ติดตาม twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด
<<
กันยายน 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
16 กันยายน 2553

พระปราโมทย์ แถลงปมศึก สวนสันติธรรม




ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ข่าวคราวความขัดแย้งภายในสวนสันติธรรม ถูกนำเสนอผ่านสื่ออย่างต่อเนื่อง กรณีกลุ่มชาวพุทธรักษ์ศาสนา (พรศ.) ยื่นต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ให้ตรวจสอบพฤติการณ์ของ พระปราโมทย์ ปาโมชโช(สันตยากร) เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยตั้งข้อสงสัยเรื่องการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินที่ให้กับ นางอรนุช อดีตภรรยา ซึ่งเป็นแม่ชีอยู่ที่เดียวกัน

ขณะเดียวกัน ไฮโซคนดัง "ฐิตินาถ ณ พัทลุง" ผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิต ก็ได้ทำการยื่นโนติส (คำร้องที่จะขอใช้สิทธิตามกฏหมาย) ขอเงินบริจาคคืนจากพระปราโมทย์ เป็นจำนวนกว่า 4 ล้านบาท รวมถึงกรณีที่ มูลนิธิบ้านอารีย์ ได้ยื่นหนังสือต่อ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของพระปราโมทย์ โดยระบุว่า ได้ติดตามพฤติกรรมของพระปราโมทย์มาระยะหนึ่งแล้ว และเห็นว่ามีพฤติกรรมอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสื่อมเสียต่อพระพุทธศาสนา เนื่องด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

1. พระปราโมทย์ ทำการอวดอุตริมนุสสธรรม คือ พูด บรรยาย เขียนบทความ สื่อให้ผู้ฟัง ผู้อ่าน เข้าใจได้ว่าสำเร็จเป็นอริยบุคคลขั้นใดขั้นหนึ่งแล้ว อันอาจเป็นเหตุนำมาซึ่งลาภสักการะ

2. ใช้การแสดงอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์ คือ การดักทายใจของผู้ร่วมอบรมธรรมอย่างจงใจแทบทุกครั้ง อันนำมาซึ่งความเสื่อมถอยในการปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชน

3. พระปราโมทย์ ได้เทศน์เกี่ยวกับไสยศาสตร์ อันอาจก่อให้เกิดการปิดกั้นทางปัญญาแก่พุทธศาสนิกชน และอาจก่อให้เกิดความหวาดกลัว ความเกลียดชัง ขึ้นในหมู่ชาวพุทธ อันเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ดำรงอยู่ในสมณเพศ

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สั่งการไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินที่มีการบริจาคให้กับสวนสันติธรรมแล้ว ส่วนกรณีการโอนที่ดินให้เป็นชื่อของอดีตภรรยานั้น พระปราโมทย์เคยชี้แจงต่อเจ้าคณะจังหวัดชลบุรีแล้ว โดยยอมรับว่าโอนจริง เพราะอยู่ในช่วงการทำเรื่องขอสร้างวัด หากสร้างวัดเสร็จแล้วจะโอนทรัพย์สินทั้งหมดให้เป็นของวัด

ทางด้านฝ่ายของ พระปราโมทย์ ก็ได้ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่นางสาวฐิตินาถยื่นโนติส ว่า สาเหตุที่นักเขียนชื่อดังออกมาร้องเรียน อาจเกิดจากความผิดหวังและเสียประโยชน์จากการที่ไม่ได้เป็นผู้ใกล้ชิด เนื่องจากในระยะหลังนางสาวฐิตินาถนำชื่อพระปราโมทย์ไปรับบริจาคเงินหลายครั้ง ซึ่งพระปราโมทย์เห็นว่าไม่เหมาะสมจึงกันตัวนางสาวฐิตินาถออกมา นอกจากนี้ นางสาวฐิตินาถ ก็เขียนหนังสือเกี่ยวกับพระปราโมทย์ได้เงินไปกว่า 40 ล้านบาท แต่บริจาคให้วัดเพียงแค่ 4 ล้านบาทเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (16 ก.ย.53) ทางสวนสันติธรรม ได้มีการจัดแถลงข่าวเกี่ยวกับประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า การแถลงข่าวในครั้งนี้กระทำโดยตัวแทนของผู้มาปฏิบัติธรรมในสวนสันติธรรม มิใช่เกิดจากเจตนารมย์โดยตรงของหลวงพ่อปราโมทย์ หรือ พระปราโมทย์ ด้วยเหตุว่าปัจจุบันมีกลุ่มของผู้ไม่หวังดีที่ได้กระทำการโดยมีเจตนาจะทำลาย ชื่อเสียงอันดีงามของหลวงพ่อปราโมทย์ และของสวนสันติธรรม ทางสวนสันติธรรมจึงได้มอบหมายให้ตัวแทนดำเนินการจัดให้มีการแถลงข้อเท็จจริง

วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสวนสันติธรรมนั้น ได้จัดตั้งขึ้นมาตามความประสงค์ของผู้มีจิตศรัทธาต่อหลวงพ่อปราโมทย์ เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และศึกษาธรรมของผู้ที่มีจิตศรัทธา และความประสงค์จะเข้ามาศึกษาธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์ โดยในช่วงแรกได้จัดตั้งขึ้นเป็นศูนย์ศึกษาปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่ใช่นิติบุคคล ในการดำเนินการจัดสร้างนั้นเริ่มต้นด้วยการจัดซื้อที่ดิน ในช่วงของการซื้อที่ดินคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งเป็นผู้บริจาคเงินบางส่วน ได้ร้องขอเป็นผู้ซื้อที่ดิน แต่ทางหลวงพ่อขอให้ใช้ชื่อของแม่ชีอรนุชเนื่องจากว่าไว้วางใจมากกว่า จึงทำให้มีชื่อของแม่ชีอรนุช เป็นเจ้าของที่ดินมาตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2548 มิใช่การโอนถ่ายให้แก่แม่ชีอรนุชในภายหลังแต่อย่างใด

ในการดำเนินการต่าง ๆ เกี่ยวกับการก่อสร้าง และตลอดจนการดำเนินงานของสวนสันติธรรมได้กระทำอย่างโปร่งใส มีบุคคลต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ได้เข้ามารับรู้และทราบเรื่องเป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนสันติธรรมก็ไม่เคยมีทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก หรือไม่เคยมีเรื่องการยักย้ายทรัพย์สินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

และในการบริหารเงินที่ได้รับบริจาคมาของสวนสันติธรรม ท่านแม่ชีอรนุชไม่ใช่ผู้ดูแลบัญชีเงินรับบริจาคแต่เพียงผู้เดียว ยกเว้นในช่วงแรกที่คุณฐิตินาถวางมือก่อนสร้างสวนสันติธรรมเสร็จ โดยบัญชีเงินรับบริจาคของสวนสันติธรรม มีพัฒนาการเป็น 3 ระยะคือ

1. ระยะก่อสร้างสวนสันติธรรม เบื้องต้นมีการเปิดบัญชีเพื่อสร้างสวนสันติธรรมในนามของท่านแม่ชีอรนุชร่วม กับคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ซึ่งการลงนามเบิกเงินจะต้องลงนามร่วมกัน โดยคุณฐิตินาถจะเป็นผู้ขอเบิกจ่ายเนื่องจากเป็นผู้ดูแลการก่อสร้าง และคุณธนา รุจิพัฒนกุล เป็นผู้ถือสมุดบัญชีเงินฝากและตรวจสอบรายรับรายจ่าย และในช่วงที่สวนสันติธรรมเปิดการแสดงธรรมแล้ว มีการเปิดบัญชีอีกบัญชีหนึ่งในนามของท่านแม่ชีอรนุชและคุณฐิตินาถร่วมกัน เพื่อดูแลเงินที่สาธุชนถวายสงฆ์เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม

2. ระยะหลังการก่อสร้าง ในช่วงท้ายของการก่อสร้างคุณฐิตินาถวางมือเนื่องจากมีภาระส่วนตัว ท่านแม่ชีอรนุชจึงต้องรับภาระดูแลบัญชีตามลำพัง ในช่วงธันวาคม 2549 เป็นต้นมา โดยปิดบัญชีสร้างสวนสันติธรรมเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ และปิดบัญชีบำรุงสวนสันติธรรมเดิมโดยถ่ายโอนเงินไปเปิดบัญชีใหม่ในนามของท่านแม่ชีอรนุชตามลำพัง เนื่องจากคุณฐิตินาถไม่ได้อยู่ในสวนสันติธรรมแล้ว แต่การใช้จ่ายทุกอย่างมีหลักฐานการเบิกจ่ายทั้งสิ้น และต่อมาเมื่อมีเงินในบัญชีมากขึ้น สวนสันติธรรมจึงได้เปิดบัญชีธนาคารใหม่เมื่อ 22 สิงหาคม 2551 ในนามของท่านแม่ชีอรนุช คุณอภิชาติ อัศวเรืองชัย และคุณชยาทร เตชะไพบูลย์ และทุกสิ้นเดือน ท่านแม่ชีอรนุชจะทำบัญชีส่งให้คุณอภิชาติเป็นหลักฐานด้วย อย่างไรก็ตามตั้งแต่คุณอภิชาติลาออกจากการเป็นประธานกรรมการสวนสันติธรรม เมื่อ 15 มกราคม 2553 ก็ไม่มีการเบิกเงินจากบัญชีนี้แต่อย่างใด

3. ระยะปัจจุบัน เมื่อ 18 กุมภาพันธ์ 2553 มีการเปิดบัญชีใหม่ ในนามของคุณสุรพล สายพานิช คุณธนา รุจิพัฒนกุล และคุณกนิษฐวิริยา ต.สุวรรณ ทั้งนี้ท่านแม่ชีอรนุชทำหน้าที่เพียงการควบคุมการเบิกจ่ายเงินสดย่อย และสรุปยอดบัญชีรายเดือนส่งให้คุณสุรพล ซึ่งได้จ้างนักบัญชีตรวจสอบบัญชีอีกชั้นหนึ่งด้วย

ทั้งนี้ เงินบริจาคของสวนสันติธรรมจะมาจาก 2 ทาง คือ ส่วนที่มีผู้บริจาคเข้าบัญชีโดยตรง และจากญาติโยมที่เข้ามาฟังธรรมและได้บริจาคแด่สงฆ์ที่อยู่ในสวนสันติธรรม เพื่อบำรุงสวนสันติธรรม ซึ่งเงินในส่วนที่สองนี้จะมีอาสาสมัครคอยดูแล และตรวจนับ มีการลงรายการรับไว้ครบถ้วน และทางสวนสันติธรรมจะมีการใช้เงินอย่างมีระบบเอกสารการเบิกจ่ายครบถ้วนตาม ที่ได้กล่าวมาข้างต้น

อนึ่ง การที่หลวงพ่อปราโมทย์ได้มอบหมายให้ ท่านแม่ชี อรนุช รับมอบอำนาจดำเนินการควบคุมการเบิกจ่ายเงินของสวนสันติธรรมแทนหลวงพ่อปราโมทย์ และดูแลบัญชีเป็นบางคราวนั้น เนื่องจากท่านหลวงพ่อปราโมทย์ ท่านเป็นพระในสายของธรรมยุตินิกาย ซึ่งจะไม่มีสามารถจับต้องหรือเก็บเงินทอง หรือซื้อทรัพย์สินใด ๆ เองได้ ทั้งสิ้น และในสวนสันติธรรมไม่มีอุบาสกอยู่ประจำ จึงจำเป็นที่จะต้องให้ท่านแม่ชีอรนุช ดูแลแทน และที่ผ่านมาท่านแม่ชีก็ได้ร้องขอต่อหลวงพ่อปราโมทย์บ่อยครั้ง ที่จะให้หาคนมาทำงานแทน เพื่อท่านแม่ชีจะได้บำเพ็ญภาวนาได้เต็มที่ต่อไป

นอกจากนี้ เกี่ยวกับที่ดินของสวนสันติธรรมตามที่เป็นข่าว ภายหลังจากที่จัดสร้างสวนสันติธรรมแล้วเสร็จ ในช่วงแรกมีผู้เห็นว่าการตั้งเป็นวัดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยาก และในตอนนั้นยังไม่เหมาะสมจึงยังไม่ดำเนินการ และต่อมาในเดือนมกราคม 2553 เมื่อเห็นว่าทุกอย่างลงตัวและพร้อมแล้ว หลวงพ่อปราโมทย์ก็ได้ให้ท่านแม่ชีอรนุช ยื่นเรื่องขอยกที่ดินแปลงที่เป็นที่ตั้งของสวนสันติธรรมให้มีการจัดตั้งเป็น วัดแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2553 โดยทำสัญญากับท่านนายอำเภอศรีราชา และ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการอนุญาตต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้สวนสันติธรรมมีฐานะเป็นวัดต่อไป




อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
,




Create Date : 16 กันยายน 2553
Last Update : 16 กันยายน 2553 20:32:24 น. 0 comments
Counter : 1395 Pageviews.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

sitcomthai
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 53 คน [?]










ติดตามข้อมูลของเว็บทาง twitter ได้ที่ @karnoi กด
ติดตามข้อมูลเว็บทาง FaceBook กด







Online Users


New Comments
[Add sitcomthai's blog to your web]