|
ภาวะของ"สื่อ-แกนนำ"และความระแวงในพันธมิตรฯ
ระยะหลังของสถานการณ์การชุมนุม ภายในทำเนียบรัฐบาลของ"พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย"(พธม.)ที่ปรากฎร่องรอยความขัดแย้งกับ"สื่อมวลชน"อันเป็นผลส่วนหนึ่งอันสำคัญมาจากการปฏิบัติของการ์ดพันธมิตร โดย"นักรบศรีวิชัย"ต่อ"นักข่าว"
ที่หากสืบสาวลงไปพบว่า เป็นเพราะมีคำสั่งจากแกนนำพันธมิตรให้การ์ด"ระมัดระวัง"สิ่งแปลกปลอมต่างๆที่สอดแทรกเข้ามาทำลายม็อบพันธมิตรฯ โดยเฉพาะการพุ่งเป้าไปที่แกนนำพันธมิตรฯ หลังมีกระแสข่าวที่สร้างความเสื่อมเสียออกไปมากมาย..ทั้งภาพ และเนื้อหา
ไม่ว่าจะป็นกรณี ข่าวการพบถุงยางอนามัย ภายในตึกนารีสโมสร และข่าวการทำลายทรัพย์สินต่างๆในทำเนียบฯ รวมถึงการนำเสนอภาพที่ไม่น่าดูในจุดต่างๆภายในทำเนียบฯออกมา และมีข่าวการมั่วสุม และข่าวการเสพยาเสพติดในม็อบ..
ที่ข่าวดังกล่าวทำให้มีการตรวจสอบการทำข่าวของ"นักข่าว-ช่างภาพ"ในทำเนียบ และที่กลายเป็นประเด็น เมื่อช่างภาพนสพ.ข่าวสด ไปถ่ายภาพจุดต่างๆ แล้วถูก"นักรบศรีวิชัย"อุ้มไปสอบสวน..หรือ การสะกดรอยตามรถตู้ส่งข่าวของสื่อบางสำนัก
นี่จึงเป็นเหตุให้บรรยากาศการทำงานของ"สื่อ"กับการทำข่าวพันธมิตรฯดูเครียดขึง ยิ่งเมื่อผลกระทบเรื่องนี้บานแลย เมื่อ"พล.ต.จำลอง ศรีเมือง"ประกาศกฎใหม่ในการแถลงข่าว(๑๗ก.ย.)ว่าจะไม่แถลงที่ห้องผู้สื่อข่าวแต่จะไปแถลงที่บนเวทีพันธมิตรฯ เพื่อให้"มวลชน"ตรวจสอบการทำงานของสื่อ และเมื่อถึงเวลา ปรากฎว่ามีการ"โห่ฮา"เยาะเย้ย สื่อที่ไม่กล้าถามแกนนำ..ในการแถลงข่าว ที่ทำให้สื่อทำการ"บอยคอต"การทำข่าวดังกล่าว ซึ่งในที่สุด แกนนำพันธมิตรฯ ต้องยอมที่จะเปลี่ยนสถานที่แถลงข่าวกลับมาที่เดิม(๑๘ก.ย.)และพยายามที่จะเจรจาประนีประนอมกับสื่อ
ทั้งนี้เพราะส่วนหนึ่งกระแสข่าวในห้วง ๓-๔วันที่ผ่านมา ข่าวพันธมิตรที่ออกไปตามหน้าสื่อ กลายเป็น"ด้านลบ"เสียเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ข่าวสด,มติชน,เนชั่น,ไทยโพสต์ ฯลฯ หรือแม้กระทั่งการเผยแพร่ภาพการรุมทำร้าย เด็กชายวัยรุ่นที่ป่วยเป็นโรคออทิสติก ที่เป็นบุตรชาย ของผู้ร่วมชุมนุมที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ทำเนียบฯที่ปรากฎออกมาผ่านข่าวโทรทัศน์ช่อง ๗
อย่างไรก็ตามสถานการณ์รอยร้าวดังกล่าว ก็ยังไม่ได้จบสิ้นแค่สื่อ แต่ได้ลุกลามไปในหมู่แกนนำพันธมิตรด้วย ซึ่งปรากฎการณ์ดังกล่าว"สื่อ"ได้นำไปถามในหมู่แกนนำ แต่ก็ถูกปฏิเสธ และตอบโต้กลับอย่างระแวงว่า"รู้ทันสื่อ"ที่ถามเรื่องดังกล่าว
--------------
แกนนำพธม.หักสุริยะใสไม่เจรจารัฐหยุดชุมนุม
นสพ.คมชัดลึกนำเสนอข่าวว่า แกนนำพันธมิตรฯหักสุริยะใสไม่เจรจารัฐหยุดชุมนุม ระบุ เงื่อนไข 5 ข้อแค่ความเห็นส่วนตัวไม่ใช่มติ ปักธงรัฐบาลพปช.ออกสถานเดียว ด่าสื่อบิดเบือนข่าว กล่าวหาทุบโต๊ะทำเนียบพัง ยกเอเอสทีวีสื่อเดียวเพื่อปชช.จับปะทัดยักษ์ซุกในม็อบพร้อมบึ้ม แฝงตัวเป็นการ์ดพันธมิตรฯจ้องป่วน
วานนี้(18ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับบรรยายกาศการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาชนธิปไตยในช่วงเช้ายังคงเป็นไปโดยเงียบเหงา เนื่องจากยังอยู่ในระหว่างการปรับพื้นที่บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้าที่ปัจจุบันเป็นเลนและโคลน โดยในช่วงเช้าได้มีการนำโครงเหล็กสำหรับกางเต้นท์ขนาด 30 X15 เมตรมาติดตั้งบริเวณหน้าเวทีเพื่อกันฝนให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มเติม
ยอมรับมีทำลายทรัพย์สินในทำเนียบ เหตุมีคนบ้าจากศรีธัญญามาร่วมม็อบ ต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ห้องผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาล พล.ต.จำลอง ศรีเมือง พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ร่วมกันแถลงข่าว นายสมศักดิ์ กล่าวถึงกรณีที่หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งเสนอข่าวขาเก้าอี้ภายในตึกสันติไมตรีว่า เป็นความพยายามที่จะทำลายภาพพจน์ของพันธมิตรฯ รวมทั้งมีการนำเสนอว่าขาเก้าอี้เป็นสิ่งที่ไร้คุณค่าซึ่งหากกลุ่มพันธมิตรฯจะทำลายเก้าอี้พวกเราไปทำลายอย่างอื่นจะดีกว่า แต่ตนยอมรับว่าบางครั้งอาจจะมีการทำลายทรัพย์สินอย่างอื่นบ้าง ซึ่งเราก็มีการตักเตือนและมีการไล่กลับบ้านไป นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ชุมนุมบางคนที่ก่อปัญหา เราตรวจสอบพบว่ามีบัตรโรงพยาบาลศรีธัญญาติดตัว
ส่วนที่นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ได้ยื่นข้อเสนอ 5 ข้อนั้น ถือเป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จะถือเป็นมติไม่ได้ เพราะ 5 แกนนำต้องพูดคุยหารือและถามความเห็นของประชาชนที่จะมาชุมนุม อย่างไรก็ตามนายสุริยะใสอาจจะมีความคิดเช่นนี้ได้ไม่ผิดอะไร ส่วนพันธมิตรฯจะยุติการชุมนุมหรือไม่ต้องถามความเห็นผู้ชุมนุมก่อนเราจะไปตัดสินใจเองไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเป้าหมายของพันธมิตรฯเหมือนเดิมคือต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญ และรัฐบาลพรรคพลังประชาชนต้องออกไปโดยเร็ว ถ้าหากรัฐบาลยังไม่ยอมรับในสิ่งที่พันธมิตรฯก็จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
พล.ต.จำลอง ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้อาสาขอรับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือพนักงานเอเอสทีวี จนทำให้มีพนักงานบางคนถูกต่อว่าเป็นขอท่านจากคนที่ไม่เข้าใจ ตนอยากจะชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมาจากความคิดริเริ่มที่ตนอยากจะอาสาช่วยเหลือพนักงานเอเอสทีวี เนื่องจากตนทราบว่าทางนายสนธิ ลิ้มทองกุล และพนักงานประสบปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายแต่ทางนายสนธิไม่เคยพูดตนจึงริเริ่มอาสาช่วยเหลือเอง ซึ่งเราคงจะปฏิเสธการช่วยเหลือไม่ได้ เพราะเรื่องนี้ถือเป็นน้ำจิต น้ำใจของประชาชนที่ต้องการช่วยเหลือสื่อที่ทำหน้าที่เพื่อประชาชน
สัมพันธ์ร้าวสื่อกับพธม.แตกโพละ!บอยคอตเลิกทำข่าวสุริยะใส เหตุดังแล้วทำหยิ่ง
ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายงานล่าสุดในฉบับวันที่ 18 ก.ย.ในหัวข้อข่าว"พันธมิตรฉุน ข่าวฆ่าเห้-ขาโต๊ะ โวยบิดเบือน-จัดฉาก สื่อบอยคอต"ยะใส" โดยเนื้อหาข่าวระบุว่า ในเวลา19.00น.ของวันที่17ก.ย. กลุ่มผู้สื่อข่าวที่ไปรอการแถลงข่าวของนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตรฯ ที่ด้านหลังเวทีสะพานมัฆวานฯ ซึ่งเป็นสถานที่แถลงข่าวเป็นประจำทุกวัน โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวและช่างภาพจำนวนมากนั่งรอนายสุริยะใสอยู่นาน เพราะนายสุริยะใสยืนแจกลายเซ็นและถ่ายภาพพูดคุยกับบรรดาผู้ชุมนุมที่มาพบ ไม่สนใจกลุ่มผู้สื่อข่าวที่รออยู่เป็นจำนวนมาก และไม่มีท่าทีว่าจะเริ่มการแถลงข่าว ดังนั้นกลุ่มผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ทั้งหมดและหนังสือพิมพ์ส่วนใหญ่จึงได้หารือกันว่าจะไม่นำเสนอการแถลงข่าวของนายสุริยะใสในวันนี้ และตัดสินใจวอล์กเอาต์ พากันเก็บกล้องและขาตั้งกล้องออกจากสถานที่แถลงข่าวทันที ขณะที่ยังมีหนังสือพิมพ์บางฉบับรอทำข่าวอยู่
ก่อนหน้านั้นคนในตระกูลกตะศิลายังได้ออกมาชุมนุมประท้วงที่อ.ราษีไศล จ.ศรีษะเกษ บ้านเกิดนายสุริยะใส โดยพากันเผาหุ่นนายสุริยะใสประท้วง โดยหาว่าทำให้เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูลที่คิดล้มล้างระบอบประชาธิปไตย และเสนอการเมืองใหม่70:30ที่ทำให้ประเทศชาติถอยหลัง ประกอบกับการกระทำของนายสุริยะใสส่งผลทางลบต่อคนในตระกูล มีจำนวนหลายคนถูกนายจ้างเลิกจ้างเพราะเห็นนามสกุลเดียวกับนายสุริยะใส
นายกสมาคมนักข่าวฯ ให้กำลังใจสื่อมวลชน ที่ทำหน้าที่รายงานสถานการณ์ม็อบในทำเนียบรัฐบาล
น.ส.นาตยา เชษฐโชติรส นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ แห่งประเทศไทย เดินทางมาให้กำลังใจ และตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่นักข่าวถูกคุกคามในการทำหน้าที่ สื่อมวลชนในการเสนอข่าวการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมทั้งแสดงความเห็นใจในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ภายใต้กดดันต่างๆ ทั้งจากกลุ่มการ์ดอาสาพันธมิตร และกลุ่มผู้ร่วมชุมนุม โดย น.ส.นาตยา กล่าวว่าสื่อจะต้องยอมรับสภาพของการทำงานว่า มีความเสี่ยงในการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งนี้ น.ส.นาตยา ยังกล่าวอีกว่า หากผู้สื่อข่าว ไม่ได้รับความสะดวกในการปฏิบัติหน้าที่ ให้ร้องเรียนไปยังนายกิตติชัยใสสะอาด หัวหน้าหน่วยรักษาความปลอดภัยของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ สน.พันธมิตร บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ หรือให้ร้องเรียนไปที่ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะได้นำเรื่องร้องเรียนดังกล่าวไปทำความเข้าใจกับกลุ่มพันธมิตรฯ ให้มีความเคารพ ซึ่งกันและกัน
หัวหน้าการ์ดพันธมิตรฯ ก็รับปากจะช่วยเหลือ แต่การ์ดพันธมิตรฯ มีประมาณ 900 คน มีผู้มีปัญหาในการทำหน้าที่เพียง 10-20 คน และหากพบก็ได้ทำการสอบสวนไล่ออกนอกพื้นที่ อย่างไรก็ตาม หากมีการแทรกแซงการทำงานของสื่อ สามารถร้องเรียนไปยังหัวหน้าการ์ด หรือแกนนำพันธมิตรฯ ได้ทันที น.ส.นาตยา กล่าว ----------- เจาะขบวนพันธมิตรร้าวระหว่างรบ
ค่ำคืนของวันที่ 17 กันยายน วันที่ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์
สุริยะใส กตะศิลา มือประสานสิบทิศของ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็ยื่นเงื่อนไข 5 ข้อ ที่ สมชาย ต้องทำให้ชัดเจน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการถอนกำลังออกจากทำเนียบรัฐบาล
ได้แก่ 1.นายสมชาย จะมีแนวทางใดในการจัดการปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อนของคนในตระกูลชินวัตร กับผลประโยชน์ของชาติ
2.จะมีแนวทางใดในการนำตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กลับมาดำเนินคดีในประเทศและยกเลิกพาสปอร์ตแดงของอดีตผู้นำคนนี้
3.จะดำเนินการอย่างไรกับคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา กรณีให้กัมพูชาขึ้นทะเบียบปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกเพียงฝ่ายเดียว
4.จะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ อย่างไร
และ 5.จะมีแนวทางใดในการแก้ภาพลักษณ์การเป็นนอมินี พ.ต.ท.ทักษิณ หรือรัฐบาลหุ่นเชิด
เงื่อนไขชุดนี้นับเป็นข้อเจรจาใหม่ที่พันธมิตรโยนออกมาสู่สาธารณะ นับเป็นหนทางอันน้อยนิดที่จะไปสู่ ทางออก
แต่ปรากฏว่าผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ก็ลุกขึ้นมา หักดิบ ข้อเสนอของ ผู้ประสานงาน กลุ่มตัวเอง ซะดื้อๆ แบบไม่เกรงใจ
นั่นเป็นความเห็นส่วนบุคคล สุริยะใสมีความคิดนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่มีอะไรผิดเพี้ยนอะไร แต่เรื่องการหยุดการชุมนุมใครจะตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องถามประชาชนก่อนที่มาด้วยความเหนื่อยยาก
ประกาศว่าไม่มีการเจรจาใดๆ
พร้อมกับย้ำ ธง เดิม ว่า 1.รัฐบาลต้องไม่แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ 2.รัฐบาลพรรคพลังประชาชนต้องออกไปเพื่อเปิดทางให้มีการร่างกติกา การเมืองใหม่
ปิดประตูการเจรจาทุกประตูโดยสิ้นเชิง ยืนยันว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงม็อบก็จะไม่ลง...!!!
ปรากฏการณ์เหล่านี้นำมาสู่ปัญหา คาใจ ว่า ตกลงกลุ่มการนำของพันธมิตรยังผนึกแนบแน่นกันดีอยู่หรือไม่
เพราะการออกมาแถลงของ สุริยะใส นั้น ไม่ใช่การตัดสินใจเดี่ยวๆ แต่ได้รับไฟเขียวแล้วจาก พิภพ ธงไชย 1 ใน 5 แม่ทัพ แต่แกนนำที่เหลือ กลับมองว่าการเปิดช่องในการเปิดโต๊ะเจรจาของ สุริยะใส เป็นการส่งสัญญาณที่ม็อบจะหาทางลง ทำให้เกิดความสับสน
ขณะนี้มีเสียงเล็ดลอดออกมาจาก หน่วยเหนือ ของพันธมิตร ว่าบางฝ่ายพยายามเจาะช่องเพื่อนำไปสู่การ เจรจาต่อรอง เพื่อ พักรบ ชั่วคราว
แต่เมื่อ สนธิ-จำลอง ไม่ยอม...ก็ไม่มีความหมาย
เพราะ 2 ขุนพลจาก เอเอสทีวี และ กองทัพธรรม คือผู้ชี้ทิศทางของ พันธมิตร
เมื่อไม่ลด ธง ก็ ลง ไม่ได้ ..???
ความขัดแย้งระดับแบบ เบาะๆ ในกลุ่ม 5+1 คนที่นำพาอยู่ขณะนี้ อาจไม่ใช่ความแตกสามัคคีของเหล่าแม่ทัพ แต่มาจากกระแสกดดันจากสังคมที่นับวันยิ่งเหวี่ยงกลับมาเรียกร้องให้พันธมิตรต้องปรับตัวบ้าง
ระหว่างที่พันธมิตรชุมนุมทุกวันนั้น การเมืองในระบบ ได้ปรับเปลี่ยนตัวเองตลอด และหลายต่อหลายช็อตที่การเมืองปรับตัวเอง ตอบสนอง แรงบีบจากพันธมิตร ทำให้พันธมิตรสามารถประกาศชัยชนะได้ทุกวัน
กระทั่งการพ้นตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ของ สมัคร สุนทรเวช ซึ่งแม้จะหลุดโดยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ตรงกับข้อเรียกร้องของพันธมิตรในเบื้องแรก
แต่พันธมิตรก็ไม่หยุด พร้อมทั้งได้เหยียบคันเร่ง ทะยานไปข้างหน้าด้วยความฮึกเหิมตั้งธงไล่รัฐบาลทั้งคณะออกไป และเรียกร้องให้สถาปนา การเมืองใหม่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นข้อเรียกร้องสุดท้ายหรือไม่
การพุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ยืดหยุ่น เป็นข้อกังวลของคนระดับนำ บางกลุ่ม ที่อยู่นอกวง 5 คน ที่เริ่มขยายวงกว้างมากขึ้นๆ
กลัวว่า ความชอบธรรม ที่เคยกำอยู่ในมือมากว่าร้อยวันจะหมดไป แล้วหลุดลอยไปอยู่ไปอยู่ในมือ รัฐบาล ซึ่งเท่ากับเป็น จุดตาย ของพันธมิตร
อย่าลืมว่าสงครามมวลชนนั้นจุดชี้ขาดชัยชนะ อยู่ใครจะตักตวง ความชอบธรรม ไว้ที่ฝ่ายตัวเองได้มากที่สุด นานที่สุด
จับตาดูท่าทีของขุนพลพันธมิตร 5+1 หลังจากนี้จะจัดทัพ ปรับเกม กลบรอยร้าวกันอย่างไร ภายใต้กระแสกดดันจากสังคมที่เริ่มสวิงกลับมายัง พันธมิตร มากขึ้นๆ...!!!
'ถ้ารัฐบาลไม่ยอมรับพันธมิตรจะไม่เจรจา'
พล.ต.จำลอง ศรีเมือง : สุริยะใสอาจจะมีความคิดเช่นนี้ได้ ไม่ผิดอะไร ส่วนพันธมิตรจะยุติการชุมนุมหรือไม่ ต้องถามความเห็นผู้ชุมนุมก่อนเราจะไปตัดสินใจเองไม่ได้ แต่ยืนยันว่าเป้าหมายของพันธมิตรเหมือนเดิม คือ ต้องไม่แก้รัฐธรรมนูญและรัฐบาลพรรคพลังประชาชนต้องออกไปโดยเร็ว ถ้าหากรัฐบาลยังไม่ยอมรับในสิ่งที่พันธมิตร ก็จะไม่มีการเจรจาใดๆ ทั้งสิ้น
ที่บอกว่าห่วงผู้ชุมนุมแค่ละครน้ำเน่า
พิภพ: ไม่อยากให้ความเห็นที่ทำให้ขัดแย้ง
พิภพ ธงไชย หนึ่งในแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ขอออกความเห็น เพราะไม่รู้ว่าคุณสุริยะใส รวมทั้ง นายสมศักดิ์ และ พล.ต.จำลอง พูดว่าอย่างไรบ้าง ผมจึงไม่สามารถให้ความเห็นได้
-มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในแกนนำพันธมิตรหรือไม่ ?
ผมขอยืนยันหนักแน่นว่า ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น
-ยืนยันใช่หรือไม่ว่า ในบรรดา 5 แกนนำพันธมิตร ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่ ?
ผมไม่ขอให้ความเห็นอะไร ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งขึ้นในหมู่แกนนำ
ผมไม่ขอออกความเห็น ซึ่งที่คุณบรีฟให้ฟังมันอาจไม่ตรงก็ได้ ผมขี้เกียจตกเป็นเหยื่อหนังสือพิมพ์ ผมรู้ทันพวกคุณ
โดย...สุริยาอัสดง
Create Date : 19 กันยายน 2551 |
Last Update : 19 กันยายน 2551 16:55:24 น. |
|
4 comments
|
Counter : 840 Pageviews. |
|
|
|
โดย: 1234 IP: 222.123.158.179 วันที่: 25 กันยายน 2551 เวลา:1:25:12 น. |
|
|
|
โดย: หนูดี IP: 222.123.168.246 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:03:35 น. |
|
|
|
โดย: หนูร้าย IP: 124.122.219.147 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:57:03 น. |
|
|
|
โดย: แอ IP: 117.47.5.203 วันที่: 19 มกราคม 2552 เวลา:14:45:12 น. |
|
|
|
|
|
|
|
1.ทำหลังเที่ยงคืนเท่านั้น
2.จุดธูปไว้หัวนอน3ดอก
3.นอนหลับตาแล้วตั้งสมาธิให้ดี
4.นึกถึงที่ๆเราจะไปเปนอันดับแรก
5.กลั้นหายใจ10วินาที
6.จาดนั้นคุณก้อจะไปในที่ที่คุณต้องการ
7.เมื่อคุณรูสึกว่ากลิ่นธูปเริ่มหายไปให้มองหาแสงสีขาวแล้วเดินเข้าไป
8.ถ้าคุณกลับไปไม่ทันคุณจะกลับไปไม่ได้อีกเลย
9.ถ้าทำเกิน2ครั้งอายุของคุณจะสั้นครั้งละไป99วัน
ใครที่อ่านแล้วคิดดูให้ดีน่ะถ้าอยากจะสนุกก้อต้องมีอะไรแลกเปลี่ยนและนั่นก้อหมายถึงชีวิตของคุณเองนั้นแหละได้มาจากคัมภีย์เขมรโบราณ
คำเตือน ผู้ใดที่อ่านแล้วต้องนำไปโพสต่ออีก5ครั้งไม่งั้นอีก7วันต่อไปคุณจะมีอันเป็นไปมีเรื่องของการถอดวิญญาณเพื่อออกจากร่างและคุณจะไปได้ทุกที่ๆต้องการ