ตัวตนหนึ่งในสวนอักษร--หนอนตำราอันคร่ำครึ
|
|||
ความสุขอยู่ที่ไหน จำได้ว่าช่วงวันเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว (๒๕๕๒) เสียงร้องหาประชาธิปไตย (?) กำลังระอุในหมู่คนเสื้อแดง และดูเหมือนจะเข้มข้นกว่าปีนี้มาก ผมคนหนึ่งละที่เกาะติดข่าวอย่างชนิดไม่หายใจ ทั้งทางทีวี วิทยุ และหนังสือพิมพ์ อารมณ์ความรู้สึกก็เป็นต่างๆ อย่างกับว่าตนเองเดินแหวกไปมาอยู่ในดงตีนตบนั้นด้วย ช่วงเวลาคาบลูกคาบดอกนั่นเอง ครั้นวันที่ ๕ เมษายน ผมต้องไปอบรมครูรากแก้วรักการอ่านกับครูกานท์ (ศิวกานท์ ปทุมสูติ) ที่ทุ่งสักอาศรม จังหวัดสุพรรณบุรี ณ ที่นั่นเองผู้เข้าอบรมจะต้องทิ้งเรื่องทุกอย่างเอาไว้นอกประตูทางเข้าอาศรม ข่าวสารทุกชนิดจากโลกภายนอกถูกปิดกั้นอย่างเด็ดขาด โทรศัพท์มือถือต้องปิดแล้วหย่อนลงย่ามครูกานต์ให้หมด ห้ามติดต่อใครทั้งสิ้น หากมีเหตุจำเป็นหรือใครจะติดต่อมาเร่งด่วนให้ใช้เบอร์กลางเท่านั้น กับคนอื่นนั้นไม่ทราบจะเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่กับผมนั้นเรื่องโทรศัพท์ตัดไปได้เพราะปกติก็ไม่รู้จะโทรหาใครและนานๆ ทีจะมีคนโทรเข้า ในจำนวนนั้นก็ต้องนับรวมพวกขายประกันเข้าไว้ด้วย แต่กับเรื่องข่าวนี่สิ อ้ายเรามันเป็นโรคข่าวลิซึ่มมาแต่ไหนแต่ไร กังวลอยู่ทีเดียวว่าจะรู้เหตุการณ์บ้านเมืองได้อย่างไร เกิดเขารบราฆ่าแกงกันขึ้นมาเราจะรู้หรือนี่ วันสองวันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ วันที่สามก็ชักกังวลเสียแล้วว่ามันไปถึงไหนกันแล้วหวา เขาจะฆ่ากันหรือยัง พอวันที่สี่ อารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์มันจางไป จิตใจเริ่มแจ่มใสขึ้น... เอ เจ้าพวกนั้นยังทะเลาะกันอยู่หรือเปล่า แล้วมันทะเลาะกันหาพระแสงอะไร บ้านนี้เมืองนี้ไม่มีพวกนี้ชาวบ้านเขาก็ยังอยู่กันอย่างสงบสุขนี่นา เข้าวันที่ห้า กลายเป็นไม่สนใจไปเลย ใครจะด่าใครจะฆ่ากันไม่รู้แล้ว รู้แต่ว่า โลกที่นี่มันสงบน่าอยู่เสียเหลือเกิน คนที่นี่เขาน่ารัก ไม่มีการแบ่งแยกกัน ยังรักกันดี ยิ่งผู้เข้าร่วมอบรมซึ่งมาจากทุกภาคด้วยแล้วก็ไม่เห็นว่ามีใครมาแบ่งข้างแบ่งฝ่าย ต่างแบ่งรอยยิ้มให้กัน มีแต่การช่วยเหลือเกื้อกูลกัน สมองและอารมณ์ขณะนั้นมันโล่งโปร่ง แจ่มใส มีชีวิตชีวาเหมาะแก่การใช้งานดีเหลือเกิน คนอื่นๆ ที่เข้าร่วมอบรมกัน ก็ดูเหมือนจะเป็นเช่นเดียวกับผม บางครั้งก็อาจมีพูดคุยกันเรื่องนี้บ้าง แต่ก็เอ่ยปากกันออกมาอย่างขำๆ ว่า สามคนนั้นเขาเอาความเดือดร้อนของเราไปหมดแล้ว ไม่เหลือเลย... หัวเราะกันแล้วต่างก็หันมาจริงจังกับการปรับสภาพตัวเองให้เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ฟังเสียงลม เสียงใบไหมไหว เสียงนก เสียงไก่ เสียงความเคลื่อนไหวรอบตัว ดืมด่ำกับมันแล้วถ่ายทอดออกมาเป็นข้อเขียนตามที่ตนเองถนัด ไม่น่าเชื่อว่า ท่ามกลางอากาศอันระอุของต้นเดือนเมษายน เดือนที่ฟ้าไม่มีเมฆสักก้อน มองออกไปเบื้องหน้าเห็นพยับแดดเร้นยิบยับ ลมที่โกรกมาแต่ละทีหาความเย็นไม่ได้เลยนั้น จิตใจของผมกลับเยือกเย็นได้ปานนั้น จำได้ว่าครั้งนั้นเมื่อกลับถึงกรุงเทพ ผมใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมากขึ้น ครั้นต้นเดือนพฤษภาคม โรงเรียนเปิดเทอม ผมในฐานะครูที่ต้องประจำชั้น ๙ (ม.๓) ก็ต้องผูกข้อไม้ข้อมือรับขวัญลูกศิษย์ใหม่ตามวัฒนธรรมของโรงเรียน รอบนี้ผมถามเด็กทุกคนว่า ในชีวิตต้องการอะไรมากที่สุด แต่ละคนก็จะตอบกันไปต่างๆ แต่สุดท้ายก็จะลงมาที่ ความต้องการเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เพื่อให้ตัวเองมีความสุขทั้งสิ้น ในจำนวนนั้น เด็กคนหนึ่งตอบผมตามสไตล์ขี้เล่นของเขาว่า "อยากได้กระเป๋าโดเรมอนครับ" "เอาไปทำไม" "ก็อยากได้อะไรจะได้ล้วงเอา" "แล้วในชีวิตของเราเคยได้อะไรทุกอย่างตามที่ต้องการหมดไหม" "ไม่เคยครับ" "นั่นสิ แล้วคิดว่าถ้าได้กระเป๋าโดเรมอนมา จะทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้นไหม" "ก็อาจจะครับ" ก้มผูกด้ายที่ข้อมือของแล้วผมก็ถามต่อไปว่า "รู้ไหม ความสุขที่แท้จริงอยู่ที่ตรงไหน" เขาเอียงหน้าคิดอึดใจหนึ่งแล้วก็ส่ายหัว "อยู่ที่ใจยังไงละ ความสุขมันเริ่มที่ตรงนี้" ผมยิ้มให้ละมือที่จับด้ายม้วนเป็นปมแล้วไปจับไหล่เขาบีบเบาๆ "ถ้าประคองใจให้เป็นสุขได้ กระเป๋าโดเรมอนของเธอก็ไม่มีความหมาย" ไม่รู้ว่าเขาเคยมีประสบการณ์ร่วมอะไรมาก่อนหรือไม่ ผมมารู้ทีหลังจากบันทึกในสมุดส่งงานของเขาว่าเขาประทับใจคำพูดนี้ของผมมาก เขาเปลี่ยนวิธีคิดไปอย่างสิ้นเชิง ซึ่งในระยะหลังผมก็พอสังเกตเห็นเหมือนกัน จากนักเรียนจอมป่วน กลายเป็นคนที่มีเหตุมีผลมากขึ้น รู้จักผิดชอบชั่วดีมากขึ้น ตั้งใจเรียนอย่างผิดหูผิดตา เพื่อนทุกคนไม่เว้นแม้กระทั่งหัวโจกคนอื่นๆ ต่างยอมรับในความเป็นผู้นำของเขา ยกให้เป็นพี่ใหญ่เลยทีเดียว ปัจจุบัน (จะขึ้น ม.๔) เขาเป็นกรรมการนักเรียน เป็นคนที่ครูและเพื่อนๆ ไว้ใจที่สุด ไม่น่าเชื่อว่า "ความสุขในใจ" นั้น มีพลานุภาพขนาดนี้ ความสุก อยู่ที่ความร้อน ความร้อนอยู่ที่ไฟ 555
โดย: nuyect วันที่: 8 เมษายน 2553 เวลา:16:31:02 น.
โดย: นนนี่มาแล้ว วันที่: 15 เมษายน 2553 เวลา:7:19:46 น.
|
รวี_ตาวัน
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Group Blog All Blog Friends Blog Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |