Bloggang.com : TogetherIB : ความขัดแย้ง, ผลกระทบต่อ ASEAN และ ไทย, ผลกระทบต่อประเทศไทย

ความขัดแย้ง, ผลกระทบต่อ ASEAN และ ไทย, ผลกระทบต่อประเทศไทย

23. ความขัดแย้ง

แม้จะมีปัญหาความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดี หูจินเทาและ เจียง เจ๋อ หมิน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการกลางด้านการทหาร โดยประธานาธิบดี หูจินเทา ต้องการปรับโครงสร้างทางการทหารใหม่ ให้ทันสมัยมากขึ้นและอยากให้เศรษฐกิจเจริญเติบโตอย่างช้าๆแต่มั่นคง ในขณะที่เจียง เจ๋อ หมิน อยากให้จีนเติบโตโดดเด่นมีพลังอำนาจอย่างรวดเร็วเหนือประเทศรอบบ้าน ทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมือง
จีนมีนโยบายต่างประเทศที่ชาญฉลาด ลุ่มลึก และค่อยเป็นค่อยไป สิ่งใดที่จะทำให้ประเทศตนเองติดลบจีนจะไม่แสดงออก ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยว เช่น กรณีโคโซโว หรือตะวันออกกลาง เป็นต้น จีนจะพัฒนาความสัมพันธ์กับต่างประเทศให้เกิดประโยชน์กับตนเองมากที่สุด และจีนจะใช้ความเด็ดขาดกับปัญหาภายในประเทศ เช่น กรณีไต้หวันเพื่อไม่ให้ใครเอาอย่างไม่ว่าจะเป็นฮ่องกงหรือ ธิเบต คาดว่าอนาคตความมั่นคงของ ASIA รวมทั้งไทยจะอยู่ที่การดำเนินยุทธ์ศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ส่วนเรื่องทะเลจีนใต้ และหมู่เกาะสแปรตลี่นั้นเป็นแค่ข้อขัดแย้งเกี่ยวกับผลประโยชน์ของประเทศเล็ก ๆ จีนคงไม่ใช้ความรุนแรงมากกว่านี้คงปล่อยให้ยืดเยื้อไปเรื่อย ๆ ส่วนเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้นำจีนในปัจจุบันไม่เหมือนสมัยก่อนที่เป็นการแย่งชิงอำนาจทางการเมืองโดยแท้จริง แต่ปัจจุบันการเปลี่ยนตัวผู้นำจีนไม่ถึงขั้นต้องกวาดล้างกันขนานใหญ่เหมือนสมัยก่อน
จีนถูกปิดล้อมทั้งด้านการทหาร เศรษฐกิจ การเมือง เทคโนโลยีมานานจนถึงปัจจุบันจึง ฝ่าวงล้อมมาได้ จึงต้องพยายามไม่ทำสิ่งที่จะทำให้ประเทศมหาอำนาจเกิดความระแวง และหันกลับมาเฝ้ามองจีนอีก จะต้องหยุดการหนุนการปฏิวัติ การแทรกแซงประเทศอื่น ๆ หยุดการสร้างความรู้สึกว่ามีการใช้กำลังทหารเพื่อตัดสินปัญหา ยกเว้นกรณีของไต้หวันที่จีนคิดว่าถอยหลังไม่ได้แล้วเท่านั้น ถ้าสหรัฐอเมริกาเกิดความระแวงและมองว่าจีนเป็นภัยคุกคามเมื่อใด ซึ่งก็มีแนวโน้มว่าสหรัฐอเมริกาจะมองจีนเช่นนั้นด้วย เนื่องจากปัจจุบันสหรัฐอเมริกาก็ได้ครอบงำโซเวียตรัสเซียสำเร็จไปแล้ว นอกจากนั้นสหรัฐอเมริกาเองยังมีทั้งด้านสว่างและด้านมืด ในด้านสว่างเป็นพฤติกรรมที่แสดงโดยเปิดเผย แต่ในด้านมืดใช้กลไกของ CIA ดำเนินการได้ทุกอย่าง ด้วยเหตุนี้ทำให้จีนไม่อยากสร้างความสัมพันธ์กับญี่ปุ่นโดยตรงเพราะเกรงสหรัฐอเมริกาจะไม่สบายใจ จึงต้องใช้เวที ASEAN แสดงบทบาทอยู่เบื้องหลัง เช่น กรณี ASIA BOND เป็นต้น จึงเห็นได้ว่าจีนกำลังพัฒนาประเทศอย่างระมัดระวัง เพราะรู้ว่าตนเองยังแข็งแรงไม่พอที่จะเป็นตัวของตนเองได้ ส่วนประเด็นการเปลี่ยนผู้นำจีนจากรุ่น 3 มาเป็นรุ่น 4 ในปัจจุบันนั้นเป็นการให้เจียง เจ๋อ หมิน ช่วยดูแลช่วยงาน หู จิน เทา ซึ่งเป็นทายาทตัวจริงที่ เติ้ง เสี่ยว ผิง วางแผนไว้ให้เป็นผู้นำจีนเติบโตแข็งแรงพอ ก่อนค่อยปล่อยอำนาจให้ หู จิน เทา เต็มที่ต่อไป ดังนั้นความขัดแย้งระหว่าง 2 ฝ่ายดังกล่าวจึงไม่น่าจะมี
การมองจีนต้องมองทั้ง 3 มิติคือ ด้านเศรษฐกิจ จีน มี Non – Tariff Barrier มาก ด้านการเมือง จีนมีมีเสถียรภาพทางการเมืองมาก นักการเมืองจีนจะคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติมากกว่าประโยชน์ส่วนตัว ด้านสังคมจีนมีความรักประชาชน และคุ้มครองผู้อ่อนแอการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของจีนทำให้ประเทศใน South East Asia วิตกกังวลว่าจีนจะเป็นคู่แข่งในการลงทุนและการค้าเนื่องจากสินค้าหลาย ๆ อย่างเป็นประเภทใช้แรงงานเหมือน ๆ กัน เช่น รถยนตร์ เสื้อผ้า รองเท้ากีฬา เป็นต้น ยิ่งจีนได้เข้าเป็นสมาชิก WTO ด้วยทำให้ประเทศเหล่านั้นกลัวว่าจีนจะเป็นคู่แข่งทางการค้าอย่างรุนแรงระหว่างจีน กับ Asean จะมีปัญหามากในอนาคต
จีนไม่อยากเจรจาแบบพหุภาคี กับ ASEAN เนื่องจากเกรงว่าจะถูกกดดันจากสมาชิกที่ขัดแย้งกันเรื่องเกาะแสปรตลี่ แต่ภายหลังจีนเริ่มเรียนรู้ว่าการเจรจากับกลุ่ม ASEAN ไม่มีความกดดันในการเจรจาแบบพหุภาคี และยังสามารถชี้นำในการเจรจาได้บางประการด้วย ในขณะที่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2000 ลดความสำคัญในการเจรจากับพหุภาคีลงจีนจึงมีความสำคัญในสายตา ASEAN มากขึ้น
นักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในจีนมีปัญหาในการดำเนินธุรกิจบางประการได้แก่ระบบการจ่ายเงิน ใต้โต๊ะ กฎหมายของแต่ละมณฑลจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ละมณฑลสามารถทำธุรกิจเพื่อหารายได้ของตนเองได้โดยยอมให้เรียกค่าใช้จ่ายจากนักลงทุนต่างชาติที่เข้าไปลงทุนได้ไม่ถือว่าทำผิด แต่ในระยะหลังก็มีหน่วยงานคอยตรวจสอบการรับใต้โต๊ะ และมีการลงโทษด้วย ระบบราชการก็ยัง Red Tape ปัญหามาจากหลายสาเหตุเพราะคนจีนที่เติบโตมาในช่วงที่มีการปฏิวัติวัฒนธรรมไม่ค่อยรู้จักกติกาของสากล มีการเอาเปรียบซึ่งกันและกัน โครงการต่าง ๆ ที่ไปลงทุนเป็นการแนะนำต่อ ๆ กันมา ใครเข้าไปลงทุนจะถูกคนจีนลอกเลียนแบบหมดและในที่สุดก็จะเข้ายึดครองกิจการไป การลงทุนที่ผ่านมาต้องระมัดระวังในประเด็นนี้ แต่คนจีนรุ่นใหม่จะเปลี่ยนไปจากเดิมที่มีความต้องการให้ประเทศเป็นสากลมากขึ้น ดังนั้นปัญหาดังกล่าวจึงค่อยๆหายไป
เมืองฟูเจี้ยน และเซี้ยเหมินของจีน ได้รับการจับตามองจากนักลงทุนมาก มีนักลงทุนจากไต้หวันเข้ามาลงทุนมาก เมืองนี้การขนส่งยังไม่ดีแต่มีผลิตภัณฑ์ที่ดีส่งออกไปต่างประเทศมาก และได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่างๆมาก ในขณะที่เมืองฟูเจี้ยนเป็นคนฮกเกี้ยนจากโพ้นทะเล คุณหมิงก็เป็นเมืองที่เงียบสงบมาในอดีตแต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะได้รับความสนใจจากต่างประเทศสูงเป็นประตูสู่จีนทางตอนใต้ คุณหมิงนับเป็นหัวใจของการพัฒนาแบบตะวันตกที่มีการพัฒนาตนเองมาก สภาพอากาศก็ดี เป็นศูนย์ดอกไม้เมืองหนาวแต่ก็ยังไม่เท่าเซี่ยงไฮ้ แต่การจะไปลงทุนต้องศึกษาให้ดีก่อน

24. ผลกระทบต่อ ASEAN และ ไทย

การที่เรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับจีนสามารถชักนำจีนมาร่วมมือกันแก้ปัญหาและสร้างผลประโยชน์ ต่าง ๆร่วมกัน ได้หลายระดับ การเชื่อมเส้นทางคมนาคมกับจีนจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งด้านสังคม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว ความร่วมมือกับจีนทั้งทวิภาดีและพหุภาคี จะเป็นประโยชน์กับไทยทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยเฉพาะความร่วมมือสนับสนุนจากจีนทำให้ไทยมีอำนาจต่อรองในเวทีระหว่างประเทศมากขึ้น
สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจเพียงประเทศเดียวในโลก ถ้าโลกถูกครอบงำโดยสหรัฐฯ
เพียงประเทศเดียวย่อมมีอันตรายมาก ฉะนั้นประเทศต่าง ๆ ต้องมาร่วมกันคิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะให้จีนเข้ามาช่วยปกป้องผลประโยชน์ของกลุ่มประเทศเล็ก ๆใน ASEAN เหล่านี้ได้ ปัจจุบันสหรัฐฯมีความต้องการให้จีนแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ เช่นเดียวกับรัสเซีย ถ้าจีนต้องแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ เช่นที่ว่าแล้วก็ยิ่งเป็นอันตรายกับประเทศเล็กๆในแถบ ASEAN อีก เช่นจะมีการหลั่งไหลของ OVERSEA CHINA เข้าไปอยู่ในประเทศเหล่านั้นมากมายเต็มไปหมด เข้าไปแย่งการทำมาหากิน แย่งใช้ทรัพยากรของประเทศ ตลอดจนการเกิดปัญหาอาชญากรรมตามมา อย่างไรก็ตามจีนเองก็มีปัญหาภายในประเทศที่ต้องเผชิญอยู่คือปัญหาของไต้หวันและปัญหาหมู่เกาะสแปรตลีย์
สหรัฐอเมริกาเป็นมหาอำนาจทั้งด้านเศรษฐกิจและการทหาร จึงควรหาประเทศอื่นๆ มาเป็นตัวถ่วงดุล ไม่ให้เกิดความเหิมเกริมก้าวร้าวมากขึ้น ต้องพิจารณาก่อนว่าในบรรดาประเทศที่เป็นคู่แข่งกับสหรัฐ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีนั้นเราสามารถยอมรับประเทศใดให้ขึ้นมาเป็นมหาอำนาจคู่กับสหรัฐอเมริกาได้ จะยอมรับจีนหรือจะยอมรับญี่ปุ่นมากกว่ากันถ้าตัดสินใจยอมรับจีน ก็ต้องมาพิจารณาผลกระทบทั้งข้อดีและข้อเสียที่ไทยจะได้รับ
ผลกระทบต่อไทย ความสัมพันธ์ ไทย-สหรัฐฯ หรือไทย- ตะวันตก ก็จะมีปัญหาข้ามชาติเข้ามาในไทย ซึ่งปัญหาบางประการมีแหล่งกำเนิดมาจากประเทศจีน จีนอาจลดบทบาทความสำคัญของไทยลงมาจากอดีต เนื่องจากในปัจจุบันจีนมองเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในภาพรวมทั้งภูมิภาคไม่ได้มองแยกเป็นแต่ละประเทศเช่นเดิม การดำเนินนโยบายระหว่างไทย-จีน ควรร่วมกันพิจารณาจุดอ่อน/จุดแข็ง ของแต่ละฝ่ายเพื่อใช้ในการปรับความคิดเห็น และวัฒนธรรมทางปัญญาร่วมใจกันรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป

25. ผลกระทบต่อประเทศไทย

มีการร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของจีนมีการปรับโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรม ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เคยสนใจมาลงทุนในประเทศไทย หันไปลงทุนในจีนแทนเพราะจีนมีค่าแรงงานถูกกว่าของไทย จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก และสินค้าจีนมีราคาถูกกลายเป็น Inter Trade รายใหญ่ที่มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทย

Create Date : 28 สิงหาคม 2551

Last Update : 20 กันยายน 2551 22:42:04 น.

0 comments

Counter : 489 Pageviews.