FBศูนย์ปฏิบัติการติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง แชร์ข้อมูล จากเวปไซต์ สำนักข่าวอิสรา

เปิดงบดุลชัดๆดูสินทรัพย์ บ.เพลินจิตอาเขต คลายปมปริศนา!“เสี่ยตัน อิชิตัน”ยอมขายทิ้งธุรกิจอสังหาฯกลางเมืองให้“พานทองแท้”และครอบครัวชินวัตรกี่พ้นล้าน?

                หลายคนอาจไม่รู้ว่าคอนเนกชันธุรกิจของนายตัน ภาสกรนที เจ้าของเครื่องดื่มชื่อดังนอกจากเชื่อมคนใกล้ชิดนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดังผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังโยง

นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี 

                และอาจไม่รู้ว่าการเชื่อมธุรกิจระหว่างนายตันกับครอบครัวชินวัตรกรณีขายบริษัท เพลินจิต อาเขต จำกัด ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์  และทายาท ผ่านบริษัท เวิร์ธ 

ซัพพลาย จำกัด (ชื่อปัจจุบัน บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด) เป็นเงินเท่าไหร่?

                นั่นก็เพราะไม่ปรากฏข้อมูลต่อสาธารณะ

                แต่ถ้าพิจารณาจาก “สินทรัพย์”ของ บริษัท เพลินจิต อาเขต จำกัด ก่อนเปลี่ยนมือจะพบว่ามีประมาณ 945.7 ล้านบาท หนี้สินประมาณ 640.6 ล้านบาท จำแนกรายละเอียดดังนี้

                ปี 2554  สินทรัพย์ มูลค่า 945,765,086  บาท ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน  อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ  มูลค่า 944,973,840.47  บาท  

                            ปี 2553 สินทรัพย์ 945,786,365  บาท   ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน  อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ  มูลค่า 945,438,681.66  บาท

                ปี 2552   สินทรัพย์ มูลค่า    947,008,323 บาท ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน  อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ     945,903,522.85 บาท

                ปี 2551 สินทรัพย์  มูลค่า  195,533,617  บาท    ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน  อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ   มูลค่า 77,832,676  บาท

                ปี 2550   สินทรัพย์ มูลค่า 668,882,358 บาท  ในจำนวนนี้เป็นที่ดิน  อาคาร และอุปกรณ์สุทธิ   มูลค่า 460,755,386.76  บาท

                หนี้สินแบ่งเป็น

                ปี 2554 มีเงินกู้ระยะยาวจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน  640,500,000 บาท

                ปี 2553 มีเงินกู้ระยะยาวจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน  640,500,000 บาท

                ปี 2552 มีเงินกู้ระยะยาวจากบุคคลที่เกี่ยวข้องกัน   615,000,000  บาท

                ปี 2551  เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 6,498,015 บาท   หนี้สินหมุนเวียนอื่น 32,972,767.53  บาท

                ปี 2550 เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน  671,728.95  บาท  หนี้สินหมุนเวียนอื่น 37,284,468.09  บาท เงินกู้ยืมระยะยาว 630,000,000  บาท

                ทั้งนี้ บริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ทุนจดทะเบียน 4,600 ล้านบาท

                น.ส.พินทองทา ชินวัตร ถือหุ้น  235,939,999 หุ้น หรือ 51.29%

                นายพานทองแท้ ชินวัตร  200,000,100 หุ้น หรือ 43.47% 

                น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร  14,099,999 หุ้น หรือ 3.06%

                คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์  9,959,900 หุ้น หรือ 2.16%  (หุ้นละ 10 บาท)  

                ดังนั้น ถ้าพิจารณาจากสินทรัพย์ที่มีเกือบพันล้านบาท คอนเนกชันธุรกิจระหว่างเสี่ยอิชิตันกับนายพานทองแท้ (คุณหญิงพจมาน) และครอบครัวชินวัตร ย่อมสูงกว่ามูลค่าทางบัญชีอย่างแน่

นอน? 

----------

แกะสัมพันธ์“เสี่ยตัน โออิชิ”เชื่อมธุรกิจ“พานทองแท้ ชินวัตร” และ“สรยุทธ สุทัศนะจินดา”ผ่านอสังหาฯ200 ล้าน 2 ทายาท“ทักษิณ-คุณหญิงอ้อ”กรรมการ บ.เวิร์ธ ซัพพลาย หุ้นใหญ่ โยงครบเครือ

ข่ายการเมือง-สื่อ?

           หลายคนอาจไม่รู้ว่าคอนเนกชันธุรกิจของนายตัน ภาสกรนที เจ้าของเครื่องดื่มชื่อดังนอกจากเชื่อมคนใกล้ชิดนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา นักเล่าข่าวชื่อดังผ่านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ยังโยงนาย

พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อีกคนหนึ่งด้วย

          ปัจจุบันนายพานทองแท้เป็นกรรมการบริษัท 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท นิวโอ๊ค จำกัด บริษัท เพลินจิตอาเขต จำกัด บริษัท ว๊อยซ์ ทีวี จำกัด บริษัท โอคานิท จำกัด และ บริษัท ฮาวคัม สตูดิโอ จำกัด

          โฟกัสที่ บริษัท เพลินจิตอาเขต จำกัด เดิมชื่อบริษัท เสถียรสุต จำกัด จดทะเบียนวันที่ 26 มกราคม 2511 ทุน 20 ล้านบาท ปัจจุบัน 200 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 

1291/1 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร

          ผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 23 สิงหาคม 2554 จำนวน 5 ราย

1.บริษัท ตัน แอสเซ็ท จำกัด (นายตัน ภาสกรนทีเจ้าของ) 76,000 หุ้น หรือ 38% ของทุนจดทะเบียน

2.นางกิติมา ภาสกรนที 44,000 หุ้น หรือ 22%

3.นางสาวอารยา พานิชายุนนท์ 40,000 หรือ 20%

4.นายตัน ภาสกรนที 30,000 หุ้น หรือ 15%

5.นางสาวสุภาภรณ์ เจริญโสภา 10,000 หุ้น หรือ 5%

รวมทั้งสิ้น 200,000 หุ้น

          ต่อมาวันที่ 19 กันยายน 2554 บริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด เข้ามาถือหุ้นใหญ่ 199,998 หุ้น (ดูตาราง) มีกรรมการ 3 คนคือ นายพานทองแท้ ชินวัตร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และ นางกาญจนา

ภา หงษ์เหิน เลขานุการส่วนตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร

          ทั้งนี้ บริษัท เวิร์ธ ซัพพลายส์ จำกัด ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีคนในครอบครัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรเป็นเจ้าของ ผลประกอบการ ปี 2552 รายได้ 286,976,291.25 บาท กำไรสุทธิ 

149,669,010 บาท ปี 2553 รายได้ 939,697 บาท ขาดทุนสุทธิ 534,058 บาท ปี 2554 รายได้ 925,302 บาท ขาดทุนสุทธิ 69,317 บาท

          ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ตัน แอสเซ็ท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2549 ทุน 500 ล้านบาท ประกอบธุรกิจให้เช่าและบริการพื้นที่ ธุรกิจให้บริการสนามฟุตบอล 

ที่ตั้งเลขที่ 225/11 ชั้น 1 ซอยสุขุมวิท63 (เอกมัย) แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 คนคือ นายตัน ภาสกรนที 2,500,000 หุ้น หรือ 50% นางสาววริษา ภาสกรนที 1,028,500 

หุ้น หรือ 20.57% 

นางสาวสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร 1,028,500 หุ้น หรือ 20.57% มีนายนครินทร์ พิมพรัตน์ เป็นกรรมการ

          ขณะที่ถ้าดูข้อมูลทางธุรกิจของบุคคลที่เกี่ยวโยงกับนายสรยุทธจะพบว่า น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม เป็นกรรมการบริษัท ไร่ส้ม จำกัด บริษัท หัวหิน เอส เอส แอสเซ็ท จำกัด และบริษัท ดีเอสที แอ

สเซ็ท จำกัด

          โฟกัสที่ บริษัท ดีเอสที แอสเซ็ท จำกัด จดทะเบียนวันที่ 10 พฤษภาคม 2555 ทุน 100,000 บาท ประกอบธุรกิจ การให้เช่า การขาย การซื้อขายและดำเนินงานด้านอสังหาริมทรัพย์ ที่ตั้งเลขที่ 8 

หมู่บ้านหมู่บ้านอิสระ ซอยรามคำแหง 24 แยก 26 (หมู่บ้านอิสระ) แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ (บ้านของนายตัน) มีผู้ถือหุ้น 3 คนคือนายตัน ภาสกรนที 350 หุ้น นางอิง ภาสกรนที 350 หุ้น 

และ น.ส.สุกัญญา แซ่ลิ่ม 300 หุ้น (จากจำนวนหุ้นทั้งสิ้น 1,000 หุ้น) ทั้ง 3 คนร่วมเป็นกรรมการ

          หาก น.ส.สุกัญญาคือตัวแทนทางธุรกิจของนายสรยุทธ ธุรกิจของนายตัน ภาสกรนที ในวันนี้จึงมีทั้งทุน และเครือข่ายการเมือง (อำนาจรัฐ?) และ เครือข่ายธุรกิจสื่อ?

//www.isranews.org/investigate/71-investigate/7528-2012-07-05-08-37-04.html

//////////

FBตัน โออิชิ 6/7/55

วันนี้มีเรื่องยุ่งๆ ที่ผมกับอิงไม่สบายใจ...ผมไม่เคยมีความคิดเล่นการเมืองและไม่อยากเกี่ยวข้องกับปัญหาการเมืองไม่ว่าจะเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง

ผมจะชอบใจใคร พรรคไหนขอใช้ดุลยพินิจตัดสินใจด้วยตนเองตอนไปเลือกตั้งเมื่อถึงเวลาตามหน้าที่ของประชาชนชาวไทยอย่างแน่นอน 

กรณีทำธุรกิจอสังหาฯ เรียกง่ายๆ ก็คือการซื้อมาขายไป ที่ดินเพลินจิต 1.5 ไร่ พร้อมสัญญาการเช่าปั๊มน้ำมันให้กับอีกบริษัทหนึ่งในราคาที่ผมพอใจตามปกติแค่นั้น ส่วนกรณีการซื้อที่ที่หัวหิน ก็เป็น

การลงทุนกับเพื่อนแทนการฝากเงินที่แบงก์ 

ผมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับธุรกิจใคร พรรคการเมืองไหน 

ปล่อยผมไปตามทางธุรกิจเล็กๆ ของผมเถอะครับ

ยืนยันหนักแน่นอีกครั้งครับ

ตัน อิง และครอบครัว ภาสกรนที

////////

FBโอ๊ค พานทองแท้ 6/7/55

ทีมงานผมก็ชอบซอกแซกไปเอาข้อมูลมาอีกแล้วครับ เป็นโพสต์ของ "ศูนย์ปฏิบัติการติดตามผู้ชุมนุมเสื้อแดง" และเห็นว่าในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ก็นำไปลงด้วยนะครับ โพสต์รูปที่ผมโพสต์

ให้ดูนี้ครับ 

ผมก็ไม่ทราบว่าไอ้ศูนย์ที่ว่านี้คือของหน่วยงานไหนและมีใครอยู่เบี้องหลังนะครับ แต่เห็นทีมงานบอกว่ามีการแชร์ข้อมูลไปมากับพรรคประชาธิปัตย์ และในการชุมนุมของมวลชนเสื้อแดงที่ผ่านมา 

ผู้ที่ติดตามการชุมนุมก็ทราบแต่ว่ามีกลุ่ม"ชายชุดดำ"ที่คอยติดตาม(สาดกระสุนใส่)พี่น้องเสื้อแดงอยู่ ดังนั้นใครที่เป็นอีแอบเกี่ยวข้องอยู่เบื้องหลังศูนย์ฯที่ว่านี้ก็ช่วยชี้แจงเองนะครับ

ผมเองก็ไม่ทราบว่าศูนย์ติดตามเสื้อแดง และพรรคประชาธิปัตย์ จะมาติดตามข่าวพี่ทั้ง2คนนี้ทำไม เพราะพี่ทั้ง2ไม่ใช่คนเสื้อแดง คนหนึ่งก็ทำธุรกิจซึ่งก็ต้องการลูกค้าจำนวนมากจากเสื้อทุกสี อีกคน

หนึ่งก็เป็นพิธีกรข่าวที่มีเรทติ้งสูงสุดในประเทศไทย ผมก็ต้องกราบขอโทษพี่ทั้ง2ไว้ ณ ที่นี้ด้วย

ที่ต้องขอโทษพี่ทั้ง2 ก็เพราะผมทราบดีครับว่า โทษของผู้ที่ถูกหาว่ามาเกี่ยวพันกับผมและครอบครัวนั้น หากการเมืองเปลี่ยนขั้วแล้วท่านจะโดนอะไรบ้าง และก็ทราบดีครับว่าผู้ที่เป็นปฏิปักษ์กับผม

และครอบครัวนั้น ที่ผ่านมาได้รับการปูนบำเหน็จอย่างไรบ้าง ผมจึงไม่อยากให้ใครจะต้องมาเดือดร้อนเพราะผมเป็นต้นเหตุครับ

ในมุมมองของผมพี่ทั้ง2 มีความเป็นกลางทางการเมืองครับ โดยเฉพาะพี่สรยุทธฯ พี่อาจเคยพูดในสิ่งที่ถูกใจพรรคเพื่อไทยพรรคปชป.ก็ย่อมไม่ชอบ พูดถูกใจพรรคประชาธิปัตย์พรรคเพื่อไทยก็ย่อม

ไม่ชอบ แต่ทั้ง2พรรคฯก็ต้องมีนำใจนักกีฬาและยอมรับฟังและน้อมรับสิ่งที่สื่อมวลชนสะท้อนความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนมาวิเคราะห์และปรับปรุงตัว ทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อสังคมมากขึ้น

ครับ

เขียนถึงตรงนี้ผมพึ่งจะนึกขึ้นมาได้ว่า พรรคปชป.พึ่งจะส่งคนไปประท้วงหรือไปยื่นหนังสือต่อว่าพี่สรยุทธที่ช่อง3อยู่ ผมว่าอย่าไปตอแยกับพี่เขาเลยครับ พี่ทั้ง2คนนี้ มีแฟนคลับเป็นจำนวนมาก ไป

ระรานเขามากๆ เกิดแฟนคลับเขาหันมาเชียร์พรรคเพื่อไทยกันทั้งหมด ระวังจะเป็นฝ่ายค้านไปตลอดชีวิตนะครับ