<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
31 สิงหาคม 2553
 

พื้นที่สีเขียว...กับไม้ล้อมทั้ง 7


: เข้าหน้าสารบัญหลักเพื่อดูทุกหัวข้อ..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : ประสบการณ์ผ่านเต้า (ตัวเอง)..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : สวนหย่อมลอยฟ้าราคาประหยัด..."คลิ๊กที่นี่"

บทความแนะนำ : สวนกล้วยลอยฟ้าบนอาคารสูง 6 ชั้น..."คลิ๊กที่นี่"






"แผนภูมิแสดงเฉพาะไม้ยืนต้นภายในบ้าน"
หมายเลข 1 2 3 4 5 6 7 เป็นการลงไม้ล้อมใหม่รวม 7 ต้น
ปาล์มฟ็อกเทล, ระฆังเงิน, ขาวพวง, บัวสวรรค์, โมกลา, มะไฟ และเงาะ

วงกลมสีเขียวอื่น ๆ เป็นกลุ่มเฉพาะไม้ยืนต้นที่มีอยู่เดิม
ไม้ขนาดเล็ก, ไม้น้ำ และไม้อื่น ๆ ไม่ได้นำมารวมอยู่ในแผนภูมินี้

A มุมพักผ่อนในบริเวณโรงเลี้ยงไก่
B มุมพักผ่อนเพิ่มใหม่ในบริเวณโรงเลี้ยงห่าน



“ขยายพื้นที่สีเขียวด้วยไม้ล้อม" ทุกครั้งที่คนในบ้านหายไป ต้นไม้และน้องหมาหน้าใหม่จะเกิดขึ้นเสมอ การหายไปของคนในบ้านเมื่อครั้งแรกนั้น การขยายพื้นที่สีเขียวไม่ยุ่งยาก ส่วนใหญ่เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก ไม้เลื้อยขนาดใหญ่อย่างหิรัญญิการ์ซื้อมาตั้งแต่ยังเป็นเบบี๋ เพิ่มแค่ต้นเดียว ควบคุมไว้ไม่ให้มันโตมาก แต่ไฮไลท์ของการขยายพื้นที่สีเขียวในครั้งนั้นคือกล้วยกว่า 300 ก้อน ถูกหอบหิ้วเข้ามาห้อยโหนตามแนวข้างรั้วบ้านและใต้ต้นไม้ที่มีอยู่เดิม บางส่วนแปะติดไว้กับต้นไม้หรือขอนไม้ ตอนนั้นพวกเราถือว่ามือใหม่หัดเลี้ยงกล้วย สองปีผ่านไปก้อยังคงเป็นมือใหม่หัดเลี้ยงกล้วยเหมือนเดิม เพราะการเลี้ยงกล้วยไม่ง่ายเหมือนปลูกต้นไม้ทั่วไป

บางมุมกับน้องกล้วยทั้งหลาย


อีกมุมหนึ่งข้างบ่อน้ำ (เก็บมาไม่หมด) ยังมีอีกหลายมุมสำหรับกล้วย



ปลายปี 2552 ถือเป็นครั้งที่สองที่คนในบ้านหายไปอีก เหลือคนเป็น ๆ ที่อยู่บ้านเป็นประจำแค่คนเดียวเท่านั้น และมีเพื่อนเป็นน้องหมาพันธุ์เล็กอีก 3 ตัว คุณน้องสาวบอกว่าเวลากลางคืนบ้านจะเงียบและวังเวง หากน้องหมาไม่เล่นหรือมีส่งเสียงดัง ทุกอย่างจะดูนิ่งและเงียบมาก บางครั้งแม้กระทั่งน้ำหยดยังได้ยินเสียงเลย ดังนั้นบ้านเราจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ให้ได้บรรยากาศใหม่ ๆ เพื่อลดความวังเวงลง และมันจะต้องเป็นสาธารณะประโยชน์อันยิ่งใหญ่ในอนาคตด้วย นั่นคือการขยายพื้นที่สีเขียว และการขยายพื้นที่สีเขียวในครั้งนี้ซับซ้อนกว่าครั้งแรก เพราะจะมีการถล่มและดัดแปลงสิ่งปลูกสร้างเดิมในบางส่วนให้เล็กลง เพื่อให้ได้พื้นที่ปลูกไม้ยืนต้นเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อยและเพิ่มจุดนั่งเล่นให้มีมากขึ้น






“สเปคไม้ล้อมที่ต้องการ" เป็นความต้องการของบ้านเรา อาจไม่เหมาะกับบ้านอื่นนะคะ การขยายพื้นที่สีเขียวในครั้งนี้พวกเราเปลี่ยนใจไต่ไปเล่นไม้ล้อมยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง (ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่จะทะยานไปที่กว่า 15 เมตร) สำหรับไม้ยืนต้นขนาดเล็กหรือขนาดกลางที่ต้องการ จะมีการควบคุมไม่ให้สูงมากเกินไป นั่นหมายถึงว่าต้นไม้ที่จะล้อมเข้ามาต้องตัดแต่งได้ เมื่อตัดแต่งแล้วจะไม่เสียทรง มีไม้หลายชนิดที่ตัดแล้วเสียทรงนะคะ และพวกเราไม่ต้องการไม้เบบี๋ เพราะไม้ยืนต้นใช้เวลานานกว่าจะเติบโต การใช้บริการไม้ล้อมจึงสะดวก เห็นผลเร็วและแน่นอนกว่า แต่ฐานะที่บ้านไม่ดีนัก จึงเลือกแต่ไม้ขวัญใจคนยากมาทั้งหมด ซึ่งอายุไม้ล้อมของเราในครั้งนี้อายุอยู่ที่ 10, 7, 5, 3 ปี ตามลำดับ

ดูเหมือนภาวะโลกร้อนจะรุนแรงเพิ่มขึ้นทุกปี และปีนี้ 2553 ร้อนมากจริง ๆ วัดเรทติ้งจากอาการของน้องหมา พวกมันงอแงแทบจะไม่ยอมออกนอกห้องเลย ซึ่งพวกมันไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน ปกติเมื่ออากาศร้อนจัด ในบ้านจะมีบางจุดพอจะเลี่ยงร้อนได้บ้าง แต่ปีนี้เก้าอี้ไม้ทุกจุดร้อนก้นทั้งหมด คุณน้องสาวอยู่ที่อยู่บ้านบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ดังนั้นการขยายพื้นที่สีเขียวด้วยไม้ล้อมถือเป็นวางแผนที่หวังผลต่อเนื่องในระยะยาว และหวังไว้เพื่อสร้างบรรยากาศให้กล้วยทั้งหลายมีสุขภาพที่ดีตามภูมิทัศน์ใหม่ที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมามีปัจจัยบางอย่างที่ควบคุมไม่ได้ในการดูแล จึงต้องอาศัยธรรมชาติให้มาร่วมด้วยช่วยกันดูแลนั่นเอง

การหาไม้ยืนต้นให้ได้ตามสเปคไม่ใช่เรื่องง่าย พันธุ์ไม้ยืนต้นมีมากเกินกว่าที่เราจะสืบค้นและเข้าใจได้ ช่วงแรกกำหนดสเปคไว้สูงมาก เมื่อเวลาผ่านไปสเปคจะตกลงมาเรื่อย ๆ แม้ว่าเรากับคุณพี่ชายจะอยู่กรุงเทพฯ แต่ท่านเป็นแรงหลักในการดูแลต้นไม้ทั้งหมดในบ้าน ส่วนการทำความสะอาดและรดน้ำจะเป็นคุณน้องสาวที่เฝ้าบ้าน ดังนั้นเมื่อเราต้องการต้นอะไร จะต้องส่งชื่อไปให้ท่านอนุมัติก่อน คือความต้องการของเราต้องสอดคล้องกับคนที่จะดูแลด้วย หากคนดูแลไหวและไม่มีปัญหาจึงจะโอเคนะคะ

พวกเราถูกโฉลกกับไม้ที่มีกิ่งก้านแตกออกทางด้านข้างมากว่ากิ่งก้านที่ชี้โด่งขึ้นไปตรง ๆ และอยากได้ต้นไม้ที่มีกิ่งก้านดูโปร่งตาสักนิดหนึ่ง ไม่แน่นทึบมากจนเกินไป และถ้าจะเป็นไม้พุ่มก้ออยากให้เป็นพุ่มสูงอยู่ข้างบน จะไม่เอาไม้ที่เป็นพุ่มมาตั้งแต่ข้างล่าง คือชอบต้นไม้เอวลอยสักหน่อย ตลอดจนต้นไม้ที่ต้องการไม่ควรจะผลัดใบแบบมโหฬาร เพราะสงสารคุณน้องสาวที่ต้องดูแลเก็บกวาด ดังนั้นถ้าเป็นไม้สไตล์ใบเล็กแล้วผลัดใบ เช่น หูกระจง ประดู่ ปีป ฯลฯ แบบนี้นรกแตกสำหรับคนดูแลแน่นอน ดังนั้นการเลือกชนิดของต้นไม้มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องคำนึงถึง รวมถึงทัศนวิสัยที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่จะปลูกของไม้ที่ต้องการด้วย

กรณีเป็นไม้ดอกก้ออยากเห็นดอกได้เรื่อย ๆ ถ้าจะออกดอกได้ปีละครั้งควรจะมาแบบทยอยบานทยอยโรยได้ในเวลาไม่ต่ำกว่า 1 เดือน เช่น หิรัญญิการ์ แม้ว่าดอกจะอายุสั้นมาก 1-2 วัน แต่ผลัดกันบานผลัดกันโรย ได้เห็นช่อดอกต่อเนื่องคุ้มค่ายาวนานกว่า 2 เดือน แม้ว่าจะออกปีละครั้งก้อตาม คือไหน ๆ จะมาให้เห็นก้อขอให้เห็นแบบยาวนานนิดหนึ่ง และถ้าจะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ติดมายิ่งดี ส่วนสีของดอกและดีไซน์ไม่ได้กำหนดตายตัว บางครั้งได้ดีไซน์ที่แปลกตา แต่คุณสมบัติข้ออื่นสำคัญกว่า ก้อต้องทิ้งความแปลกตานั้นไป

สีและลักษณะของลำต้นมีอิทธิพลทางด้านสายตา เราพบว่าต้นไม้ที่มีสีเข้มออกแดงหรือออกดำ ลำต้นตะปุ่มตะป่ำ มีลวดลาย จะให้ความโดดเด่นกว่าไม้ที่มีลำต้นเรียบและสีออกเรียบ ๆ แต่บางทีก้อขึ้นกับอายุของต้นไม้ด้วย พวกเราอยากได้ลำต้นที่มีเปลือกมากว่าลำต้นเรียบมัน เพราะสามารถนำกล้วยไปเกาะได้ เราเคยเห็นลำต้นไม้สีดำมะเมื่อม มองว่าคลาสสิคดี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรสนิยม เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขณะเดียวกันต้นไม้ที่มีลำต้นสากมาก ๆ หรือมีเสี้ยนจะไม่ชอบเลย เช่น พืชในตระกูลปาล์มบางชนิด

ไม้ให้ผลบางชนิดน่าสนใจถ้าสภาพแวดล้อมพอจะอำนวยอยู่บ้าง หากจะให้ได้มากว่านั้น เช่นไม้ผลบางชนิดสามารถเรียกนกได้ หรือไม้บางชนิดนกจะชอบมาทำรัง หรือต้นไม้บางชนิดสามารถเรียกแมลงสวยงามได้ดี คือต้นไม้ส่วนใหญ่ให้ร่มเงาและความร่มรื่น อันนี้เป็นต้นทุนเดิมที่ติดต้นไม้มาทุกต้นอยู่แล้ว แต่ถ้าไม้นั้นมีความสามารถพิเศษในด้านอื่นถือว่าเป็นผลพลอยได้ที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

การปลูกต้นไม้ไม่ควรชิดรั้วบ้าน หากจะชิดรั้วบ้านต้องควบคุมได้ไม่ให้โผล่กิ่งก้านข้ามไปยังรั้วของคนอื่น เราเห็นฆ่ากันตายมาหลายร้อยศพแล้ว หลายต้นในบ้านของเราที่จะปลูกในครั้งนี้ จะเห็นว่าชิดรั้วบ้านอยู่บ้าง แต่ถือว่าโชคดีที่สภาพแวดล้อมจะไม่มีปัญหากระทบกับข้างบ้านในอนาคต ดังนั้นการเลือกไม้และจุดลงต้นไม้แต่ละชนิดเป็นเรื่องสำคัญ

พวกเราหลีกเลี่ยงไม้โตเร็ว อย่างเช่น มะม่วง แม้ว่ามะม่วงต้นเดิมที่บ้านจะถูกจำกัดความสูงได้ แต่ด้วยความที่เป็นไม้โตเร็ว กิ่งก้านมโหฬาร คุณพี่ชายเป็นนักบัญชีตัวยง แต่เกิดมาเพื่อทำลาย ชอบฟันต้นไม้ชนิดที่โกร๋นคาต้น ตอนนี้ท่านยังปีนป่ายขึ้นไปฟันไหว แต่เมื่อท่านแก่ชราคงปีนขึ้นตัดและฟันกิ่งของมันไม่ไหว จ้างคนมาฟันก้อไม่ถูกใจท่าน ดังนั้นเวลาเลือกต้นไม้เราจึงต้องบรรจุสเปคนี้เข้ามาด้วย ลองเทียบดูว่ามะม่วงอายุ 5 ปี กับไม้ชนิดอื่นอายุ 5 ปี มันต่างกันมากขนาดไหนนะคะ? และไม้ยืนต้นขนาดใหญ่หลายชนิดอาจไม่ใช่ไม้ที่เข้าข่ายโตเร็วก้อได้

หลายคนถือเคล็ดควรมีไม้มงคล เช่น ขนุน จะหนุนค้ำจุนบ้านเรือน สมัยก่อนเขาปลูกในสวน หนุนกันร่ำรวยขายผลได้ แต่ถ้าเอามาปลูกในบ้านพื้นที่น้อย ก้อหนุนเหมือนกัน หนุนให้บ้านพินาศสันตะโรนะคะ บ้านเรามีความคิดเห็นตรงกัน ไม่ใส่ใจไม้มงคลและไม่เชื่อในชื่อที่เป็นมงคลและไม่เชื่อว่าชื่อต้นไม้ที่ไม่เป็นมงคลจะทำความอัปมงคลให้กับบ้าน มันขึ้นอยู่กับว่าเหมาะสมกับความต้องการหรือไม่เท่านั้นเป็นพอ

จากสเปคที่วางไว้คร่าว ๆ ในข้างต้น สุดท้ายหวยไม้ล้อมยืนต้นที่ออกมามีขนาดลดหลั่นกันไปตามสภาพตำแหน่งของพื้นที่ ๆ จะปลูกจำนวน 7 ต้น แยกออกเป็น 3 โซน กว่าจะคลอดออกมาในเวอร์ชั่นนี้ ต้องปรับกันหลายยก เราไม่ได้ต้นไม้ที่มีสเปคตามต้องการครบถ้วน เพราะคงไม่มีต้นไม้ชนิดไหนที่เพอร์เฟ็กซ์ได้ขนาดนั้น คนเรายังมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันเลย ต้นไม้ก้อไม่ต่างกัน แม้แต่ไม้ชนิดเดียวกันยังให้รูปร่างที่ต่างกัน ไม้ล้อมทั้ง 7 มีรายละเอียดตามนี้นะคะ

1. ไม้ล้อมดูใบและดูลูก “ปาล์มฟ็อกเทล” เป็นไม้ขนาดกลาง 10-15 เมตร
2. ไม้ล้อมดอกหอม “ระฆังเงิน” หรือ “ตะลุมพุก” เป็นไม้ขนาดกลาง 5-10 เมตร
3. ไม้ล้อมดอกหอม “ขาวพวง” เป็นไม้ได้ตั้งแต่ขนาดพุ่มเตี้ย-12 เมตร

4. ไม้ล้อมดอกหอม “บัวสวรรค์” เป็นไม้ขนาดเล็ก 2-5 เมตร
5. ไม้ล้อมดอกหอม “โมกลา” เป็นไม้ขนาดเล็ก 2-5 เมตร
6. ไม้ล้อมกินผล “มะไฟหวาน เนื้อสีม่วง” เป็นไม้ขนาดกลาง 10-15 เมตร

7. ไม้ล้อมกินผล “เงาะโรงเรียน” เป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่


“1. ปาล์มฟ๊อกเทล" ปาล์มฟ็อกเทล (Foxtail palm) หรือปาล์มหางจิ้งจอก หรือปาล์มหางหมาป่า เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง นำร่องนำมาปลูกเป็นต้นแรก สาเหตุที่เรียกใช้บริการของปาล์ม เพราะคุณพี่ชายกับเรามีชื่อเล่นที่ขึ้นต้นด้วยตัว ป. (ฮา) และเนื่องจากการลงไม้ในโซนแรกนี้ต้องการ 3 ต้น แต่ไม่ได้ไม้มาในวันเดียวกันทั้งหมด ทำให้พบว่าวางแผนผิดพลาดในตำแหน่งที่ลง คิดว่าจะย้ายฟ็อกเทลออกไป แต่ในที่สุดก้อไม่ได้ย้าย ให้ออกแนวไม่ตั้งใจบ้าง เพราะอยากได้ป่าเล็ก ๆ ภายในบ้านมากกว่าความสวยงามที่เป็นระเบียบ



ปาล์มมีหลายชนิด แต่ละชนิดมีดีไซน์ที่แตกต่างกันออกไปทั้งใบและลำต้น สำหรับปาล์มฟ็อกเทลเมื่อโตเต็มที่จะสูงประมาณ 10-15 เมตร ถ้าสมบูรณ์มาก ๆ อาจทะยานสูงมากกว่านี้ ซึ่งถ้ามันจะสูงมากกว่านี้ก้อไม่มีปัญหาอะไร เพราะมันไม่ใช่ไม้ที่ต้องตัดแต่ง ไม่ต้องดูแลมาก การปลูกปาล์มอยู่บนพื้นที่กว้างขวาง อาจปลูกติดกันเป็นกลุ่ม หรือปลูกเป็นแถวก้อดูสวยงาม เราคิดว่าบนพื้นที่กว้างขวางมีความเหมาะสมกว่าบนพื้นที่แคบ เพราะจะเห็นดีไซน์เขาเต็มสายตา แต่ด้วยความที่ฟ๊อกเทลไม่มีกิ่งก้านระเกะระกะ เอวลอยสูงตลอดกาล เราจึงคิดว่ามันเหมาะกับพื้นที่น้อยด้วยเช่นเดียวกัน



ปาล์มฟ๊อกเทลเป็นพืชในวงศ์ Palm พืชในวงศ์ปาล์มที่เราเห็นกันบ่อย ๆ เช่น มะพร้าว, ต้นตาล, ระกำ, สละ และหมากชนิดต่าง ๆ การที่เรียกฟ็อกเทลว่าปาล์มหางจิ้งจอกหรือหางหมาป่านั้น เกิดจากลักษณะใบเป็นพวงคล้ายหางสัตว์เหมือนหางของจิ้งจอกนั่นเอง หลังลงปาล์มไปได้ประมาณ 2 สัปดาห์ เราพบน้องปรอทมาทำรังในบ้าน โดยน้องปรอทจะใช้ต้นปาล์มเป็นจุดแวะเติมน้ำมันก่อนที่จะบินเข้ารังที่ต้นวาสนา เราได้เขียนเรื่องราวของปรอทไว้อย่างละเอียด : ดูบทความที่เกี่ยวข้อง..."คลิ๊กดูน้องปรอทหน้านวล ณ ต้นปาล์มที่ลิงค์นี้นะคะ"




“2. ระฆังเงิน หรือ ตะลุมพุก" เป็นไม้ล้อมต้นที่สอง หลังจากลงปาล์มไปได้ประมาณ 1 เดือน สเปคของหล่อนเป็นไม้พุ่มสูงประมาณ 5-10 เมตร โตช้ามาก ซึ่งเป็นสเปคที่เรากับคุณพี่ชายอินกันมาก ข้อเสียคือมีหนามแหลมยาวและใบมียาง แต่หนามของระฆังเงินไม่เป็นอุปสรรค์มากเหมือนหนามของต้นไม้ชนิดอื่น ส่วนเรื่องยางจะไม่มีมากเหมือนหิรัญญิการ์ และระฆังเงินไม่ใช่ไม้เลื้อย ไม่มีการเลื้อยแบบนรกแตกเหมือนหิรัญญิการ์ การเจริญเติบโตต่างกัน ดังนั้นการตัดแต่งจะมีน้อยกว่า เมื่อต้องตัดแต่งน้อยทำให้ไม่ต้องไปวุ่นวายให้เกิดยาง





ลักษณะของลำต้นและสีที่ลำต้นจะออกน้ำตาลแดงเข้ม ซึ่งสีและลักษณะของลำต้นถูกใจพวกเราอีกแล้ว ตลอดจนเป็นไม้ที่ไม่โหลจนเกินไป ขนาดของดอกยาว 4 ซม. ถือว่าไม่เล็กจนเกินไป มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และหอมตลอดวัน แม้ว่าดอกบานอยู่ได้ 1-2 วันก็โรย แต่ลักษณะการออกดอกจะทยอยบานและทะยอยโรยตลอดปี เพียงแต่จะมีมากในช่วงฤดูฝน ด้วยข้อดีทำให้ลบข้อเสียในแง่ที่มียางและหนามออกไปได้



ระฆังเงิน หรือตะลุมพุก เป็นไม้ทรงพุ่ม มีใบจำนวนมากเป็นพุ่มทึบให้ร่มเงาได้ดี จะทิ้งใบในช่วงสั้น ๆ ซึ่งใบของเขามีขนาดกลาง ๆ ไม่เล็กจนเกินไป และไม่ใหญ่จนเกินไป อาจเก็บกวาดอาจง่ายกว่าไม้ผลัดใบที่มีขนาดเล็ก และการผลัดใบจะเกิดในระยะสั้น ๆ เท่านั้น ระฆังเงินหรือตะลุมพุกจะมีผลด้วย แต่เพิ่งปลูกดังนั้นจึงยังไม่มีผลมาให้ดู ผลออกเมื่อไหร่จะมาอัพเดทข้อมูลเพิ่มเติมนะคะ




ในตอนที่ซื้อระฆังเงินมานั้น อายุขั้นต่ำที่ประเมินไว้คือ 10 ปี แต่คุณพี่ชายจะปลูกเอียง ๆ คือไม่จับลงหลุมแบบตรง ๆ ท่านจะให้ลำต้นเอนเข้าหาระเบียง เพื่อที่จะเรียกอารมณ์แบบดิบ ๆ เถื่อน ๆ ในเวลาที่นอนอยู่บนระเบียงแล้วแหงนหน้าขึ้นฟ้า จะเห็นต้นไม้ค่อย ๆ เอนมาทับตัวเราประมาณนี้ ที่บ้านออกแนวซาดิสเล็ก ๆ เรายังบอกท่านว่าทุเรียนไง? นอนที่ระเบียงแหงนหน้าอ้าปากรองับลูกทุเรียนได้เลย? (ฮา)



“ตะลุมพุก” เป็นพืชในวงศ์ RUBIACEAE ซึ่งพืชชนิดอื่นในวงศ์นี้ที่พอจะคุ้นเคยจะมีพืชในตะกูลเข็ม เช่น เข็มทอง เข็มแดง เข็มขาว เข็มญี่ปุ่น เข็มใหญ่ เข็มเศรษฐี ฯลฯ รวมถึงพุดบางชนิด เช่น พุดป่า พุดซ้อน พุดจีน นอกจากนี้ยังมีกาแฟ และคำมอกหลวงก้ออยู่ในวงศ์นี้เช่นเดียวกัน ส่วนใหญ่คนจะรู้จักในชื่อของ “ตะลุมพุก” มากกว่า “ระฆังเงิน” นอกจากนี้ยังมีชื่ออื่น ๆ ที่เรียกตามพื้นที่ เช่น ในภาคเหนือเรียกว่า กระลำพุก มอกน้ำข้าว มะข้าว ส่วนในอุตรดิตถ์เรียกว่ามะคัง ในภาคอิสานจะเรียกว่าลุมปุ๊กอิสาน ในจังหวัดลพบุรีเรียกว่าลุมพุก แต่ระฆังเงินคงจะมีการมาตั้งชื่อใหม่เพื่อเพิ่มคุณค่านั่นเอง ซึ่งรูปแบบของดอกหรือใบ หรือส่วนอื่นของต้นไม่มีลักษณะเข้าข่ายเป็นระฆังหรือเป็นเงินตามชื่อที่ตั้งใหม่

นำลงดินได้ 2 เดือน ใบเริ่มพองฟูและหนาแน่นขึ้น
ยังคงมีดอกต่อเนื่องให้เห็นตลอดระยะเวลา 2 เดือน
แต่ปริมาณดอกจะมากและน้อยเป็นช่วง ๆ





“3. ลีลาวดี (ขาวพวง)" เป็นไม้ดอกพิมพ์นิยม หากได้ฟอร์มไม่ถึงกับขี้เหร่แล้ว ไม่ว่าจะนำไปปลูกที่ไหนก้อดูดีทั้งนั้น เมื่อก่อนเรียก “ลั่นทม” คนไม่กล้าปลูกในบ้าน เพราะกลัวระทมตามชื่อของต้นไม้ พอกลายเป็นลีลาวดี เศรษฐีซื้อไปประดับบ้านในราคาเรือนแสน คุณพี่ชายชอบพันธุ์บนเขามาก ท่านขึ้นเขาไปดูหลายครั้ง แต่นั่นคงเป็นต้นตำรับของ “ลั่นลม” ก่อนที่จะถูกปรับปรุงสายพันธุ์เป็น “ลีลาวดี” ไปในที่สุด




ขาวพวง คุ้มทุนที่สามารถให้ดอกได้เรื่อย ๆ ดูได้เรื่อย ๆ ไม่ใช่ไม้ดอกประเภทปีละ 1 ครั้ง ให้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ได้ตลอดวันและเป็นกลิ่นที่ทำให้สบายจมูก ราคาก้อถูกเหมาะสมกับกระเป๋าของพวกเรา ความหอมของดอกไม้มีหลายแบบ บางชนิดอาจฉุนเกินไปสำหรับบางคน ขาวพวงที่ได้มามีกิ่งก้านระโยงระยางค์ห้อยย้อยยื่นเข้าไปในระเบียงได้เป็นที่พอใจแล้ว แต่ลีลาวดีเป็นไม้ที่มีน้ำหนักต้นมาก ระบบรากจะไม่ค่อยแข็งแรง ดังนั้นควรมีการควบคุมขนาดของต้นให้เหมาะสม ซึ่งมีขนาดให้เห็นตั้งแต่พุ่มเตี้ยแคระ จนถึงต้นที่อาจสูงถึง 12 เมตร




ขาวพวง หรือลีลาวดี เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Apocynaceae ซึ่งพืชชนิดอื่นที่อยู่ในวงศ์นี้ เช่น บานบุรี ชำมะนาด (ดอกข้าวสาร) ชวนชม หิรัญญิการ์ แพงพวย ยี่โถ โมก ฯลฯ ปัจจุบันลีลาวดีมีหลายสีหลายสายพันธุ์ แต่ดีไซน์ใบของขาวพวงถูกโฉลกกับเรามากที่สุดแล้ว มีสีเข้ม ใบมน ส่วนลีลาวดีสายพันธุ์อื่นจะมีใบไม่สวยถูกใจเหมือนขาวพวง




ดอกของขาวพวงมีดอกขนาดใหญ่กว่าระฆังเงิน แต่เล็กกว่าหิรัญญิการ์ ถือว่าเป็นขนาดดอกที่มองแล้วเต็มตา แต่ยังสู้ดอกของราชินีแห่งไม้เลื้อยอย่างหิรัญญิการ์ไม่ได้ ขาวพวงให้ดอกออกมาเป็นพวงสมชื่อ ถูกใจคุณน้องสาวและบรรดาแขกทั้งหลายพอสมควร จัดว่าเป็นไม้โหลพิมพ์นิยมสำหรับคนส่วนใหญ่ นอกจากนี้ยังดูแลง่าย ทนแล้ง ขยายพันธุ์ได้ง่ายมาก




“4. บัวสวรรค์" ต้นนี้ขอล็อคสเปคมาตั้งแต่แรก เพราะเราชอบดีไซน์ของดอกที่มองว่าออกแนวไทยโบราณ มีขนาดใหญ่ สวยหวานไม่มีที่ติ บัวสวรรค์เป็นไม้พุ่มยืนต้น สูงประมาณ 2-5 เมตร เมตร ถือว่าเป็นขนาดกำลังดีสำหรับความต้องการของพวกเราและตำแหน่งที่จะปลูก เป็นไม้ไม่ผลัดใบ ให้กลิ่นหอมกลางวัน ลักษณะดอกคล้ายดอกบัวหลวง แต่ใหญ่และสวยกว่า อายุของดอกแม้ว่าจะสั้นแค่ 1-2 วัน แต่ดอกออกเป็นช่อ จะผลัดกันบานผลัดกันโรย เพราะลักษณะการบานของดอกจะไม่พร้อมกัน ในหนึ่งช่อจะมีหลายดอก






“บัวสวรรค์” มีดีไซน์ของดอกคล้ายบัว แต่ดอกไม่อยู่ในน้ำและไม่ได้อยู่ติดดิน ดังนั้นการเรียกว่าบัวสวรรค์ก้อเหมาะสมดี บัวที่เรารู้จักทั่วไปจะเป็นพืชน้ำ แต่ยังมีบัวอีกประเภทที่อยู่ในดินหรือมีหัวอยู่ในดินเรียกว่า “บัวผุด” เขาลือกันว่าสวยมาก แต่กลิ่นเหม็นมากเช่นเดียวกัน ส่วนบัวดินเป็นพืชอีกลักษณะหนึ่งที่ดีไซน์ไม่เหมือนบัว และไม่ได้อยู่ในวงศ์เดียวกับบัวสวรรค์ หลายครั้งที่ค้นหาคำว่า “บัวสวรรค์” แต่กลายเป็น “บัวดิน” ไปได้นะคะ







บัวสวรรค์เป็นพืชในวงศ์ Lecythidaceae ซึ่งไม้ชนิดอื่นที่อยู่ในวงศ์เดียวกันคือ "ต้นสาละลังกา" (ชลบุรีเรียกว่า “ลูกปืนใหญ่”) บัวสวรรค์ที่ได้มารอการตัดแต่งในอนาคต กิ่งก้านของบัวสวรรค์จะขึ้นในแนวดิ่ง แต่พวกเราชอบกิ่งก้านที่ออกด้านข้างมากกว่า ดังนั้นการตัดสินใจรับบัวสวรรค์เข้ามา เพราะฟอร์มดอกแต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น สเปคอื่น ๆ ไม่ผ่านเลย คนขายบอกว่าหากบัวสวรรค์ได้กินขี้ไก่บ้างจะกระดี๋กระด้าเป็นพิเศษค่ะ




“5. โมกลา" ตำแหน่งที่จะปลูกโมกลานี่เปลี่ยนต้นไม้มาหลายต้น ตอนแรกจะเอามหาพรหม แต่คุณพี่ชายไม่อนุมัติ ท่านบอกว่านอกจากจะใบจะไม่สวยแล้ว ยังเป็นทรงพุ่มที่ระเกะระกะอีกต่างหาก กิ่งก้านก้อเล็ก ๆ ตัดแต่งให้ได้ดั่งใจลำบาก ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องเป็นไม้ขนาดเล็กสักหน่อย ยิ่งบังคับทรงพุ่มให้เหมือนบอนไซได้ยิ่งดี จึงสรุปมาที่โมกลา เพื่อที่จะเรียกน้องแมลงได้ด้วย โดยเฉพาะน้องผี โมกลาที่ได้มานี้ อายุปาเข้าไป 7 ปี แต่ขนาดลำต้นเล็กที่สุดในบรรดาจำนวนไม้ล้อมของเราในครั้งนี้ ทั้งที่อายุค่อนข้างมากแล้ว ถือเป็นไม้โตช้ามากมาย




โมกลาเป็นไม้พุ่มขนาด 2-5 เมตร สามารถตัดแต่งเหมือนตะโกดัด ไม่ผลัดใบ เรือนยอดแผ่กว้าง ทุกส่วนของต้นมียางสีขาว ดอกมีสีขาว กลิ่นหอมเย็น เราสั่งไปต้นเดียว แต่คนขายไม่คิดเงินและในวันมาส่งนำมาให้ 2 ต้น แต่ก้อยกให้ผู้ใหญ่ข้างบ้านไป 1 ต้น หลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ คุณพี่ชายจึงนำลงหลุม และคลอดช่อดอกเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ยังไม่หนาตา เพราะกิ่งก้านยังไม่พองฟู เนื่องจากนำลงดินช้ากว่าต้นอื่น




โมกกลาเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Apocynaceae ซึ่งเป็นพืชที่อยู่ในวงศ์เดียวกับลีลาวดีนั่นเอง ขนาดที่ได้มาถือว่ากำลังดี รอการตัดแต่งในอนาคตต่อไป โมกลาจัดว่าเป็นไม้เรียกแมลงในตระกูลผีเสื้อได้ดี เรากลับไปอีกครั้งพบน้องผีมาป้วนเปี้ยนหลายสายพันธุ์ ไม่ถึงกับยกพวกมามากมาย แต่มีให้เห็นมากกว่าเมื่อก่อน เห็นผลเกินความคาดหมายในขณะที่นำลงดินได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น




“6. มะไฟหวาน" ก่อนหน้าจะมาเป็นมะไฟจะมีหลายต้นมาก เริ่มตั้งแต่ไข่ไก่ลอยฟ้าคือมะยงชิด แต่สเปคไม่ผ่าน คุณพี่ชายไม่อนุมัติ ด้วยความที่มันเป็นทรงพุ่มมากเกินไป มีแขนงกิ่งระเกะระกะ ตัดแต่งตามต้องการยาก ต่อมาเป็นไม้เรียกนกจำพวกมะหวดและต้นหว้า ซึ่งมะหวดจะมีขนาดเล็กกว่าต้นหว้า หลายคนแนะนำต้นตะขบ แต่ลืมไปได้เลย บ้านเราไม่ชอบตะขบ เพราะมันทำให้พื้นเละตุ้มเป๊ะ ดีไซน์ใบและต้นไม่ถูกโฉลกกับเราด้วย แต่หากจะได้ต้นมะหวดต้องรอนานมาก เราจึงเปลี่ยนใจเอามะไฟแทน ซึ่งคุณพี่ชายอนุมัติทันที เนื่องจากภาพที่ส่งไปได้ฟร์อมถูกใจท่าน ต้นที่มีฟร์อมเป็นพุ่มมาตั้งแต่ช่วงล่างเลยก้อมีค่ะ





มะไฟที่ได้มามีอายุ 7 ปี เมื่อไปเทียบกับลำต้นของโมกลาที่มีอายุเท่ากัน จะเห็นว่าคนละเรื่องเลย เนื่องจากเป็นไม้คนละฟอร์ม หรือถ้าไปเทียบกับมะม่วง 7 ปี จะพบว่ามะม่วงมโหฬารกว่ามาก มะไฟมีสีที่ลำต้นสะดุดตา เพราะออกน้ำตาลแดง คล้ายกับระฆังเงิน ดังนั้นถือว่าลำต้นของตะลุมพุกและมะไฟอินสเปคทั้งสองต้น ส่วนลำต้นของลีลาวดี เงาะและบัวสวรรค์มีสีที่ไม่โดดเด่น คุณพี่ชายบอกว่าอยากได้มะไฟป่า เพราะสีจะจัดจ้านกว่า



มะไฟเป็นไม้ยืนต้นขนาด 10-15 ม. ไม่ผลัดใบ เรือนยอดเป็นพุ่ม ซึ่งสามารถควบคุมได้ เราเลือกต้นที่ไม่เป็นทรงพุ่มมาตั้งแต่โคนต้น ซึ่งทางร้านส่งภาพมาให้เลือกหลายดีไซน์ เรากับคุณพี่ชายใจตรงกันเลือกฟอร์มต้นนี้เหมือนกัน เมื่อทางร้านมาลงให้ถือว่าไม่ผิดหวังเลย ในวันนำมะไฟเข้าบ้าน มีอย่างน้อย 3 ท่าน ได้เข้ามาทักว่าปลูกมะไฟไม่ดี เพราะชื่อไม่เป็นมงคล เราก้อเลยเอาป้ายไปติดว่า "มะไฟต้นนี้ชื่อมะเย็น" (ฮา) เหมือนลั่นทมไง ที่ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็นลีลาวดี คนจึงขนเข้าบ้านกันตรึม? คาดว่าในอนาคตที่หมู่บ้านของเราคงปลูกกันทั้งตำบลนะคะ



มะไฟเป็นไม้ในวงศ์ EUPHORBIACEAE ซึ่งไม้ในวงศ์นี้ที่พอจะคุ้นเคยชื่ออยู่บ้าง เช่น ผักหวาน, มะขามป้อม, มะยม และทุเรียนดง ความจริงแล้วบ้านเราไม่นิยมการกินมะไฟเลย แต่ชอบลองกองกันมาก บังเอิญคุณพี่ชายไม่อนุมัติสเปคของต้นลองกอง มะไฟต้นนี้เป็นพันธุ์เหรียญทองจะมีผลข้างในสีม่วง ซี่งถ้าเป็นสีขาวจะหวานกว่า พวกเราเลือกสีที่แปลกตากว่า ความอร่อยอาจจะน้อยกว่า แต่ไม่ต่างกันมากมาย ขอให้ไม่มีรสเปรี้ยวนำก้อพอแล้ว จาก 3 ภาพข้างล่างนี้ ดูผิวเผินลักษณะใบใกล้เคียงหิรัญญิการ์ กลุ่มใบที่อยู่ทางซ้ายมือและกลุ่มใบที่อยู่ฉากหน้าบนรั้วคือหิรัญญิการ์ บางภาพดูเหมือนปลูกติดกัน แต่ความจริงอยู่คนละฝั่งนะคะ

ซ้ายมือและฉากหน้าคือหิรัญญิการ์ (ไม้เลื้อย)


เน้นไปที่มะไฟหวานมากขึ้น แต่ซ้ายมือและฉากหน้ายังคงเป็นหิรัญญิการ์


ขวามือเป็นหิรัญญิการ์ ส่วนซ้ายมือคือมะไฟ มีขนาดใบเล็กกว่า
ใบทั้งสองชนิดจะไม่แบนราบ แต่จะงอขึ้นด้านบนเล็กน้อย



ไม้ล้อม 4 ต้นหลังนี่มาลงพร้อมกันทั้งหมดคือ มะไฟ บัวสวรรค์ โมกลา และเงาะ คุณพี่ชายเล่าให้ฟังว่าวันที่ต้นไม้มาลงนั้น พบนกตัวสีน้ำเงินมาเพ่นพ่านให้เห็น ท่านไม่เคยเห็นหน้าตาแบบนี้มาก่อนเลย แต่ท่านดูไม่ทันว่าลักษณะเป็นยังไง รู้แต่ว่ามันมีสีน้ำเงินด้วย ดูเหมือนท่านจะตื่นเต้นจนออกนอกหน้า และข้อมูลจากคนขายบอกว่านกไม่กินมะไฟ แต่เป็นต้นไม้ที่นกชอบมาทำรังกันมาก ทำให้เราดีใจที่คิดไม่ผิดเลือกมะไฟมาประดับบ้านกันนะคะ

หลังจากลงหลุมได้ 1 เดือนผ่านไป แตกใบให้เห็นพอสมควร



เมื่อลงต้นไม้ทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว คุณพี่ชายได้รดน้ำขึ้นใบของมะไฟ จำนวน 2 รอบ หลังการการรดน้ำได้ไม่นาน ในขณะที่ใบมะไฟยังเปียกน้ำอยู่พบนกปรอทหน้านวลก้นเหลือง 2 ตัว บินมาคลุกน้ำที่เปียกใบมะไฟอย่างสนุกสนานทั้งสองรอบ ก่อนหน้านี้เป็นช่วงที่ลงไม้ล้อมครั้งแรก 3 ต้น พวกมันมาทำรังแล้วลูกตกลงมาตาย ผลการลงไม้ล้อมเพิ่มเติมอีกในครั้งนี้ ทำให้มันกลายเป็นแฟนคลับของบ้านเราไปแล้ว เป็นอะไรที่ประทับใจมาก เพียงแต่เราไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่นกปรอดมาเล่นน้ำบนใบมะไฟ พวกเรามองว่าอนาคตของพื้นที่สีเขียวจะสดใสมากกว่าที่ประเมินกันไว้




“7. เงาะโรงเรียน" เป็นไม้ผลที่อยากได้มาเป็นไม้ประดับบ้านมาก สวยตั้งแต่ช่อดอกจนกลายเป็นลูกเงาะสีเขียวและเป็นสีแดงในที่สุด เราไม่ได้คาดหวังกับการที่จะได้กินเป็นหลัก แค่ขอออกลูกให้คุณน้องสาวได้ตื่นเต้นบ้าง เพราะเธอชอบกินเงาะมาก เมื่อเราเสนอเงาะไปยังคุณพี่ชาย ท่านอนุมัติทันทีพร้อมกับให้เหตุผลว่าเป็นไม้ที่สามารถตัดแต่งและควบคุมการเจริญเติบโตได้ ไม่มโหฬารเท่ามะม่วง เงาะที่ได้มาอายุ 5 ปี ลำต้นเล็กกว่ามะไฟ แต่สูงกว่าและสูงกว่าไม้ล้อมทุกต้น ต้องตัดกิ่งทิ้งไปพอสมควร เพราะมุมที่ปลูกอยู่อีกด้านหนึ่งของตัวบ้าน ต้องยกผ่านหลังคาโรงเลี้ยงเป็ดเข้าไป กิ่งชนหลังคากันวุ่นวาย และด้วยความที่ต้นเขาสูงมาก จึงจำเป็นต้องตัดกิ่งก้านทิ้งไปกองโตเลยนะคะ




เงาะเป็นไม้ที่อยู่ในวงศ์ SAPINDACEAE ไม้ชนิดอื่นที่อยู่ในวงศ์เดียวกับเงาะที่พอจะคุ้นชื่อ เช่น มะหวด, ลำไย, ประคำดีควาย, มะเฟือง, ชำมะเลียง ฯลฯ เงาะเป็นไม้พุ่ม เมื่อเทียบขนาดจะใหญ่กว่ามะไฟ แต่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตได้ ซึ่งในบ้านของเราใหญ่สุดคือมะม่วง รองลงมาก้อเป็นเงาะ เงาะต้องมีการตัดแต่งและดูแลจึงจะเห็นผล การปลูกต้นเดียวจะพบปัญหาในเรื่องการผสมเกสร คงต้องมีการฉีดฮอร์โมนให้กับดอกเงาะบ้าง เพื่อให้เป็นเกสรตัวผู้ จากนั้นจะเป็นหน้าที่ของธรรมชาติจัดการต่อไป ซึ่งรายละเอียดในการเลี้ยงให้ได้ผลหรืออาจจะไม่ได้ผล เราจะมาโม้ให้ฟังในภายหลังเมื่อถึงเวลานะคะ



เงาะเป็นพืชที่ขอบอากาศชื้นนิดหนึ่ง ในจังหวัดเพชรบุรีพบว่ามีการปลูกที่ท่ายาง แต่บริเวณนั้นใกล้เขื่อนแก่งกระจาน สภาพอาจมีความเหมาะสมที่พอจะปลูกได้ บ้านเราอยู่ในเขตเมือง แต่เลือกตำแหน่งที่คิดว่าชื้นที่สุดภายในบ้านแล้ว นั่นคือปลูกในพิกัดของต้นมะม่วงใกล้บ่อน้ำ เงาะต้นนี้ติดผลมาในปีที่ผ่านมา คนขายบอกว่ายังไงก้อได้เห็นผลแน่นอน ส่วนจะกินได้หรือไม่ก้อเป็นอีกเรื่องหนึ่ง (ฮา) พวกเราไม่ได้ซีเรียสในเรื่องนี้ แค่มาให้เห็นตื่นเต้นเป็นผลประดับต้นก้อพอใจแล้ว หากมันออกลูกกินได้คงได้ฮือฮากันทั้งหมู่บ้าน






ไม้ล้อมทุกต้นหลังการนำลงดินได้ 1 เดือน เริ่มแตกยอดอ่อนให้เห็นแล้ว พวกเรารู้สึกว่าไม่ยุ่งยากเหมือนที่คิดไว้ ปัจจุบันมีสัญญานบ่งบอกว่าพวกมันมีสุขภาพแข็งแรง แต่ไม้ปลูกง่ายอย่างพุดซ้อนที่ปลูกไว้ตลอดแนวระเบียงตายเกือบทั้งหมด ในขณะที่ยังหาสาเหตุไม่ได้ (ฮา) ท่ามกลางเสียงโอดครวญของคุณน้องสาว “พอกันได้แล้ว” เธอก้อพูดแบบนี้มาตั้งแต่ตอนเพิ่มพื้นที่สีเขียวในครั้งแรก นี่เป็นครั้งที่สองเธอก้อพูดอีก เรากับคุณพี่ชายได้แต่แอบยิ้ม นี่จะไม่ใช่เสียงครั้งสุดท้ายที่เธอโอดครวญ เพราะหม่อนสายพันธุ์นอกเพื่อเรียกนกอีก 3 ต้น ที่อยู่ในระหว่างการสั่งจองยังไม่มาเลย และยังมีอีกมากที่พวกเราจะค่อย ๆ ทะยอยทำกันต่อไปเท่าที่จะทำได้ ขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขกับพื้นที่สีเขียวของตัวเองกันทุกคนนะคะ







ขอให้มีความสุข ณ จ้ะ





 

Create Date : 31 สิงหาคม 2553
2 comments
Last Update : 2 กุมภาพันธ์ 2554 1:24:48 น.
Counter : 9315 Pageviews.

 
 
 
 
ว๊าว
 
 

โดย: หนูเมเปิล วันที่: 1 กันยายน 2553 เวลา:22:47:49 น.  

 
 
 
อิจฉาคนมีพื้นที่จังค่ะ ตอนนี้ระเบียงคอนโดก็เต็มไปด้วยต้นไปแต่สะเปะสะปะมากๆค่ะ ทำยังไงดีแนะนำหน่อยสิค่ะ จะติดต่อหลังไมค์แต่ให้สมัครสมาชิก ก็หาที่สมัครไม่เจอซะงั้น
 
 

โดย: แม่มดน้อยไซคี IP: 58.137.154.121 วันที่: 21 กันยายน 2553 เวลา:8:34:04 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

ซาไปรส์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 21 คน [?]





Indy Style Indy

เว็บไซด์ขายเสื้อผ้าออนไลน์

สไตล์โบฮีเมียน, ยิปซี ฯลฯ
สำหรับสาวเซอร์ หรือสาวที่มี
เอกลักษณ์เป็นของตัวเอง
สนใจแวะชมได้นะคะ

"เสื้อผ้าสไตล์โบฮีเมียน
ยิปซี อินเดีย ฯ
เสื้อผ้าแนว ๆ
คลิ๊กที่นี่
"



New Comments
[Add ซาไปรส์'s blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com