรัฐฯเป็นภัยต่อจีนในอนาคตข้างหน้า
บทบาทจีนในเวทีโลกจะมีความชัดเจนโดยคนยุโรปถ้าพูดถึง ASIA ส่วนใหญ่จะหมายถึงจีน จีนในเวทีโลกขยายตัวเทียบเคียงกับสหรัฐฯ และ กลุ่ม EU สหรัฐฯไม่ค่อยพอใจกับการเติบโตของจีนมากนัก อนาคตจีนจะมีความสำคัญต่อโลก ทั้งการใช้ทรัพยากร การพลังงานและน้ำมัน ที่จีนใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
lozocatlozocat









Create Date : 28 สิงหาคม 2551
Last Update : 20 กันยายน 2551 22:58:32 น. 0 comments
Counter : 7114 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

TogetherIB
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ToGetheR ♬ToGeThel2♪

♥ ToGether IBM ♥
Friends' blogs
[Add TogetherIB's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.