การศึกษา,แคลคูลัส,ข้อสอบทั่วไป,อย่างเก่งภาษาอังกฤษ,การเขียนโปรแกรมภาษาซีเบื้องต้น,เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์,แวดวงอินเทอร์เน็ต เรื่องน่ารู้,วิทยาศาสตร์น่ารู้,ประวัติศาสตร์น่ารู้,การใช้ชีวิตให้มีความสุข ,ความรัก คืออะไร?,เรื่องขำขำ,เกร็ดความรู้,การถ่ายภาพ,สิ่งแวดล้อม, คุณธรรมจริยธรรม,มาคุยกันเรื่องธรรมะ,จิตวิทยา,นิยาย เรื่องสั้น,เรื่องลี้ลับ,เทคนิคการเล่นกีฬา,สุขภาพ,อาการของโรคภัยไข้เจ็บ,ข่าวสารกีฬา,Sex สุขภาพ,สมุนไพรเพื่อสุขภาพ,ผู้หญิง ความงาม,การลดความอ้วน,ครอบครัว แม่และเด็ก,บ้านและสวน,การใช้รถรักษารถ,เคล็ดลับการใช้โทรศัพท์,อาหารของญี่ปุ่น,ขนมและอารหาร,รวมสูตรการทำแยมผลไม้,สูตรการทำแซนวิชที่อร่อย,เคล็ดลับการทำสลัด,เคล็ดลับในครัว,ผลไม้,ผัก แปรรูป,โภชนาการ,นานาสาระ,อภิสิทธิ์แสงแพง
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
8 ตุลาคม 2554
 
All Blogs
 
พร้อมหรือยังกับชีวิตหลังสมรส เรามาดูหลักการครองเรือนกัน




คนเราแต่ละคนมีความแตกต่างจากผู้อื่น เพราะทุกคนมีประสบการณ์ชีวิตของตนเอง ต่างก็เกิดและเติบโตขึ้นตามสภาพแวดล้อม ซึ่งนับว่าเป็นพิเศษเฉพาะตัว เป็นต้น การที่ชายและหญิงตกลงใจเข้าร่วมชีวิตครองเรือนด้วยกัน เงื่อนไขที่จะทำให้ชีวิตคู่ประสบความสำเร็จที่พึงหวัง เป็นต้นว่าความสุข การมีทายาทสืบสกุล ความมั่นคงยืนยาวของชีวิตสมรส ฯลฯ

อาจกำหนดได้ บ้างเฉพาะหลักใหญ่ ๆ สิ่งที่ควรตระหนักทั้งสองฝ่ายก็คือ การปรับปรุงตัวเองให้สอดคล้องกับชีวิตคู่ และชีวิตครอบครัว เมื่อมีสมาชิกเพิ่มขึ้น เมื่อแต่งงานแล้วจะยังดำเนินวิถีชีวิตเหมือนเมื่อยังโสดอยู่ ย่อมไม่เหมาะสม

ชีวิตสมรสนั้น คือการรับรสชาติของชีวิตร่วมกัน ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายควรได้รับเท่ากันเสมอกัน เพื่อให้เป็นเช่นนี้ ทั้งสองฝ่ายควรมีพื้นฐานทางจิตใจเสมอกัน

หากแตกต่างกันอยู่บ้างก็ควรปรับเข้าหากันให้กลมกลืนกันได้

โดยประการแรก มีความเชื่อมั่นหรือศรัทธาในหลักการดำเนินชีวิตที่ดีงามสอดคล้องกัน กล่าวอย่างง่ายที่สุดคือ ถือศาสนานิกายเดียวกัน ถ้าเป็นได้เช่นนี้ ก็ไม่มีปัญหาต้อง ตกลงโอนอ่อนเข้าหากัน ซึ่งจะทำได้หรือไม่ ยากง่ายเพียงใด เป็นเรื่องแต่ละกรณี ในอดีตเรื่องนี้เป็นปัญหามาก คนรุ่นใหม่บางรายดูจะแก้ได้ แต่ถ้าไม่ให้เรื่องนี้เป็นปัญหาได้ก็น่าจะดีกว่า

ประการที่สอง มีสำนึกและปฏิบัติตนตามหลักจริยธรรมสม่ำเสมอสอดคล้องกัน ถือข้อละเว้นข้อปฏิบัติอย่างเดียวกัน หรือไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน เช่นในเรื่องละเว้นจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ชอบทรมานสัตว์ มีมติสอดคล้องกันในเรื่องการอาชีพที่สุจริต ไม่เกี่ยวข้องกับ สิ่งเสพย์ติด เป็นต้น

ประการที่สาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีด้วยกัน พอใจที่จะร่วมกันช่วยเหลือผู้ยากไร้ผู้ด้อยโอกาส ส่งเสริมกันและกันลดความตระหนี่ บริจาครายได้อันเป็นผลประโยชน์เกิดจากแรงงานและสติปัญญาของตน โดยช่วยกันสะสมบางส่วน เพื่อช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของ ผู้อื่น และเพื่อสร้างสรรค์ประโยชน์สุขแก่สาธารณชน เกิดความสุขอิ่มใจร่วมกัน

ประการที่สี่ มีสติปัญญาอันเป็นเครื่องให้รู้และเข้าใจชีวิตเท่าเทียมกัน ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน ข้อนี้ไม่จำเป็นต้องหมายความถึงการมีวุฒิทางการศึกษาในระบบ เช่นปริญญา เท่ากันเสมอไป ในข้อนี้มีหลักว่า มนุษย์นั้นมีศักยภาพภายในที่จะพัฒนาได้ อันได้แก่สติปัญญา นั่นเอง ที่จะงอกงามเจริญขึ้น



แต่งงาน

โดยการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง มีการแสวงหาความรู้ และมีความเพียรฝึกฝนตนเองไม่หยุดหย่อน อาศัยน้ำใจรักที่มีต่อกัน ฝ่ายที่ก้าวหน้าไปมากกว่าย่อม สามารถช่วยเหลืออีกฝ่ายหนึ่งเพิ่มพูนสติปัญญาของตนให้สูงขึ้น เหมาะสมสอดคล้องเป็นที่ ปรึกษาของกันและกันได้

นอกเหนือจากความเหมาะสมดังกล่าวแล้ว ควรตระหนักตั้งแต่ต้นว่า สิ่งที่ทำให้เกิดความไม่ปรองดองกันของผู้คน ไม่ว่าในกรณีใดก็คือ ความเห็นแก่ตัว ซึ่งแฝงมาได้ในรูปแบบอันหลากหลาย ไม่จำเป็นต้องปรากฏให้เห็นอย่างโจ่งแจ้ง

เมื่อเริ่มคิดจะแต่งงาน ควรตั้งปัญหาถามตนเองว่า เพราะอะไร และเพื่ออะไรจริงอยู่ สัตว์ต่างเพศถูกดึงดูดเข้าสมสู่กันด้วยสัญชาตญาณของการสืบพันธุ์ แต่มนุษย์ประเสริฐกว่าสัตว์อื่นใด ดังปรากฏในวัฒนธรรมและอารยธรรมที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นที่

ประจักษ์ ดังนั้น เป็นที่แน่นอนว่า ความรักของมนุษย์ที่มีต่อคู่ครองนั้น มิใช่เพียงความปรารถนาเข้าครอบครองเพียงเพื่อใช้ประโยชน์เป็นเครื่องปลด เปลื้องกามราคะ และก็ไม่ควรมีความมุ่งหมายในด้านที่จะใช้ประโยชน์ เพื่อตนเอง โดยถือเอาฐานะ ตระกูล ชื่อเสียง อำนาจวาสนา ฯลฯ ของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญ เพื่อตัดสินใจแต่งงานด้วย เพราะหากสิ่งนั้นๆไม่เป็นอย่างที่ปรากฏผิวเผิน หรือเปลี่ยนแปรพลิกผันไป

ที่ว่ารักนั้นก็มักแปรเปลี่ยนเป็นตรงข้าม คือชิงชังได้โดยง่าย อนึ่ง สัตว์เดรัจฉานนั้นเมื่อสมสู่กันแล้ว ต่างฝ่ายอาจแยกจากกันไปไม่มีเยื่อใย แต่ตัวเมียเมื่อได้ลูกก็ฟูมฟักรักษา แม้ถึงขั้นยอมสละชีวิตได้ ถ้ามนุษย์ไม่รักลูก มีแล้วทอดทิ้ง ไม่เหลียวแล ก็ควรคิดละอายสัตว์บ้าง

เมื่อยังดำเนินชีวิตของคนโสด เราจะสนองตอบต่อความเห็นแก่ตัวอย่างไรก็ได้ แต่ประสบการณ์ชีวิตจะยืนยันว่า นั่นแหละคือสาเหตุแห่งความทุกข์ทั้งของตนเองและผู้อื่น การมีคู่ครองควรเป็นโอกาสให้จิตใจได้พัฒนาขยายกว้างขึ้นในเชิงคุณธรรมความดีงาม คือ จะได้รู้จักรักผู้อื่นอย่างที่รักตนเอง เมื่อมีลูก เกิดความรัก เอื้ออาทรห่วงใยในลูก ก็จะสำนึกในความรักที่บิดามารดาเคยมีต่อตน และเรียนรู้คุณค่าของความสัมพันธ์อันดีงามที่ควรมีต่อกันในมนุษย์ทั้งหลาย

ความรักระหว่างเพศนี่แหละ สามารถใช้เป็นพื้นฐานของการพัฒนาชีวิตจิตใจ ขึ้นสู่ระดับคุณธรรมความดีงามสูงสุดที่มนุษย์พึงบรรลุถึงได้

โดย: ศ.ดร.ระวี ภาวิไล



Create Date : 08 ตุลาคม 2554
Last Update : 8 ตุลาคม 2554 21:25:16 น. 0 comments
Counter : 567 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

apisit.az
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]








Friends' blogs
[Add apisit.az's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.