bloghead..................................................
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 

พันธนาการแห่งวิชาชีพ

ผมและเพื่อนกลุ่มเล็กๆ มีการริเริ่มที่จะจัดกลุ่มพูดคุยกัน ซึ่งจะเป็นการพบเจอเพื่อร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตร่วมกัน โดยเน้นการรับฟังอย่างตั้งใจและไม่ตัดสิน ที่เราเรียกกันว่า “กระบวนการไดอะล็อค” ซึ่งผมได้เขียนไว้อย่างละเอียดในหนังสือ “สิบวันเปลี่ยนชีวิต” ซึ่งขณะนี้ น่าจะหาซื้อได้ตามร้านหนังสือใหญ่ๆทั่วไป

วันอังคารเวลาทุ่มตรง เรานัดกันที่ร้านกาแฟเล็กๆน่ารัก แถวอนุสาวรีย์ชัยฯ แม้อยู่ท่ามกลางวิกฤตจราจร เราก็ยังนั่งรถไฟฟ้ามาพบเจอกันได้อย่างตรงเวลา สำหรับในวันนี้มีผู้มาร่วมวง 5 คน สมาชิกทั้งหมดรู้จักผม แต่ไม่เคยรู้จักซึ่งกันและกันมาก่อน ก็นับว่าเป็นวงพูดคุยกับคนแปลกหน้าที่แท้จริง

ด้วยความตั้งใจที่จะเข้ามาสัมผัสวงไดอะล็อค เนื่องจากทุกคนได้อ่านหนังสือของผมมาก่อนแล้วสนใจ จึงได้รับการเชื้อเชิญให้มาเข้าร่วมในวง เมื่อจุดมุ่งหมายอยู่ที่เดียวกัน ความแปลกหน้าจึงไม่เป็นอุปสรรคในการเดินทางร่วมกันแต่อย่างใด สมาชิกในวันนี้ มีอาชีพและความรู้ที่หลากหลายมาก เริ่มตั้งแต่ นักศึกษาปริญญาเอกด้านจิตวิทยา นักศึกษาแพทย์เฉพาะทางจิตเวช เจ้าของกิจการคอมพิวเตอร์ ผู้พัฒนาระบบอินเตอร์เนตระดับองค์กร ไปจนถึงนักเขียนอิสระซึ่งคือผมเอง

น่าสนใจว่า เราจะเริ่มพูดคุยอย่างไม่มีวาระ หรือไม่มีหัวข้อการคุยได้อย่างไร หลังจากการ “เช็คอิน” ด้วยการแนะนำตัวกันแล้ว ผมเชื้อเชิญให้เพื่อนร่วมวง แบ่งปันเรื่องราวในชีวิตปัจจุบันของแต่ละคน ถึงสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ ไม่นานนัก ก็พบกับเรื่องราวที่ดึงผู้ร่วมวงให้หลอมรวมเข้ามาพูดคุยกันในเรื่องเดียว นั่นคือเรื่องของความกังวลกับการตัดสินใจเพื่อเปลี่ยนแปลงอาชีพ

หลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์ที่น่าอึดอัดเช่นนี้ เราพบว่า ตัวเราเองไม่เหมาะกับงานที่เรากำลังทำ แม้มีรายได้ที่น่าพอใจอยู่แล้ว แต่วันเวลาผ่านไปสักพัก เรารู้สึกว่า ที่แห่งนี้ไม่ใช่ชีวิตที่เราต้องการ ประหนึ่งเราสูญเสียจิตวิญญาณบางอย่างไป บางคนรักในงานนั้น ทำได้ดี แต่กลับถูกเจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงานกีดกันกลั่นแกล้ง ทำให้ไม่มีความสุขในที่ทำงานนั้น บางคนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่อาจเติบโต อยู่ในระดับผู้ปฏิบัติที่ไม่ว่าจะทำได้ดีมีประสบการณ์สักเพียงใด ก็ไม่สามารถก้าวข้ามพ้นระเบียบกฏเกณฑ์เพื่อขึ้นไปสู่ตำแหน่งด้านการบริหารได้

ปัญหาที่เกิดในที่ทำงานเหล่านี้ แม้ดูเหมือนมาจากหลายสาเหตุ เราพบว่าต้นตอของปัญหา ไม่น่าเชื่อเลยว่ามาจากตัวเราเองทั้งสิ้น ประการแรก เราไม่รู้จักทักษะที่เราถนัด รักหรือสนใจ เริ่มตั้งแต่การเลือกงาน เราไม่ได้เลือกงานจากทักษะที่มี สิ่งที่รักหรือสนใจ แต่กลับเลือกจากสิ่งที่เราอยากมีอยากเป็น ดังนั้นขอถามว่า การทำงานที่ไม่ถนัดไม่ชอบนั้น จะทำได้ดีหรือไม่ แล้วเราจะมีความสุขในที่ทำงานทุกๆวันได้อย่างไร

ประการที่สอง เราไม่รู้จักเป้าหมายในชีวิตของเราเอง เมื่อถึงคราสถานการณ์บีบคั้น ให้ต้องตัดสินใจลาออก เราก็ไม่กล้า หรือเมื่อถูกให้ออกจากงาน เราก็ไม่มีหลักยึด ไม่รู้ว่า เราจะไปไหน ทำอะไรต่อไปดี เกิดความไม่มั่นคงในความเป็นอยู่ ซึ่งเป็นความทุกข์ใหญ่หลวงของชีวิต อันที่จริงในยุคนี้ เราไม่สามารถการันตีได้เลยว่า เราจะยังมีงานทำอยู่หรือไม่ในวันพรุ่งนี้

ประการสุดท้าย เราไม่มีทางเลือก หรือไม่มีทางหนีทีไล่เป็นหนทางสำรอง เราคุ้นเคยกับสิ่งที่เราทำได้ และทำได้ดี จนไม่คิดพัฒนาทักษะอื่นๆ ไม่มีงานอดิเรก ไม่มีสังคมอื่นหรือกลุ่มกิจกรรมอื่นที่นอกเหนือจากการทำงาน เราเพียงทำงานและกลับบ้านนอน และตื่นมาทำงานต่อ วันแล้ววันเล่า เยี่ยงเครื่องจักรกล

อา... เราถูกมัดผูกติดอยู่กับงาน เป็น “พันธนาการแห่งวิชาชีพ” ที่แน่นหนา แนบเนียนอย่างที่เราไม่เคยรู้ตัวเลย ไม่แปลกเลยที่คนทั่วไป ไม่กล้าตัดสินใจลาออกจากงาน หรือบางครั้งแทบฆ่าตัวตายเมื่อต้องตกงาน อันว่าการเปลี่ยนแปลงนั้น เริ่มมาจากสิ่งที่เราไม่อาจรู้ ไม่อาจควบคุมได้ จึงนำมาซึ่งความกังวลและความทุกข์ทนมหาศาล

ไม่ง่ายเลย ที่จะต้องออกจากพื้นที่คุ้นชิน ไม่ง่ายเลยที่จะออกจากสิ่งที่ทุกคนรอบตัวบอกว่าดี ไม่ง่ายเลยที่จะออกจากระบบอันแสนมั่นคงที่ถูกปลูกฝังกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ทั้งๆที่อีกฟากฝั่งหนึ่ง คืออิสรภาพที่เราจะได้ทำทุกอย่างตามใจปรารถนา ทำตามแรงบันดาลใจ ทำตามจิตวิญญาณที่ร่ำร้องอยู่ภายในมานานแสนนาน

ผมอยากยกเรื่องราวในหนังสารคดี หมีขาวขั้วโลกตัวน้อย ที่ถูกมนุษย์นำไปเลี้ยงไว้ตั้งแต่เด็ก ไม่รู้จักแม่ มีมนุษย์ป้อนนม ป้อนอาหาร อยู่ห้องแอร์ ไม่เคยเจอหมีตัวอื่นเลย จนวันหนึ่งเมื่อมันโตเต็มที่ เป็นหมีหนุ่มบึกบึนแสนสง่า มนุษย์ตัดสินใจเอามันกลับบ้าน โดยเอาใส่คอนเทนเนอร์ทึบติดแอร์ พาขึ้นเครื่องบินกลับไปไว้ที่ขั้วโลก

พวกเขาช่วยกันเปิดกรงแล้วทิ้งมันไว้ตรงนั้น ออกไปเฝ้ามองดูห่างๆ มันมองออกมา เห็นลานน้ำแข็งกว้างไกลสุดตา น้ำเย็นยะเยือกมีปลาแหวกว่าย หมีสาววิ่งเล่นและว่ายน้ำอยู่อย่างร่าเริง เป็นภาพแรกในชีวิตที่มันเคยได้เห็น

หมีหนุ่มตัวสั่น ก้าวขาออกมา แล้วก็หดเข้าไป สักพักใหญ่ๆ ก็ค่อยๆ ออกมาทั้งตัว เดินกระย่องกระแย่งมาที่แอ่งน้ำ ค่อยๆเอาขาหน้าจุ่มลงไป พอสัมผัสความเย็นก็ตกใจชักขาขึ้นมาอีก มันทำอย่างนี้ซ้ำอยู่สักพัก มองเห็นหมีสาวว่ายน้ำยั่วเย้าไปมา ก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปจุ่มในน้ำ แล้วตัดสินใจกระโดดลงไป ตูม...

มันตะเกียกตะกาย ขาหน้าปะป่ายไปทั่ว สำลักน้ำค่อกแค่ก จนมาเกาะที่ขอบน้ำแข็งได้ มันหยุดหอบหายใจ สักพักใหญ่ๆ มันเริ่มตีขาว่ายอยู่ใกล้ๆขอบน้ำแข็งตรงนั้น ไม่นานนัก มันเริ่มว่ายน้ำได้ ต่อมา เริ่มหาปลาได้ เริ่มเข้าหาฝูงของมัน มีครอบครัว มีลูก และในที่สุด ก็เป็นจ่าฝูงได้อย่างงามสง่า

สัญชาตญาณในตัวไม่เคยทิ้งจิตวิญญาณแห่งการดำรงชีพของเรา เมื่อเราไว้ใจจักรวาล จักรวาลจะจัดสรรนำพาชีวิตเราไปในทางที่เหมาะสม และแม่แห่งธรรมชาตินั่นเอง จะดูแลโอบอุ้มฟูมฟักเราไว้ในอ้อมกอดตลอดไป

ขอตัดภาพกลับมาในชีวิตปัจจุบัน เมื่อวานนี้ ผมเพิ่งได้พบกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันนานแล้ว เธอเป็นสาวน้อยหน้าตาน่ารักทีเดียว ค่ำคืนนั้น เรานัดทานดินเนอร์กันที่ร้านบรรยากาศสบายๆ ท่ามกลางลมหนาวและแสงดาว มีดนตรีสดแนวอะคูสติกเล่น เธอแต่งตัวสบายๆ สวมเสื้อยืดกางเกงยีนส์ พร้อมกับผ้าพันคอสีสวย เรานั่งคุยกันอย่างออกรส สักพักเธอก็ขอตัวขึ้นไปร้องเพลง น้ำเสียงใสกังวานนั้น ทำให้ผมนิ่งฟังอย่างถูกสะกด

ราวหนึ่งชั่วโมงผ่านไป เธอก็ลงจากเวทีพร้อมกับเสียงปรบมือ เธอมารับจ๊อบร้องเพลงที่นี่อาทิตย์ละสองวัน บอกไป คงไม่มีใครเชื่อว่าเมื่อช่วงกลางวันที่ผ่านมานี้ เธอยังสวมชุดยูนิฟอร์มขาวทำหน้าที่เป็นนางพยาบาล เย็นย่ำก็เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งหน้าทำผม ออกมาอ่านข่าวประจำวันที่ช่องเคเบิ้ลทีวีท้องถิ่น ตกค่ำก็มาร้องเพลงอีก

สิ่งที่เธอทำทั้งหมด ได้เงินไม่คุ้มค่าเดินทางและค่าเหนื่อยด้วยซ้ำ ถ้าอยากได้เงินดี ก็แค่รับอยู่เวร หรือไปประจำคลินิกเอกชนต่อ แต่เธอบอกว่า ที่มาทำงานพิเศษเช่นนี้เพราะรักในงานอดิเรกเหล่านี้และไม่อยากซ้ำซากจำเจกับงานเดิมๆ ถ้าหากมีคำถามว่ามีใครที่ไหนในโลกที่ไม่กลัวการตกงาน เธอจะเป็นหนึ่งในคนเหล่านั้นอย่างแน่นอน ผมล่ะทึ่งจริงๆ

ตั้งแต่วันนี้ ลองให้โอกาสตัวเอง เริ่มฟังเสียงร่ำร้องในใจของเรา ค้นหาเป้าหมายที่เป็นวิถีชีวิต เหมาะเฉพาะสำหรับจิตวิญญาณภายในตนเอง สะสมทักษะใหม่ๆ คบหาเพื่อนและสังคมใหม่ๆ ค่อยๆเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองทีละนิด ออกเดินทางมุ่งไปตามเป้าหมายนั้น อ้าแขนและยิ้มรับ การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตจะปลดเปลื้องพันธนาการแห่งวิชาชีพ ความยึดติดอยู่กับตำแหน่งงานที่มั่นคงแต่ไร้ซึ่งชีวิต ทำให้เรามีอิสระที่จะทำสิ่งที่เรารัก อาศัยอยู่ในวิถีชีวิตที่ต้องการ และสิ่งนั้นก็จะมีคุณค่า เป็นงานที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเราได้อีกด้วย






 

Create Date : 25 ธันวาคม 2551
7 comments
Last Update : 25 ธันวาคม 2551 9:54:05 น.
Counter : 642 Pageviews.

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ 25 ธันวาคม 2551 11:10:48 น.  

 

แวะมาชมตามคำบอกเล่าแล้วนะจ๊ะ
อ๊บนี่ท่าจะรุ่งทางด้านงานเขียนนะ

ถ้าสิ่งที่เป็นความสามารถพิเศษเรียกว่าพรสวรรค์
สวรรค์ก็คงประทานมาเพื่อให้เรานำไปใช้
แล้วถ้าสิ่งนั้นมันสามารถนำความสุขที่เรามี
ส่งต่อไปให้กับคนอื่นๆได้ล่ะก็ มันก็สมควรทำใช่มั้ย
แล้วสิ่งที่อ๊บทำอยู่ก็คือการแบ่งปันความสุขอย่างนึง
จากพรสวรรค์ด้านการเขียนที่มีอยู่เหมือนกัน

การออกจากกรอบบางครั้งก็น่ากลัว
แต่การทิ้งโอกาส ก็เป็นเรื่องน่าเสียดายยิ่งกว่า
เพราะถ้าเราไม่ตัดสินใจทิ้งสิ่งเก่า
เราก็คงไม่พบสิ่งใหม่ที่รออยู่ ซึ่งอาจดีกว่าเดิมก็ได้
หรือถ้าไม่ได้ดีอย่างที่คิด ก็จะไม่ต้องมานั่งเสียดาย
เพราะเราได้ลองทำอย่างดีที่สุดแล้ว ใช่มั้ยอ๊บ

 

โดย: พระจันทร์ยิ้ม IP: 222.123.184.122 26 ธันวาคม 2551 23:19:59 น.  

 

ยอดเยี่ยมมากเลยน้อง
ยินดีด้วยจริงๆ จะแวะมาเยือนบ่อยๆนะครับ
พี่ได้เห็นแล้วว่า เจตนารมณ์ในการพลิกชีวิตคน 1 ล้านคนของพี่มันเป็นไปได้แน่นอน

 

โดย: พี่ตั้ม พี่ไก่ IP: 124.121.230.196 29 ธันวาคม 2551 9:15:22 น.  

 

เหมี่ยวได้อ่านหนังสือแล้วค่า
ดีมากๆเลยคะ
ได้อะไรเยอะแยะมากมาย
ขอบคุณสำหรับหนังสือดีๆนะคะ

 

โดย: เหมี่ยว IP: 58.8.212.39 29 ธันวาคม 2551 12:32:09 น.  

 

ขอบคุณพระจันทร์ยิ้มมากครับ สำหรับคอมเม้นท์อันมีค่า
เสียดายเดาไม่ออกว่าเป็นใครหนอ

พี่ตั้ม พี่ไก่ ยินดีต้อนรับนะครับ แวะมาเยี่ยมบ่อยๆเน้อ

คุณเหมี่ยว ได้อ่านหนังสือของผมแล้ว แต่เข้ามาเจอบล็อคนี้ได้ไงหนอ อยากรู้จัง

มีความสุขมากๆ ในวันปีใหม่ทุกคนครับ

 

โดย: เรือรบ IP: 117.47.123.48 3 มกราคม 2552 17:26:56 น.  

 

ไปสำรวจแผงที่ big c pattaya มาให้จ๊ะ เจอในร้าน book variety 3 เล่ม ไปแบบอ่านแผ่นสุดท้าย เพราะเล่มของพี่หายไป อิ อิ ขอบคุณที่ส่งข่าวเสมอ จะรออ่านเล่ม ต่อ ๆ ไปนะคะ

 

โดย: ไข่เจียว IP: 58.9.1.138 3 มกราคม 2552 21:54:45 น.  

 

มาแจ้งข่าวว่าร้านหนังสือที่โคราช(ในตัวเมือง)ก็มีหนังสือของพี่เรือรบขายร้านหนังสือเล็กๆ(ในตัวอำเภอ)ก็ยังมี เมื่อคืนเพิ่งอ่านสิบวันฯจบไป ประทับใจเรื่องชายขอบและได้มองเห็นอะไรใหม่ๆ อืมดีจริงๆ..วันนี้มาเปิดอ่านบล๊อคก้เจองานเขียนที่ดี..มาก ดูท่าว่าจะรุ่งทางงานเขียนจริงๆ ..สู้ต่อไปนะค่ะ ..สวัสดีปีใหม่

 

โดย: marai IP: 202.28.183.10 5 มกราคม 2552 15:21:25 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


navyob
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add navyob's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.