World 16/09/51
- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงหนักสุดในรอบ 7 ปีเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย ซึ่งทำให้นักลงทุนกังวลว่าอาจมีสถาบันการเงินอีกหลายแห่งที่เสี่ยงล้มละลายเพิ่มขึ้น

- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีปฏิกริยาในด้านลบจากข่าวเลห์แมน บราเธอร์ส ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร เยน และปอนด์ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า เลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย ขณะที่ บริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนล กรุ๊ป อิงค์ (AIG) ขอเงินกู้โดยตรงจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ เมอร์ริล ลินช์ วาณิชธนกิจยักษ์ใหญ่ของสหรัฐ ตกลงควบรวมกิจการและขายหุ้นให้กับแบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 500 จุด

- สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ร่วงลงหนักกว่า 2 ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน (16 ก.ย.) หลังจากที่เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ ได้ยื่นขอความคุ้มครองทรัพย์สินตามกฎหมายล้มละลาย ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกไม่ได้รับความเสียหายจากพายุเฮอริเคนไอค์
สัญญาน้ำมันร่วงลงจากสัญญาณบ่งชี้ถึงความผันผวนในตลาดหุ้นนิวยอร์กและวิกฤติสินเชื่อที่ทวีความเลวร้ายจอาจทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกซบเซาและอาจทำให้หลายประเทศปรับลดอุปสงค์วัตถุดิบ ขณะที่บริษัทน้ำมันเตรียมเปิดโรงกลั่นเพื่อดำเนินการผลิตต่อไปในเขตฮุสตัน

- ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 22 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (15 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการลงทุนในตลาดทองคำน่าจะปลอดภัยมากกว่าในยามที่ตลาดการเงินเผชิญมรสุมรุนแรง หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ส วาณิชธนกิจรายใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอการพิทักษ์ทรัพย์สินจากภาวะล้มละลายตามกฎหมาย และเมอร์ริล ลินช์ ขายกิจการให้กับแบงค์ ออฟ อเมริกา

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบการธนาคารอีก 7 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มสภาพคล่องครั้งใหญ่สุดในรอบ 7 ปี หรือนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมในสหรัฐเมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2544 โดยเฟดมีเป้าหมายที่จะลดความร้อนแรงของต้นทุนการกู้ยืมซึ่งเป็นผลมาจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
การอัดฉีดเงินสดเข้าสู่ระบบการธนาคารครั้งล่าสุดนี้ มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดประกาศใช้มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมแก่ตลาดการเงิน ซึ่งรวมถึงการเพิ่มวงเงินสภาพคล่อง

- เฟดได้ขยายขอบเขตของหลักทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการประกันการกู้ยืมในโครงการปล่อยกู้แก่บริษัทดีลเลอร์ชั้นนำ (PDCF) เพื่อให้ใกล้เคียงกับประเภทของหลักทรัพย์ที่สามารถใช้ในการประกันการกู้ยืมในระบบรีโปสามฝ่ายของธนาคารชำระบัญชีขนาดใหญ่สองแห่ง โดยก่อนหน้านี้หลักทรัพย์ ประกันการกู้ยืมในโครงการ PDCF ถูกจำกัดไว้เพียงแค่หลักทรัพย์ตราสารหนี้ที่มีอันดับน่าลงทุนเท่านั้น

- สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับเครดิตระยะยาวของบริษัท อเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่สุดของสหรัฐ ลงสู่ระดับ A- จากเดิมที่ระดับ AA- และมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ลดอันดับเครดิต AIG ลงสู่ระดับ A2 จากเดิมที่ Aa3

- โรงกลั่นน้ำมันในรัฐเท็กซัสและผู้ผลิตน้ำมันและแก็สในอ่าวเม็กซิโกอาจจะใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อที่จะฟื้นระบบการผลิตน้ำมันและแก็สให้กลับเข้าสู่ภาวะการผลิตตามปกติ หลังจากที่พายุเฮอริเคน"ไอค์"พัดเข้าถล่มแต่โรงกลั่นไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

- ธนาคารกลางจีนได้ลดดอกเบี้ยเงินกู้ลงเหลือ 7.20% จากระดับ 7.47% มีผลบังคับใช้วันนี้ และยังได้ลดเพดานสำรองของธนาคารขนาดเล็กเหลือ 16.5% จากเดิมที่ 17.5% และได้ระบุในแถลงการณ์ว่า การลดดอกเบี้ยลงจะช่วยแก้ปัญหาสำคัญๆในระบบเศรษฐกิจให้ขยายตัวอย่างมีเสถียรภาพอย่างต่อเนื่องและขยายตัวอย่างรวดเร็ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า อเล็ค ยัง นักยุทธศาสตร์ของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส กล่าวว่า วงจรการลดดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไปของจีนนั้นอาจจะกำลังเกิดขึ้นแล้ว เป้าความสนใจตอนนี้ไม่ได้อยู่ที่เงินเฟ้ออีกต่อไป แต่อยู่ที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน ส่วนเศรษฐกิจประเทศอื่นๆก็มีแนวโน้มจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และการขยายตัวของเศรษฐกิจก็กำลังชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน

- ธนาคารกลางญี่ปุ่นอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 1.5 ล้านล้านเยน (1.44 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ระบบครั้งใหญ่ หลังเลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิงส์ ประสบภาวะล้มละลาย นับเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. และเป็นเม็ดอัดฉีดเงินมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. ซึ่งตอนนั้นธนาคารกลางอัดฉีดไป 3 ล้านล้านเยน

อ้างอิงจาก //www.ryt9.com

ข้อสังเกต
1. เมื่อคืนนี้เล่นกันแต่ข่าวเลห์แมนล้วนๆเลยครับ แต่บริษัทอื่นสภาพก็ไม่ค่อยต่างกัน คงต้องดูกันต่อไปครับ (กำลังสงสัยว่าถ้าถึงเวลามันล้มจริงๆ ตลาดต่างๆจะซับข่าวไว้แล้วหรือปล่าว)

2. Opec จะยอมให้น้ำมันลดลงไปมากกว่านี้มั้ย หลังจากที่ลดกำลังการผลิตไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ต้องคอยติดตามดูกันครับ

3. คืนนี้รอดูประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยของ FED ครับ ว่าจะคงหรือจะลด ซึ่งตอนนี้ผมมองว่าสหรัฐน่าจะคลายความกังวลในเรื่องของภาวะเงินเฟ้อไปได้พอสมควร จากราคา Commodity ต่างๆที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา และรวมถึงการให้ความสำคัญในการช่วยเหลือบริษัทต่างๆในสหรัฐ การลดอัตราดอกเบี้ยจึงเป็นตัวเลื่อกที่น่าสนใจครับ

-----------------------------------------------------------------------------

คำเตือน - ข้อมูลดังกล่าวผู้เขียนตั้งใจเก็บไว้สำหรับเตือนความจำ และประกอบการวิเคราะห์ของผู้เขียน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจมีข้อผิดพลาด คลาดเคลื่อน ไม่ครบถ้วน หรือไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ดังนั้นผู้เข้าเยี่ยมชมโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ขอบคุณครับ



Create Date : 16 กันยายน 2551
Last Update : 16 กันยายน 2551 11:47:13 น.
Counter : 274 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Death_13
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



กันยายน 2551

 
6
7
8
9
13
14
20
21
23
24
27
28
29
30
 
 
16 กันยายน 2551