{บ้านพักฝากอากาศ ณ เซี่ยงไฮ้}
 
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
15 มีนาคม 2550

0002: แท็กซี่ กับ คัมภีร์เต๋า (พุธ 2007.03.14)

หมายเหตุ: ตั้งใจไว้ว่าจะนั่งไล่ทวนความหลังไปทีละวัน เขียนให้ครบทุกวันทุกสถานการณ์ทุกความรู้สึก อยากเขียนไดอารี่เก็บไว้อ่าน แต่แล้วเมื่อนึกไปนึกมาก็เห็นว่าแต่ละวันมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย เกรงว่าได้เก่าจะลืมใหม่ และก็ต้องนั่งไล่กันไปไม่รู้จบ จึงเปลี่ยนใจเขียนเรื่องของวันนี้ก่อนกันลืม แล้วค่อยมานั่งรำลึกความหลังในวันว่าง ตกลงกันตามนี้นะ (ตกลงกับใคร? อ๋อ กับตัวเอง)
---------------------------------------------------------------------------

โป๊ก โป๊ก โป๊ก!!!
กูไม่ได้ตั้งนาฬิกาปลุกไว้เป็นเสียงนี้นี่หว่า-ผมนึกในใจกับตัวเอง ที่ต้องใช้สรรพนามไม่ค่อยสุภาพก็เพราะมันยั๊วะ! ไอ้บ้าที่ไหนมาตอกฝาผนังห้องเอาตอนเก้าโมงเช้า โป๊ก โป๊ก โป๊ก!!! แน่ะ มันยังไม่หยุดง่ายๆ นาทีแรกที่ขี้ตายังไม่ถูกขยี้ให้หลุดไปกองกับผ้าปูที่นอนสีน้ำตาลอ่อน ผมโกรธไอ้คนที่กำลังประเคนค้อนใส่ฝาผนังจนห้องผมสะเทือน แต่นาทีถัดมา ผมเกิดคำถามว่า ไอ้คนนั้นมันหยิบค้อนขึ้นมาตอกเช้าเกินไป หรือเราตื่นสายเกินไปกันแน่?

คัมภีร์เต๋าเต๋อจิงบทที่สองเขียนไว้ว่า
เมื่อคนทั่วหล้าทราบดีว่า อย่างไรคือความงาม ครั้นแล้วความอัปลักษณ์ก็อุบัติขึ้น
คนทั่วหล้าต่างทราบดีว่า อย่างไรคือความดี ก็เพราะมีความชั่วดำรงอยู่
“มี” กับ “ไม่มี” คือสองสิ่งตรงกันข้ามที่ก่อเกิดซึ่งกันและกัน


ในมุมของเต๋า เพราะมี “เลว” จึงเห็น “ดี” เพราะมี “ผิด” จึงเห็น “ถูก” แต่สำหรับผม เช้าวันนี้นั้นครั้นจะมองว่าใครผิดใครถูกก็ใช่ว่าจะมองได้ง่ายๆ ไม่ใช่เพราะขี้ตาก้อนโตที่ยังเกาะหนังตามาบดบัง แต่เป็นเพราะว่า เรื่องบางเรื่องนั้นยากจะตัดสิน ทั้งที่โดยปกติธรรมดาสัญชาตญาณของมนุษย์มักจะตัดสินให้ฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับตนเป็นคนผิดก่อนเสมอ

“อี๋! ตดโคตรเหม็นเลย”
“แล้วมึงเสือกยื่นจมูกมาดมทำไมล่ะ!”
นั่นแหละ เหตุการณ์มักจะเป็นเช่นนี้

แต่เมื่อลองคิดดูให้ดี คนตดจะ “ผิด” ก็ต่อเมื่อมีคนมาดม ในทางตรงกันข้าม คนดมจะ “ผิด” ก็ต่อเมื่อมีคนมาตดต่อหน้า คิดไปคิดมาก็เหมือนกัน ไอ้คนตอกผนังจะ “ผิด” ก็ต่อเมื่อมีคนนอนอยู่ หาไม่แล้ว มันก็เป็นการกระทำตามธรรมชาติ เมื่อย้อนกลับไปอ่านคำในคัมภีร์เต๋าอีกรอบ ก็น่าจะหยิบยืมมาคิดต่อแบบเออออเอาเองได้ว่า โดยปกติธรรมดาแล้วนั้นมันไม่มีสิ่งถูกหรือผิด มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยไม่มีค่าบวกหรือลบ แต่มันจะเกิดลบขึ้นทันที เมื่อมีใครสักคนบอกว่าแบบนี้สิบวก

ผิด-ถูก ล้วนเกิดขึ้นในใจทั้งนั้น ในธรรมชาติเป็นเพียงเหตุการณ์อันเป็น “กลาง” เท่านั้น

นึกได้ดังนั้นจึงตื่นขึ้นแล้วเปิดเพลงเสียงดังเพื่อกลบเสียงค้อนสะท้านรูหู ก็พอจะบรรเทาไปได้บ้าง ประโยคหนึ่งในหนังจีนกำลังภายในดังขึ้นในหัว “เมื่อท่านมิอาจเปลี่ยนโลกให้หมุนตามท่าน ท่านก็ต้องหมุนไปตามโลก” พูดเสร็จมันก็ลูบเคราทำเท่

ท่ามกลางเสียงเพลง เสียงค้อนตอกผนัง ยังมีอีกหนึ่งเสียงสอดประสานเข้ามา “แปะแปะแปะ” เมื่อเอื้อมมือไปรูดม่านออกก็เห็นต้นตอของเสียง เม็ดน้ำเล็กๆ เกาะกระจกห้องพักชั้นยี่สิบเอ็ดของผม ก่อนที่จะไหลร่วงหล่นไปยังหน้าต่างของห้องชั้นยี่สิบ

ฝนพรำ ผมยังไม่มีร่ม!

นี่มันวันอะไรวะเนี่ย? ตื่นขึ้นมาด้วยเสียง “ค้อนปลุก” แล้วยังต้องเอาหัวกบาลไปรองน้ำฝนอีก มีเสียงเล่าลือว่า วันฝนตกที่เซี่ยงไฮ้นั้นนับเป็นวิกฤตของการหารถแท็กซี่ ทุกคันจะมีคนนั่งอยู่ข้างในพร้อมที่จะโบกมือบ๊ายบายเยาะเย้ยเราที่ยืนแฉะอยู่ข้างทาง “จ๋อยอะดิ๊ ไม่มีแท็กซี่ให้ขึ้น”

ไม่เท่านั้น เมื่อมีแท็กซี่ว่างมาเกยข้างหน้าเราอยู่ดีๆ อยู่ๆ ก็จะมีอาเจ็กที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งตัวเข้ามาชาร์จจนเรากระเด็นพ้นไปจากประตู เมื่อตั้งสติและตั้งลำตัวให้ตรงได้กำลังจะตั้งปากด่า เจ็กแกก็เผ่นแน่บพร้อมแท็กซี่ที่เราโบกไปแล้วเรียบร้อย เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงวันฝนตก แม้อยู่มาแค่ไม่กี่วัน ผมก็เคยต้องโบกแท็กซี่ถึงสี่คันกว่าจะได้ขึ้น เพราะพอโบกปุ๊บ เฮียเจ๊แกก็ว๊าบมาปั๊บ ราวกับเทวดาในละครจักรๆ วงศ์ๆ ของไทยยังไงยังงั้น

แต่วันนี้ไม่ได้โชคร้าย ผมยืนชูแขนเอากระเป๋าป้องกันหยดฝนหล่นใส่กบาลอยู่ได้ไม่นาน แท็กซี่คันแรกก็จอดเทียบ ผมกระโดดขึ้น “หนานซูโจว ลู่ / เฉินตูเป่ย ลู่” พูดเสียงชัดถ้อยชัดคำ สองคำนี้ผมต้องพูดทุกวันเพราะมันคือชื่อถนนที่ออฟฟิศตั้งอยู่ และก็เหมือนเคย แท็กซี่หันกลับมาถามอะไรสักอย่างที่ผมฟังไม่ออก แต่จับสีหน้าได้ว่า “น้องว่าไงนะ?” ผมย้ำไปอีกครั้ง ชัดคำชัดถ้อย

“เหมยโหย่ว” (แปลว่า ไม่มี (เหมย = มี)) มันจะไม่มีได้ไง ก็กูนั่งไปทุกวัน นี่มันวันอะไรวะเนี่ย? ผมเปิดสมุดจดที่เอลวิส (เพื่อนชาวสิงคโปร์) จดให้ เกรงว่าจะมั่นใจอะไรผิดๆ แต่ก็ไม่ ผมพูดถูกทุกคำ อะ ลองอีกครั้ง “หนานซูโจว ลู่ / เฉินตูเป่ย ลู่” พี่แกยังยืนยัน “เหมยโหย่ว” เอาวะ โหย่วก็โหย่ว กูก็ไม่รู้จะอธิบายยังไง พูดได้แค่ชื่อถนนนี่แหละครับพี่ เปิดประตู กระโดดลง หันไปบอกพี่แกว่า “ไจ้เจี้ยน” (ลาก่อน) พี่ยิ้มเอ่ยปากตอบ “ไจ้เจี้ยน”

แทรก: ก่อนหน้าบทนี้จริงๆ จะมีวิธีระบุ “ที่หมาย” ในเซี่ยงไฮ้ แต่พอดีว่ายังไม่ได้เขียน จึงขอเขียนสั้นๆ ในที่นี้ก่อนว่า วิธีบอก “ที่หมาย” นั้นจะต้องบอกเป็นชื่อถนนสองเส้นที่ตัดกัน คล้ายๆ กับวิธีระบุ “ที่หมาย” ในมหานครนิวยอร์กที่มีผังเมืองเป็นเส้นตั้งเส้นนอนตัดกัน โดยจะบอกเป็น “สตรีท” ตัดกับ “เอฟวินิว” ก็เป็นเช่นนั้นแล แต่ที่นี่จะยากกว่า เพราะมันเป็นชื่อ มิใช่หมายเลขเหมือนที่นู่น อ้อ “ลู่” แปลว่า “ถนน” ครับ (จบ)

(ต่อ) คนบนฟ้าที่กำลังรดน้ำต้นไม้ไม่ปล่อยให้ผมยืนรับน้ำมนต์นานนัก แท็กซี่คันที่สองเข้ามาจอดเทียบ เพื่อฟังผมพูดชื่อถนนด้วยความมั่นใจอันลดน้อยถอยลง “หนานซูโจว ลู่ / เฉินตูเป่ย ลู่” ผมพูดเสียงเบา เขาพยักหน้าแล้วหันกลับไปจับพวงมาลัย ผมถอดหายใจเฮือกใหญ่ พี่แกได้ยินจึงหันมาคุย บัดซบ! กูฟังไม่ออก อย่ามาชวนกูคุย-นั่นผมคิดในใจ นอกใจผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ส่งไปให้พี่เขา พี่แกคงพอเข้าใจว่าไอ้หน้าตี๋นี่พูดภาษาของอากงอาม่ามันไม่ได้ จึงหันไปมองถนนและตั้งใจขับรถต่อไป

จริงๆ ผมอยากชวนคนขับแท็กซี่ที่นี่คุย เพราะน่าจะได้รู้อะไรหลายอย่าง จา (เพื่อนสาวชาวไทย) เคยบอกว่า คนขับแท็กซี่ที่นี่ความรู้สูง คุยแต่ละทีก็รู้เลยว่ามีภูมิ วันนั้นนั่งแท็กซี่ไปกับจา พอพี่แท็กซี่รู้ว่าเราเป็น “ไท่กั๋วเหริน” (คนไทย) ก็วิเคราะห์การเมืองไทยให้ฟังใหญ่ พี่เขารู้จักท่านอดีตนายกฯ ของเราเป็นอย่างดี และทำท่าว่าจะสนับสนุนเสียด้วย นอกจากนั้นยังสาวประวัติศาสตร์ชาติไทย-จีนให้ฟังอีกฉาดๆ ว่ามีคนไทยบางส่วนที่เป็นคนจีนอพยพย้ายบ้านออกไปทางตอนใต้ของประเทศจีน จริงๆ พี่แกพูดชื่อเมืองด้วย แต่ผมจำไม่ได้ จาบอกว่า คนจีนชอบอ่านหนังสือ เลยรู้เรื่องโน้นเรื่องนี้เยอะ

ผมออกจะเห็นด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นที่ปักกิ่งหรือที่นี่ กระดานข่าวที่แปะหนังสือพิมพ์ไว้ตามที่สาธารณะนั้น มักจะมีคนเฒ่าคนแก่ ชายหนุ่มหญิงสาว ไปยืนเรียงแถวอ่าน “หน้ากระดาน” เสมอ
ต่างจากคนไทย ซึ่งชอบให้คนมา “เล่า” ให้ฟังมากกว่า ผมว่า คนไทยชอบฟังและชอบดูมากกว่าชอบอ่าน แต่ที่ชอบที่สุดคือพูด และที่ชอบน้อยที่สุดคือ ลงมือทำ

แปลกดีเหมือนกันที่ระหว่างอาหารมื้อค่ำวันนี้ ผมกับเอลวิสก็มาคุยกันเรื่องแท็กซี่อีกทีเป็นการปิดท้ายวัน ผมบอกเอลวิสว่า แท็กซี่ที่นี่สุภาพและดูปลอดภัยกว่าที่กรุงเทพฯ เอลวิสเฉลยเหตุผลให้ฟังว่า จริงๆ แล้วมีกฎที่แท็กซี่ทุกคันต้องทำ คือ ต้องทักทายผู้โดยสารอย่างสุภาพ “สวัสดีครับ จะไปที่ไหนครับ” และตอนลงจากรถก็ต้องกล่าวคำขอบคุณและล่ำลาด้วยเสียงอ่อนหวาน “เซี่ยเซี่ย” (ขอบคุณ) “ไจ้เจี้ยน” และถ้าคนขับแท็กซี่คันไหนไม่ทำตามนี้ ผู้โดยสารมีสิทธิ์ฟ้องกับองค์กรได้

“เฮ้ย! แค่ไม่หวัดดี ไม่ขอบคุณเนี่ยนะ” เอลวิสหัวเราะที่ผมตกใจ แล้วพยักหน้าว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ แท็กซี่ที่นี่จะเริ่มต้นที่สิบเอ็ดหยวน หากหลังเที่ยงคืน (หรือห้าทุ่ม ไม่แน่ใจขอตรวจสอบข้อมูลอีกทีหนึ่ง)เป็นต้นไปจึงเริ่มต้นที่สิบสี่หยวน ทุกคันจะมีใบเสร็จให้ ในใบเสร็จจะมีตัวเลยกำกับหมายเลขของรถคันนั้น ซึ่งเราสามารถใช้ใบเสร็จนี้นี่แหละในการร้องเรียนอะไรต่อมิอะไร แท็กซี่ที่นี่จึงให้บริการดีราวกับคนขับลิมูซีนของโรงแรมหรู

ฟังดูเหมือนถูกบังคับ แต่หูของผมก็บอกกับตัวเองว่าคำเอ่ยลาและขอบคุณของพี่ๆ แท็กซี่นั้นเป็นคนละเสียงกันกับพนักงานร้านสะดวกซื้อในบ้านเมืองเรา ผมว่าพวกเขาค่อนข้างจริงใจและใจดีเลยทีเดียว ขนาดคนขับรถแย่ๆ แซงซ้ายป้ายขวา แต่พอจอดรถแล้วก็ยังหันมายิ้มและเอ่ยคำลากับผมอย่างเป็นมิตร หรือคนจีนมีนิสัยพ่อค้า และนักบริการในสายเลือด? อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ

อีกหนึ่งอย่างในรถแท็กซี่ที่มีในหลายประเทศคือแผ่นพลาสติกหนากั้นคนขับออกจากผู้โดยสาร ทุกครั้งที่เห็น ผมมักตั้งคำถามกับตัวเองว่า มันมีไว้ “กัน” ใครทำร้ายใครกันแน่? แต่เท่าที่นั่งแท็กซี่ที่เซี่ยงไฮ้มาในเวลาไม่กี่วัน ผมเดาเอาว่า น่าจะมีไว้ป้องกันคนขับมากกว่าผู้โดยสาร ก็แหมพี่คนขับเขาออกจะน่ารักอ่อนโยนขนาดนั้น

แต่ก็นั่นแหละ จริงๆ แล้วแผ่นพลาสติกก็เป็นมีสภาพเป็น “กลาง” ผู้โดยสารไม่ได้เป็น “ลบ” และคนขับแท็กซี่ก็ไม่ได้เป็น “บวก” และทั้งสองฝ่ายก็มีโอกาส “ดี” และ “ชั่ว” ได้ทั้งนั้น

คนทั่วหล้าต่างทราบดีว่า อย่างไรคือความดี ก็เพราะมีความชั่วดำรงอยู่

หากไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ชั่ว” เราก็คงคิดกันกับสิ่งที่ “ดี” ว่ามันเป็นแค่สิ่งปกติธรรมดา อ้าว ก็เขาก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นนี่นา ไม่เห็นจะดีเด่ตรงไหน

อืม ผมเกือบจะเชื่ออย่างนั้นเหมือนกันว่า “ดี-ชั่ว” ไม่มีจริงในโลกนี้
หากผมไม่ได้มานั่งคิดครวญถึงความรู้สึกดีๆ ตอนที่ได้ยินคำว่า “ไจ้เจี้ยน” พร้อมรอยยิ้มจากพี่แท็กซี่ ความรู้สึกนั้นบอกกับผมว่าสิ่งที่ดีมีจริง และอาจไม่ต้องการสิ่งชั่วเพื่อเปรียบเทียบแล้วจึงปรากฏขึ้น

สิ่งที่ดี ดีโดยตัวของมันเอง.




 

Create Date : 15 มีนาคม 2550
50 comments
Last Update : 15 มีนาคม 2550 1:57:17 น.
Counter : 567 Pageviews.

 

โอ๊ะ วันนี้มาคนแรก
นึกภาพคนจีนผู้เฒ่าผู้แก่ทั้งหลาย ยืนเรียงแถวหน้ากระดานอ่านหนังสือพิมพ์
มันส์ดี

 

โดย: grappa 15 มีนาคม 2550 6:48:55 น.  

 

Zao shang hao อรุณสวัสดิ์

โอ่ว.. วิธีการบอกทางคุณลุงขับแท็กซี่มีงงมากมาย วันหลังก็จดเป็นภาษาจีนไว้แล้วยื่นให้เขาดูเลย ในกรณีที่เขาไม่เข้าใจ เหมือนฝรั่งเวลามาเที่ยวเมืองไทย ที่ชอบให้คนไทยเขียนชื่อสถานที่ที่จะไปให้ จะได้ไว้ยื่นถามทางถูก

เรื่องกระดาษ .. เท่าที่เคยผ่านตา หนังสือที่โน่นถูกมากจริงๆ เสียดายที่อ่านไม่ออก 55 ไม่งั้นคงได้หอบหิ้วกลับมาเยอะแยะ

ปล. คุณนิ้วฯ ต้องฝึกวิทยายุทธ์แย่งชิงที่นั่งใน taxi แล้วหล่ะ แบบว่าสกัดคนที่เข้ามาปาด อิอิ

 

โดย: Qingqing IP: 203.170.164.62 15 มีนาคม 2550 8:51:20 น.  

 

"สิ่งที่ดีมีจริง และอาจไม่ต้องการสิ่งชั่วเพื่อเปรียบเทียบแล้วจึงปรากฏขึ้น"

เหลาจื้อกล่าวไว้ว่า ธรรมชาติของมนุษย์นั้นดีอยู่ แต่เมื่อมนุษย์เริ่มฝืนธรรมชาติ มนุษย์ก็เริ่มทำชั่ว เมื่อมนุษย์ต้องการมากเกินความจำเป็น มนุษย์ก็เริ่มเบียดเบียนกัน

เห็นด้วยที่ว่า สิ่งที่ดี ดีโดยตัวของมันเอง






 

โดย: แป้งหอม (floral_flory ) 15 มีนาคม 2550 8:54:37 น.  

 

"อย่างไรคือความดี ก็เพราะมีความชั่วดำรงอยู่"

ทราบว่าแท็กซี่เซี่ยงไฮ้ดี ก็เพราะมีแท็กซี่กรุงเทพฯอยู่ อย่างนั้นหรือเปล่าครับ

ในความชั่วก็มีความดีนะครับ ผมชอบความคิดแบบนี้จัง มันช่วยได้เยอะเวลาเจออะไรเลวๆ แล้วก็ทำให้เห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ล้วนมีประโยชน์ และมีความหมายของการคงอยู่ เก็บประโยคนี้เอาไว้ปลอบเพื่อนตอนโดนแฟนทิ้งดีกว่า(จะช่วยได้ไหมนี่)

 

โดย: ป้อจาย 15 มีนาคม 2550 9:39:14 น.  

 

ตอนแรกก็คิดแบบนั้นครับคุณป้อจาย แต่คิดไปคิดมาต่อให้ไม่เคยนั่งแท็กซี่ที่กรุงเทพฯ มาก่อน ก็รู้สึกดีกับการปฏิบัติแบบนี้อยู่ดีครับ

แต่ก็นั่นแหละ จริงๆ คงมีดี-เลวผสมกัน (เป็นธรรมดาของทุกอาชีพ ไม่เว้นตำรวจ นักการเมือง อยู่ที่ว่าส่วนผสมดี-เลวจะหนักไปข้างไหนมากกว่ากัน) เพียงแค่ผมรู้สึกว่า แท็กซี่ที่นี่ดูเป็น "มืออาชีพ" ดีครับ คือ ทำหน้าที่แท็กซี่ได้อย่างที่แท็กซี่ควรจะทำ (ฮ่าฮ่า)

จริงๆ แล้ว เคยเกิดเหตุการณ์วันแรกที่ผมหลงทาง แล้วแท็กซี่ไม่ยอมรับผมขึ้นรถเลยซักคัน วันนั้นก็ประหลาดใจว่าทำไมหว่า?

เคยเรียกแท็กซี่ที่ปักกิ่งแล้วเขาไม่ไป ตะคอกใส่เสียงดัง ผมลองเล่าให้เพื่อนที่นี่ฟังแล้ว เขาบอกกันว่า คนที่ปักกิ่งจะพูดโผงผางตรงไปตรงมา ขวานผ่าซาก แต่ที่จริงแล้วจริงใจ บางทีคนจีนก็พูดเสียงดังตามธรรมชาติ ไม่ได้ด่า เขาว่าอย่างนั้นครับ ส่วนคนเซี่ยงไฮ้จะอ้อมค้อมกว่า ดูเหมือนจะสุภาพกว่า แต่จริงๆ แล้วเก็บความรู้สึกมากกว่าคนทางเหนือ อันนี้เขาว่ากันมา ต้องพิสูจน์ด้วยเวลาครับ (หุหุ)

 

โดย: นิ้วกลม IP: 218.1.88.137 15 มีนาคม 2550 9:50:39 น.  

 

เหม่ยโหย่ว - -
โหย่วสิแปลว่ามี เหม่ยน่ะแปลว่า ‘ไม่’ พี่ท่าน ((แก้ด่วน))
...
สรุปแล้วสรรพสิ่งมีฤทธิ์เป็น ‘กลาง’ ไม่ด่างไม่กรด?
ทั้งหลายทั้งมวลขึ้นอยู่กับกระดาษลิสมัสอย่างเรา ๆ
ว่าจะ ‘วัด’ ((และมอง)) สิ่ง ๆ นั้นว่ากรดหรือด่างอย่างไร??
...
ป.ล. จากเมื่อวาน ... สรุปว่า ‘ค่อย ๆ โต’ ของน้องได้แทรกตัวไปในกระเป๋าเดินทางไปเซี่ยงไฮ้กับท่านพี่หรือเปล่าขอรับ?

 

โดย: เติ้ล IP: 58.9.137.241 15 มีนาคม 2550 10:02:07 น.  

 

นั่นสิ ปล่อยไก่ไปตัวเบ้อเริ่ม!
ใช่ๆ, โหย่ว = มี / เหม่ย = ไม่
ขอบคุณเติ้ลที่มาแก้ให้ทันเวลา

ตอบ: 'ค่อยๆ โต' จากการรื้อค้นแล้ว ดูเหมือนว่าจะอยู่ที่โน่นล่ะเติ้ล กลับไปมันคง 'โต' พอดี

 

โดย: นิ้วกลม IP: 218.1.88.137 15 มีนาคม 2550 10:13:04 น.  

 



นี่ท่านพี่อยู่ ณ ที่พัก หรืออยู่ที่ทำงานเล่าท่าน?

 

โดย: เติ้ล IP: 58.9.137.241 15 มีนาคม 2550 10:19:07 น.  

 

เมิ่อกี้ ที่พัก
ตอนนี้ ที่่ทำงาน แล้วน้องเอ๋ย

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 10:35:01 น.  

 

เข้างานกี่โมงคะนี่พี่เอ๋?
แต่มาจากที่พักแว้บเดียวเองนี่คะ

จะว่าไป ถ้าวันไหนฝนตกแล้วเรามีร่ม ก็ดูจะเฉยๆ
แต่ถ้ามาตกเวลาไม่มีร่มเมื่อไหร่ กลับเซ็งไปตามๆกัน
เซ็งฝน แทนที่จะโทษว่าตัวเองไม่พกร่มมา อย่างงั้นเลย

ระวังเป็นหวัดนะคะพี่เอ๋ ทั้งฝนทั้งหนาว
ว่างๆก็อย่าลืมไปซื้อร่มหรือเสื้อกันฝนด้วยน้าค้า

 

โดย: Vingt-Neuf IP: 202.44.8.100 15 มีนาคม 2550 10:44:48 น.  

 

ภาษา ถ้าไม่คิดว่ามันคืออุปสรรคก็น่าจะทำให้การดำเนิน
ชีวิตในดินแดนใหม่ที่ไม่คุ้นเคยมีความสุขขึ้น
อย่างที่แอนดรู บิ๊กส์เคยบอกไว้ English is not a monster. เปลี่ยนเป็น Mandarin is not a monster. ฮ่า ฮ่า เอว่าการเรียนภาษาใหม่เป็นเรื่องสนุก และท้าทาย เอาแค่เวลาหัดออกเสียง พยายามเลียนแบบให้ได้เหมือนเจ้าของภาษาก็มันแล้ว โดยเฉพาะภาษาจีนที่มีเสียงวรรณยุกต์น้อยกว่าเราแค่เสียงเดียว ออกเสียงผิดเพี้ยนไปหน่อย ก็อาจกลายเป็นอีกคำไปได้ เพราะอย่างนี้เอว่ากว่าพี่เอ๋จะกลับมาคงมีเรื่องเม้าท์เกี่ยวกับการสื่อสารระหว่างคนจีนแท้ๆ กับคนไทยหน้าจีน มาให้พวกเราได้อ่านกันหนาจนรวมเล่มได้เลยมั๊งนั่น และก็ไม่แน่เมื่อพี่เอ๋กลับมาเราอาจได้เห็นโฉมหน้างานใหม่ของพี่เอ๋ที่ฉีกแนวออกไปจากเดิม "ภาษาจีนแสนสนุกกับนิ้วกลม" "เรียนภาษาจีนสู่โลกกว้างกับนิ้วกลม" "เมื่อนิ้วกลมสอนภาษาจีน" อะไรอย่างนี้น่ะค่ะ อิอิ

 

โดย: เอ IP: 58.136.71.41 15 มีนาคม 2550 11:49:46 น.  

 

เอาตัวรอดจากการไม่รู้ภาษานี่ก็อยากอยู่ครับเอ

ปอ วันนี้เข้างานเกือบสิบเอ็ดครึ่ง สายไปหน่อย พอดีว่าเมื่อคินดึก
อยากหาเวลาไปซื้อร่มอยู่เหมือนกัน ว่าแต่ ร่ม ภาษาจีนเรียกว่าอะไรหนอ?

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 13:33:55 น.  

 

ดู ไฮโซ มากเลยพี่เอ๋ นั่งแทกซี่ไปทำงานทุกวันเรย

เออ พี่เอ๋แล้วอย่างกรณีที่ฝนตกๆเนี่ย ถ้าเราเอาร่มเปียกๆเข้าไปแล้วเค้าจะมองเราด้วยความหยามเหยียดเหมือนแทกซี่ไทย (บางคน) รึปล่าวคะ
พี่เอ๋ลองดูนะ 5555

ลองใช้ talking dic ดูสิพี่ น่าหนุก น่าหนุก

 

โดย: ปอนด์ IP: 203.113.57.70 15 มีนาคม 2550 13:36:12 น.  

 

雨伞 yusan หยู่ซ่าน ร่ม

ไม่รู้ถูกรึเปล่า เอาไว้ถามคนข้าง ๆ อีกทีนะคะ

ขอให้โชคดีคะ

 

โดย: yayaa IP: 203.114.119.163 15 มีนาคม 2550 14:13:13 น.  

 

หูย มีครูสอนภาษาจีนเยอะเลบ ขอบคุณมากๆ ครับ
"เจ๊เจ๊ ขอหยู่ซ่านคันนึง" เดี๋ยวจะลองดูครับ

ปอนด์ เราไม่ไฮโซหรอก พอดีว่าแถวบ้านไม่มีรถไฟ บางวันตื่นเช้าหน่อยก็เดินไปออฟฟิศครับ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ได้ดูสองข้างทางไปด้วยเพลินๆ

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 14:24:28 น.  

 

หูย..เดินไปออฟฟิศใช้เวลาตั้งครึ่งชม. แต่คิดในแง่ดีมันก็สมดุลกันดีนะคะ เพราะพี่เอ๋บอกว่าคอเรสตอรอลจะพุ่งพรวดเกินสี่ร้อยไปเพราะอาหารมันเลี่ยนที่โน่น ก็นี่ไงได้เดินออกกำลังกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินไปในตัว อากาศก็เย็นๆ ตาได้ดูอะไรไปเรื่อย หูฟังเสียงช้งเช้งสองข้างทาง เท้าก็เดินหลบน้ำลาย นิ้วทำงานอาจถือโพยภาษาจีนเอาไว้ยามฉุกเฉิน อิอิ

ภาษาจีนนี่ช่วยไม่ได้เลยค่ะ ไม่ได้เรียน ตอนนี้เอกำลังฝึกปรือภาษาที่มีรากศัพท์จากจีนอยู่ นามว่า "คันจิ" พูดไม่เท่าไหร่ เขียนนี่สิ หูย ต้องโทษคนจีน คิดได้ยังไงเนี่ยเป็นหมื่นๆตัว

 

โดย: เอ IP: 58.136.71.41 15 มีนาคม 2550 14:46:02 น.  

 

หว่อ เย้า (หม่าย) อี๊ เกอะ ยู่สาน ... ผมต้องการซื้อร่มหนึ่งคัน!
((ตรงไปหรือเปล่าไม่รู้แฮะ))
ลองดูท่านพี่ ถ้าได้เป็นอย่างอื่นมา ค่อยว่ากัน 555
...
ป.ล. อย่าลืมเอาเรื่อง 'กล้องกบ' มาลงนะท่าน ... แต่จะว่าไปเติ้ลยังไม่เคยไปแอบด้อม ๆ มอง ๆ กิจกรรมส่องกบนี้เลยแฮะ ... เติ้ลว่ามันน่ากลัว!
ส่วนเมื่อวานที่เติ้ลพิมพ์ว่า ‘ได้อารมณ์’ ... มันคืออารมณ์ ‘สะใจ’ มากกว่าอะนะท่านพี่ - - โดยเฉพาะตอนจบบทความนั่นน่ะ

 

โดย: เติ้ล IP: 58.9.137.241 15 มีนาคม 2550 15:42:25 น.  

 

พี่เอ๋
ถ้าพี่พูดว่า "เจ๊เจ๊ ขอหยู่ซ่านคันนึง"
แล้วคำว่า"ขอ" กับ "คันนึง"
คนขายเค้าจะแปลออกหรอพี่
ช๊อบ....ชอบที่พี่บอกว่า "สิ่งที่ดี ดีโดยตัวของมันเอง"

 

โดย: therainyseason IP: 58.8.183.149 15 มีนาคม 2550 15:43:27 น.  

 

เม้นช้ากว่าคุณเติ้ลไปนิดเดียว
หน้าแตกเลย
พี่เอ๋ ก็พูดว่า"หว่อ เย้า (หม่าย) อี๊ เกอะ ยู่สาน ..."อย่างที่คุณเติ้ลบอกแล้วกันนะ

 

โดย: therainyseason IP: 58.8.183.149 15 มีนาคม 2550 15:55:22 น.  

 

เติ้ล เก่งเว้ย มาสอนหน่อยดิ๊
หว่อ เย้า อี๊ เก๊อะ ยู่สาน
ได้เลยได้เลย เดี๋ยวจะลองดู

ฤุตูฝนครับ ทุกวันนี้ก็พูดไทยคำอังกฤษคำจีนครึ่งคำอยู่ครับ
ภาษากายช่วยคุณได้ ฮ่าฮ่า

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 16:04:11 น.  

 

"บัดซบ! กูฟังไม่ออก อย่ามาชวนกูคุย"
55555
ชอบมากเลย
และวิธีปฏิบัติ "ยิ้มแห้งๆ"
เพราะเราก็ทำบ่อยๆ ทั้งสองอย่างนั้นเลย
55555

ดี-ชั่ว ขาว-ดำ หยิน-หยาง

 

โดย: pattararanee IP: 125.25.92.189 15 มีนาคม 2550 16:36:10 น.  

 

Yu San ต้องออกเป็น หยู ส่าน เปล่ากั๊บ ตัว 伞 เป็นเสียงสามอ่ะค่ะ จำไม่ค่อยจะได้เหมือนกัน เรียนนานแล้วก็ลืม

 

โดย: Qingqing IP: 203.170.164.62 15 มีนาคม 2550 16:37:16 น.  

 

เอ่อท่านพี่ เติ้ลไม่เก่ง เพราะเติ้ลเดาเอา 555
และที่สำคัญ ... ได้แค่นั้นแหละ
...
เย้ยยยย ไปตั้งใจทำงานแล้ววววว
วันนี้ซัดไปหลายเม้นท์ แต่งานไม่ไปไหนเล้ย
...
ขอให้ซื้อร่มได้ร่มนะพี่!

 

โดย: เติ้ล IP: 58.9.137.241 15 มีนาคม 2550 16:41:20 น.  

 

แสดงว่าพุงอึ๋มๆ ของพี่เอ๋ก็มีประโยชน์เหมือนกันนะเนี่ยะ

 

โดย: therainyseason IP: 58.8.183.149 15 มีนาคม 2550 17:01:36 น.  

 

โหย เด็กสมัยนี้เรียนจีนกันทุกคนเลยหรือ?
เก่งเชียว จะลองไปซื้อร่มดู ว่าจะใช้ภาษาใบ้
"พุงอึ๋มๆ" เออแฮะ คำนี้ดู "พุง" น่ารักขึ้นมาทันทีเชียว

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 17:15:04 น.  

 

คืนวันอันวุ่นวายยังรออยู่อีกหลายเพลาแน่นอน
เตรียมรับสถานการณ์กันต่อไป
เอ๋อาจจะได้ไอเดียอะไรดีดี
จากการเฝ้ามองผู้คนที่เดินผ่านกันไปมา
จากภาษาพูด ภาษากาย ?
และอื่นๆอีกมากมาย
เอามาเล่าสู่กันฟังดีแล้ว
นึกภาพคนตัวเล็กๆ ถูกซิวรถแท็กซี่ไปต่อหน้าต่อตาได้เลย
ขำอ่ะ

 

โดย: jummdcu IP: 125.24.181.53 15 มีนาคม 2550 17:15:47 น.  

 

ไหงขำซะได้ล่ะครับพี่?

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 17:39:59 น.  

 

ไม่รู้ซิ แต่เหมือนมองเห็นภาพผ่านการเล่าเรื่องน่ะ
แค่เปรียบพวกลุงๆป้าๆพวกนั้นเป็นเทวดาในละครจักรๆวงศ์ๆ ก็ขำละ
แถมคนตัวเล็กคนนั้นยังกระเด็นออกจากประตูอีก
เหมือนดูละครหรือหนังโฆษณาอะไรซักอย่าง นึกไม่ออก

แต่จริงๆเป็นห่วงจ้า

 

โดย: jummdcu IP: 125.24.181.53 15 มีนาคม 2550 17:51:59 น.  

 

เวลาผมนั่งแท็กซี่ที่เมืองจีน ถ้านั่งข้างคนขับอ่ะเหมือนนั่งในกรงเลยอ่ะ...คิดถึงเมืองจีนโว้ย...อยากไป...เบื่อฟินแลนด์แล้ว ชีวิตมันเรียบง่ายน่าเบื่อเกินไปอ่ะพี่(ไม่้เข้ากับกฎธรรมชาติของเต๋าเลย)

 

โดย: Le petit garçon ! IP: 212.116.63.2 15 มีนาคม 2550 17:55:07 น.  

 

เพิ่งเข้าไปที่บ้านนู้นได้ไม่นาน เลยเพิ่งได่รู้ว่าพี่ย้ายมาอยู่บ้านนี้ซะแล้ว

ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ หลังจากนี้คงเห็นหน้าเห็นตากันบ่อยขึ้นแหละ^^

ปล.เอาเว็บมาฝากค่ะ เป็นเว็บที่ใช้ประจำเวลาแปลงานหรือเขียนงานส่งอาจารย์
//www.chinese-tools.com/tools/dictionary.html
หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะคะพี่เอ๋^^

 

โดย: p. IP: 58.9.83.127 15 มีนาคม 2550 18:24:10 น.  

 

ขอบคุณครับ p. มาเยี่ยมกันได้เรื่อยๆ ครับ

ศร ความเรียบง่ายก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่งรึเปล่า?

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 18:41:20 น.  

 

คิดถึงนิ้วกลมจังเลย...

 

โดย: แอล IP: 61.90.141.2 15 มีนาคม 2550 18:58:23 น.  

 

หวัดดีครับแอล

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 15 มีนาคม 2550 19:15:58 น.  

 

อยู่ที่โน่นเป็นไงบ้างคะ อยู่/ทำงาน แถวไหนเหรอ?

 

โดย: แอล IP: 61.90.141.2 15 มีนาคม 2550 19:20:50 น.  

 

ที่นี่ ประเทศไทย สองทุ่มแล้วคะพี่
คงยังไม่กลับบ้านล่ะซินะ
โหมงานหนักได้
แต่อย่าลืมดูแลตัวเองดีๆ นะพี่

อ้อ! แล้วพี่ซื้อร่มได้แล้วรึยังคะ

 

โดย: ต้อม IP: 124.120.107.160 15 มีนาคม 2550 20:07:03 น.  

 

ฮ่าๆๆ ท่าทางพี่เอ๋คงไปซื้อร่มง่ายขึ้นแล้วหล่ะค่ะ
แต่ประโยคที่ว่า "พอดีว่าเมื่อคืนดึก"
มันออกแนว ฮิบฮิ้วววว นะคะพี่เอ๋

 

โดย: Vingt-Neuf IP: 58.136.61.174 15 มีนาคม 2550 20:51:16 น.  

 

พี่ขอถามนอกเรื่องจากเซี่ยงนิดนึงนะ
พวกเราจะได้อ่านงานของเอ๋อีกหรือเปล่า
ผ่านคอลัมน์ ณ , สิ่งที่น่าสนใจ
บุกคนสำคัญ , รูของผู้บริโภค , มาหาไร
( มีอื่นๆอีกเปล่าหว่า ? ถ้ามีบอกด้วยจ้า )
อย่าลืมตอบนะ

 

โดย: jummdcu IP: 125.24.181.53 15 มีนาคม 2550 21:47:16 น.  

 

สบายดีนะคุณพี่???

 

โดย: tikz IP: 124.120.233.247 15 มีนาคม 2550 22:29:59 น.  

 

เรื่องแท็กซี่ อ่านแล้วนึกภาพตามแล้วขออนุญาติขำนะ 55

มีหลายครั้งนะที่เรานั่งแท็กซี่แล้วอยากชวนพี่แท็กซี่คุย แต่พี่แกเงียบ และนิ่งมาก จนไม่กล้าส่งเสียงดัง (นี่ตูทำอะไรผิดป่าววะ ไม่ยอมคุยด้วย)

อ่านบล็อกนี้แล้วได้รู้ภาษาจีนด้วย ดีจัง

 

โดย: oum IP: 124.121.108.171 15 มีนาคม 2550 23:08:25 น.  

 

ลืมแซว

พี่เอ๋เดินไปทำงานบ่อยๆ กลับมาต้องผอมเพรียวแน่เลย แล้วจะจำพี่เอ๋ได้มั้ยเนี่ย

วี๊ดดวิ้ววว

 

โดย: oum IP: 124.121.108.171 15 มีนาคม 2550 23:13:30 น.  

 

พี่จุ๋มคะ
ปอเห็นมีชื่อพี่เอ๋ในนิตยสาร cream อีกที่นึง
ร่วมเขียนด้วยรึป่าวคะพี่เอ๋ ?

อ๋อ แล้วเมื่อกี๊ปอไปตั้งกระทู้รวบรวมผลงานพี่เอ๋ไว้ที่บอร์ด รบกวบพี่เอ๋และพี่ๆน้องๆเฟรนด์พันธุ์แท้ (ขอยืมคำของพี่เอหน่อยนะคะ ^^ ) ช่วยกันไปช่วยดู+เพิ่มเติมหน่อยนะคะ ขอบคุณค่า

ลิ้งค์ค่า //www.yimsiam.com/club/board/topicRead.asp?wbID=roundfinger&id=000147

 

โดย: Vingt-Neuf IP: 58.136.61.174 16 มีนาคม 2550 2:29:03 น.  

 

อยากมาเมนท์เจอพี่เอ๋บ้างง่า
ไม่เคยเจอซักที

พี่เอ๋สบายดีนะ?

ฝนตกแล้วยิ่งทำให้หนาวขึ้นรึป่าว?

อ่านไปแล้วขำดี "บัดซบ! กูฟังไม่ออก อย่ามาชวนกูคุย"
นึกภาพพี่เอ๋ตอนนั้นออกเลย 55

ขอบคุณพี่ปอด้วยนะคะที่รวบรวมไว้ให้



 

โดย: Modz(มด) IP: 58.137.48.4 16 มีนาคม 2550 9:23:34 น.  

 

น่านสิ

พวกเราจะได้อ่านงานของพี่เอ๋อีกรึป่าว?

ใน a day ไม่มี "ณ" ก็ไม่ใช่ a day น่ะจิ

เพราะ "ณ" จะเป็นคอลัมน์แรกๆ ที่เปิดไปอ่านใน a day

ไม่รู้ว่าจะได้อ่านมันอีกซักครั้ง มั้ยนะ...

 

โดย: Modz(มด) IP: 202.28.21.4 16 มีนาคม 2550 11:08:14 น.  

 

เรื่องคอลัมน์กำลังคิดอยู่ครับว่าจะเอายังไงดี
บางคอลัมน์ที่เขียนได้ก็อยากเขียนต่อแน่นอนอยู่แล้วครับ

ณ นี่เขียนแน่นอนครับ อยากเขียนให้ครบจนรวมเล่มได้ ฮ่าฮ่า
จากคอลัมน์ที่เฉยๆ เขียนไปเขียนมาก็เริ่มชอบคอลัมน์นี้แล้ว

มีคอลัมน์ใหม่ชื่อ 360 องศา ในนิตยสาร ครีม ครับ
กลุ่มเป้าหมายจะอายุน้อยสักหน่อย อันนี้เขียนแล้วสนุกดีครับ
เพราะบอกอจะมีหัวข้อแต่ละเดือนมาให้

รูของผู้บริโภค ก็อยากเขียนให้ได้สักสิบห้าตอนเป็นอย่างน้อย
โอย อีกยาวนานเลยครับ เขียนครับเขียน ถ้าท่านพี่บอกอ ปกป้อง มาอ่านเจอ
ก็อยากบอกว่า ถึงช้าก็ยังอยากเขียนอยู่นะครับ

บุกคนสำคัญ นี่ไม่แน่ใจครับ ไม่ได้ขนหนังสือ คนสำคัญ มาด้วยเลย
แต่ถ้ามีข้อมูลก็อยากเขียนไปเรื่อยๆ เช่นกันครับ

มาหา 'ไร ก็ว่าจะเขียนนะครับ สนุกดี(ทำไมมันงกอย่างงี้วะ?)

แต่ก็นั่นแหละครับ ถ้างานหนักมาก ต้องเรียนให้พูดจากับเค้ารู้เรื่อง
ก็คงจะต้องหยุดบ้าง แต่ ณ ตอนนี้ยังพอมีเวลาเขียนครับ

ขอบคุณมากๆ ครับที่ถามไถ่ ขอบคุณที่อ่านด้วยครับ

ติ๊ก เราสบายดี ติ๊กบายดีบ่?

มด นี่ไงเจอแล้ว

อูม ไม่ผอมหรอก อ้วนจะแย่แล้ว

ต้อม ยังไม่ได้ซื้อ "ส่าน" เลย วันนี้ฝนพรำอีกแล้ว

แอล อยู๋แถวอันหยวนลู่ / ส่านซีเป่ยลู่ ครับ

ปอ เด็ดมาก เราแค่สงสัยคำจำกัดความเรานิดหน่อย "ขวัญใจเด็กแนว"
แนวไหนว้า???

 

โดย: นิ้วกลม IP: 202.136.209.2 16 มีนาคม 2550 17:24:26 น.  

 

ขอบคุณที่มาตอบคำถามนะ
ก็ยังดี ที่ยังได้อ่านงานเขียนของนิ้วกลมกันอีกเรื่อยๆ
พอแก้เหงาเนอะ แต่จริงๆก็ไม่เหงาแล้วนิ
เพราะบ้านพักฯก็เปิดรับแขกมากหน้าหลายตา
อยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว

 

โดย: jummdcu IP: 125.24.130.183 16 มีนาคม 2550 17:51:01 น.  

 

ไม่เป็นไรจ้าน้องมด นิดหน่อยเองๆ

นั่นสิคะพี่เอ๋ เมื่อคืนปอก็แปลกใจ
เล่มไหนๆ ก็ว่าพี่เป็น "ขวัญใจเด็กแนว"
ฮ่าๆๆๆๆ แต่ปอว่า มันก็เก๋ดีนะคะ

 

โดย: Vingt-Neuf IP: 58.136.84.204 17 มีนาคม 2550 0:34:51 น.  

 

ขอเจอแบบจังๆ กว่านี้ได้มั้ย คิกๆ

ไ ม่ เ ค ย เ ล ย ที่ ท า ง ข อ ง เ ร า จ ะ ม า บ ร ร จ บ กั น~* (อะไรของมันเนี่ย!)



หุหุ อย่างน้อยก็ยังมี "ณ" คอลัมน์โปรดให้อ่านอยู่ Yeah!!

มีความสุขดีเน้อ..พี่เอ๋?
มดนี่ ไม่ค่อยสุขเท่าไหร่ หุหุ (เครียดว้อยๆๆ)
ป.ล. ว่าไปแล้วทุกวันนี้ยังสงสัยตัวเองว่าเป็นเด็กแนวไหน ถึงได้ติดหนังสือของนิ้วกลมงอมแงมเยย??

 

โดย: Modz(มด) IP: 202.28.21.4 17 มีนาคม 2550 8:26:11 น.  

 

ได้เห็นโฉมหน้าของนักเขียนรับเชิญในคอลัมน์ 360 องศา
ขำดีอ่ะ ทำตา Squint ซ้า
แต่ยังคงมองเห็นเค้าหน้าเดิมอยู่นะ

ปล...เรื่องแรกก็โดนใจเพศที่...ซะแล้ว
แต่ขึ้นมาประโยคแรกหวาดเสียวนิดนึงนะ

 

โดย: jummdcu IP: 125.24.159.124 17 มีนาคม 2550 21:55:30 น.  

 

ชอบอ่านตัวหนังสือของนิ้วกลมมานานแล้ว
แต่เพิ่งรู้ว่าเป็นเพื่อนเก่าที่บดินทรไม่นานมานี้เอง

ดีใจครับที่จะเขียน ณ ต่อไป

 

โดย: ble_016@hotmail.com IP: 124.121.35.244 28 มีนาคม 2550 22:42:00 น.  

 

หนี่ฮ่าววววว

เหมือนว่าพี่เริ่มปรับตัวกับชีวิตภาษามือได้เเล้วนะคะ
ดูท่าทางเเต่ละวันต้องมีเรื่องสนุกเยอะเเนะเเน่ๆเลยค่ะ

ไจ้เจี้ยนค่ะพี่นิ้วกลม

 

โดย: iiws IP: 58.9.125.149 16 เมษายน 2550 15:10:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


roundfinger2547
Location :
1155 North Shaanxi Road, BLK 1, Room 2103, Shanghai, China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




นิ้วกลม คือ ผู้ชายที่ชอบกินป๊อกกี้คนหนึ่ง
Free Hit Counter
[Add roundfinger2547's blog to your web]