|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ปริศนาเวตาล.....เรื่องที่ 5 (Love Letter version ภารตะ)
เห็นเกมส์เลือกคู่ของแดนกิมจิ พิจยังไงก็ยังไม่คราสสิกเท่าการหาคู่ของแดนภารตะ ว่าแล้วก็เล่าเรื่องของเราต่อดีก่า แต่อิอิ มีคนแอบเม้นต์มาว่าแต่ละตอนเนื้อเรื่องยาวมากๆๆ ก็ต้องกราบเรียนลุง ป้า น้า อา พี่ น้อง คนละท้องเดียวกันว่าใจจริงๆ ก็อยากย่อเรื่องให้นะค่ะ แต่ red color กลัวแฟนๆๆ ตัวจริงของนิทานเรื่องนี้จะเสียอรรถรสในการอ่านไปอะค่ะ ยังไงคราวนี้ลองอ่านแบบสรุปใจความถึงน้ำถึงเนื้อเลยละกันนะค่ะ
ถ้าใครอยากอ่านแบบต้นฉบับจริงๆ จังๆ ก็ทิ้ง mail ไว้นะค่ะ จะส่งไปให้ตาม request ทันทีเลยค่ะ อารัมบทมานานหละเรามาเริ่มเรื่องที่ 5 กันเลยดีกว่า.............
เหมือนเดิมค่ะ จนแล้วจนรอดพระเจ้าตริวิกรมเสนก็หลงกลตอบปริศนาเวตาลอีก จึงต้องเสด็จกลับไปที่ต้นอโศกเพื่อทรงจับเวตาลตามที่ได้ลั่นวาจาไว้ แต่ในขณะที่ดำเนินไปตามทางที่นำไปสู่สุสานของโยคี เวตาลซึ่งเกาะอยู่บนอังสาของพระราชาก็กล่าวขึ้นว่า "ราชะ พระองค์ช่างอดทนในภาระซะนี่กระไร ข้าเห็นพระองค์ครั้งแรกก็รู้สึกชอบเสียแล้ว ข้าจะเล่านิทานให้ทรงฟังสักเรื่องหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องบันเทิงพระทัย โปรดสดับเถิด"
ในพระนครอุชชยินี มีพราหมณ์ผู้หนึ่งชื่อว่าหริสวามิน พราหมณ์มีภรรรยาที่เป็นหญิงมีตระกูลเสมอกันและมีบุตรชายคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มรูปงามชื่อ เทวสวามิน ต่อมาภรรยาได้ให้กำเนิดบุตรหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อเจริญวัยขึ้นแล้ว มีความงามอันยอดยิ่งหาผู้ใดเสมอมิได้ ชื่อ โสมประภา
พอนางมีวัยอันพึงมีคู่ครองได้แล้ว (คืออายุ ๑๖ ปี) นางจึงให้มารดาไปเจรจาต่อบิดาและพี่ชายของนาง โดยสั่งว่า "ลูกจะแต่งงานกับ 1. ชายที่มีความกล้าหาญ หรือ 2. มีความรู้ดีเลิศ หรือ 3. ต้องเป็นชายที่เรียนรู้มายาศาสตร์เท่านั้น ขออย่าบังคับให้ลูกแต่งงานกับคนอื่นนอกเหนือจากนี้ ถ้าพ่อยังเห็นว่าชีัวิตของลูกยังมีค่าอยู่"
เมื่อหริสวามินผู้บิดาได้ยินดังนี้ ก็กังวลใจมาก ไม่ทราบว่าจะหาบุรุษใดมีคุณสมบัติตามข้อใดข้อหนึ่งในสามข้อที่นางตั้งเงื่อนไขเอาไว้ ขณะนั้นพอดีกับที่เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นทูตสันติเพื่อไปทำสัญญาไมตรีกับพระราชาแห่งเดกข่าน ซึ่งกำลังจะเข้ามารุกรานแว่นเคว้น
หริสวามินได้ทำงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี และเดินทางกลับมาบ้าน ขณะนั้นเองมายากรผู้หนึ่งซึ่งได้ทราบข่าวระบือในความงามอันยอดยิ่งของนางโสมประภาก็เข้ามาหา และสู่ขอนาง หริสวามินจึงบอกเงื่อนไข 3 ข้อของนางโสมประภาแก่มายากรผู้นั้น เมื่อมายากรหนุ่มได้ยินดังนั้น ก็ตอบว่า "ข้าเป็นผู้ชำนาญในมายาศาสตร์ยิ่งกว่าอย่างอื่น" ว่าแล้วก็เริ่มแสดงความชำนาญของตนให้ดูทันที เมื่อหริสวามินเห็นดังนั้นก็ตกลงยินยอมธิดาให้แก่มายากรทันที โดยกำหนดวันทำพิธีสมรสอีกเจ็ดวันข้างหน้า
ในระหว่างนั้น วีรบุรุษผู้หนึ่งซึ่งตั้งนิวาสสถานอยู่ในกรุงอุชชยินีก็มาหาเทวสวามิน (พี่ชายของนางโสมประภา) และสู่ขอนางโสมประภา เทวสวามินก็ตอบแด่พราหมร์ตามเงื่อนไข 3 ข้อ เมื่อได้ฟังดังนั้นวีรบุรุษก็แสดงการใช้อาวุธทั้งยิงธนู และการใช้ดาบ อย่างดีเยี่ยม จนเทวสวามินเลื่อมใส จึงสัญญาว่าจะยกน้องสาวให้ โดยฤกษ์แต่งงานจะมีในเจ็ดวันข้างหน้า และเขาก็ตัดสินใจไปโดยที่มารดาและบิดามิได้รู้เห็น
ในวันเดียวกันนั้นเอง ชญานิน (เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวกคงแก่เรียน รู้เยอะ) ก็เดินทางมาถึงและเข้าไปพบกับภรรยาของหริสวามิน เจรจาสู่ขอนางโสมประภาเช่นเดียวกัน นางพราหมณีได้ฟังก็เล่าเงื่อนไขของนางโสมประภา 3 ข้อให้ฟัง และหลังจากที่นางได้ถามไถ่เรื่องอดีตและอนาคตของเขาแล้ว ก็ตกลงใจรับการสู่ขอของเขา และสัญญาจะให้ธิดาของตนแต่งงานกับชญานินผู้นี้ในเวลาอีกเจ็ดวันข้างหน้า เช่นเดียวกับที่สามีและบุตรชายของนางได้ให้สัญญาแก่ชายสองคนแรก
วันรุ่งขึ้นหริสวามิน ภรรยา และพี่ชายของนางโสมประภา ก็ต่างเล่าเรื่องที่ตนได้ตกลงรับการสู่ขอให้ได้ทราบ เมื่อทุกคนรู้เรื่องต่างก็ตกใจ และกลัดกลุ้มยิ่งนักเพราะเจ้าบ่าวทั้งสามต่างก็ได้รับการเชิญมาในวันสมรสวันเดียวกัน
ครั้นถึงวันสมรส ชายทั้งสามต่างก็เดินทางมาถึงบ้านของหริสวามินพร้อมกันทั้งชญานิน มายากร และวีรบุรุษ ขณะนั้นเองความมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น เมื่อปรากฎว่านางโสมประภาหายไปอย่างไม่มีร่องรอย
หริสวามินจึงกล่าวแก่ชญานินว่า "ท่านเป็นผู้ทรงคุณวิทยา เรื่องที่เกิดขึ้นนี้เป็นเพราะอะไร ลูกสาวข้าหายไปไหน" เมื่อชญานินหนุ่มได้ฟังดังนั้นก็ตอบว่า "รากษสตนหนึ่งชื่อธูมรศิขะ เป็นผู้ลักตัวนางไปสู่ที่อยู่ของมันในป่าเชิงเขาวินธัยแล้ว"
หริสวามินได้ยินชญานินกล่าว ก็ตกใจว้าวุ่นร้องว่า "อนิจจาเอ๋ย อนิจจาเราจะตามตัวนางกลับมาได้อย่างไร แล้วนางจะแต่งงานอย่างไรเล่า" มายากรผู้ชำนาญในมายาศาสตร์ได้ฟังก็กล่าวว่า "ทำใจให้ดี ๆ ไว้เถิด ข้าจะพาท่านไปในพริบตา เพื่อติดตามนางไปยังที่ซึ่งชญานินกล่าวถึงนั่น" ว่าแล้วก็ใช้มายาศาสตร์พาทุกคนไปยังที่พักอาศัยของอสูรร้ายดังกล่าว
รากษสเมื่อเห็นผู้บุกรุกก็วิ่งออกมาจากสำนักด้วยความโกรธ วีรบุรุษก็ออกหน้าตะโกนท้าทายให้รากษสมาต่อสู้กับตนตัวต่อตัว ครั้นแล้วทั้งสองฝ่ายก็ต่อสู้กันอย่างทรหดด้วยอาวุธชนิดต่างๆ ต่อมาในช่วงเวลาอันสั้น รากษสก็เสียทีถูกตัดหัวกระเด็นด้วยฝีมือวีรบุรุษหนุ่ม
เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็เกิดการโต้เถียงกันไม่ยุติว่านางควรจะแต่งงานกับใคร ทั้งชญานิน มายาวิน และวีรบุรุษต่างก็โต้ตอบกันอย่างเผ็ดร้อน อ้างความเป็นเจ้าของนางกันทุกคน
ถ้าไม่มีชญานินก็ไม่สามารถสืบรู้ที่อยู่ของนาง
ในขณะที่ถ้าไม่มีมายาวินก็ไม่สามารถไปช่วยนางได้ทัน
และถ้าไม่มีวีรบุรุษทุกคนก็คงได้รับอันตรายถึงชีวิต ไม่ได้กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้
ขณะที่ทุกคนโต้เถียงกันวุ่นวายอยู่นั้น หริสวามินนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ บังเกิดความพิศวงเป็นกำลัง ไม่อาจจะตัดสินอะไรได้
เวตาลจึงกล่าวแก่พระราชาว่า "โอ ราชะ โปรดตัดสินให้ทีเถิด ใครควรจะได้เป็นสามีนางโสมประภาโดยเหตุผลอันสำคัญเป็นเครื่องชี้ขาดเล่า แต่ถ้าพระองค์รู้แล้วไม่ยอมพูดก็จงรู้ไว้เถิดว่า ศีรษะของพระองค์จะต้องแยกเป็นเสี่ยง ๆ เชียวนะ พระเจ้าข้า"
เมื่อพระเจ้าตริวกรมเสนได้ฟังเวตาลกล่าวดังนี้ ก็ลืมพระองค์ไปชั่วขณะตรัสตอบว่า
อิอิ....เพื่อนๆๆ ละค่ะจะยกนางโสมประภาผู้สวยหยาดฟ้ามาดินให้แก่ใคร
>>>>>
>>>>
>>>
>>
>
"นางควรจะตกเป็นของวีรบุรุษต่างหาก ทั้งนี้เพราะชายกล้าหาญผู้นี้มิใช่หรือที่ต่อสู้ศัตรูอย่างเข้มแข็งเต็มกำลังความสามารถ เอาชีวิตเข้าแลกกับความตายเพื่อนางโดยแท้
ส่วนชายอีกสองคนคือ ชญานิน และมายาวินนัั้น ทำตามหน้าที่ท้าวธาดาพรหมกำหนดมาให้เป็นเครื่องมือของแผนการดังกล่าวนี้ทั้งหมด คนมีความรู้ก็ดี คนถนัดในมายาศาสตร์ก็ดี ล้วนแต่เป็นตัวประกอบในวีรกรรมนี้ทั้งสิ้น"
เวตาลได้ฟังดังนั้นก็รีบรุดลงจากอังสาของพระราชาและหายลับไปในทันที โดยปราศจากร่องรอยใด ๆ ให้เห็น พระราชาทรงรู้สึกพระองค์ก็ต่อเมื่อ เวตาลอันตรธานไปแล้ว จึงต้องเสด็จไปตามตัวมันอีก
แล้วจะมา up ต่อนะค่ะ byebye
Create Date : 27 ธันวาคม 2550 |
|
0 comments |
Last Update : 16 มกราคม 2551 17:41:28 น. |
Counter : 1381 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|