โต้ วรยุทธ! ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ ตำรวจไม่ได้ขับรถปาดหน้า
Reuters จำลอง ลูกบิ๊กกระทิงแดงชนแล้วหนี
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก คุณ AssociatedPress สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม, รายการเรื่องเล่าเช้านี้ โพสต์โดย คุณ CiNNtv3 สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
นับเป็นข่าวใหญ่ที่เป็นที่สนอกสนใจไปทั่วประเทศ สำหรับกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทกระทิงแดง ขับรถเฟอร์รารี่พุ่งชนตำรวจเสียชีวิต แล้วขับหนี ล่าสุด ดูเหมือนว่าข่าวนี้จะไม่ได้เป็นข่าวโด่งดังเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่สำนักข่าวดังทั่วโลก ก็ตีข่าวดังกล่าวเช่นกัน
เมื่อวันที่ 4 กันยายนที่ผ่านมา สำนักข่าวและหนังสือพิมพ์ชื่อดังระดับโลก เช่น เอพี เอเอฟพี ซีเอ็นเอ็น บีบีซี เดลิเมล และเดอะการ์เดี้ยน ต่างพร้อมใจกันลงข่าวว่า ทายาทกระทิงแดง หรือที่พวกเขาเรียกว่า เรดบูล นั้น ได้ก่อเหตุขับรถชนตำรวจแล้วหนี ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสืบสวนอย่างละเอียด
รายงานจากสำนักข่าวต่างประเทศระบุว่า นายวรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทเจ้าสัวกระทิงแดงวัย 27 ปี ได้ขับรถชนเฟอร์รารี่พุ่งชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจวัย 47 ปี และอุบัติเหตุครั้งนี้ ได้ทำให้ร่างและรถจักรยานยนต์ของ ด.ต.วิเชียร ถูกรถของนายวรยุทธลากไปบนถนนไกลกว่า 200 เมตร ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสืบจากคราบน้ำมันเครื่องที่หยดไหลไปตามถนน จนไปพบกับรถเฟอร์รารี่ของนายวรยุทธในที่สุด
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้นายวรยุทธถูกตั้งข้อหาขับรถด้วยความประมาท และชนแล้วหนี แต่ได้รับอนุญาตให้ประกันตัวด้วยเงิน 500,000 บาท ขณะที่จากการสอบสวนนายวรยุทธได้ให้การว่า เขาเป็นคนขับรถเฟอร์รารี่ชนตำรวจจริง แต่ว่าตำรวจขับรถปาดหน้าเขา จึงหักหลบไม่ทัน
อย่างไรก็ดี ขณะนี้คดีดังกล่าวกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด เพื่อหาข้อสรุปและพิจารณาตั้งข้อหาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศยังระบุด้วยว่า นายวรยุทธ เป็นหลานชายของนายเฉลียว อยู่วิทยา ผู้ก่อตั้งบริษัทกระทิงแดง หรือเรดบูล ที่เสียชีวิตไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยครอบครัวอยู่วิทยา ได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้อยู่ในอันดับที่ 4 มหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไทยเลยทีเดียว
ด้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงประเด็นเรื่องการตรวจเลือดผู้ต้องหาเพื่อหาแอลกอฮอล์หลังเกิดเหตุ แต่ทำไมรอเวลาตรวจล่าช้าหลายชั่วโมง ว่า จากหลักฐานนั้นบันทึกเอาไว้ว่า ผู้ต้องหาออกจากบ้านในช่วงเวลาตี 5 เศษ และกลับเข้าในอีกไม่ถึง 20 นาทีด้วยซ้ำ จึงไม่มีทางเป็นไปได้ว่า ผู้ต้องหาจะออกไปดื่มเหล้าข้างนอก แต่จะดื่มเหล้าตั้งแต่ในบ้านหรือเปล่านั้น ต้องรอพิสูจน์อีกที ซึ่งทางตำรวจก็รีบดำเนินการให้ดีที่สุด รวดเร็วที่สุด และตอบสังคมได้ชัดเจน ไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วจะพ้นโทษได้
ขณะที่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. หัวหน้าคุมคดีดังกล่าว กล่าวภายหลังการประชุมว่า ขณะนี้ได้ดำเนินคดี นายวรยุทธ ในข้อหาขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนีโดยไม่แจ้งเหตุให้เจ้าพนักงานทราบ ไม่หยุดให้ความช่วยเหลือ และดำเนินคดี นายสุเวศ หอมอุบล พ่อบ้านและพนักงานขับรถ ข้อหา แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนได้รับความเสียหาย รวมทั้งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย พ.ต.ท.ปัณณ์ณภณ นามเมือง สวป.สน.ทองหล่อ ที่นำนายสุเวศมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์ซึ่งไม่ตรงกับความจริง
พล.ต.ต.อนุชัย ยังกล่าวอีกว่า การขับรถชนแล้วลากไปถึง 200 เมตรนั้น เข้าข่ายเจตนาฆ่าหรือไม่ ตนยังไม่สามารถตอบได้ต้องรอพิสูจน์กันอีกที จากคำให้การพยาน และหลักฐาน รวมทั้งผลแพทย์ ก่อนพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ทั้งนี้ ตนในฐานะผู้บังคับบัญชา และตำรวจ สน.ทองหล่อ ที่ทำงานร่วมกับ ด.ต.วิเชียร ตนต้องบอกเลยว่า ผู้ตายเป็นคนดี พวกเราคงไม่ปล่อยให้เสียชีวิตโดยไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างแน่นอน ส่วนสำนวนคดีต้องรีบทำให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของตำรวจ รวมทั้งประชาชน และสื่อมวลชนให้สนใจ
ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ จยย.ไม่ได้ปาดหน้า ศพไม่ได้ถูกลาก
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ได้วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า นายวรยุทธ น่าจะขับรถมาด้วยความเร็วไม่ต่ำกว่า 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะจากผลการตรวจร่างกายของนายวรยุทธ ที่พบว่า บริเวณไหล่ด้านในติดคอเกือบถึงหน้าอกมีรอยแดงช้ำจากเข็มขัดนิรภัย ขณะที่เข็มขัดนิรภัยก็หลุดออกมา และถุงลงนิรภัยทำงาน แสดงว่าเป็นการชนที่แรงมาก และจากผลพิสูจน์ร่องรอยหลักฐานของรถเฟอร์รารี่กับรถจักรยานยนต์ ก็พบว่า เป็นการชนลักษณะตรง ตั้งฉาก เพราะรอยท่อไอเสียของรถจักรยานยนต์บุบเข้าไปตรงกับรอยชนที่ปรากฏด้านหน้ารถเฟอร์รารี่ ซึ่งไม่น่าจะเป็นการขับปาดหน้า เพราะถ้ารถจักรยานยนต์ปาดหน้าก็น่าจะมีการชนในลักษณะมุมเฉียงมากกว่า
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุอีกว่า สันนิษฐานว่า รถน่าจะชนที่หน้าปากซอยสุขุมวิท 47 เพราะพบรอยเลือดกระเซ็นในจุดดังกล่าว ทำให้ร่างของ ด.ต.วิเชียร ติดอยู่บนฝากระโปรงรถด้านหน้า และยังพบร่องรอยของรถเฟอร์รารี่และรถจักรยานยนต์ครูดกับเกาะกลางถนน และพื้นถนน แต่ระหว่างทางไม่พบคราบเลือด มาพบอีกครั้งห่างจากจุดแรก 64.8 เมตร คาดว่า ศพของ ด.ต.วิเชียร ตกจากกระโปรงหน้ารถที่จุดนี้ แต่รถจักรยานยนต์ยังติดอยู่ที่รถเฟอร์รารี่ ก่อนที่รถเฟอร์รารี่จะสะบัดรถจักรยานยนต์ออก ตรงบริเวณปากซอยสุขุมวิท 49 พอดี จึงน่าจะสรุปได้ว่า ศพไม่ได้ถูกลากไป แต่ศพน่าจะติดอยู่บนฝากระโปรง
ทนาย ยัน ทายาทกระทิงแดง ไม่ได้เมาก่อนซิ่งชนตำรวจ
นายสมัคร เชาวภานันท์ ส.ว.สรรหา ทนายความของนายวรยุทธ กล่าวว่า คดีดังกล่าวนายวรยุทธได้ขับรถ ด.ต.วิเชียร จริง แต่จะชนแบบสุดวิสัย ประมาทฝ่ายเดียว หรือประมาททั้งสองฝ่ายยังต้องรอผลสอบสวน ทั้งนี้ นายวรยุทธ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ถึงขนาดไปดื่มย้อมใจ เพราะเครียดมาก ตนจึงบอกให้ลุกขึ้นสู้กับความจริง อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เช้าวันเกิดเหตุ นายวรยุทธไม่ได้ดื่ม ส่วนที่ชนแล้วขับรถหนีนั้น เพราะตกใจและกลัวความผิด จึงได้ไปปรึกษานายเฉลิม ผู้เป็นพ่อก่อน และยืนยันว่า นายวรยุทธจะไปขอขมาศพผู้เสียชีวิตแน่นอน
เมื่อถามถึงเรื่องการชดใช้และเยียวยา ทนายประจำตระกูลอยู่วิทยา แจงว่า ตอนนี้ได้ร่วมเป็นเจ้าภาพงานศพ และไปร่วมงานศพทุกคืน พร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด โดยกรณีนี้เป็นการยอมรับสภาพ เพราะอีกฝ่ายสูญเสีย ยืนยันว่า ฝ่ายเราไม่ได้เจตนา ส่วนรูปคดีจะเป็นเช่นไรนั้น ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวน
| Create Date : 05 กันยายน 2555 |
| Last Update : 5 กันยายน 2555 11:59:17 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2307 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [
