มีนาคม 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ฤดูฝน ผมเหงา เธอเปลี่ยว ตอนที่1
ฤดูฝน เป็นฤดูที่ก่อนคนที่ไม่มีแฟน จะก่อนเริ่มออกอาการเหงา เพราะจะไปเหงาที่สุด ตอนฤดูหนาว
แต่สำหรับผม ผมกลับเริ่มเหงา ตั้งแต่ฤดูฝน อาจเพราะ
ผมพบเธอครั้งแรกในฤดูฝน
และฤดูฝนมันช่างกับความรักของผมมันช่างคล้ายกันอย่างไม่น่าเชื่อ
ชุ่มฉ่ำ ร่าเริง และมาพร้อม ระยะเวลาที่สั้นเหลือเกิน
โดยเฉพาะ ระยะเวลาสั้นๆ นั้น ที่ มันช่างบาดใจผมลึกจนทุกวันนี้
“ฤดูฝน ผมเหงา เธอเปลี่ยว”

วันนั้น เป็นฝันที่กรุงเทพเริ่มเข้าสู่หน้าฝน ผมตื่นตอนเจ็ดโมงครึ่ง เก็บถ้วยมาม่าจากโต๊ะคอมพิวเตอร์ เปิดตู้เย็นหาอะไรกินเช้าวันใหม่ เหมือนทุกวัน ที่เคยเป็นมา ที่แปลกหน่อยคงเป็น ผมมีนัดสัมภาษณ์เภสัชกรคนหนึ่ง พอย้อนคิดกลับไปดูแล้วๆ วันนั้นไม่น่าจะมีอะไรทำให้ผมได้พบกับความรักได้
ตอนนั้นผมกำลังเรียนปีสี่ และกำลังฝึกงานให้กับนิตยสารไอที แห่งหนึ่ง
เภสัชกรคนนี้ เป็นคนที่วางระบบจ่ายยาให้กับร.พ. เอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผลสำเร็จรายแรกของเอเชีย ระบบที่ว่านี้มันจ่ายยาได้ถูกต้องเกือบ80%เชียวนะครับ ที่ต่างประเทศตื่นเต้นกันมาก แต่ประเทศไทยเรากลับไม่ใครสนใจ มีแต่นิตยสารคอมของผมอยู่แห่งเดียว ที่เห็นคุณค่าของระบบที่ว่านี้ ผมลืมบอกชื่อไปว่าเภสัชคนนี้ เขาชื่อว่า ต่อกาจ หรือ พี่ต่อ ผมคุยกับพี่ต่อตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่าจะมาขอสัมภาษณ์ เขานัดผมให้มาทานอาหารเย็นที่บ้านของเขาแทน เพราะเขาไม่ว่างทั้งวัน โดยนัดผมมาเจอกันที่ สโมสรของหมู่บ้านของพี่ต่อ ตรงแถวสนามหลวง
วันนั้นผมแอบอู้งานเล็กน้อย หลังจากที่พักเที่ยง ผมก็ขออนุญาตพี่แมว พี่เลี้ยงของผมเองครับ ว่าจะมาพบพี่ต่อตั้งแต่บ่ายตอนบ่ายสอง ซึ่งนัดจริงๆ ก็คือ ห้าโมงครึ่ง ตอนแรกผมกะว่าจะไปเดินเล่นที่สยามสักหน่อย แต่ไม่รู้ว่าอะไรมันดลใจให้ผมมาที่สโมสรของหมู่บ้านตั้งแต่ บ่ายสองโมงครึ่ง ผมยกแลปทอปมาด้วย กะเล่นเอามาเล่นฆ่าเวลาเต็มที่
สโมสรของหมู่บ้าน ก็เหมือนสโมสรทั่วๆ ไปแหละครับ มีสนามเทนนิส สระว่ายน้ำ สนามบาสเกตบอล สวนหย่อมเล็กๆ อย่างที่ผมบอกไปแต่แรก ว่าวันนี้เป็นวันที่กรุงเทพพึ่งเข้าสู่หน้าฝน ฟ้าดำๆ เมฆหนาๆ ทำให้ผมร้อนเหลือเกินแอร์ในรถก็ไม่ได้ช่วยอะไรผมได้มาก ผมจึงเปลี่ยนที่ จากรถ มาเป็น สระว่ายน้ำของสโมสร โดยหวังว่าไอเย็นของสระว่ายน้ำจะช่วยให้ผมผ่อนคลายมากขึ้นและกลับไปที่รถใหม่
บรรยากาศวันนั้นร้อนอบอ้าว แบบ ฝนใกล้จะตก ผมจึงดับร้อนด้วยการไปดื่มน้ำเย็นที่ตู้น้ำเย็นใกล้ๆ ตู้น้ำเย็นเป็นสีเงินมันวาว จนทำให้ภาพที่อยู่เบื้องหลังสะท้อนออกมาชัดเจน

มี ผู้หญิง ใส่บิกินนี่! อยู่ในสระ

ผมหันเหลียวหลังทันที หน้าอกแน่นแต่งตึงกระชับอยู่ภายใต้บิกินนี่สีฟ้าน้ำทะเล ตัดผิวขาวผ่องอย่างชัดเจน เส้นสายเชือกของกางเกงในบีกินนี่ ลอยไปลอยมาบนผิวน้ำ เหมือนเย้ายวนให้ผมดึงมัน เสียให้พ้นๆ ตา เธอขาวอวบอั๋น บีกินนี่แนบเนื้อกระชับ ถึงจะมีหน้าท้อง บ้าง ไม่ได้แบนราบ แบบสาวๆ ในปกนิตยสาร แต่รูปร่างที่โค้งเว้าได้รูป ทำให้ผมรู้สึกตะลึง จนรู้สึกตัวอีกที แก้วน้ำหลุดมือผมไปไม่รู้ตัว พอผมจะตามไปคว้ามัน แก้วเจ้ากรรมมันก็ลงพื้นกลิ้งไปเสียไกล
ผมคว้ามันได้อีกครั้ง ตอนนั้น ผมไม่รู้ตัวเลย ผมลื่นตกไปอยู่ในสระว่ายน้ำเรียบร้อย ผมมองไม่ผิดจริงๆ เธอมี ช่วงขาที่เรียวยาวสะโพกกระชับได้รูป ขาขาวนั้นเคลื่อนมาใกล้ผมเรื่อยๆ และแล้วเจ้าของเรียวขายาวนั้นก็เคลื่อนมาประชิดตัวผม และแล้วผมก็นึกอะไรออก

ผมกำลังจมน้ำอยู่

ผมพยายามจะดิ้นรนเพื่อสูดอากาศหายใจ แต่ตอนนั้นมันนึกวิธีอะไรไม่ออกสักวิธีเดียว โชคดีที่เธอคว้าตัวผมขึ้นมาพ้นน้ำได้สำเร็จ ผมตกใจมาจนคว้าทุกสิ่งรอบตัว และมือเจ้ากรรมมันเผลอไปคว้ากระชากหมวกว่ายน้ำสีชมพูอมส้มของเธอออก ทำให้เส้นผมที่เปียกน้ำ ไหลลื่นลงมาประบ่าของเธอ แสงแดดส่องประกายล้อเล่นเส้นผมเธอกับน้ำ วิบวาวประกาย คราวนี้ผมหายไม่ออก ไม่ใช่เพราะจมน้ำ แต่เป็นเพราะ เธอ
เธอพยายามลากผมเข้าฝั่ง แต่ด้วยความที่เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ทำให้ลากผมเข้าฝั่งด้วยความทุลักทุเลเป็นอย่างยิ่ง ผมกอดตัวเธอไว้แน่น เกิดอาการกลัวน้ำขึ้นมากะทันหัน
“คุณ คุณคะ จับราวไว้คะ” ผมจับราวสระว่ายน้ำอย่างว่าง่ายที่สุดในชีวิต พยายามไต่บันไดสระว่ายน้ำขึ้นมา จนสำเร็จ ทันทีที่อยู่บนบกได้ ผมก็นอนทอดกายลงบนพื้นอย่างไม่อายใคร เธอรีบไต่บันไดตามมาดูอาการผมขึ้นมาติดๆ
หน้าอกขาวแต่งตึงนั่นตามมาหลอกหลอนผม ผมจ้องมันตาไม่กระพริบ ทุกคนที่มามุงดูผม คงคิดว่าผมคงอยู่ในอาการตกใจ ถึงได้ตาเหลือกขนาดนั้น
“รู้สึกตัวแล้วใช่ไหมคะ”
ผมพยายามนึกคำพูด แต่น้ำมันเต็มคอไปหมด ผมพยายามคายมันออก จนสุดท้ายต้องสำลักมันออกมาแทน เธอพยายามพยุงตัวผมขึ้น ผมพึ่งเริ่มสังเกตว่าเด็กๆ รอบตัวผมเริ่มร้องไห้ กันระงม
“ค่อยยังชั่วขึ้นแล้วใช่ไหมคะ” เธอถามผมอีกครั้ง ผมพยักหน้าแทนคำพูด เธอยิ้มให้ผมครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะลุกขึ้นเดินออกไป ผมเริ่มมองไปรอบๆ ทำให้ทุกคนเริ่มสลายตัวอย่างรวดเร็ว เธอเดินกลับมาอีกครั้ง พร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ยื่นให้ผม ผู้หญิงคนนี้นอกจากจะผิวดีหุ่นสวย หน้าตาก็น่ารัก แล้ว เธอยังใจดีกับผู้ชายร่วมโลกอีก ต่างหาก
“ขอบคุณครับ” ผมรับผ้าเช็ดตัวมันมาซับ “ขอบคุณนะครับที่ช่วยชีวิตผม”
“เล็กน้อยนะคะ” เธอยิ้มกว้างให้ผม สายตาที่อ่อนหวานละมุน รอยยิ้มนั่นทำให้ผมยังจำได้ติดตาทุกวันนี้ “ใช้เสร็จแล้วผึงไว้ตรงนี้นะคะ เดียวฉันมาจะมาเก็บ” เธอเดินจากไป พร้อมหัวใจผม
บ่ายวันนั้นผม มัวแต่จ้องมอง ครูสอนว่ายน้ำ (ผมลองถามจากคนแถวนั้น) เธอชื่อกามล หรือครูมินของเด็กๆ ผมว่าจะขอเธอสักบาท จะโทรไปบอกแม่ ว่าแม่ครับ ผมเจอลูกสะใภ้แม่แล้วครับ
เมื่อเย็นมากแล้ว เธอขึ้นจากสระว่ายน้ำมาอาบน้ำจืด สบโอกาสเหมาะของผม ผมจึงลองเดินไปคุยกับเธอ
“คุณมินครับ”
เธอหันขวับทันที ผมอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะบอกความในใจให้เธอหลังจากที่อัดอั้นมานาน ให้เธอฟัง
“ผิวดีจังนะครับ”
เธอยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะหันไปอาบน้ำจืดต่อ

(ไม่ต้องบอกผมครับ ผมรู้ตัวว่าโง่ ไม่ต้องซ้ำเติมครับ)

ผมรอพี่ต่อจนเย็น และแล้วสิ่งที่เรียกปาฎิหารย์ก็เกิดขึ้นในชีวิตของผม พี่ต่อรู้จักกับคุณมิน นางฟ้าแสนสวยที่ช่วยชีวิตผมไปเมื่อบ่าย และเล่าประวัติของคุณมินให้ผมฟัง
คุณมินเรียนจบปริญญาโทเมื่อปีที่แล้วสาขาบริหารธุรกิจ แต่อาชีพจริงๆ ที่เธอทำก็คือเป็นนักเขียนอิสระ โดยเฉพาะแนวอีโรติกจะมีมากเป็นพิเศษ เป็นนักวิจารณ์วงการเพลงคนสำคัญคนหนึ่ง เธอแต่งงานแล้วเมื่อสามเมื่อปีที่แล้ว

พี่ต่อจำได้ดีว่าเธอแต่งงานหลังจากพี่ต่อแต่งงานไปเดือนหนึ่ง บังเอิญที่แฟนเธอที่เป็นวิศวกร มาชื้อบ้านอยู่ใกล้ๆ บ้านพี่ต่อ ซึ่งตอนมัธยมเธอเคยเป็นเพื่อนร่วมห้องกันทำให้พี่ต่อกับคุณมินมาก่อน ทำให้ตอนนี้พี่ต่อกับคุณมินสนิทกันมากกว่าเพื่อนบ้านคนอื่นๆ บางครั้งเธอก็รับจ้างเป็นครูสอนว่ายน้ำด้วยที่สโมสรด้วย แต่สุดท้ายแล้วเธอมักจะสอนให้ฟรีๆ ตอนนี้เธอรับจ้างเป็นพี่เลี้ยงให้ หมูหวานลูกสาวของพี่ต่อซึ่งกำลังเข้าอนุบาลหนึ่ง พี่ต่อเล่าให้ฟังด้วยว่าเธอเคยเขียนบทให้ผู้กำกับมือหนึ่งด้วยซึ่งดังติดต่อกันถึง 3-4 เรื่อง แต่ผู้กำกับคนนั้นกลับอ้างว่าเป็นคนเขียนบทเสียเอง ทำให้หลังจากนั้นเธอเลิกเขียนบทภาพยนตร์อีกต่อไป

นางฟ้าแสนสวยของเธอแต่งงานแล้ว ผมเก็บความเสียดายไว้ในอก นับเป็นโชคร้ายที่ผมกับพี่ต่อเข้ากันได้ดีมาก พี่ต่อชวนผมไปกินเหล้ากันต่อหลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จแล้ว ผมแอบหวังว่าคุณมินจะไปด้วย แต่พี่ต่อไม่ชวนเธอ เรากินกันจนตีสองกว่า พี่ต่อชวนผมไปนอนค้างที่บ้าน แต่พี่ต่อไม่ได้บอกผมว่า จะไปนอนค้างที่บ้านคุณมิน

คุณมินเดินออกมารับพวกเรา ทั้งชุดนอนตอนตีสองใกล้ตีสามเต็มแก่ ผมกับเธอช่วยพยุงพี่ต่อเข้าไปนอนที่บ้าน คุณมินบอกผมว่าพี่ต่อบอกเธอแล้วว่าพี่ต่อจะพาผมมาด้วย จึงจัดที่นอนให้ไปนอนที่ห้องนอนชั้นบน ส่วนพี่ต่อเธอจะดูแลเอง แต่ผมพัก ปฏิเสธขอที่จะนอน ผมตั้งใจจะกลับไปนอนที่บริษัท และเสนอให้พาพี่ต่อไปนอนข้างบนแทนผม แต่เธอก็อ้อน ไม่อยากให้เมาออกไปขับรถ ผมจึงต้องตามใจเธอ ไปนอนที่ห้องนอนชั้นบน

ตอนนั้นผมปวดหัวมาก กำลังมึนหัว คิดว่าจะเดินไปรอบๆ ให้สร่างสักหน่อยแล้วค่อยนอน ผมเดินไล่ดูตั้งแต่รูปถ่ายในกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านหลังเป็น บนโต๊ะมีกระดาษเขียนด้วยลายมืออยู่หลายสิบแผ่น บางแผ่นก็เหมือนจะแก้แล้วแก้อีก คงเป็นงานเขียนที่ยังไม่เสร็จ มีโน้ตบุ๊กเครื่องหนึ่งวางอยู่นิ่งสงบบนโต๊ะ บนเดรสทอปเป็นรูปของพี่ต่อกับคุณมินกับเพื่อนหลายคนตอนม.ปลาย ตอนเธอวัยรุ่นนี้ไม่ค่อยจะสวยเท่าตอนนี้ ผมจึงเปลี่ยนมาเป็นดูตู้เก็บหนังสือกระจกใส มีงานเขียนของคุณมินบางเล่มที่ผมคุ้นตา และบางเล่มที่ผมอ่านแล้ว และมีหนังสือต่างประเทศหลายเล่มเกี่ยวกับงานศิลปะ รูปถ่ายของคุณมินในชุดแต่งงานที่ถ่ายคู่กับพี่ต่อในงานแต่ง ผมมองหาเจ้าบ่าวในภาพ และมองหาไปรอบๆ เพื่อมองหาภาพของสามีเธอ ห้องแต่หาไม่เจอ
“หาอะไรอยู่เหรอคะ”
“ครับ” ผมหันกลับมาตามเสียง คุณมินเดินมาพร้อมกาแฟร้อน “รับกาแฟสักแก้วก่อนเถอะคะ”
ผมรับกาแฟมาดื่ม โดยไม่ใส่น้ำตาลหรือนมที่คุณมินเตรียมให้
“เมื่อสักครู่ตอนฉันเข้ามา เหมือนคุณมองหาอะไรอยู่ มองหาอะไรหรือคะ”
“ผมไม่ได้มองหาอะไรหรอกครับ” ผมจิบกาแฟ “ผมชื่อ โปรครับ”
เธอยิ้มน้อย ๆ “คะ ฉันทราบแล้วต่อบอกฉันแล้ว”

เธอยื่นมือมาแตะหน้าผมที่แดงซ่านด้วยความเมา “สร่างบ้างไหมคะ”
ผมเกือบพยุงตัวไม่อยู่ หัวใจมันหวิวไปหมดเมื่อเธอสัมผัสผม ผมสบตาเธอ ตาของผมพร่าไปหมด ริมฝีปากของเธอยื่นมาใกล้ ผมพยายามควบคุมสติทั้งหมดไม่ช้าผมก็ก้มลงจูบเธอได้สำเร็จ

“ผมชื่อโปร ครับ” นี่ผมกำลังคิดอะไรออกไป นี่คุณมินให้ที่ซุกหัวนอน เราไปคิดอะไรอกุศลแบบนั้น “พี่ต่อละครับ หลับหรือยัง”
“ยังคะ แต่ก็สร่างนิดหน่อยแล้วล่ะคะ เพราะฉันเช็ดตัวให้แล้ว”
“คุณมินครับ ผมอาจเสียมารยาทไปนิด แต่ผมสงสัย อะไรอย่าง พี่ต่อบอกผมว่า คุณมีสามีแล้ว แต่ ทำไมในห้องทำงานคุณถึงมีแต่รูปคุณมินกับพี่ต่อ ผมไม่เห็นรูปของสามีคุณในห้องนี่เลย”

คุณมินหันหลังกลับไป เธอไม่พูดอะไร ผมหันหลังกลับไปมองที่หน้าต่าง คืนนั้นน้ำค้างแรง หนาวจนกระจกเย็นเฉียบ เป็นฝ้า ในคืนนั้น ผมจำบรรยากาศได้ดี
เพราะวันนั้นคุณมินเดินกลับมา
จูบผม ...........

“ขอโทษคะมัน อดใจไม่ไหว” เสียงและคำพูดนั้นยังติดอยู่ในความทรงจำและผมจำได้ดีว่าผมตอบเธอว่าอย่างไร
“ไม่เป็นไรครับ เพราะผมเองรู้สึกดีกับมัน”



Create Date : 22 มีนาคม 2549
Last Update : 28 พฤษภาคม 2549 3:46:35 น.
Counter : 434 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หวานใจนายโหด
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




add me!!plz~
Add to Google

ไม่สวยก็เซ็งเป็น


MY VIP Friend