bloghead..................................................
Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
16 พฤศจิกายน 2551
 
All Blogs
 
เปลือยชีวิต


กระผม นายเรือรบ อายุ 27 ปี ขออนุญาตแนะนำตัว แบ่งปันชีวประวัติบางส่วน สำหรับท่านผู้อ่านบางท่านที่อ่านงานเขียนของผม แล้วอาจอยากรู้ความเป็นมาเป็นไป ความมุ่งหวังและเป้าหมายในชีวิตของผม

ประวัติวัยเด็กของผมนั้น ขอเล่าย่อๆว่า ในปี พ.ศ.2523 ผมเบิกตาดูโลกพร้อมแหกปากร้องครั้งแรกที่กรุงเทพฯ อีก 1 ปีถัดมาก็มีน้องชายอีกคนคลานตามออกมา เราสองพี่น้องเป็นเพื่อนเล่นกันมาโดยตลอด ชีวิตเด็กๆอยู่กับพ่อแม่ละน้อง จำได้มาอบอุ่นมากๆ
แต่เนื่องจากคุณพ่อเป็นตำรวจ ต้องย้ายที่ทำงานไปต่างจังหวัดบ่อย เมื่อถึงเวลาที่ผมต้องเรียนหนังสือ ท่านจึงให้เราสองคนอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยายที่กรุงเทพฯ

ตากับยายจะเลี้ยงแบบบังคับให้อยู่ในกรอบและตีถ้าไม่เชื่อฟัง ตามแบบฉบับโบราณสมัย ต่างกับการเลี้ยงดูของพ่อแม่ที่จะตามใจผมมาก อยากกินได้กิน อยากนอนได้นอน อยากเล่นได้เล่น

พอผมต้องถูกเปลี่ยนผู้ดูแลโดยไม่สมัครใจ ทำให้เด็กน้อยคิดว่า พ่อแม่ก็ไม่รัก ตายายก็ไม่เข้าใจผม เมื่อโตขึ้นเรื่อยๆก็มักจะเชื่อตัวเอง แก้ปัญหาเอง ตัดสินใจเอง ไม่ค่อยปรึกษาใคร นั่นคือการสร้างตัวตนของผมประการแรก

ประการที่สอง ตอนอยู่ชั้นอนุบาล ผมจำได้ว่า ผมชอบเล่นเชิดหุ่นมือให้น้องๆดู เมื่ออยู่ชั้นประถม เป็นเด็กที่ชอบอ่านหนังสือมากกว่าออกไปเล่นซน อาจเป็นเพราะเกิดในกรุงเทพ พื้นที่วิ่งเล่นไม่อำนวย

เมื่ออ่านแล้วก็ชอบเล่าให้คนอื่นฟัง ตอนป. 3 ครูใหญ่ให้ผมไปเล่าเรื่องที่อ่านให้พี่ ป. 6 ฟัง ผมทำได้ดีและได้รับคำชม ตั้งแต่นั้นผมก็พบว่า ผมเป็นคนมั่นใจในตัวเอง ใช้ภาษาได้ดี และกล้าแสดงออกในที่สาธารณะได้เป็นอย่างดี นั่นคือทักษะการสื่อสารและการแสดงออกของผมที่ถูกพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง

ประการที่สาม จากการเป็นพี่ จะถูกสอนให้ต้องดูแลน้อง เสียสละให้น้อง ถ้าน้องทำผิด เราต้องร่วมรับผิดชอบด้วย โทษฐานไม่ดูแลน้อง การต้องคอยระวังตัวเช่นนี้ ทำให้ผมต้องคิดล่วงหน้าอยู่เสมอ ว่าจะเกิดเหตุอะไรให้ผมโดนตีหรือไม่

สิ่งนี้อาจทำให้ผมมีความเป็นผู้นำโดยพื้นฐาน ตั้งแต่ประถมผมจึงได้เป็นหัวหน้าห้องตลอดมา ผมชอบการแข่งขัน ชอบเปรียบเทียบกับคนที่เหนือกว่า และต้องการเอาชนะเพื่อนให้ได้ทุกเรื่อง

ประการสุดท้าย ผมและน้องไม่ได้เงินค่าขนมไปโรงเรียน ต้องขอเพื่อนกิน เพราะคุณยายจะมีอาหารว่างให้เราเต็มที่เมื่อเรากลับถึงบ้าน จึงไม่ให้เงินเราไปซื้อขนมขบเคี้ยวที่ไม่มีประโยชน์

ยายสอนเสมอว่าให้ประหยัด อย่าไปซื้อขนมฟุ่มเฟือย แต่ในขณะนั้นผมไม่เข้าใจ ผมจึงฝังใจว่า เมื่อโตขึ้น ผมต้องมีเงิน เพื่อจะได้ซื้อขนมกินโดยไม่ต้องขอใคร นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ผมให้คุณค่ากับเงินอย่างยิ่ง เมื่อจะทำอะไรให้ใครก็ควรมีผลประโยชน์ แม้จะคุยกับใคร ก็ต้องมีสาระ ได้ประโยชน์ ถึงจะคุ้มค่าเวลาของเรา ซึ่งเป็นหลักของทุนนิยมเต็มขั้น

ข้อดีบางอย่างของตัวตนที่สร้างมา ทำให้ผมเป็นคนอ่านหนังสือมาก ชอบการพัฒนาตัวเองใฝ่หาความรู้ และปรับเปลี่ยนตัวเองอยู่เสมอ ผมชอบคุยกับผู้ใหญ่ และดูดซับความคิด ความรู้ เข้ามาประยุกต์กับตัว มีคนชมเสมอว่า ผมเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกัน

ส่วนข้อเสียคือ ไม่ค่อยมีความสุข ไม่เล่นกับคนวัยเดียวกัน ไม่มีความละเอียดอ่อนในอารมณ์ มีความเครียด กดดันตัวเองอยู่เสมอ แล้วก็คาดหวังกับคนรอบข้างเป็นอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่า ผมมองตัวเองไม่ออกในจุดนี้

เรื่องราวข้างต้น คือเหตุการณ์ในชีวิตที่สร้าง “ตัวตน” ของผมขึ้นมา เป็นเหมือนเบ้าหลอมหล่อของธรรมชาติ หลังจากหล่อแบบเสร็จแล้ว ผมถูกแกะสลักอีกหลายครั้ง ด้วยความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต ก่อนที่จะเป็นตัวเองในทุกวันนี้

การเปลี่ยนแปลงประการแรก เมื่อเจริญวัยขึ้น ผมสอบได้โรงเรียนมัธยมระดับต้นของประเทศ สนุกกับชีวิตวัยรุ่นอยู่ได้ไม่ทันไร พ้น ม.ต้น ก็สอบ ติด รร.เตรียมทหาร แล้วก็ต่อด้วยโรงเรียนนายเรือจนจบระดับอุดมศึกษา

ช่วงที่ต้องอยู่ประจำโรงเรียนทหารนั้น ผมต้องปรับตัวอย่างมาก จากเด็กหนุ่มชาวกรุงผู้อ่อนแอทำอะไรไม่ค่อยเป็น ต้องฝึกอย่างหนัก อยู่ในระเบียบ ห่างไกลครอบครัว ช่วงนั้น ผมกลับสัมผัสได้ถึงความรัก ความเป็นห่วงของตายาย และทุกๆคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี

ขณะเรียนอยู่ปี 2 อายุครบเกณฑ์ ผมได้บรรพชาอุปสมบท เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ประการที่สอง ให้ผมได้พบพุทธศาสนาที่แท้ พบความจริงที่เคยมองข้าม มองเห็นความไม่เที่ยงของชีวิต ผมได้ฝึกสมาธิ ถือศีล อยู่ถ้ำ เป็นความสงบสุขอย่างยิ่งที่ไม่เคยได้รับมาก่อน

รู้สึกประทับใจชีวิตสมณะอย่างยิ่ง หลังจากลาสิกขาออกมา ก็ได้เข้าปฏิบัติธรรมตามสำนักต่างๆ อีกหลายครั้ง ตามแต่โอกาสอำนวย และสิ่งที่ยึดถือเป็นสรณะหลังจากนั้น คือการรักษาศีล 5 ให้บริบูรณ์ ต่อมาจึงได้รู้จักและฝึกวิปัสสนากรรมฐานเพิ่มเติม และยังฝึกในชีวิตประจำวันอยู่เสมอ

การเปลี่ยนแปลงประการที่สาม ระหว่างที่เรียนอยู่โรงเรียนนายเรือ 5 ปีนั้น ช่วงที่ออกฝึกภาคทะเลคราใด ผมเมาเรือเป็นอย่างมาก อาเจียน กินไม่ได้ นอนไม่หลับ จนผมแน่ใจว่า ผมคงไม่เหมาะกับการเป็นชาวเรือเท่าใดนัก

ทันทีที่เรียนจบ ก็วางแผนมาเรียนต่อปริญญาโท ด้วยการลาราชการ2ปี แล้วก็เลือกสาขาบริหารที่อยากเรียน คิดว่าอาจมีช่องทางทำธุรกิจกับเพื่อนใหม่ๆ และลาออกได้ในที่สุด

และแน่นอน เป้าหมายในขณะนั้นคือ ความมั่งคั่ง รถหรู บ้านใหญ่โต เป็นอาทิ

ในห้วงเวลานั้นก็ได้ศึกษาทางธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยลองทำธุรกิจส่วนตัว ก็ยังเตาะแตะ แต่ก็ตั้งใจเต็มที่ มีความทะเยอทะยานสูง และมีความเครียดตามมา การปฏิบัติธรรม ดูจิตเป็นระยะ ก็ช่วยให้ผ่อนคลาย แต่เหมือนมันค้านกันอยู่ในใจลึกๆ ใจหนึ่งอยากอยู่อย่างพอเพียง ใจหนึ่งก็อยากรวย อยากมีหน้ามีตา เรื่องราวเหล่านี้ทำให้ใจผมขึ้นๆลงๆอยู่

เลยออกไปหาความรู้เพิ่มเติม เข้าคอร์สพัฒนาตนเองต่างๆ ไปเสียเงินอบรมหลายๆแห่งที่มีคนแนะนำมา ทำให้มีมุมมองที่กว้างขึ้นและมีเครื่องมือมากขึ้น ความรู้ก็ยังไม่ปะติดปะต่อนัก ยังเอามาใช้ในทันที่ไม่ได้

ทั้งนี้จุดเปลี่ยนประการที่สี่ ก็เมื่อได้แลกเปลี่ยนความรู้กับน้องชาย ซึ่งเพิ่งเรียนจบแพทย์มา เค้าย้ายกลับมาอยู่บ้าน หลังจากไม่ได้อยู่ด้วยกันมา 7 ปี น้องแนะนำให้ผมไปเรียนวิชาเรกิที่หาดใหญ่ และไปสัมผัสสุนทรียสนทนาของสถาบันขวัญเมืองที่เชียงราย ทำให้มิติทางจิตวิญญาณของผมได้ถูกเปิดออกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ผมได้รับฟังเสียงภายในมากขึ้นในระยะหนึ่งปีที่ผ่านมา ได้สัมผัสอารมณ์อันละเอียดอ่อนในเบื้องลึกของตนเอง สัมผัสพลังในธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์ในปัจจุบันอธิบายไม่ได้ สัมผัสตัวตนเนื้อแท้ภายในของตนเอง

ผมมีโอกาสเจอเพื่อนใหม่ๆ ได้รับมิตรภาพมากมาย รวมทั้งกลุ่ม จิตตปัญญาศึกษาด้วย สิ่งที่ผมสนใจตอนนี้คือ การพัฒนาตนเองในมิติทางจิตวิญญาณ การเป็นกระบวนกร บนพื้นฐานทักษะการสื่อสารที่ผมมี อาจเป็นสะพานเชื่อมให้ผู้อื่นได้เข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นจากเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของชีวิตผม

จากความคิดนี้นี้ผมจึงเขียนบทความการเรียนรู้ของผมลงในกระทู้วงน้ำชาดอทคอมของสถาบันขวัญเมืองด้วยภาษาที่อ่านง่าย สนุกสนาน เพื่อให้เพื่อนใหม่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น

สำหรับเป้าหมายในอนาคตเดิมของผม ได้ถูกลบออกไปอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้ผมมีความสุขกับปัจจุบันมากกว่าที่จะคาดหวังและวางแผนอนาคต

ผมเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตวันนี้ ให้เป็น “ชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์” นี่เป็นเป้าหมายที่ผมยึดถือในปัจจุบันเมื่ออายุ 27 ปี แน่นอนมันอาจเปลี่ยนแปลงไปได้อีก ชีวิตมีความเป็นพลวัต นั่นแสดงถึงความมีชีวิตอยู่ของเรา แต่ไม่ใช่ประเด็นที่ผมต้องกังวลอีกต่อไป

การกลับมารับราชการและขอเบนเข็มออกจากเรือรบมารับหน้าที่ในตำแหน่งนายทหารประจำแผนกประชาสัมพันธ์ของกองทัพเรือ แม้งานหนักแต่ผมรู้สึกว่าได้งานที่เป็นตัวของตัวเองมาก ทั้งนี้ผมเลิกคิดที่จะลาออก อยากทำหน้าที่ตอบแทนคุณกองทัพเรือให้มากที่สุด

โดยตั้งปณิธานไว้ว่า จะเป็นสะพานให้ผู้อ่านงานเขียนของผม โดยเฉพาะองค์กรทหาร ได้เห็นความสำคัญและมีโอกาสฝึกฝนพัฒนาตัวตนภายใน เพื่อการพัฒนาทางองค์บุคคลอย่างยั่งยืนของกองทัพและประเทศไทย รวมทั้งจะได้เป็นตัวกลางเชื่อมโยงเครือข่ายที่เคยแยกจากกันเข้าด้วยกันในโอกาสข้างหน้าต่อไป




Create Date : 16 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2551 7:40:59 น. 11 comments
Counter : 487 Pageviews.

 
ว้าว ดีจัง


โดย: redclick วันที่: 16 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:54:01 น.  

 




น้องชายก็จบโรงเรียนนายเรือเหมือนกันครับ


โดย: มิสเตอร์ฮอง วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:12:36 น.  

 


โดย: เป็นสมาชิกเมื่อวาน วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:43:51 น.  

 


::::::: H A P P Y :: B I R T H D A Y :::::::


ขอให้มีความสุขมากๆและมีสุขภาพแข็งแรงนะคะ



โดย: หนีแม่มาอาร์ซีเอ วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:1:09:45 น.  

 


โดย: bannine วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:7:31:54 น.  

 
ทุ่งสีเหลืองcardHBD


โดย: เจ้าจัน วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:25:18 น.  

 




โดย: plely วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:57:46 น.  

 
เกิดวันเดียวกันเลยค๊า
ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะค่ะ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: wayoflife วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:49:26 น.  

 



::::::: สุ ข สั น ต์ วั น เ กิ ด ค่ ะ :::::::



วันนี้วันดี สุโขสุขี สวัสดีมีชัย
ให้ร่ำให้รวย ให้สวยผ่องใส ทุกข์โศกโรคภัย อย่าได้กล้ำกรายนะจ๊ะ นะจ๊ะ



โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:12:42:16 น.  

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆ มีสุขภาพแข็งแรงทั้งกายและใจ ทำสิ่งใดก็ขอให้ประสบความสำเร็จทุกประการค่ะ

อ่านประวัติแล้ว ขอชื่นชมค่ะ


โดย: แม่น้องแปงแปง (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:05:58 น.  

 


ป้าเชิญนางฟ้า..มาอวยพรวันเกิดค่ะ
ขอให้พบแต่สิ่งดีๆ คนที่ดีมีจิตใจดี
และเหตุการณ์ดีๆรวมทั้ง...
ความรักที่ดีที่สุดในชีวิตนะคะ
หวังว่าคงจะไม่ช้าไปนะคะ
*********
*****




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 21 พฤศจิกายน 2551 เวลา:15:16:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

navyob
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add navyob's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.