Group Blog
 
 
ตุลาคม 2558
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 ตุลาคม 2558
 
All Blogs
 
มากไปหรือเปล่า

ฉันอยู่เยอรมันมา 6 ปี จากความรู้ที่เคยกลัว ไม่แน่ใจว่าจะอยู่ได้หรือเปล่า
สามีเองทั้งที่ชวนแต่งงาน แต่ก็พูดตลอดว่า เยอรมนีไม่ใช่ สวรรค์
และเขาเองก็ไม่ได้ร่ำรวย แต่เขายืนยันมั่นใจว่า เขาสามารถดูแลฉันได้อย่างไม่ลำบาก
เขาจารไนให้ฟังหมด อย่างไม่ต้องเอ่ยปากถาม ถึงรายได้และภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่มี
และจะเกิดขึ้นเท่าไหร่ เมื่อพาฉันมาอยู่ร่วมชีวิต ในอพาร์ทเม้นเล็กๆ ที่เขาเช่าอยู่

ความตั้งใจของฉันคือ จะหางานทำ มีภาระที่ต้องส่งเสียลูกที่ยังอาศัยอยู่เมืองไทย
แต่ในระหว่างที่ยังไม่มีงาน สามีรับเป็นภาระ ตกลงจำนวนเงินกันเรียบร้อย
ไม่มากหรือน้อยไปกว่าที่ฉันเคยส่งเสียให้ลูกก่อนจะลาออกจากงานมาอยู่เยอรมัน
(แต่มันน้อยไปทันทีเมื่อสามีเป็นฝรั่ง ในความคิดของใครหลายคน)

สามีสนับสนุนให้ฉันทำงาน ด้วยเหตุผลหนึ่งคือ ฉันจะได้ออกไปมีสังคม
ไม่ต้องมานั่งเหงาอยู่คนเดียวในบ้านรอแต่เจากลับจากทำงาน
และอีกเหตุผลหนึ่ง เพราะเขาไม่อยากรู้สึกว่า มีคนรอเขาอยู่ที่บ้านทุกวัน
เขาพาฉันหางาน ที่เขาเห็นว่า ฉันน่าจะทำได้ กับสำนักงานที่เขารู้จัก
แต่ภาษาเยอรมันของฉันไม่ดี แม้จะพยายามเรียนจนจบได้ใบประกาศ
ฉันเกรงใจ ไม่อยากให้สามีเอ่ยปากฝากงานสำนักงานให้
กลัวไปทำงานเขาเสียหาย ฉันยินดีจะไปทำงานทำความสะอาดตามที่มีคนไทยชักชวน
แต่สามีไม่เห็นด้วย ไม่ใช่หมิ่นงานต่ำเงินน้อย แม่เขาก็เคยทำ
แต่เพราะเขามองว่า มันเป็นงานหนัก ได้ไม่คุ้มเสีย
เขาชวนฉันมาอยู่เยอรมัน เพื่อชีวิตที่ดีกว่า
ถ้าต้องมาลำบากตรากตรำทำงานหนักเหมือนเคย จะแต่งงานมาเพื่ออะไร
เขาไม่ได้แต่งงานกับฉันเพื่อให้ฉันมาช่วยเขาทำมาหากิน
และถ้าจะอยู่กันแบบ ต่างคนต่างทำมาหากินเองไม่พึ่งพากัน แล้วจะอยู่ด้วยกันเพื่อ?
ได้ขื่อว่า นอนด้วยกันอย่างถูกต้องตามกฏหมายเหรอ

ฉันกับสามี เราคุยกันทุกเรื่อง ทุกปัญหา ไม่มีอะไรเลยที่จะพูดไม่ออกบอกไม่ได้
และทุกปัญหาที่ฉันมี สามีจะพยายามแก้ไข หาทางออกให้ทุกครั้งเท่าที่สามารถทำได้
แม้แต่เรื่องที่ฉันถูกคนไทย บางคน ค่อนแคะกระแนะกระแหน
ว่าขี้เกียจไม่เอาไหน พอจับฝรั่งได้ก็ เลิกทำงาน
สามีว่า ชีวิตฉันอยู่กับคนพวกนั้นหรืออยู่กับเขาล่ะ
ถ้าฟังแล้วไม่สบายใจ ก็อย่าไปรับรู้รับฟังเสียก็จบเรื่อง
ใครจะคิดจะเห็นว่าฉันเป็นอย่างไร ไม่สำคัญว่า สามีรู้ดีว่าฉันเป็นอย่างไร
และเขาบอกว่า จนถึงวินาที ที่กำลังคุยกับฉันตอนนี้
ความรู้สึกที่มีต่อฉันไม่ได้คลอนแคลนไปตามความคิดใครที่ว่าฉันเลย

บางคนว่าสามีฉันเป็นเผด็จการ เอาความคิดตัวเป็นใหญ่ และฉันก็กลัวหงอ
เพราะรักสบาย เลยไม่มีปากเสียง สามีหัวเราะที่ฉันบอก
ตัวเขาไม่เคยคิดว่าฉันเป็นอย่างนั้น แต่ก็ถามกลับเช่นกัน
ที่คนอื่นคิดว่าเขาจะเป็นอะไรไม่สำคัญ สำคัญที่ฉันเท่านั้นที่คิดว่าเขาเป็นอย่างไร

เราวางแผนที่จะใช้ขีวิตร่วมกัน โดยสามีจะทำงานคนเดียวจนเกษียณ
ความมั่นคงที่สามีจะให้ฉันหากว่าเขาเป็นอะไรไป คือรับเงินบำนาญตามกฏหมาย
ซึ่งสามีคำนวณแล้วว่า ฉันจะยังคงมีชีวิตอยู่ไปอย่างไม่มีเขาโดยไม่ลำบาก
แม้เราจะไม่มีบ้านอยู่ แต่เงินบำนาญที่ฉันจะได้หากเขาเป็นอะไรไปก่อน
มันเพียงพอแน่นอนในการจ่ายค่ากินค่าอยู่ในเยอรมัน (แต่สำหรับคนอื่นอาจจะไม่พอ)
เพราะฉันมั่นใจแล้วว่า ฉันจะใช้ชีวิตอยู่จนถึงบั้นปลายที่เยอรมัน

และมันก็เป็นจุดเริ่มให้สามีคิดถึงการซื้อบ้านขึ้นมา ทั้งที่เคยตกลงกันแล้วว่าจะไม่ซื้อ
เหตุผลเพียงเพราะ สามีเกลียดความรู้สึกเป็นหนี้ เกลียดความรู้สึกที่
สถาบันการเงินมีอำนาจบังคับให้เขาต้องทำงานเพื่อเอาเงินไปจ่าย
นี่คือ ความคิดที่ใครๆ ก็ว่าสามีฉันประหลาดคน
พอปรึกษาเพื่อนๆ เรื่องจะซื้อบ้าน ยังโดนเพื่อนว่า ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ว่าทำไมสามีฉันถึงไม่คิดจะซื้อตั้งนานแล้ว เพราะเครดิตเชื่อสำหรับกู้ซื้อบ้าน
ด้วยหน้าที่การงานระดับรายได้ ผ่านสบายๆ แน่นอน
และตอนนี้ อัตราดอกเบี้ยถูกมาก เผลอๆ ค่าผ่อนบ้านถูกกว่าค่าเช่าเสียอีก
หากเลือกซื้อบ้านที่ไม่มีขนาดใหญ่โตหรูหราเกินไป
ผ่อนบ้านอยู่จนตาย กับเช่าบ้านอยู่จนตาย เลือกเอาอย่างไหนล่ะ

งานเข้าล่ะ ถึงแม้จะคิดได้ว่าอย่างไหนมีประโยชน์คุ้มค่ากว่ากัน
แต่ปัญหาที่สามีฉันเป็นโรค เกลียดการเป็นหนี้ไม่ได้หายไป
เราตกลงกันแล้ว ว่าจะซื้อบ้านด้วยงบประมาณแค่ไหน ที่จะผ่อนสบายๆ เหมือนเช่า
แต่เราก็ต้องการบ้านที่มีทุกอย่างที่เราชอบ และขนาดเพียงพอต่อครอบครัวเรา 3 คน
ซึ่งมันหาไม่ได้ง่ายๆ เลย

เมื่อพูดถึงบ้านที่อยากได้ ฉันก็อยากจะได้บ้านเดี่ยวมีสวนรอบๆ มีรั้วรอบขอบชิด
ฉันจะทำสวนปลูกผัก เลี้ยงหมา ลูกจะเลี้ยงแมว
กลายเป็นว่า สามีเอาความปรารถนาของฉันเป็นที่ตั้ง
แต่มันยากที่จะหาได้เพราะราคามันจะเลยงบที่คาดไว้
แม้ฉันจะพยายามย้ำ ว่ามันแค่ฝัน แต่ก็มีความสุขกับสิ่งที่มี
แต่สามีก็ยังคงพยายามหา และก็ไปเจอบ้านแบบที่ฉันอยากได้
ฉันเห็นว่า ราคาไม่ได้เกินไปจากงบ เลยบอกสามีเอานี่แหละ
แล้วก็รู้สึกจุก ที่สามีย้อนว่า ใช่สิยูไม่คิดมากเพราะไม่ได้เป็นคนจ่าย

ฉันย้อนทันควัน ว่า ฉันไม่มีสิทธิ์จะให้ความเห็นเหรอ
ฉันสะกดตัวเองที่จะไม่ให้ความโกรธ มาอยู่ความมีเหตุผล
ในเมื่อฉันก็รู้จักนิสัยเขาดี เขื่อว่าเขาไม่มีเจตนาจะใช้คำพูดทำร้ายความรู้สึกฉัน
เรายังถกเถียงกันเรื่องบ้าน และฉันบอกเขาอย่างไม่ให้เขารู้สึกว่า
ฉันพูดเพราะโกรธ ว่าฉันไม่ได้ต้องการที่จะมี คุณไม่จำเป็นต้องซื้อ
ถ้ามันทำให้คุณเครียดขนาดนี้ มีบ้านแต่ทำให้คนที่อยู่ในบ้านไม่มีความสุข
จะมีทำไม เราเช่าอยู่ไปอย่างนี้ก็ไม่เดือดร้อน
แต่สามีก็ยังยืนยันที่จะซื้อ แต่ขอให้ฉันให้เวลาเขาหา
ฉันเลยบอกว่า ฉันกำลังรู้สึกแย่ กับคำพูดของเขา ที่ว่าฉันไม่คิดมากเพราะไม่ได้เป็นคนจ่าย
ตลอดเวลาที่อยู่กันมา คุณพูดเสมอว่า เงินของเรา
แต่มาวันนี้ กลับมาพูดว่า บ้านที่จะซื้อฉันไม่ได้เป็นคนจ่าย
ความหมายคือ พูดเพราะไม่ได้แบกภาระอย่างคุณ ฉันกำลังเอาเปรียบคุณอยู่

คำตอบคือ สามีขอโทษฉัน แม้จะยืนยันว่าไม่คิดหรือตั้งใจที่จะทำให้ฉันรู้สึกแย่
แต่เขาก็ ขอโทษ
สำหรับฉัน ทุกครั้งที่ได้ยินคำว่า ขอโทษ ความโกรธก็หายไปแทบจะทันที
ขึ้นอยู่กับความรู้ในคำขอโทษนั้น จริงใจแค่ไหน จากใคร

ฉับกับสามีใช่ว่า จะเห็นพ้องต้องกันไปหมดทุกเรื่อง แต่เราไม่ทะเลาะกัน
ด้วยหลักการ คือ เคารพในความคิดของอีกฝ่าย แต่ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนความคิดตัวเอง














Create Date : 31 ตุลาคม 2558
Last Update : 31 ตุลาคม 2558 3:10:59 น. 0 comments
Counter : 605 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 2464472
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




เป็นคนยากๆ ที่คบใครก็ลำบากใจ
เลยชอบที่จะอยู่คนเดียว มีความสุขดี
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 2464472's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.