|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
31 | |
|
|
|
- การท่องเที่ยว และการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย จีน , แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศจีนปี 2008
- ความขัดแย้ง, ผลกระทบต่อ ASEAN และ ไทย, ผลกระทบต่อประเทศไทย
- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ , ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่น
- การเปลี่ยนแปลงผู้นำของจีน
- การเจรจาการค้า FTA
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง, การค้า, การลงทุน
- เศรษฐกิจระหว่างประเทศ, เศรษฐกิจภายในประเทศ,ผลิตผล
- The Rise of China , Chinese Factor ,
- การแก้ไขธรรมนูญของจีน, ด้านการเมืองภายในประเทศ, สถานการณ์ทั่วไปด้านเศรษฐกิจ
- ความสัมพันธ์ไทย- จีน, ผู้นำจีน, วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมืองของจีน
- สภาพแวดล้อมทั่วไป, สถานการณ์เฉพาะ, ปัญหาของจีน, การดำเนินนโยบายต่อประเทศใน ASEAN
|
|
|
- การท่องเที่ยว และการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย จีน , แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศจีนปี 2008
- ความขัดแย้ง, ผลกระทบต่อ ASEAN และ ไทย, ผลกระทบต่อประเทศไทย
- ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ, ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและสหรัฐฯ , ความสัมพันธ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่น
- การเปลี่ยนแปลงผู้นำของจีน
- การเจรจาการค้า FTA
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการขนส่ง, การค้า, การลงทุน
- เศรษฐกิจระหว่างประเทศ, เศรษฐกิจภายในประเทศ,ผลิตผล
- The Rise of China , Chinese Factor ,
- การแก้ไขธรรมนูญของจีน, ด้านการเมืองภายในประเทศ, สถานการณ์ทั่วไปด้านเศรษฐกิจ
- ความสัมพันธ์ไทย- จีน, ผู้นำจีน, วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงผู้นำทางการเมืองของจีน
- สภาพแวดล้อมทั่วไป, สถานการณ์เฉพาะ, ปัญหาของจีน, การดำเนินนโยบายต่อประเทศใน ASEAN
|
|
|
|
|
การท่องเที่ยว และการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย จีน , แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศจีนปี 2008
| | | | 26. การท่องเที่ยว และการค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทย จีน
มีปัญหาอย่างเดียวกัน คือ ปัญหาความไม่มีระเบียบภายในประเทศของไทยเอง เช่น Local Guide ของไทย ไม่มีความรู้เกี่ยวกับศิลปะและวัฒนธรรมของไทยดีพอ ควรฝึกอบรมนักศึกษาราชภัฎต่าง ๆ ในแต่ละจังหวัดให้เป็น Local Guide เมื่อมี Central Guide ไปจากกรุงเทพฯ ไปถึงต่างจังหวัดก็ควรใช้ Local Guide ในแต่ละจังหวัด เพื่อกระจายเงินรายได้ลงไปในจังหวัดต่าง ๆ ต้องจัดระเบียบบริษัททัวร์ และจัดระเบียบมัคคุเทศน์ ให้เป็นระบบและมีคุณภาพมากขึ้น ใน10-20 ปีข้างหน้าจีนจะเป็นมหาอำนาจได้ถ้าสามารถแก้ไขความยากจนประชาชน 1/4 ของประเทศได้ซึ่งเป็นเรื่องยากอย่างมาก ต้องแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ยังมีอยู่ การดำเนินนโยบายของจีนมีเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมทุกๆด้าน มีการพัฒนา Technology แม้จะสู้ญี่ปุ่นและเกาหลีในปัจจุบันไม่ได้ มียุทธ์ศาสตร์ในการพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาดังเช่น สหรัฐอเมริกากับญี่ปุ่นทำอยู่ในปัจจุบัน
แนวโน้มเศรษฐกิจประเทศจีนปี 2008
ส่องกล้องเศรษฐกิจ : ดร.จักรพันธ์ ติระศิริชัย กรุงเทพธุรกิจ วันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ในปีนี้ มีความกังวลกันมากถึงภาวะซบเซาที่อาจเข้าสู่ภาวะถดถอยของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ตลอดจนผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก แต่เศรษฐกิจหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชียคือ ประเทศจีนที่เป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ ของภูมิภาคเอเชียตะวันออก ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะวิเคราะห์ถึงแนวโน้มของเศรษฐกิจมาให้ทราบกันนะครับ ในปี 2007 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจจีนเติบโตในอัตรา 11.4% นับเป็นการเติบโตสูงสุดในรอบ 13 ปี และอัตราการเติบโตเฉลี่ยใน 5 ปีล่าสุดอยู่ที่ 10.6% อย่างไรก็ตามการเติบโตในไตรมาสที่สี่ปี 2007 นั้นในอัตรา 11.2% แม้จะต่ำกว่าไตรมาสที่สามที่เติบโตอยู่ที่ 11.5% แต่เป็นผลจากรัฐบาลได้ดำเนินมาตรการเพื่อควบคุมความร้อนแรงทางเศรษฐกิจและแก้ไขปัญหาอัตราเงินเฟ้อ รวมถึงการควบคุมการปล่อยเงินกู้ของธนาคารต่างๆ หลายประการ เช่น ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยรวมทั้งหมด 6 ครั้ง จาก 6.12% ในต้นปี 2007 เป็น 7.47% ในสิ้นปี 2007 ออกกฎระเบียบการปล่อยเงินกู้ที่เข้มงวดขึ้น การควบคุมและแทรกแซงราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศ การบังคับใช้ภาษีส่งออกระบบใหม่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ที่มีการคำนวณภาษีขึ้นกับปริมาณพลังงานที่ใช้ในการผลิต และปริมาณมลภาวะที่เกิดจากกระบวนการผลิต เป็นต้น การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ร้อนแรงต่อเนื่องมายาวนาน ทำให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศจีนเพิ่มสูงขึ้นมากทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อในธันวาคมอยู่ที่ 6.5% และเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ 6.9% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปี ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อของประเทศจีนในปีที่ผ่านมาสูงถึง 4.8% สำหรับแนวโน้มของปี 2008 นั้น นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะชะลอความร้อนแรงลง อันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นหลัก ทั้งนี้ธนาคารโลกได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของ GDP ของจีนในปี 2008 ลงสู่ 9.6 % จากเดิม 10.8 % และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อ จะเพิ่มขึ้นเป็น 4.6 % ในปีนี้ จาก 3.8%ที่คาดไว้ในเดือนกันยายน การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2008 นี้จะลดลงจากปีที่แล้ว และอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าในปีก่อนแต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง นอกจากนี้ยังมีค่าเฉลี่ยของผลสำรวจประมาณการจาก Bloomberg ที่ได้ประมาณค่า GDP ของจีนในปี 2008 ไว้ที่ 10.3% และอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 4.1% ด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้ หนึ่ง การเติบโตสูงของจีนนั้นมีรับแรงผลักดันหลักมาจากความต้องการในประเทศ ซึ่งประกอบด้วยการบริโภค และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ทางรัฐบาลจีนอาจดำเนินมาตรการในการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ และควบคุมอัตราเงินเฟ้อต่อไป ได้แก่ การเพิ่มกฎระเบียบในการปล่อยกู้ที่เข้มงวดขึ้น และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามคาดว่าการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยในปีนี้จะไม่มากเท่าปีที่ผ่านมา นอกจากนี้วิกฤตการณ์ในตลาดการเงินโลกในปัจจุบัน อาจจะส่งผลกระทบต่อบริษัทแม่ของนักลงทุนต่างชาติที่ไปทำการลงทุนในประเทศจีน ดังนั้นการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติในปีนี้มีแนวโน้มว่าจะชะลอลงเช่นกัน สอง การส่งออกจะชะลอจากการชะลอตัวของความต้องการของสหรัฐอเมริกาทั้งนี้สหรัฐอเมริกา (ซึ่งมีสัดส่วนการส่งออกของจีนไปสู่อเมริกาอยู่ที่ 19.1% ในปี 2007) ประสบปัญหา ซับไพร์มและอาจเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้นั้น อย่างไรก็ตามก็ยังมีปัจจัยบวกต่ออัตราการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2008 นี้ คือมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้การมีความเป็นได้ว่า รัฐบาลจีนอาจจะผ่อนคลายนโยบาย/มาตรการบางประการที่เคยควบคุมไว้ หากการบริโภคภายในประเทศไม่เติบโตตามเป้าที่กำหนดไว้ แต่อัตราเงินเฟ้อเงินเฟ้ออาจจะสูงมากว่าระดับ 4.8% ในปีก่อนหน้าที่อาจจะสูงกว่า 5% ได้ เนื่องจาก (1) การแข็งค่าของเงินหยวน (2) การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (3) การเพิ่มขึ้นของราคาธัญพืช และอาหารที่การผลิตลดลงในขณะที่ความต้องการเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ประเทศจีนต้องนำเข้าข้าวสาลี ข้าวโพด ถั่วเหลืองจากต่างประเทศจากเดิมที่เคยส่งออกธัญพืชอาหารหลัก นอกจากนี้และภาวะอากาศที่หนาวเย็นที่ยาวนานมากผิดปกติ และครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางมากจะทำให้เกิดความเสียหายต่อผลผลิตเกษตรในปีนี้ กล่าวโดยสรุปคือ เศรษฐกิจจีน ยังน่าจะเติบโตได้อัตราที่สูงในอัตราประมาณ 10% ได้เพราะเศรษฐกิจจีน พึ่งพาความต้องการภายในประเทศมากกว่าการค้ากับต่างประเทศ ที่สำคัญคือรัฐบาลจีน สามารถควบคุมการใช้จ่ายและการลงทุนได้ ผ่านมาตรการการควบคุมปัจจัยการผลิตตลอดจน การควบคุมอัตราดอกเบี้ย การควบคุมปริมาณเงินผ่านการควบคุมสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ นอกจากนี้จีนยังมีความจำเป็น ต้องให้มีการเติบโตทางเศรษฐกิจในอัตราที่สูงต่อไปอีก ในการสร้างงานรองรับแรงงานใหม่ที่เพิ่มขึ้น ในอัตราหลายสิบล้านคนในแต่ละปี
| | | | |
Create Date : 28 สิงหาคม 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 20 กันยายน 2551 22:40:06 น. |
Counter : 881 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: suanmei2009@gmail.com IP: 111.84.2.193 15 เมษายน 2553 18:37:55 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Thanks for sharing information.
谢谢.您的学问帮我多好.希望有机会跟你了解中国的事情.