sansook
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]




คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...
โค้ดนี้เป็นภาพพื้นหลังนำไปวางที่ช่อง Script Area ค่ะ https://youtu.be/K2vg5yDgVX4
Group Blog
 
 
กันยายน 2558
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 กันยายน 2558
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add sansook's blog to your web]
Links
 

 

บทที่ 1

นวนิยายชุดเล่ห์รักสามนารี ตอนเล่ห์รักร้าย
อักษรา
www.mebmarket.com
“พี่สาวฉันรู้คุณเป็นพี่ชายของนายธาวิน คงไม่มีใครเขาเชื่อหรอกว่า ฉันจะยอมมาเที่ยวไร่ของผู้ชายที่กำลังเป็นคู่กรณีลูกความฉัน คุณทำแบบนี้ตามรูปการบ่งบอกชัดกำลังอุ้มทนายของคู่กรณี ทำแบบนี้ผิดกฎหมายไม่รู้เรอะ”“ช่างกฎหมายมันสิ”“จะช่างได้ยังไง บ้านเมืองมีขื่อมีแป ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญระบุชัดถึงสิทธิและเสรีภาพคุณจะมาริดรอนสิทธิและเสรีภาพของฉันแบบนี้ไม่ได้”“หยุดอ้างเรื่องกฎหมายสักที อยู่ที่นี่ไม่มีประชาธิปไตย มีแต่ธนาวิทย์ธิปไตยเข้าใจไว้ซะ ที่นี่มีผมเป็นกฎหมายสูงสุด และจะไม่มีทนายความด้วย ตอนนี้คุณกำลังป่วยทางที่ดีควรนอนพักรักษาตัว ไม่ใช่มานั่งเถียงผมฉอดๆ อยู่แบบนี้”พอได้ประคารมอารมณ์อ่อนไหวที่โบกพลิ้วก็พลันเปลี่ยนผันเป็นความหมั่นไส้ จนทำให้ลืมตัวตอบโต้เธอกลับไปด้วยอารมณ์เดือดปุดๆ อีกตามเคย เฮ้อ...จะปราบพยศแม่คุณได้สักกี่น้ำกันเรา...

***เล่ห์วิวาห์มาเฟีย***

 

บทที่  1

            พิมพากานต์ละสายตาออกจากเอกสารบนแฟ้มเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู  ดวงตากลมโตแต่งแต้มด้วยสีสันสดใสจ้องร่างสูงใหญ่กำลังเดินตรงเข้ามาก่อนจะวางปากกาลงบนโต๊ะยกมือซ้ายขึ้นเท้าคางมองคนเพิ่งเข้ามาขยับเก้าอี้และนั่งลงอย่างถือวิสาสะแล้วคลี่รอยยิ้มบางๆ

                “มีอะไรหรือเปล่าคะหน้าตาเคร่งเครียดเชียว”

                “เห็นคุณแม่บอกว่าแกกำลังจะเดินทางไปรัสเซีย”  พีรพัฒน์มองดวงหน้าเต็มไปด้วยชีวิตชีวาของน้องสาวคนเดียวด้วยความหนักใจ

“อยากรู้ทำไมไม่โทรถามล่ะคะ  เสียเวลานั่งเครื่องบินเกือบชั่วโมงกับเรื่องแค่นี้มันไม่คุ้มเลยสักนิด...” 

ริมฝีปากแต่งแต้มสีสันฉูดฉาดแย้มยิ้มให้กับสีหน้าเคร่งเครียดของพี่ชาย

“ตอนแรกคิดว่าพูดเล่นแต่พอเห็นไอ้นี่วางอยู่บนโต๊ะเลขาฯ  ฉันถึงรู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง”  พีรพัฒน์วางสิ่งของในมือลงบนโต๊ะจ้องหน้าน้องสาวแล้วพ่นลมหายใจออกมา

            หญิงสาวมองตั๋วเครื่องบินและพาสปอร์ตถูกวางลงบนโต๊ะสลับกับใบหน้าคมเข้มของพี่ชายก่อนจะเลิกคิ้วขณะหยิบตั๋วเครื่องบินขึ้นพินิจ “พิมไปรัสเซียแล้วพี่พีมีปัญหาอะไรเหรอคะ”  เธอถามพร้อมกับผุดรอยยิ้มหวานละไม

 “ตกลงจะไปให้ได้เลยใช่ไหม ที่รัสเซียเวลานี้อากาศหนาวพี่ว่าแกเปลี่ยนความตั้งใจเสียเถอะ”  พีรพัฒน์บอกอย่างกังวล

“ไม่มีทางยิ่งพี่นุเพิ่งเลิกกับเมียแบบนี้พิมต้องรีบไป” 

“ไอ้นุหย่าเมียแล้วมันเกี่ยวอะไรกับแก...อย่าบอกนะว่ากำลังคิดจะไปดามอกมัน”

“ก็แหงสิพิมรักพี่นุอุตส่าห์สวดมนต์ภาวนาให้เขาเลิกกับเมียเห็นไหมล่ะขนาดเทวดายังเห็นใจยอมรับฟังคำขอจนเขี่ยแม่เมียแหม่มออกจากทางรัก  แบบนี้เห็นชัดๆ เลยว่าพิมจะต้องเป็นคู่แท้ของพี่นุแน่ๆ”

“เลิกเพ้อเจ้อได้แล้วยัยพิมแล้วกลับไปช่วยงานพี่ซะ  จะมาขลุกอยู่ที่นี่ทำไมนักหนาโรงแรมของเรามีทีมบริหารมืออาชีพและไว้ใจได้ไม่จำเป็นต้องมาอยู่ประจำหรอก”

“พิมไม่ได้เพ้อเจ้อ...ส่วนที่เลือกมาดูแลกิจการโรงแรมก็เพราะเรามีทีมผู้บริหารฝีมือดีไงพิมถึงต้องมาอยู่ประจำ”

“หมายความว่ายังไง”

“ตอนนี้พิมต้องเรียนรู้งานเกี่ยวกับธุรกิจโรงแรม  พี่ก็ทราบว่าพี่นุมีกิจการด้านนี้อยู่...ฉะนั้นหากในอนาคตพิมแต่งงานและถ้าต้องย้ายไปอยู่รัสเซียก็จะได้ช่วยงานทางโน้นไงคะ”  พีรพัฒน์มองนัยน์ตาชวนฝันของน้องสาวด้วยประกายตาเหนื่อยหน่าย...ก่อนจะส่ายหน้าน้อยๆ

“เมื่อไรจะตื่นจากความฝันลมๆ แล้งๆ นั่นแล้วยอมรับสักทีว่าเรื่องระหว่างแกกับภานุมันไม่มีทางเป็นไปได้”  พีรพัฒน์จ้องใบหน้าเต็มไปด้วยความเชื่อมั่นของน้องสาวอย่างหนักใจ

“ตราบใดที่พี่นุยังโสดพิมก็จะขอฝันอยู่อย่างนี้แหละ...ธุระของพี่มีแค่นี้ใช่ไหม”  หญิงสาวตัดบทเพราะไม่อยากถูกบ่นเรื่องความรักซึ่งเธอยอมรับว่าเวลานี้มันยังคงเป็นสายลมที่ยังจับต้องไม่ได้...
“แกกำลังไล่พี่เหรอ”

“ก็อยากพูดจาไม่น่าฟังทำไมล่ะ”  พิมพากานต์ย่นจมูก

“ด้วยความหวังดีนะยัยพิมแกควรเตรียมใจเผื่อความผิดหวังไว้บ้างภานุเวลานี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน  คนที่สามารถสร้างธุรกิจและเติบโตจนขึ้นไปเป็นเศรษฐีในระดับต้นๆ ของประเทศเคยเป็นมหาอำนาจจะต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังที่อาจไม่สวยนัก  และมันก็บอกตลอดไม่ใช่หรือว่าคิดกับแกอย่างพี่น้อง”  เพราะสนิทสนมกับภานุมานานอีกทั้งดำเนินธุรกิจด้วยกันจึงทำให้พีรพัฒน์รู้ตื้นลึกหนาบางของอีกฝ่ายดี

“ทำอย่างกับว่าธุรกิจของเราไม่มีเบื้องหน้าเบื้องหลังอย่างนั้นแหละ...พิมรู้ว่าพี่เป็นห่วงแต่ตอนนี้หัวใจพี่นุไม่มีใคร แต่อะไรๆ มันก็เปลี่ยนแปลงได้นี่คะ”  คนที่หัวใจกำลังโรยไปด้วยกลีบของความหวังยังคงโต้แย้ง

พีรพัฒน์ส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับความดื้อรั้นของน้องสาว    ชายหนุ่มจ้องนัยน์ตาพราวระยับเต็มไปด้วยความเพ้อฝันแล้วพ่นลมหายใจออกมาขณะนึกโทษตัวเองที่คอยให้ท้ายรวมถึงตามใจน้องอยู่เสมอ  แต่จะทำอย่างไรได้เพราะเธอเป็นบุตรีคนเดียวของตระกูล ‘ปวิชวงศ์’ ซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่านับพันล้านบาท  และด้วยความที่เป็นดวงใจของคนในบ้านตลอดเวลาจึงไม่เคยมีใครขัดใจ

พิมพากานต์  ธิดาคนเล็กของตระกูลภัทรพิบูลย์เธอเป็นหญิงสาวที่งดงามเฉิดโฉมเธอนับว่าเป็นสตรีที่เพียบพร้อมไม่ว่าจะเป็นรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ  และความสวยเปล่งปลั่งด้วยวัยสาวนั้นก็สามารถละลายหัวใจของบุรุษเพศได้ไม่ยากนัก  ทว่าน่าประหลาดนักเมื่อเธอกลับยึดติดอยู่กับความรักที่เกิดขึ้นเพียงฉับพลันและเฟ้อฝันอยู่เช่นนั้น

แม้เขาจะพยายามอธิบายว่าภานุผู้ชายที่เธอกำลังลุ่มหลงเพราะเข้าใจว่าเขาคือรักแรกพบจะปฏิเสธและประกาศอย่างโจ่งแจ้งว่าเขาไม่ได้รู้สึกเสน่หาในตัวเธอเฉกเช่นบุรุษเสน่หาในตัวอิสตรี  เขาเห็นเธอเป็นเพียงน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น  แต่พิมพากานต์ก็ยังยืนยันที่จะยึดมั่นกับความหวังลมๆ แล้งๆ นั่น

เมื่อเห็นว่าน้องสาวคนเดียวยังมุ่งมั่นอยู่กับความรักที่ไม่มีวันจับต้องได้คนเป็นพี่ก็ได้แต่ถอนหายใจ  พีรพัฒน์จ้องใบหน้าเต็มไปด้วยร่องรอยของความเพ้อฝันอยู่ชั่วครู่  หลังจากแน่ใจว่าคำทัดทานของเขาไม่ได้ผลชายหนุ่มจึงระบายลมหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย

“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญนั่งฝันนอนฝันต่อไปเถอะ  ขออย่างเดียวอย่าไปคว้าไอ้พวกฝรั่งตาน้ำข้าวกลับมาล่ะ”  พูดจบก็ลุกขึ้นยืดตัวเต็มความสูงแล้วหมุนตัวเดินตรงไปยังประตู   พิมพากานต์มองตามร่างสูงใหญ่จนร่างนั้นเดินพ้นประตูเธอจึงหยิบตั๋วเครื่องบินขึ้นพินิจอีกครั้ง...

“ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้างฉันสักทีรอก่อนนะพี่นุ...”  เธอพึมพำแล้วไล่สายตาไปตามตัวอักษรซึ่งปรากฏอยู่บนตั๋วเครื่องบินด้วยประกายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง
 
เมื่อวันเดินทางมาถึงพีรพัฒน์ยืนมองใบหน้าชื่นมื่นของน้องสาวคนเดียวด้วยความรู้สึกกึ่งห่วงใยกึ่งหมั่นไส้  ในขณะวงษ์เทพและเครือมาศกำลังกอดล่ำลาบุตรี

“ทำหน้าแบบนั้นอิจฉาพิมเหรอ”  หลังจากบุพการีทั้งสองผละไปพูดคุยกับภัทธิรา พิมพากานต์จึงเดินไปกระเซ้าพี่ชาย

“ฉันเนี่ยนะอิจฉาแก...”  พีรพัฒน์ถามพลางชี้มือเข้าหาตัวเอง

“ใช่...พี่คงอิจฉาที่พิมกำลังจะสมหวังในความรัก  และเสียดายที่ติดงานเลยไม่มีโอกาสเดินทางไปรัสเซียพร้อมกับพวกเราใช่ไหมพี่นุ่น”  พิมพากานต์แค่นยิ้มพร้อมกับหันไปขอเสียงสนับสนุนจากภัทธิราพี่สาวของภานุก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่ออีกฝ่ายมีทีท่าสนับสนุนคำพูดของเธอ

“แน่ใจเหรอว่าจะสมหวัง...ยัยพิมพี่รักแกนะและด้วยความปรารถนาดีจึงอยากเตือนว่าภานุมันไม่เคยคิดอยากแต่งงานกับแกและหมอนั่นก็มีคนที่กำลังคบหาอยู่อีกด้วย”  พีรพัฒน์เอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“อย่ามาโกหกพิมเสียให้ยากเลย...”  พิมพากานต์ย่นจมูก

“ฉันพูดจริงๆ”

“พิมรู้ว่าพี่อยากให้พิมเลิกหวังกับความรักครั้งนี้แต่เมื่อพี่นุกลับมาโสดอีกครั้งพิมก็ยังมีสิทธิ์ที่จะฝันไม่ใช่เหรอคะ...”  เพราะเวลานี้โลกทั้งโลกของเธอมีเพียงสีชมพูพิมพากานต์จึงมองว่าพี่ชายเป็นห่วงเธอมากเกินไป

พอถึงเวลาเดินทางพีรพัฒน์ดึงร่างโปร่งระหงของน้องสาวเข้ามากอดอยู่ชั่วครู่...ก่อนเอ่ยฝากฝังน้องสาวคนเดียวกับภัทธิราแล้วจึงปล่อยให้หญิงสาวทั้งสองเดินเข้าไปยังจุดพักผู้โดยสารโดยมีเสียงสั่งโน่นสั่งนี่ของมารดาดังอยู่ตลอดเวลาจวบจนพวกเขาเดินพ้นไปจากสายตาชายหนุ่มจึงชวนคนอื่นๆ กลับ

“ถ้าทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่หวังขอให้แกยอมรับความจริงนั้นอย่างเข้มแข็งนะยัยพิม”  ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วพ่นลมหายใจออกมา...
 
ตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องพิมพากานต์รู้สึกเหมือนตัวเองกำลังโบยบินอยู่บนปุยเมฆ  แม้บางเวลาเธอจะพูดคุยกับภัทธิราอย่างออกรส  แต่เมื่อกลับเข้าสู่โลกของตัวเองความเงียบงันก็เข้ามาแทนที่...

พิมพากานต์แนบใบหน้ากับหน้าต่างผุดรอยยิ้มบางๆ ออกมาเมื่อนึกถึงวันที่เธอพบกับภานุครั้งแรก...ภาพชายหนุ่มร่างสูงผึ่งผายที่ชนเธอเข้าอย่างไม่ตั้งใจอีกทั้งฝ่ามือหนาคว้าหมับไปที่แขนกลมกลึงแล้วยึดไว้เมื่อเธอผงะหงายไปตามแรงกระแทกก็ทำให้หัวใจที่เต้นด้วยจังหวะปกติเริ่มกระหน่ำเต้นพร้อมกับความรู้สึกหวามลึกอย่างประหลาด

ยิ่งดวงตาคมกริบของอีกฝ่ายปรากฏอยู่ในมโนภาพเธอก็ยิ่งรู้สึกวูบวาบ  เวลานั้นแม้ภานุจะวางเฉยกับสิ่งที่เกิดขึ้นแต่สำหรับเธอมันกลับเป็นสิ่งที่ไม่อาจละวางได้  นับจากวันนั้นใบหน้าคมคายและรูปร่างสูงผึ่งผายของเขาก็เข้ามามีอิทธิพลกับเธอ...จนกล้าบอกตัวเองได้ในทันทีว่าการปรากฏตัวของภานุในคืนนั้นเป็น...รักแรกพบ...

หญิงสาวหลุบเปลือกตาลงช้าๆ  และปล่อยหัวใจล่องลอยอยู่ในห้วงคำนึงถึงเจ้าของใบหน้าเคร่งขรึมนั่งจิบบรั่นดีขณะพูดคุยเรื่องธุรกิจกับพี่ชายของเธอในวันเปิดตัวโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่านับพันล้านเมื่อหลายปีก่อน...และมันยังคงติดตาตรึงใจอยู่เช่นนั้นแม้วันเวลาจะหมุนผ่านไปนานสักแค่ไหนก็ตาม...

 
เมื่อได้ยินเสียงประกาศจากลูกเรือว่าการเดินทางจะสิ้นสุดในอีกไม่กี่นาทีพิมพากานต์หันไปยิ้มกับภัทธิรา  พอล้อเครื่องบินแตะพื้นรันเวย์ความรู้สึกหนักอึ้งมาตลอดการเดินทางก็ค่อยๆ คลายลง  หลังจากได้รับแจ้งว่าเครื่องบินถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพพร้อมกับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินกล่าวขอบคุณรวมถึงแจ้งรายละเอียดต่างๆ ตามหน้าที่ผู้โดยสารจึงทยอยเดินออกไปตามเส้นทาง...

พอก้าวมายืนอยู่ในอาคารผู้โดยสารขาเข้าพิมพากานต์รู้สึกตื่นเต้นไม่น้อยเมื่อเห็นบุรุษในชุดสูทสองคนเดินเข้ามาแจ้งว่ากิ่งแก้วกำลังรออยู่ในห้องรับรองของสายการบินซึ่งจัดเตรียมไว้เป็นพิเศษ  เมื่อทั้งหมดเดินไปยังห้องรับรองต่างฝ่ายต่างกล่าวทักทายกันพอเป็นพิธี  ก่อนจะพากันเดินตรงไปยังรถยนต์ซึ่งติดเครื่องรออยู่เพื่อเดินทางต่อ 

ตลอดเวลาระหว่างเดินทางพิมพากานต์ไม่ได้พูดคุยกับคนอื่นๆ มากนักเพราะกำลังจดจ่ออยู่กับการคิดหาคำพูดที่จะทำให้ภานุประทับใจ...

การเดินทางจากสนามบินใช้เวลานานพอสมควร  จวบจนรถแล่นมาด้วยความเร็วอย่างสม่ำเสมอจอดสนิทอยู่หน้าโรงแรมขนาดใหญ่  หญิงสาวกะพริบตาด้วยความตื่นเต้นเมื่อมองเห็นความวิจิตรงดงามของตึกขนาดมหึมาบนสถาปัตยกรรมอันโดดเด่น...

หลังกิ่งแก้วแจ้งว่าการเดินทางสิ้นสุด  หญิงสาวจึงถามถึงภานุพร้อมกับก้าวลงจากรถเดินเข้าตึกด้านขวามือทันทีที่ได้รับคำตอบ  ในขณะภัทธิราและมารดาแยกไปยังตึกฝั่งตรงข้าม  
เมื่อเดินเข้าด้านในพิมพากานต์ตรงไปยังเครื่องโทรศัพท์ซึ่งวางอยู่บนเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์   ก่อนจะยกหูและกดหมายเลขภายในแล้วรออยู่ชั่วครู่...

“พี่นุ เดี๋ยวพิมขึ้นไปหานะคะ”  พอได้ยินเสียงขานรับจากปลายสายเธอบอกอย่างกระตือรือร้นแล้ววางโทรศัพท์ลงทันที  หญิงสาวเดินตรงไปยังลิฟต์แล้วยิ้มกริ่มออกมาเพราะคิดเข้าข้างตัวเองว่าภานุจะต้องยินดีเมื่อได้พบเธอ

พิมพากานต์เดินไปกดเรียกลิฟต์และรออยู่อย่างใจเย็น  ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีชายร่างใหญ่สองคนเดินเขามาแจ้งว่าเธอกำลังถูกสงสัยว่าอาจพกพาอาวุธเข้ามาในโรงแรม...

“เดี๋ยว!...พวกคุณพูดอะไร...ฉันไม่ได้พกอาวุธนะ”  หญิงสาวโวยวายพลางสะบัดตัวออกจากการถูกจับกุม

“แต่ทางเราได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงลักษณะคล้ายคนเอเชียคิดก่อวินาศกรรมเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเรื่องความปลอดภัยของบุคคลสำคัญซึ่งขณะนี้เข้าพักอาศัยในโรงแรมของเรา”  ชายหนุ่มหนึ่งในสองอธิบาย

“อะไรนะ!...พวกคุณคิดว่าคนอย่างฉันจะทำเรื่องบ้าๆ นั่นจริงๆ เรอะ...บ้าน่า”  พิมพากานต์ชี้มือเข้าหาตัวเองแล้วสบถขณะส่ายหน้าไปมา

“มันอาจฟังดูเป็นเรื่องบ้าๆ แต่ทางโรงแรมของเราไม่อาจละเลยกับคำเตือนได้...เพื่อความปลอดภัยรวมถึงเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ของมาดาม  กรุณาไปกับพวกเราสักครู่เถอะครับ”  ชายหนุ่มคนเดิมเชื้อเชิญอย่างนอบน้อม

“มิสเตอร์...ฉันมากับคุณกิ่งแก้วและตอนนี้ฉันต้องการขึ้นไปพบคุณภานุ...ขอโทษ...คุณรู้จักเขาไหม...”  เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายดูจริงจังพิมพากานต์จึงเอ่ยถึงบุคคลซึ่งเธอคิดว่ามีอำนาจมากพอที่จะเปิดทางได้

“แน่นอน...ว่าพวกเราต้องรู้จัก”  ชายหนุ่มหนึ่งในสองเอ่ยขึ้น

“เห็นไหมว่าฉันไม่ใช่ผู้ก่อการร้ายบ้าบอนั่น”  พอได้ยินคำตอบหญิงสาวจึงกระตุกยิ้มแล้วทำท่าจะเดินหนีแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเจ้าของร่างสูงใหญ่ทั้งสองยังขยับเข้าขวางทาง ขณะกำลังจะออกปากไล่เสียงทุ้มๆ ของชายหนุ่มคนเดิมก็ดังแทรกขึ้นเสียก่อน

“การกล่าวอ้างเพียงแค่นั้นคงไม่สามารถบ่งชี้ได้หรอกครับ  เพราะใครๆ ต่างก็รู้ทั้งนั้นว่าคุณภานุเป็นประธานกรรมการใหญ่ของที่นี่  และคงไม่แปลกหากผู้ก่อการร้ายจะมีข้อมูลเหล่านี้”    พออีกฝ่ายพูดจบพิมพากานต์ก็ถึงกับอ้าปากไม่ขึ้น  แม้รู้สึกขุ่นเคืองกับเรื่องไม่เป็นเรื่องแต่เมื่อเห็นว่าสิ่งที่พวกเขาทำคือมาตรการรักษาความปลอดภัย  เธอจึงฮึดฮัดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะถอยออกมา  ดวงตาวาววับจ้องใบหน้าเรียบเฉยของชายหนุ่มทั้งสองแล้วยกมือขึ้นกอดอกแค่นเสียงประชด 
“ฉันเข้าใจว่าพวกคุณกำลังปฏิบัติตามหน้าที่อยู่  แต่มิสเตอร์กรุณาลองคิดหน่อยสิว่าหากมีคนคิดทำเรื่องบ้าบอนั่นจริง  และบังเอิญคนๆ นั้นกำลังยืนอยู่ตรงนี้  ฉันคงไม่โง่ขนาดพกระเบิดเข้ามาเพื่อฆ่าตัวเองแน่ปล่อยฉันไปได้แล้ว” 

“นั่นเป็นสิ่งที่พวกเราต้องป้องกัน  เวลานี้พวกเราเพียงทำตามหน้าที่  และขอประทานอภัยในความไม่สะดวก”

ขณะพิมพากานต์เปิดสงครามเล็กๆ กับการ์ดร่างใหญ่  เธอก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นมีชายวัยกลางคนในชุดสูทท่าทางภูมิฐานเดินออกจากห้องๆ หนึ่งด้วยความเร่งรีบตรงไปยังประตูทางเข้าของโรงแรม  จากท่าทางของเขาบ่งบอกชัดว่ากำลังออกไปต้อนรับลูกค้าหรือใครสักคนที่มีความสำคัญมาก

แม้เวลานี้หญิงสาวจะจดจ่ออยู่กับการได้พบภานุแต่ก็อดมองตามไม่ได้  พิมพากานต์จ้องรถลีมูซีนคันใหญ่สีดำเป็นมันวับจอดอยู่หน้าประตูทางเข้าแล้วนิ่วหน้าน้อยๆ เมื่อเห็นมีชายชุดดำมากกว่าสี่คนก้าวลงจากรถซึ่งขับตามกันและเดินไปยืนตามจุดต่างๆ ทำราวกำลังอารักขาบุคคลสำคัญก็ไม่ปาน  ด้วยความอยากรู้ว่าคนเพิ่งมาถึงเป็นใครหญิงสาวจึงเขม้นมองอย่างสนใจ  เธอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่ก้าวลงมาเป็นชายหนุ่มร่างสูงผึ่งผายแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่บ่งบอกถึงรสนิยมและราคาแพง  ขณะไล่สายตาไปยังรถยนต์คันหรูรวมถึงบริวารแวดล้อมซึ่งทำให้เดาได้ไม่ยากถึงฐานะอันสูงส่งของผู้เป็นเจ้าของหญิงสาวก็ต้องขยับตัวอย่างอึดอัดเมื่อสายตาประสานกับดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลเข้าโดยบังเอิญ

โอเซีย  บอริส  อิวาโนกริเซนย่า เจ้าของธุรกิจการเงินและบริษัทน้ำมันรายใหญ่ผู้มีฐานะอันมั่งคั่งและมีอิทธิพลคนหนึ่งของรัสเซียใช้สายตาคมกริบราวพญาเหยี่ยมสำรวจดวงหน้าหมดจดงดงามดูแปลกตาของหญิงสาวต่างเชื้อชาติที่กำลังมองเขาอย่างสนใจอยู่ชั่วครู่  ก่อนจะหันไปทักทายชายวัยกลางคนที่ยืนรอต้อนรับเขาด้วยความกระตือรือร้น  ชายหนุ่มพูดอะไรบางอย่างกับคู่สนทนาชั่วครู่ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ และก้าวพ้นประตูเข้ามาด้านในหลังจากอีกฝ่ายเชื้อเชิญด้วยกิริยานอบน้อม      

พิมพากานต์บอกตัวเองทันทีว่ารู้สึกไม่พอใจกับสายตาที่มองมาอย่างไม่เกรงใจนั้น  และความรู้สึกอึดอัดก็ยิ่งทวีคูณเมื่อเจ้าของดวงตาจาบจ้วงกำลังเดินใกล้เข้ามาก่อนจะก้าวผ่านเธอเข้าไปยังลิฟต์ซึ่งมีคนกดรออยู่  หญิงสาวชำเลืองมองร่างสูงสง่าอย่างขลาดๆ ขณะถามตัวเองว่าเขาเป็นใคร  อายุประมาณเท่าไร  และมีความสำคัญขนาดไหนเพราะดูเหมือนใครๆ ต่างก็ยำเกรงไม่เว้นแม้แต่เจ้าการ์ดร่างใหญ่ที่ทำท่าจะจับเธอโยนออกนอกโรงแรมตลอดเวลายังโค้งตัวอย่างนอบน้อมเมื่อเขาเดินเข้ามาใกล้

ด้วยความขลาดกลัวกับเหล่าผู้ติดตามหน้าตาขึงขังจึงทำให้พิมพากานต์ไม่อาจมองชายหนุ่มได้ชัดถนัดตาแต่ความโดดเด่นของรูปหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรนั้นกลับติดตาตรึงใจและมันกำลังสร้างความปั่นป่วนให้กับลมหายใจของเธอ  หญิงสาวพยายามบอกตัวเองให้วางเฉยกับความรู้สึกนั้นขณะค่อยๆ ผ่อนลมหายใจแล้วสูดเข้าไปใหม่ขณะเบนหน้าไปอีกทาง  ต่างจากเจ้าของดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลที่ใช้ช่วงเวลาเพียงไม่กี่นาทีระหว่างรอประตูลิฟต์ปิดกวาดมองดวงหน้าหมดจดงดงามของหญิงสาวที่เขาพบเข้าโดยบังเอิญอย่างตั้งใจ 

พิมพากานต์ยืนใจเต้นตึกตักกับเหตุการณ์โกลาหลน้อยๆ ชั่วจังหวะหนึ่งความเฟ้อฝันส่งความคิดบางอย่างเข้ามา...มันทำให้เธออดคิดไม่ได้ว่าหากหัวใจดวงน้อยไม่ปิดตายเพราะผู้ชายที่ชื่อภานุบุรุษร่างสูงผึ่งผายที่กำลังเดินผ่านหน้าไปนั้นคงถูกเธอจูงเข้าสู่ถนนสายความฝันอันแสนหวานอย่างช่วยไม่ได้... 

ขณะพิมพากานต์ติดตรึงอยู่ในภวังค์จนลืมการมาของตัวเองไปชั่วขณะ  ด้านภานุกำลังกระแทกโทรศัพท์ลงบนแป้นอย่างไม่สบอารมณ์  ชายหนุ่มยังคงแจ้งการ์ดด้านล่างให้กันแขกที่เขาไม่ประสงค์เผชิญหน้าในตอนนี้ไว้ก่อน  พร้อมกับสั่งให้เลขาฯ ติดต่อหาพี่สาวโดยด่วน  และท่าทางหงุดหงิดของเขาก็สะดุดเข้ากับดวงตาคมวาวของคนกำลังเดินเข้ามาพอดี 

 “มีอะไรงั้นหรือ?”  โอเซียเดินเข้าไปยืนหยุดอยู่หน้าจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่  ดวงตาวาววับจ้องภาพเคลื่อนไหวบนนั้นอย่างสนใจ

 “อ้าวโอเซีย...ลมอะไรหอบแกมาเรอะ...”  หลังจากหันไปทางต้นเสียงแล้วเห็นว่าเป็นใคร  ภานุจึงทักทายเพื่อนสนิท  พอเห็นท่าทางของอีกฝ่ายแสดงออกว่าสนใจกับความกลัดกลุ้มของเขาชายหนุ่มจึงตอบแบบขอไปทีว่า   “ไม่มีอะไร”  ปากบอกไม่มีอะไรแต่สีหน้ากลับเป็นตรงกันข้าม
“แน่ใจเหรอว่าไม่มี”  คิ้วของคนถามเลิกขึ้นเล็กน้อย  “แต่จากท่าทางของแกดูเหมือนกำลังมีปัญหา...”  ชายหนุ่มเอ่ยขณะจดจ่ออยู่กับเจ้าของดวงหน้างดงามทว่าบูดบึ้งแล้วยิ้มในสีหน้า
“ก็นิดหน่อย”  ภานุตอบอย่างเสียไม่ได้

“ปัญหาของแกคือหล่อนหรือเปล่า”  โอเซียถามอย่างกระตือรือร้น

“ทำไม...แกสนใจเธอเหรอ?”  เมื่อเห็นท่าทางของเพื่อนภานุจึงถามพร้อมกับพยักพเยิดไปยังจอมอนิเตอร์

“อือฮึ...ท่าทางดุเดือดดี...”  โอเซียหันไปเลิกคิ้วกับเพื่อนแล้วยิ้มพรายออกมา

“งั้นช่วยจัดการให้ที...แต่อย่าทำอะไรห่ามๆ เป็นอันขาดเพราะเธอเป็นน้องสาวเพื่อนสนิทของฉันแค่ทำยังไงก็ได้ให้เธอเลิกคลั่งฉันก็พอ...” 

“ทำไมต้องเป็นฉันด้วย...ผู้หญิงของแกไม่ใช่เรอะจัดการเองสิ”  แม้รู้สึกถูกตาต้องใจสาวน้อยด้านล่างแต่โอเซียก็ไม่ตกปากรับคำในทันที

“วันนี้ฉันมีนัดกับโรนิก้ายังไงฝากเคลียร์ทางนี้ด้วย”  พอฝากฝังปัญหาเสร็จภานุก็ทำท่าจะระเห็จออกไป

“เฮ้ย! แกจะไปไหน...วันนี้ฉันตั้งใจมาหาแกนะ”  โอเซียเริ่มโวยวายเมื่ออีกฝ่ายโยนภาระมาให้
“เอาน่า...ถือว่าช่วยเพื่อนสักครั้งเพราะถ้าพลาดนัดครั้งนี้ฉันอดมีพ่อตาเป็นนายพลแน่...ส่วนเธอแกบอกเองว่าสนใจเพราะฉะนั้นก็ช่วยจัดการให้ที...จำไว้นะโอเซียทำยังไงก็ได้แค่ให้เธอเลิกคลั่งฉันแต่อย่าทำอะไรเกินกว่านั้นเด็ดขาดไม่อย่างนั้นพี่ชายเธอเอาฉันตายแน่”

ภานุบอกแค่นั้นก่อนจะหันไปสั่งงานเลขาฯ แล้วหยิบกุญแจรถและเดินอย่างเร่งรีบตรงไปยังลิฟต์ส่วนตัว...

โอเซียหันไปมองหน้าเลขาฯ สาวสวยแล้วผายมือออก  ก่อนจะสบถอย่างหัวเสียเพราะอยู่ๆ เขาต้องมายุ่งกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง 

“เธอรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม”  ชายหนุ่มถามสาวสวยที่ยืนรอรับคำสั่งจากเขาตามคำสั่งของเจ้านายพร้อมกับปรายตามองหญิงสาวแปลกหน้าอย่างครุ่นคิด

“ดิฉันไม่ทราบเลยค่ะ”  เตริน่าตอบไปตามจริง

“ถ้าอย่างนั้นช่วยต่อสายเจ้านายของเธอให้ฉันหน่อยสิ”  โอเซียออกคำสั่งเมื่อเห็นว่าเขาควรมีข้อมูลเกี่ยวกับภารกิจเร่งด่วนบ้าง  ก่อนจะเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจเมื่อเตริน่าจัดการตามความประสงค์ของเขาด้วยเวลาเพียงชั่วอึดใจเท่านั้น  ชายหนุ่มใช้เวลาราวห้านาทีในการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับผู้หญิงซึ่งกำลังกลายเป็นภาระ...ก่อนจะวางโทรศัพท์ลงบนแป้นแล้วถอนใจ

“ทำอะไรก็ได้แต่ห้ามแตะต้องเธองั้นหรือ...”   ทวนคำสั่งสุดท้ายของเพื่อนแล้วเลิกคิ้วขึ้น...  “ฉันจะพยามเตือนตัวเองก็แล้วกัน”  ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองแล้วกระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์...

 




 

Create Date : 15 กันยายน 2558
1 comments
Last Update : 23 เมษายน 2562 1:28:18 น.
Counter : 668 Pageviews.

 

ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4061181 25 สิงหาคม 2560 18:18:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.