มีนาคม 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ฤดูฝน ผมเหงา เธอเปลี่ยว ตอนที่7
ฤดูฝน ผมเหงา เธอเปลี่ยว

“มิน มิน มิน ไอ้มิน มล มลโว้ย” พี่ต่อตะโกนเรียกคุณมินเสียงหลง อยู่หน้าบ้าน ทำให้สามีของเธอหยุดชะงักซึ่งก็ตกใจไม่ต่างกับผมเช่นกัน เขาพยายามลอบมองทางหน้าต่างว่าใครตะโกนเสียงดัง เสียงพี่ต่อถีบประตู ทำให้สามีเธอวิ่งหนีไม่คิดชีวิต ทันทีที่เขาวิ่งออกไป ผมก็รีบอุ้มร่างคุณมินขึ้น คุณมินตัวเล็กบางแบบนี้ แต่ทำไมถึงได้อุ้มหนักนักก็ไม่รู้ ผมพยายามอุ้มขึ้นหลายหน จนพี่ต่อขึ้นมาบนห้อง ช่วยยกคุณมินขึ้นอีกแรง เมื่อผมอุ้มคุณมินขึ้นมาได้แล้ว สมองผมตอนนั้นมันไร้สติ ถึงขนาดจะตั้งใจจะวิ่งพาคุณมินไปส่งถึงโรงพยาบาล โชคดี ที่พี่ต่อยังมีสติอยู่ บอกให้วิ่งไปอุ้มบ้านพี่ต่อ เพื่อจะขับรถไปโรงพยาบาล

ทั้งๆที่งผมรู้ดีว่าเธอไม่เป็นไร แต่ไม่รู้ว่าทำไมใจผมกลับรู้สึกตรงข้ามกับเหตุผลที่มันควรจะเป็น ผมก็คอยเรียกชื่อเธอให้ฟื้นคืนสติโดยเร็ว ตะโกนบอกพี่ต่อไม่ขาด ว่าให้ขับรถให้เร็วที่สุด

ผมยังจำได้ดี ผมและพี่ต่อต่างก็ วิ่งตามเตียงคนไข้ราวกับคนเสียสติ จนไปถึงห้องไอซียู

ทั้งๆที่อยู่ในมือหมอแล้วแต่ทำไมกลับรู้สึกว่ายังวางใจไม่ได้ก็ไม่รู้
ทั้งๆที่ผมน่าจะเป็นบอกกับพี่ต่อ ว่าคุณมินจะไม่เป็นไรแน่ๆ ผมเห็น ....เธอไม่ถูกยิงเลยสักนัด เธอแค่หมดสติไปเท่านั้นโอกาสรอดสูงมาก (ตัวผมต่างหากที่เป็นฝ่ายเกือบถูกยิง) แต่พี่ต่อกลับเป็นฝ่ายปลอบใจผมเสียเอง ว่าคุณมินเป็นคนเข้มแข็ง เธอต้องไม่เป็นไร

ผมผลักพี่ต่อจนสุดแรงไปกระแทกกับกำแพง “มันทำแบบนี้ทำไม พี่รู้ใช่ไหม ทำไมพี่ไม่บอกผม ”ผมตะโกนเสียงดัง และพูดซ้ำอีกครั้งด้วยเสียงที่ดังขึ้นอีกจากเสียงที่ดังอยู่แล้ว ตอนนั้นสติของผมขาดกระจุย ใช่!คุณมินต้องไม่เป็นไร แต่โลกมันดับวูบไปหมด ตอนนั้นสมองผมคิดหาเหตุผลได้ก็คือ เพราะเขา เพราะเขาคนเดียว ถ้าหากว่าเขาไม่มีคำอธิบายพี่ดีพอจะฟังขึ้นได้ ผมจะฆ่าเขาให้ตายตรงนี้

พี่ต่อใช้สายตาที่ทอดมองไปบนพื้นอย่างไร้จุดหมาย พร้อมกับหยดน้ำตาเล็กๆ ที่ไหลซึมออกมาหยุดผมให้เงียบ พี่ต่อพยายามเงยหน้าขึ้นสูง เพื่อให้น้ำตาหยุดไหล แต่มันก็ยังไม่หยุด
“มึง อยากรู้ใช่ไหม ว่าเกิดอะไรขึ้น มา กูจะเล่าให้ฟัง” เสียงเครือในลำคอทำให้ผมรู้สึกพะอืดพะอม

ทำไม ผู้ชายสองคน ทำไม ต้องรักผู้หญิงคนเดียวกันด้วย

สาเหตุที่สามีคุณมินไปดูงานต่างประเทศนั้นจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าไปทำงาน แต่เป็นการหนีหนี้ก้อนโตจากการพนัน แล้วที่สำคัญไม่ได้ไปคนเดียวแต่ไปกับชู้รักคนสำคัญ (จริงๆ แล้วในวันนั้นพี่ต่อพูดยาวกว่านี้ แต่ที่ผมพอจะจำได้ลางๆ เท่านั้น ว่าประมาณนี้) หลังจากที่พี่ต่อเล่าจบ โลกก็ไร้กาลเวลาอีกต่อไป เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ ผมเฝ้ามองนาฬิกาอย่างไม่รู้เวลา เวลาของผมในตอนนั้นมันหยุดนิ่งไปแล้ว

ถ้าไม่มีคุณมิน ผมก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ไปทำไม
ผมไม่รู้จริงๆ ว่าโลกที่ไม่มีคุณมินนั่น ผมจะอยู่ได้อย่างไร

จนกระทั่ง เวลาเกือบตีสอง คุณหมอเดินมาหาผมกับพี่ต่อ บอกถึงอาการของคุณมิน
แน่นอนว่าพวกเราสองคนก็พูดพร้อมกัน ว่า จะเข้าไปเยี่ยมได้หรือเปล่า คุณหมอบอกว่าได้ แต่ต้องรอหน่อย เพราะตอนนี้ก็กำลังพักผ่อนอยู่

ผมบอกให้พี่ต่อกลับบ้านไป ส่วนผมจะเฝ้าคุณมินอยู่ตรงนี้ พี่ต่อเองก็ไล่ผมกลับบ้านไป พี่ต่อจะเฝ้าอาการให้ แต่ก็แค่ลมปาก พี่ต่อกับผมยังนั่งรอ รออย่างหลับๆ ตื่น บางครั้งผมก็ไปชื้อกาแฟร้อน บางครั้งพี่ต่อก็แอบงีบหลับบ้าง แต่ผมกับพี่ต่อก็รอ และรอ อย่างอดทน จนคุณมินตื่น นางพยาบาลพาพวกเราไปฆ่าเชื้อ ก่อนที่จะเข้าไปเยี่ยมในห้อง
“ข้างนอก ฝนตกหรือเปล่า” คุณมินถามพร้อมพยายามยิ้ม ยิ้มที่เหมือนฝืนยิ้ม

ผมพยายามกลืนรสชาติแห่งความเจ็บซ้ำลงคอ เพื่อไม่ให้เสียงของผมสั่นเวลาที่ตอบเธอ รสชาติของความเจ็บ มันช่างฝืดและบาดลึกเหมือนกลืนมีดโกนบาดตั้งแต่คอไปถึงหัวใจ

คุณมินนางฟ้าของผมตกสวรรค์ ร่างกายของเธอบอบซ้ำไปหมด ประหนึ่งเหมือนแก้วร้าวที่สั่นไหว ใกล้แตกเต็มที่ เธอไม่รู้เลยว่าตอนนั้น หมอวิเคราะห์ความเป็นไปได้ที่เธอจะรอดเหลือเพียง 50 % ถ้าเป็นคนปรกติ บาดเจ็บแค่นี้นอนพักที่โรงพยาบาลสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็หาย แต่เพราะเธอพึ่งบริจาคเลือดมาเมื่อไม่กี่วัน ทำให้ร่างหายเธออ่อนแออย่างน่ากลัว

“ตกแปปหนึ่ง แต่ก็หายแล้ว”
“มาพร้อมฝนจริงๆ ด้วยสินะ ”
“คุณมินก็เหมือนกัน ต้องหายไวๆ นะครับ”ผมกุมมือเธอไว้หลวม ๆ มือของเธอเย็นไปหมด
เธอกระพริบตาสองสามครั้งก่อนที่จะหลับตาลง เธอคงเหนื่อยอยากจะพักบ้าง ผมอยากจะกุมมือของเธอให้อุ่นกว่านี้ แต่ก็ทำได้เพียงเท่านี้ เพราะพี่ต่อยังยืนอยู่ตรงนี้ ผมจึงไม่สามารถทำอะไรได้ พี่ต่อไม่พูดอะไรกับคุณมินสักคำ แต่ทันทีที่พี่ต่อแตะนิ้วของเธอ ที่ผมประคองอยู่ คุณมินก็ค่อยๆ หรี่ตาขึ้น เธอมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง
ผมยืนเหม่อมองคุณมินอยู่ครู่หนึ่ง รู้สึกตัวอีกที พี่ต่อก็บอกให้ผม ปล่อยให้คุณมินพักผ่อนบ้าง

ตอนแรกคุณหมอเป็นห่วงเรื่องเลือดพิเศษในตัวเธอ แต่ไม่นานก็มีคนมาบริจาคให้คุณมิน
คุณจึงมีอาการดีขึ้นตามลำดับ วันสองวันเธอก็ได้ออกจากห้องไอซียู

“คุณมินไม่หิวเหรอครับ”
คุณมินก็ยังคงเป็นคุณมินเหมือนเดิม ทันทีที่เธอลืมตาได้ เธอก็เรียกหา โน้ตบุ๊คตัวเก่ง มาปั่นงานให้เสร็จ
“ไม่หิวหรอกคะ พึ่งทานไปเอง โปรล่ะคะ ทานหรือยัง เห็นนั่งมองเรามาตั้งแต่เที่ยงแล้ว”
“ไม่รู้สิครับ เห็นคุณมิน แล้วมันอิ่มอย่างบอกไม่ถูก” ผมมองเธอพิมพ์งานอย่างอารมณ์ดี “คราวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรล่ะครับ อีโรติคตามที่คุณชอบหรือเปล่า”
“ตอนนี้นะเหรอ ตอนนี้กำลังลองเขียนนิยาย โรแมนติค กุ๊กกิ๊กหวานแหวว ดูบ้างนะ แต่ก็ยังเขียนได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลยล่ะ โปร”
“บอกชื่อเรื่องมาสิครับ” ผมกระซิบข้างหู ไม่ขาด
“เชยๆ ธรรมดา นะ หวานใจ นายโหด”
“นายโหด ฟังแล้วดูท่าทางจะไม่น่าเป็นพระเอกเลย” ผมประคองตัวเธอมาเข้าสู่อ้อมอกของผม คุณมินก็เอียงคอมาโดยง่าย “นั่นสินะ เราก็คิดอยู่เหมือนกัน”
ผมลูบผมเธออย่างแผ่วเบา กลิ่นยายังติดอยู่จางๆ บนตัวเธอ ตั้งแต่ใบหู ปลายคาง จนมาจบที่ริมฝีปาก
“โปร หยุดเถอะ เราโทรม จะแย่อยู่แล้ว” เธอเอามือนิ่มๆมาแตะหยุดผมที่ริมฝีปาก
“ผมไม่ได้อยากอยู่ใกล้คุณมิน เพราะว่าคุณมินสวยนะครับ แต่ผมรักคุณมิน ต่างหาก”
“โปร รักฉัน จริงเหรอ นี่เป็นครั้งแรก เลยนะ ที่มีผู้ชายมาสารภาพรักฉันแบบนี้” คุณมินยื่นหน้ามาหอมผมฟ๊อดใหญ่
พอเห็นคุณมินในอ้อมกอดผมแล้ว ถ้าหากว่าโลกแตกไปเสียตอนนี้ก็คงจะดี เพราะเวลาของผมและคุณมินจะได้หยุดเสียตรงนี้ โดยไม่ใครคนอื่นเข้ามาแทรก อย่างเช่น พี่ต่อ

ความสุขก็หยุดลง เพราะเสียงเคาะประตู
“คุณคะ มีดอกไม้กับการ์ดส่งถึงคุณนะคะ” นางพยาบาลยกดอกไม้เข้ามาด้วย พร้อมซองสีแดงใบโต คุณมินหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี
“โปร มันไม่แรงฉีก การ์ด ฉีกให้หน่อยสิ”
ผมค่อยฉีกซองด้วยความระวัง ข้างในเป็นการ์ดรูปการ์ตูนธรรมดา แต่ขนาดการ์ดไม่ธรรมดา ผมค่อยๆ ดึงออกมาด้วยความระวัง แม้แต่นางพยาบาลเองที่รับการ์ดมาให้ ก็ยังซ่อนความตื่นเต้นไว้ไม่อยู่ คุณมินรับการ์ดมาเปิดด้วยความตื่นเต้น
“ใครส่งมาให้เหรอครับ” ผมถามนางพยาบาล แต่ก็กำลังซึ้งชวนฝัน
“โปรดูนี้สิ ...” เธออ่านการ์ดเสียงดังฟังชัด “Trust me, I never leave you alone , my dare”
ผมรู้สึกเลือดขึ้นหน้าขึ้นมาทันที แล้วยิ่งนางพยาบาลตอบคำถามผมว่าใครคงมาอย่างอึกอักด้วยแล้ว ยิ่งทำให้ผมยิ่งรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากล
เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกครั้ง นางพยาบาลเดินกลับไปเปิดประตู เธอยกมือไหว้พี่ต่ออย่างนอบน้อม

ผมหมั่นไส้นางพยาบาลเสียจริงๆ ไม่ยอมตอบสักทีว่าใครส่งมาให้
“ต่อ ดูนี่สิ มีคนส่งดอกไม้มาให้เราล่ะ”คุณมินยิ้มกว้าง พี่ต่อรับการ์ดมาดู
“คือ.. พี่ต่อกาจคะ เมื่อกี้ พี่คนนี้เขาถามหนูว่า ใครส่งการ์ดกับดอกไม้มาให้ อ่ะคะ” เธอชี้มาผม พี่ต่อมองหน้าผม ด้วยสายตาแปลกๆ คุณมินเอง ก็เริ่มมองหน้าผมด้วยสายตาแปลก เหมือนกัน นี่มันอะไรกัน ทำไมทุกคนมองผมแปลกๆ แบบนั้น
“ทำไมหรือ โปร”
“เปล่า” ผมขึ้นเสียงขุ่น “เป็นพี่หรือเปล่าที่ส่งมาให้คุณมิน”

เสียงขุ่นๆ ของผมคงไปทำลายความรู้สึกของนางพยาบาลจนเสียขวัญ พี่ต่อจึงบอกให้เธอออกไปก่อน
“ถ้าเป็นต่อจริง ก็ขอบคุณมากนะ” คุณมินเบี่ยงเบนความสนใจของเราสองคน มาที่ดอกไม้ “แหม่ .. กุหลาบสวยจังเลย สีเหลืองสด เชียว”
“ต่อไม่ได้เป็นคนส่ง แต่ต่อรู้ว่าใครส่งให้มิน”
“อย่ามาโกหก เสียให้ยาก”น้ำเสียงผมบ่งบอกว่าฉุนขาด
“ถ้าพี่ส่งให้มิน แล้วมันจะหนักหัวแกหรือไงไอ้ต่อ” ผมกำลังจะตอบกลับ แต่คุณมินก็ปรามไว้เสียก่อน“พอได้แล้ว อีแค่ดอกไม้ช่อเดียว มันจะอะไรหนักหนา”
“คนที่ส่งดอกไม้ให้คุณมิน ก็เป็นคนเดียวกับ ที่บริจาคเลือดให้คุณมินนั้นแหละ พอเขารู้ว่าคุณมินหายดีแล้ว ก็เลยแค่อยากส่งดอกไม้อวยพรให้คุณมินหายเร็วๆ ก็เท่านั้น”
“เหรอ ... น่ารักจังเลย” คุณมินหัวเราะอย่างร่าเริง
“มิน ต่อมีเรื่องสำคัญที่อยากจะคุยด้วย พวกตำรวจนะ รอต่อไปไม่ไหวแล้ว พวกเขาจะมาสอบปากคำเธอพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้” ผมทวนคำพูดของพี่ต่อ “แต่คุณมินพึ่งจะออกจากห้อง ไอซียูเมื่อคืนนี้เอง”

“พูดถึงเรื่องนี้ ขึ้นมา ฉันเองก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่า ทำไมพอฉันตื่นมา ก็อยู่ในโรงพยาบาลแล้ว”
“เอ่อ...” ผมกับพี่ต่อต่างอยู่ในอาการอ้ำอึ้ง คุณมินบังคับให้พี่ต่อพูดก่อน
“เห็นบ้านมันเงียบๆ นึกว่า ก็เลยคิดว่าแกอาจจะคิดฆ่าตัวตายขึ้นมา”
“ฆ่าตัวตาย” คุณมินขำ “อะไรทำให้แกคิดว่าฉันจะฆ่าตัวตายว่ะ”
“คนบ้าอย่างแก นะ ฟุ้งซ่าน คิดอะไรบ้าๆ ได้เสมอแหละ” พี่ต่อพูดตัดบท พยายามหลบตาคุณมิน
“เป็นห่วง ก็พูดมาเหอะ ไอ้ต่อ”
“ใครเป็นห่วงแก ไม่ทราบ เว่อร์แล้ว” พี่ต่อพร้อมขยี้หัวคุณมิน ทำเอาผมรู้สึกหวั่นใจหนักกว่าเดิมเสียอีก
“ก็ผมนี่ไงที่ เป็นห่วงคุณมิน” อยู่ดีๆ ผมก็โผล่งขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

“ไอ้บ้า กูเขินแทนเลย”
พี่ต่อพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ หัวเราะอย่างเขินๆ คุณมินยกมือตีพี่ต่อดังเพี๊ยะ แต่พี่ต่อก็ยังไม่หยุด“ว่าแต่แกไปทำอะไรบ้านมิน หรือว่า มินมันนัดแกไป”
“เปล่าครับ ผมรู้สึกเป็นห่วง ก็เลยกลับมา คุณมินครับ ผมรู้แล้วนะครับ ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณมิน แล้วก็เห็นใครยิงคุณมิน ผมจะเป็นพยานให้ ”
“ไม่ต้องพูดแล้ว โปร พอเถอะ พอกันเสียที จบๆ กันไปเถอะ มันก็คงเป็นเวรกรรม ที่ตามมาทัน เราไม่น่าแต่งงานกับคนที่เราไม่ได้รักเลย ทำบาปทำกรรมอะไรนะ ทำไมฉันต้องไปรักคนมีเจ้าของแล้ว”
“อะไรนะ แก นี่แกไม่เคยรักแฟนแกเลยเหรอ”

คุณมินหันมามองหน้าผม เพราะคำพูดสำคัญออกไป
“คุณมินเขาหมายถึงว่าความรักของเขากับแฟน มันจืดจางมานานแล้ว” ผมพยายามแก้ตัวให้
“ไม่ ..คือ ที่แกบอกว่าแกไปรักคนที่มีเจ้าของแล้ว นี่นอกจากไอ้โปร แล้วแกยังมีคนอื่นอีกเหรอ”
คุณมินมองหน้าผม สายตาเธอขอร้องขอความช่วยเหลือ ผมจึงพยายามเปลี่ยนเรื่องออกไป
“แล้วนี้เราจะทำอย่างไง กับหนี้ก้อนโต คงอีกร้อยชาติแน่ กว่าจะใช้หมด”
“เราจะใช้เงินเก็บใช้หนี้แทนเขาเอง ไหนๆ ก็พูดเรื่องนี้ขึ้นมาแล้ว โปร เดือนหน้าเราจะย้ายไปอยู่ญี่ปุ่นนะ”



Create Date : 23 มีนาคม 2549
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 3:48:56 น.
Counter : 250 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานใจนายโหด
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




add me!!plz~
Add to Google

ไม่สวยก็เซ็งเป็น


MY VIP Friend