แนวคิดสอนลูกดีๆ จากครูเจน

โมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ กระทู้ครูเจน แทบทุกอันเลยค่ะ

อ่านแทบทุกอันก็ว่าได้ ถ้าไม่ติดว่าไป ต่างจังหวัด หรือ เลี้ยงลูกจนไม่มีเวลานะ

แนวคิดนี้ของครูเจน ไม่เซฟไม่ได้ เพราะมันตรงใจมากกกกกกกกก

เพราะในอนาคต กำลังคิดว่าจะส่งไข่มุกไป กรุงเทพ ไปเรียน รร อินเตอร์ดีๆ สักแห่งใกล้บ้าน

กลัวเหมือนกันว่าสังคมในนั้นจะทำให้ลูกเราเปลี่ยนไป เราจะสอนลูกยังไงดี?

ยังกับครูเจนรู้ใจ ตั้งกระทู้เปิดทางสว่างซะงั้น


คำพูดของครูเจน โมเองได้อ่านยังรู้สึกว่าดีเลย ครูเจนรู้จักพูด รู้จักสอนให้เด็กคิด ยังคิดอยู่เลยว่า ถ้าเป็นเรา จะเรียบเรียงคำพูดดีๆๆแบบครูเจนได้หรือเปล่า

ครูเจนคะ ขออนุญาตแปะไว้ที่บล็อคนะค่ะ




สอนเด็กที่คิดว่าสถานะครอบครัวคือปมด้อยให้ลุกขึ้นสู้เมื่อโดนดูถูกจากเด็กกลุ่มไฮโซ


หนึ่งในคำถามที่เจนได้ยินมาตลอดคือ ฉันอยากให้ลูกเรียนในโรงเรียนที่มีสังคมดีๆ ฉันมีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่าเทอม แต่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อของแพงๆให้ลูกเท่ากับคนอื่นๆหรือถึงมีฉันก็ไม่อยากซื้อให้เพราะกลัวว่าลูกจะฟุ้งเฟ้อจะไม่เห็นคุณค่าของเงิน  และที่สำคัญคือ ฉันอยากจะรู้ว่าถ้าลูกฉันไปเรียนโดยที่ไม่มีสิ่งต่างๆเหล่านี้เท่ากับเพื่อนร่วมห้องหรือสถานะด้อยกว่าเพื่อนร่วมห้อง  ลูกฉันจะโดนดูถูก จะโดนล้อ จะไม่มีใครคบ จะตกไปเป็นชนชั้นล่างเลยหรือเปล่า


วันนี้เจนขอเขียนจากประสบการณ์เท่าที่สัมผัสมา แต่ต้องขอบอกก่อนว่าเป็นแค่ประสบการณ์จากสภาพสังคมย่อยๆสังคมนึงเท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าแต่ละสังคมย่อมมีความแตกต่างกันออกไปและเป็นไปไม่ได้ที่ทุกอย่างจะเหมือนกัน อย่างไรก็ตามน่าจะพอเป็นแนวทางหรือตอบความสงสัยบางอย่างได้อย่างคร่าวๆ

ส่วนตัวเจนทำงานดูแลเด็กที่มาจากครอบครัวฐานะปานกลางค่อนสูงขึ้นไป ถ้าเรียกให้สั้นๆให้เข้าใจง่ายๆก็บรรดาลูกคุณหนู

ก่อนอื่นอยากให้เข้าใจลักษณะของเด็กกลุ่มนี้ ถ้าพวกเขาไม่ชอบใครหรือเกลียดใคร คุณอย่าหวังว่าพวกเขาจะนัดไปตบตีกัน อย่าหวังว่าจะได้เห็นเด็กขึ้นคร่อมจิกผมกระชากเสื้อกระโปรงเปิดเหมือนในคลิป แต่พวกเขาจะซัดกันด้วยคำพูดและก็ไม่ใช่คำพูดประเภทยกเขาดินมาไว้ตรงหน้าหรือแจกฟักแจกกล้วย แต่พวกเขาจะใช้คำพูดแบบตลกร้าย คำพูดแบบเหยียดๆ หรือประชดประชัน เช่น ถ้าเขาจะล้อเพื่อนที่อ้วน เขาจะไม่เรียกว่าอีอ้วน ไม่เรียกยัยช้างน้ำ แต่พวกเขาจะทำท่าเหมือนเตรียมจะไปหลบใต้โต๊ะเพราะรู้สึกว่าแผ่นดินจะไหวเมื่อเพื่อนคนนั้นเดินเข้ามาในห้อง คุณพอนึกออกไหม

ซึ่งถ้ามองในแง่ดีก็คือต่อให้ลูกคุณโดนรังแกยังไงลูกคุณก็ยังกลับบ้านไปแบบครบสามสิบสองไม่มีรอยขีดข่วนฟกช้ำดำเขียวให้พ่อแม่ใจสลาย แต่จริงๆก็ต้องบอกว่าบาดแผลทางใจหลายอย่างนั้นร้ายกว่าบาดแผลทางกายมากมายหลายเท่า

ขอเข้าประเด็นเลยแล้วกัน

คำถามแรกที่เจนคิดว่าคงมีคนอยากทราบคือเด็กทุกห้องแบ่งชนชั้นเป็นกลุ่มๆเลยจริงหรือไม่

คำตอบ ถ้าแบ่งเป็นกลุ่มไหมก็ต้องบอกว่าใช่ และเจนก็คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาเพราะสังคมเด็กหรือแม้กระทั่งผู้ใหญ่เราก็ต้องมีเพื่อนที่สนิท กลุ่มที่สนิท แล้วก็สนิทรองๆลงไป เช่น เพื่อนที่สนิทที่สุดก็อาจเป็นเพื่อนที่นั่งข้างๆวัยเดียวกัน กลุ่มที่สนิทที่สุดคือแผนกที่เราทำงาน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเป็นเพื่อนกับคนในแผนกอื่นไม่ได้ หรือมองว่าทุกคนในบริษัทนอกจากแผนกเราเป็นศัตรู  เด็กก็เหมือนกันพวกเขาก็ต้องแบ่งเป็นกลุ่มๆมีเพื่อนซี้หรือบัดดี้กันทุกคน แต่กับเพื่อนคนอื่นๆหรือเพื่อนร่วมห้องพวกเขาก็สามัคคีกลมเกลียวกันดี ช่วยเหลือกันเต็มที่ ดีจนครูปวดหัวด้วยซ้ำ (เช่น ใครทำการบ้านเสร็จก็มาแปะให้เพื่อนลอกบน facebook, ออกตังค์กันซื้อหนูแฮมสเตอร์มาเป็นสัตว์เลี้ยงประจำห้อง) รักกัน เล่นด้วยกันได้ อะไรๆก็พวกเราแบบนั้น พวกเราแบบนี้ ไม่ได้แบ่งชนชั้นหรือถือตัวอะไร และการแบ่งกลุ่มของพวกเขานั้นก็ไม่ใช่ว่าจะแบ่งตามฐานะทางบ้านตลอด ส่วนใหญ่เป็นการแบ่งตามความชอบมากกว่า เช่น มุ่งเรียนเหมือนกัน บ้าเกาหลีเหมือนกัน ชอบวาดรูปเหมือนกันอะไรทำนองนี้

คำถาม  แล้วที่แบ่งชนชั้นนะไม่มีเลยจริงหรือ

คำตอบ  มี แต่ก็เป็นแค่ส่วนน้อย

คำถาม  ถ้าอย่างนั้นเด็กที่สถานะครอบครัวด้อยสุดจะตกเป็นเป้าถูกเล่นงานมากที่สุดจริงไหม

คำตอบ ไม่จริงเลย จริงแล้วเด็กที่มักจะถูกเพื่อนๆหมั่นไส้หรือนินทามากที่สุด คือเด็กที่ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบมากที่สุด เช่น สวย เรียนเก่ง นามสกุลดี มีของแบรนด์เนม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเด็กมีจุดอ่อนอะไรสักอย่าง เช่น พูดไม่ชัดเพราะลิ้นไก่สั้น (เพียงแต่เด็กกลุ่มที่ถูกแกล้งหรือหมั่นไส้ เพราะเพอร์เฟคจนเพื่อนอิจฉามักจะไม่รู้สึกเลวร้ายเท่ากับเด็กที่ถูกล้อเพราะรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย เรื่องราวที่ออกมาเลยไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่) ส่วนเด็กที่สถานะครอบครัวด้อยกว่าคนอื่นจะโดนหรือไม่นั้นขึ้นกับว่า เพื่อนๆในห้องมีเด็กที่ชอบดูถูกคนอื่นหรือไม่ และถ้ามี เด็กมีศักยภาพเพียงพอที่จะปกป้องตัวเองมากแค่ไหนซึ่งเรื่องนี้สำคัญมาก

คำถาม แล้วถ้าเด็กถูกผลักไสให้ไปเป็นชนชั้นล่าง ไม่มีทางที่จะช่วยอะไรได้เลย ต้องก้มหน้ารับโชคชะตาเพียงอย่างเดียวจริงหรือเปล่า

คำตอบ ไม่จริงเลย สิ่งสำคัญที่สุดคือเด็กต้องรู้จักปกป้องตัวเอง ถ้าเด็กไม่รู้วิธีการ ผู้ปกครองต้องสอน การปกป้องตัวเองไม่ได้หมายความว่าให้เด็กไปตบ ไปตอบโต้แบบหยาบๆ หรือแก้ปัญหาความรุนแรงด้วยความรุนแรงกว่า

แต่คือการสอนให้เด็กเข้าใจว่าเหรียญมีสองด้าน ให้รู้จักคิดบวก ให้รู้จักมองโลกในแง่ดีที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริงไม่ใช่การหลอกตัวเองหรือฝันกลางวัน และถ้าเด็กถูกล้อ เด็กต้องกล้าตอบโต้ เพราะจากประสบการณ์เด็กที่กล้าตอบโต้ จะไม่ค่อยมีใครกล้าล้อมากหรือล้อนาน  แต่ถ้าเด็กเอาแต่ก้มหน้า หรือร้องไห้ หรือเดินหนี เพื่อนที่ล้อจะยิ่งได้ใจยิ่งล้อมากเข้าไปใหญ่และสุดท้ายก็จะกลายเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากในชีวิตของเด็กไปจนเรียนจบ

ยกตัวอย่างกรณีนึง เด็กคนนึงที่บ้านเป็นตึกแถว ข้างล่างเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ข้างบนใช้พักอาศัย จริงๆต้องบอกว่าฐานะการเงินครอบครัวเด็กไม่ได้ต่ำต้อยอะไร เพียงแต่มองจากสายตาเด็กที่ชอบดูถูกคนอื่นเด็กคนนี้ก็เป็นแค่ “ลูกคนขายก๋วยเตี๋ยว”

เด็กคนนี้จบจากโรงเรียนที่มีความหลากหลายมาก่อน เด็กใช้ของธรรมดา เงียบๆ ขี้อาย ตั้งใจเรียน ไม่ค่อยกล้าตอบโต้ พอเข้ามาใหม่เด็กถูกเพื่อนร่วมห้องกลุ่มนึง ขอเรียกว่ากลุ่มที่พยายามจะเป็นไฮโซ(High Society) แล้วกัน(จริงๆเด็กกลุ่มนี้ก็ไม่ได้มาจากครอบครัวที่รวยที่สุดในห้องเพียงแต่เป็นพวกชอบดูถูกคนอื่น)ล้อว่าไม่มีเงินซื้อของดีๆเพราะบ้านจน เด็กเสียใจ อายคนอื่น กลับไปบ้านเอาแต่ร้องไห้ แม่เห็นลูกซึมๆก็ปลอบใจ บอกว่าอย่าไปสนใจ ผ่านไปอาทิตย์นึง เด็กไม่ดีขึ้น เด็กโดนล้อทุกวันแล้วก็กลับไปร้องไห้ทุกวัน พอพ่อรู้เข้าก็ทนไม่ไหวเลยพาไปซื้อของดีๆของแพงๆเหมือนที่เพื่อนๆมี ด้วยความหวังว่าจะแก้ปัญหานี้ได้

เด็กเข้านอนและตื่นไปโรงเรียนเช้าวันใหม่อย่างมีความสุข เด็กเอาของมาอวดเพื่อนๆ แต่แล้วความสุขที่ใช้เงินซื้อก็จบลงในสามวินาที เมื่อกลุ่มไฮโซบอกว่า “กระเป๋าสวยจัง ว่าแต่พ่อเธอต้องขายก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งเลยหรือเปล่านี่กว่าจะซื้อได้ 555” “เมื่อวานเราผ่านบ้านเธอ ถามหน่อยสิตึกแบบนั้นข้างบนมันนอนได้จริงๆหรือ เรานึกว่าเป็นโกดังหรือว่าเล้าหมู”

เด็กกลับมาบ้านแล้วก็ร้องไห้เหมือนทุกวัน แต่คราวนี้ดูเหมือนว่าจะมองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ เอาละสิ กระเป๋าแบรนด์  ของแพง ไอโฟน เพื่อลูกพ่อแม่หลายคนกัดฟัดให้ได้ เงินไม่มีสินเชื่อส่วนบุคคลก็พอไหว แต่จะให้ปิดร้านก๋วยเตี๋ยวหรือขายตึกไปซื้อบ้านเดี่ยวเพื่อไม่ให้ลูกถูกล้อ รักลูกแค่ไหนก็คงทำไม่ได้แน่ๆ

พอดีว่าครอบครัวนี้แม่เด็กพอจะรู้จักกับเจนเลยมาปรึกษา เจนเลยเรียกเด็กมาคุยแล้วบอกว่าลองนึกดูตามความเป็นจริงว่าชีวิตเรามันย่ำแย่ถึงขนาดที่เราต้องร้องไห้ทุกวันต้องรู้สึกแบบนี้เลยจริงหรือ เหรียญนะมันมีสองด้านเธอจ้องมันแค่ด้านเดียวหรือเปล่า

เอาละมาดูกัน หนูบอกว่าพ่อเพื่อนๆกลุ่มไฮโซที่ล้อหนูเขาเป็นผู้จัดการ เป็นผู้อำนวยการเป็นรองประธาน ส่วนหนูก็แค่ลูกคนขายก๋วยเตี๋ยว ถ้ามองจากมุมนี้ที่กลุ่มไฮโซพูดครูบอกเลยว่าเป็นความจริงอย่างที่สุด แต่ถ้ามองอีกด้านพ่อหนูเป็นเจ้าของกิจการแต่พ่อเพื่อนๆกลุ่มนั้นถึงจะตำแหน่งใหญ่ก็แค่ลูกจ้าง สักวันถ้าเจ้านายไม่พอใจ เปลี่ยนขั้วอำนาจ หรือพอเกษียณก็ไม่มีงานทำ แต่พ่อหนูไม่มีใครไล่ออกได้ ไม่ต้องก้มหน้ารับคำสั่งจากใคร ร้านอยู่ไปนานๆยิ่งเก่าแก่ ยิ่งมีชื่อ แถมไม่มีกำหนดว่า60ปีแล้วต้องปิดกิจการ

หนูบอกบ้านเพื่อนๆกลุ่มนั้นหลังใหญ่ๆอยู่หมู่บ้านมีชื่ออีกคนก็คอนโดหรู บ้านหนูก็แค่ตึกแถวเก่าๆ กรณีนี้ครูก็เห็นด้วยกับกลุ่มไฮโซอีกเช่นกัน  แต่ถ้ามองอีกมุมบ้านหลังใหญ่ๆเหล่านั้นอยู่แถวไหน ชานเมืองไม่ก็ปริมณฑล มาโรงเรียนต้องตื่นแต่ยังไม่สว่าง แล้วดูนี่ (พอดีเจนมีหนังสือพวกทรัพย์สินขายทอดตลาดของธนาคาร) เปิดดูสิบ้านพวกนั้นถ้าหนูมีเงินเมื่อไหร่ก็ซื้อได้ ซื้อทีละสิบหลังยังได้ บ้านบางหลังขายทอดตลาดมาสามรอบแล้วก็ยังขายไม่ได้ คอนโดหรูแล้วไง คอนโดหรูแค่ไหนก็แค่ที่ในอากาศเกิดซวยเพื่อนข้างห้องชอบซ้อมดนตรีก็ไม่ต้องหลับต้องนอนกัน ตึกแถวที่หนูอยู่ ใช่มันก็แค่ตึกแถวแต่ทำเลที่ตั้งนะย่านไชน่าทาวส์เชียวนะ บางทีมีเงินเป็นสิบล้านก็ยังซื้อไม่ได้ หนูเปิดหนังสือดูสิมีลงขายทอดตลาดบ้างไหม  ข้างนอกมันอาจจะดูไม่ดีแต่หนูก็มีห้องส่วนตัว มีคอม มีทีวี มีพร้อมทุกอย่าง กลับมาบ้านหนูก็เจอพ่อเจอแม่ ไม่ต้องมานั่งรอวันนี้พ่อติดประชุมเมื่อไหร่จะมารับนะ หรือกลับมาบ้านไม่มีใคร ต้องนั่งเหงาเพราะพ่อแม่ยังไม่กลับจากที่ทำงาน

แล้วเจนก็ยกประเด็นพร้อมกับอธิบายเหตุผลแย้งในเรื่องอื่นๆที่เด็กรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยต่อ

หลังจากนั้นเจนก็ถามเด็กว่าครูจะถามหนูแต่หนูไม่ต้องตอบครูหนูตอบตัวเองก็พอ หนูลองคิดดูอีกทีว่าหนูต่ำต้อยด้อยกว่าเพื่อนๆกลุ่มไฮโซจริงหรือเปล่า

ถ้าคำตอบคือไม่ หนูก็เลิกรู้สึกว่าตัวเองมีปมด้อยได้ซะทีเพราะไม่มีเหตุผลใดที่คนมีมากกว่าจะต้องมาอิจฉาคนที่มีน้อยกว่าหรอกจริงไหม

แต่ถ้าคำตอบคือ ใช่  ครูถามหน่อยตอนนี้หนูก็มีกระเป๋าแบรนด์เนม หนูก็มีอุปกรณ์ไฮเทค หนูก็เรียนโรงเรียนเดียวกันกับพวกกลุ่มไฮโซทั้งๆที่พ่อหนูจนกว่า ทั้งๆที่บ้านหนูมีรายได้น้อยกว่า แต่พ่อก็ยังหามาให้ ครูถามหนูว่าถ้าคนๆนึงมีเงินพันบาทแล้วแล้วแบ่งให้หนูสิบบาทกับอีกคนมียี่สิบบาทแล้วแบ่งให้หนูสิบบาทหนูจะรู้สึกดีกับคนไหนมากกว่า คนที่มียี่สิบจริงไหม หนูลองคิดดูว่าความรักที่หนูได้รับจากครอบครัวนั้นไม่มีคุณค่าพอที่จะชดเชยอะไรเลยจนหนูต้องรู้สึกแย่แบบนี้เลยเชียวหรือ

หนูควรจะอิจฉาเพื่อนกลุ่มนั้นหรือพวกเขาควรจะอิจฉาหนู หนูลองคิดดูให้ดีๆ

เอาละต่อไปนี้ ถ้าหนูถูกล้ออีกหนูก็ตอบไปเลย บอกพวกเขาด้วยเหตุผลที่ครูยกให้ฟังแบบนี้นี่ละ แล้วพรุ่งนี้ก่อนไปโรงเรียนหนูยืนที่หน้ากระจกบอกตัวเองว่า “ฉันไม่มีอะไรด้อยกว่าพวกนั้นเลย” และเมื่อไหร่ก็ตามที่หนูเริ่มรู้สึกอะไรแบบนี้อีก ครูอยากให้หนูจำไว้ว่า “ไม่มีใครทำให้เราต่ำต้อยได้ถ้าเราไม่ยอมรับมัน”

วันต่อมาเด็กก็ไปโรงเรียนแล้วก็ถูกเพื่อนกลุ่มนั้นล้อเหมือนทุกวัน แต่เที่ยวนี้เธอไม่ยอม เธอก็ตอบโต้ด้วยเหตุและผลที่เจนสาธยายให้ แน่นอนว่าเพื่อนกลุ่มไฮโซก็ยังไม่ยอมง่ายๆยังหาเหตุผลมาต่อจนได้ แต่เที่ยวนี้เธอก็ไม่ยอมเหมือนกันก็สวนกลับได้ทุกประเด็น จากไก่รองบ่อนก็เริ่มสูสี พอเริ่มสูสีคราวนี้เพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ชอบกลุ่มไฮโซอยู่แล้วเห็นว่ามีคนพอสู้กลุ่มไฮโซได้ก็โดดร่วมวงเข้ามาช่วยเธอ “บ้านเขาขายก๋วยเตี๋ยวแล้วไง ลุงเราก็ขายอาหารรายได้วันละเป็นหมื่นหัดมองโลกให้มันกว้างๆหน่อย” “เราก็ไม่อยากยุ่งหรอกนะ แค่อยากเล่าให้ฟังว่าพ่อเราก็เป็นเจ้าของโรงงาน พ่อชอบเล่าว่าเรียกพวกผู้จัดการมาด่าทุกวันไล่ออกไปก็เยอะ บางคนเงินเดือนก็แค่หมื่นกว่าบาท ยังไงเป็นเจ้าของกิจการถึงจะเล็กแค่ไหนก็ย่อมดีกว่า”  

พอหนักๆเข้าเพื่อนกลุ่มไฮโซเห็นท่าไม่ดี เห็นว่าถ้าไม่เลิกมีแววจะโดนซัดกลับหนักกว่า จากปมเด่นที่ภูมิใจก็เริ่มไม่แน่ใจว่าถ้าไม่หยุดยังจะเด่นต่ออีกไหม แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าถ้าพวกที่บ้านรวยกว่าเรามายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามคราวนี้เห็นทีจะสู้ไม่ไหว  ก็เลยเริ่มถอยเริ่มไม่มายุ่งไม่ตอแยอะไรกับเด็กคนนี้อีก

ส่วนเด็กคนนี้ก็กลายเป็นฮีโร่ของเพื่อนๆคนอื่นๆที่ไม่ชอบกลุ่มไฮโซ แล้วเด็กคนนี้ก็มีเพื่อน  เป็นที่รักของเพื่อนๆแล้วก็ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนได้อย่างมีความสุข ไม่ต้องรู้สึกอะไรอีกกับการที่ๆบ้านขายก๋วยเตี๋ยว ของแพงๆของแบรนด์เนมเด็กก็ไม่ได้สนใจอีกต่อไปแล้วก็ไม่เคยร้องขอให้พ่อกับแม่ซื้อของอะไรแบบนี้ให้อีก

คำถาม  สรุปว่าเรื่องความแตกต่างทางฐานะไม่ใช่เรื่องน่าห่วง

คำตอบ ถ้าหมายถึงกลัวว่าเด็กจะโดนดูถูกหรือไม่มีใครคบไม่น่าห่วงเท่าไหร่ ประเด็นที่น่าห่วงจริงๆคือเด็กยอมรับความแตกต่างได้ไหม เพราะเด็กบางคนต่อให้ไม่มีใครล้อหรือดูถูกแต่ก็รู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยด้อยกว่าแล้วก็ทุกข์เองซึ่งในกรณีนี้การแก้ปัญหาค่อนข้างยากและซับซ้อนกว่ามาก


ปล.เนื่องด้วยบทความนี้มีการกล่าวถึงเด็กที่ดูแลในหลายๆด้าน เรื่องที่เล่ามานั้นจึงจำเป็นที่จะต้องผ่านกระบวนการเข้ารหัส

ปล2.เหตุผลที่ยกให้เด็กฟังเป็นไปตามแนวทางการสอนให้คิดบวกให้กล้าตอบโต้  เจนไม่ได้มีอคติ ทรรศคติ ดูถูก ดูแคลน ไม่ว่าใครจะอยู่บ้านเดี่ยว คอนโด กรุงเทพชั้นใน ชั้นนอก หรือส่วนไหนของประเทศ จะมีตำแหน่งหน้าที่อะไร เป็นลูกจ้างหรือไม่ เงินเดือนเท่าไหร่ อะไรในทำนองนี้แต่อย่างใดทั้งสิ้น ขอได้โปรดกรุณาเข้าใจในส่วนนี้ด้วย

ปล3.วิธีการที่เจนสอนเด็กเป็นวิธีการสอนเพื่อให้เด็กปกป้องตัวเองจากเด็กด้วยกัน ซึ่งถ้าเป็นผู้ใหญ่แล้วใช้วิธีนี้กับเด็กส่วนตัวนั้นเจนเองก็มองว่าน่าจะเลือกใช้วิธีอื่นมากกว่า







 

Create Date : 01 กุมภาพันธ์ 2555
2 comments
Last Update : 1 กุมภาพันธ์ 2555 15:23:04 น.
Counter : 750 Pageviews.

 

ดีใจที่ชอบนะคะ เจนรวบรวมกระทู้ทุกอันที่ตั้งไว้เอาไว้ในบล็อก ว่างๆลองไปดูก็ได้นะคะ

 

โดย: JanE & IK 4 กุมภาพันธ์ 2555 12:42:41 น.  

 

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะค่ะ ปีนี้ลูกจะเรียนมหาลัยในกรุงเทพพอดียังพูดกับลูกว่าแม่มีแต่ค่าเทอมกับค่ากินให้ แต่ค่ากระเป๋าแบรนของใช้แบรนไม่มีนะลูกยังเครียดอยู่เลย ว่าลูกจะอยู่ได้ไม๊ เพราะเราอยู่ในหน่วยงานราชการเงินเดือนน้อยอยู่แล้วค่ะ

 

โดย: x IP: 182.52.114.14 7 กุมภาพันธ์ 2555 10:44:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Miss Suika
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Lilypie First Birthday tickers Lilypie Second Birthday tickers

เป็นคุณแม่ธรรมดาๆๆตัวเล็กๆคนนึง ที่ชอบทำเค้กเป็นที่สุด ชอบชอปปิ้ง และชอบไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ความรักที่มีให้ครอบครัว ลูกและสามีนั่นไม่ธรรมดา เป็นรักยิ่งใหญ่จากผู้หญิงคนหนึ่ง

lozocat


Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
1 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Miss Suika's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.