Group Blog
 
<<
มีนาคม 2560
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
9 มีนาคม 2560
 
All Blogs
 

ตอนที่ ๑๐ ลูกนกลูกกาตาดำๆ



“นั่นฝรั่งมาถามทางเหรอคะคุณหนู”บุษบาเอ่ยถามเมื่อจู่ๆ ก็มีฝรั่งตัวโตโผล่มายืนข้างรถฝั่งคนขับเธอฟังที่เขาพูดไม่ออกสักคำ แต่คาดเดาตามความน่าจะเป็น

ฌอนเห็นมีคนนั่งอยู่ในรถกับหญิงสาวจึงก้มลงสบตาแล้วโบกมือทักทาย“สวัสดีครับ ผมฌอน ยินดีที่ได้รู้จัก”

“อุ๊ยอิตาฝรั่งนี่พูดอะไรก็ไม่รู้ค่ะคุณหนู รีบบอกทางเขาแล้วรีบไปเถอะ พี่บุษกลัว”พี่เลี้ยงสาวใหญ่หลบตาคนต่างชาติเป็นพัลวัน เธอไม่ชอบสบตาด้วยเพราะกลัวถูกถามแล้วก็จะตอบไม่เป็นแบบนี้เอง

ธารารินได้สติเมื่อฌอนเริ่มทำความรู้จักกับคนรอบข้างเธอใจเต้นแรงโลดด้วยความตื่นตระหนกและสับสน รีบตอบพี่เลี้ยงไปว่า“เดี๋ยวแธมลงไปคุยกับเขาก่อนนะคะ”

แล้วเธอก็เปิดประตูก้าวลงจากรถเพื่อเผชิญหน้ากับคนที่เคยทิ้งเอาไว้เบื้องหลังเมื่อราวหกเดือนก่อนและไม่เคยคิดแม้แต่ครั้งเดียวว่าวันนี้จะมีโอกาสหวนมาพบเจอกันอีก

ฌอนอยากถามถึงคนที่อยู่บนรถกับหญิงสาวแต่เมื่อเธอก้าวลงมาความสนใจของเขาก็พุ่งไปอยู่ที่หน้าท้องนูนภายใต้ชุดคลุมท้องสีอ่อนนั้นอย่างช่วยไม่ได้

“แธม นั่นลูก...”

“อย่า” หญิงสาวขัดเสียงแข็งเมื่อเขาเอื้อมมือมาหมายจะแตะหน้าท้องเธอ

ชายหนุ่มชะงัก เหลือบตาขึ้นมองหน้าธารารินอย่างตัดพ้อระคนคับข้องใจ

ธารารินเหลียวมองลุงคนขับแท็กซี่อย่างไม่สบายใจ“ฉันว่าเราควรคุยเรื่องนี้กันอย่างเป็นส่วนตัวมากกว่านะคะ”

ฌอนเดินกลับไปหาคนขับรถกล่าวขอบคุณและจ่ายค่าโดยสารมากกว่าตัวเลขที่โชว์บนมิเตอร์จำนวนหนึ่งตอบแทนที่อีกฝ่ายช่วยถามทางและพาเขามาส่งจนถึงที่หมาย แม้จะทำไปเพราะอาชีพแต่เขารู้สึกถึงความมีน้ำใจของลุงได้จากบทสนทนาและคำแนะนำหลายอย่างเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพที่ชอบหากินกับคนต่างชาติ

“ลุงกลับได้เลยนะ ผมถึงบ้านแล้ว”

ได้ยินดังนั้นลุงจึงคิดว่าหนุ่มต่างชาติคนนี้คงมาหาภรรยาชาวไทยของเขาพอรับเงินเสร็จก็กล่าวลาและอวยพรให้โชคดี ก่อนจะขึ้นรถแล้วขับจากไป

เมื่อคนขับแท็กซี่ไปแล้วธารารินก็บอกให้นายสง่ากลับเข้าไปด้านในเพราะไม่อยากให้เขาเสียเวลาคอย แต่อีกฝ่ายยืนยันว่ารอได้และมีท่าทางเหมือนไม่ไว้ใจฌอนหญิงสาวรู้ว่าเขาเป็นห่วงจึงไม่อยากให้เสียน้ำใจ ยอมให้รอได้แต่เธอก็พาฌอนเดินห่างออกไปพอสมควรเพื่อความเป็นส่วนตัวในการพูดคุย



“ผมคิดถึงคุณ และผมต้องบอกให้คุณรู้” ฌอนบอกพร้อมรอยยิ้มเมื่อรู้ว่าหญิงสาวพร้อมจะสนทนาแล้วเขามองเธอตั้งแต่ศีรษะจดเท้าด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย ธารารินดูเปล่งปลั่งขึ้นแต่รูปร่างยังเหมือนเดิมเกือบทุกอย่างเว้นเพียงหน้าท้อง...ที่ที่ชีวิตใหม่กำลังถือกำเนิด ชีวิตที่เขาร่วมสร้างมากับเธอมันช่างอัศจรรย์เหลือเกิน

ธารารินกัดริมฝีปาก ลำคอตีบตัน ช้อนดวงตาขึ้นมองเขาอย่างสับสนว้าวุ่นใจ เป็นความรู้สึกชนิดเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นเมื่อราวหกเดือนก่อนและมีแต่ฌอนเท่านั้นที่ทำให้เธอเป็นแบบนี้ได้ เนิ่นนานกว่าหญิงสาวจะเรียบเรียงคำพูดและเปล่งคำถามออกมาได้“คุณมาที่นี่ทำไมคะ?”

ความอบอุ่นในแววตาเริ่มเลือนหายรอยยิ้มจืดจางไปแทนที่ด้วยความผิดหวังระคนขุ่นเคือง“นี่เป็นคำทักทายคนที่คุณทิ้งมาหกเดือนเหรอแธม”

“ฉันไม่ได้ทิ้ง เราตกลงกันแล้วนี่คะ”เธอเถียงเพราะสิ่งที่เขาพูดไม่เป็นความจริงสักหน่อย

“ผมเปล่าคุณคิดของคุณไปเองว่าผมยอมรับเงื่อนไขบ้าๆ นั่น ผมตั้งใจจะคุยกับคุณเมื่อเราตื่นแต่คุณก็ทิ้งผมไว้กับเงินห้าพันดอลลาร์ ผมไม่ได้ขายตัวนะแธม”

“ฉันไม่คิดว่าคุณ...”

“คุณไม่คิด แต่ทำให้ผมเป็นผู้ชายขายตัวด้วยเงินของคุณไง”

เขาล้วงเอาซองจากกระเป๋ากางเกงยีนมายัดเยียดคืนใส่มือเธอและบอกชัดทุกถ้อยคำ“ผมไม่รับค่าตัว เพราะงั้นเด็กก็เป็นของผมเหมือนกัน”

ธารารินตกใจจนหน้าซีดรีบชักมือออกราวกับโดนน้ำมันร้อนๆ กระเด็นใส่ทำให้ซองร่วงลงบนผืนหญ้าและเปิดอ้าจนเห็นธนบัตรใบละหนึ่งร้อยดอลลาร์สหรัฐปึกใหญ่บรรจุอยู่ตอกย้ำให้รู้ว่าชายหนุ่มมาเพื่อทวงสิทธิ์ที่ควรเป็นของเขาคืน และเงินนี่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ว่าเขามีสิทธิ์ในตัวเด็ก

“ใครบอกว่าเด็กเป็นลูกคุณคุณเข้าใจผิดแล้ว” หญิงสาวโพล่งออกไปด้วยความรู้สึกกลัวและจนตรอกกลัวเขาจะมาแย่งลูกไป เธอกำลังเริ่มต้นชีวิตใหม่แต่มันจะไม่มีความหมายอะไรเลยหากขาดลูกขาดแรงบันดาลใจในการลุกขึ้นสู้เพื่อตัวเองและกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อไปตอนนี้ลูกเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเธอ และเขาจะมาพรากลูกไปจากเธอไม่ได้

ฌอนนิ่งอึ้งไปชั่วขณะเรื่องนี้ไม่เคยมีอยู่ในความคิด เมื่อรู้ว่าเธอท้องเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นลูกเขา ชายหนุ่มมองสบนัยน์ตาสีนิลที่เต็มไปด้วยความว้าวุ่นนั้นอย่างพิจารณาแล้วเขาก็ส่ายหน้า “เป็นไปไม่ได้ จะเป็นลูกคนอื่นได้ยังไง ในเมื่อตอนที่เราพบกันคุณยังจูบไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ”

หญิงสาวหน้าแดงก่ำ ทั้งเคืองทั้งอายที่เขาหยิบยกเรื่องจูบขึ้นมาพูดในสถานการณ์อันเคร่งเครียดนี้แต่ความรู้สึกแรกมีมากกว่าจึงเถียงไม่ลดละ “ฉันบอกคุณแล้วนี่ว่าจะทำเด็กหลอดแก้วคุณไม่ใช่วิธีเดียวที่ฉันจะท้องซักหน่อย”

ฌอนยิ้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า“ผมคุยกับคนที่คลินิกแล้ว นัดของคุณคือวันนั้นในปีถัดไป”

“เป็นไปไม่ได้ คลินิกไม่มีทางบอกข้อมูลกับคนนอก”เถียงแล้วก็หันหลังให้ฌอนด้วยความตระหนก ข้อมูลเขาเป๊ะเกินไป ทำให้เธอกลัวว่าเขาอาจจะรู้ทุกอย่างจริงนั่นหมายถึงเขาจะไม่ยอมแพ้แน่

ชายหนุ่มเดินมาหยุดเบื้องหน้าเธอบอกอย่างมั่นใจ “บังเอิญว่าผมมีสาย และสิ่งที่ผมพูดคือความจริงคุณไม่มีทางได้ทำเด็กหลอดแก้วในตอนนั้น แม้จะทำกับที่อื่นก็เถอะมันไม่ได้ทำกันง่ายๆ หรอกแธม นอกจากคุณจะไปนอนกับคนอื่นซึ่งถึงจะเป็นแบบนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะไม่ใช่ลูกผม เว้นแต่อายุครรภ์ของคุณจะไม่ถึงหกเดือนอย่าคิดจะหลอกผมเชียว เพราะผมจะอยู่พิสูจน์เรื่องนี้จนคุณคลอด”

ธารารินรู้สึกจนมุมที่สุดในชีวิตเธอขบริมฝีปาก กล้ำกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคออย่างยากเย็น ได้แต่มองเขาอย่างพูดอะไรไม่ออกแววตาท้อแท้สิ้นหวังแบบนั้นเองที่ทำให้ฌอนรู้สึกตัว

“แธม...ผมขอโทษเราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องนี้ ผมไม่ได้ตามหาคุณเพื่อสู้กับคุณ”

“งั้นคุณมาทำไม?”หญิงสาวมองเขาอย่างหวาดระแวง ไม่กลัวอะไรเท่ากลัวว่าฌอนจะมาพรากลูกไปจากเธอ

“คุณก็รู้ว่าผมอยากพัฒนาความสัมพันธ์ผมบอกคุณแล้วตั้งแต่เจอกันวันแรก ถึงวันนี้ความต้องการของผมไม่เคยเปลี่ยนและมีแต่จะต้องการมากขึ้น คุณต้องให้โอกาสเรา อย่างน้อยก็เพื่อเด็กคนนั้น”

เขาจับสายตาไปที่หน้าท้องของเธอแววตาอ่อนโยนราวกับว่าเด็กในท้องกำลังมองตอบมาและเขาต้องการให้ลูกรู้ว่า...เขารักแกตั้งแต่แกยังไม่ลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ

“แต่คุณแทบไม่รู้จักฉันเลยนี่อาจเป็นเรื่องไร้สาระและเสียเวลาที่สุดที่คุณเคยทำ”

ที่สำคัญหากเรียนรู้กันไปแล้วเขาเกิดไม่ชอบเธอขึ้นมา เขาจะพรากลูกไปจากเธอรึเปล่าเธอยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ เธอควรปฏิเสธเขาเสียแต่วันนี้เลย ต้องหาเหตุผลที่จะปฏิเสธฌอนให้ได้

“ผมปล่อยเวลาให้ผ่านไปหกเดือนแล้วแธมผมจะไม่ยอมเสียเวลาอีกแม้แต่วินาทีเดียว ผมไม่ยอมเสียคุณไปเหมือนวันนั้นแน่”

หกเดือน ใช่สิ เขาหายไปไหนตั้งหกเดือน ถ้าเขาคิดถึงเธอจริงก็ควรมาตามหาเธอตั้งนานแล้วและคงจะเจอได้ไม่ยาก แม้เป็นเพียงความบังเอิญก็ตาม เธอไม่ได้อยู่แค่ในทีวีแต่ยังอยู่ในป้ายโฆษณาที่มีอยู่เกลื่อนเมือง แค่เท้าแตะพื้นสนามบิน เขาก็สามารถมองเห็นเธอได้ง่ายๆหากคิดจะทำ

“คุณไม่ได้ต้องการพัฒนาความสัมพันธ์จริงๆหรอก คุณแค่มาเที่ยวพักผ่อนเหมือนที่ไปญี่ปุ่น แล้วบังเอิญเห็นข่าวฉันท้องก็เลยคิดว่าเด็กคนนี้เป็นลูกคุณคุณกลับไปเถอะค่ะ ฌอนที่ฉันรู้จักเมื่อหกเดือนก่อน เขาเป็นผู้ชายที่น่ารักและมีน้ำใจฉันอยากจดจำเขาที่เป็นแบบนั้น คุณไม่ควรทำลายมัน”

ธารารินเริ่มตั้งสติได้จึงมีโอกาสตอบโต้เขาบ้างเธอไม่เคยหวังให้ฌอนมาตามหา หากเขามาเร็วกว่านี้จะเปลี่ยนอะไรหรือเปล่าเธอไม่แน่ใจเช่นกัน แต่การที่เขาโผล่มาในเวลานี้ไม่ได้ช่วยให้ชีวิตเธอง่ายขึ้นเลย

วูบหนึ่งที่ฌอนรู้สึกโกรธกับข้อกล่าวหาของหญิงสาวจนต้องคว้าข้อมือเธอไว้แน่นแต่พอเห็นธารารินนิ่วหน้า เขาก็รู้สึกตัวและคลายน้ำหนักมือก่อนจะรั้งหญิงสาวเข้ามาใกล้อีกสักนิด

“ถ้าคุณรู้ว่าหกเดือนที่ผ่านมา ผมต้องเจออะไรบ้างคุณจะไม่พูดแบบนี้เลยแธม”

หญิงสาวขืนตัวถอยห่างแต่เขาไม่ยอมให้เธอทำสำเร็จเธอถอยหนึ่งก้าว ฌอนเดินหน้าหนึ่งก้าว ก้าวยาวเสียด้วย ขืนถอยไปเรื่อยๆมีหวังหลังชนรถ บุษบาเองก็คงเริ่มจับพิรุธได้แล้ว เธอต้องรีบตัดบทไม่ให้ยืดเยื้อไปมากกว่านี้

“ฉันตอบไม่ได้หรอกค่ะเพราะเราสองคนแทบไม่รู้จักกันเลย ฌอนที่ฉันเคยพบ ใช่ตัวเขาจริงๆที่อยู่ต่อหน้าฉันตอนนี้รึเปล่า ฉันก็ไม่รู้”

“คุณต้องรู้สิแธมคุณอาจไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ แต่อย่างน้อยคุณก็เลือกผมให้เป็นพ่อของลูกคุณคุณต้องมองเห็นอะไรซักอย่างในตัวผม บางอย่างที่คุณต้องการบางอย่างที่ทำให้คุณยอมรับและตัดสินใจลงไปแบบนั้น นั่นแหละที่ทำให้ผมรู้ความรู้สึกของคุณบอกได้ว่าผมเป็นยังไง ตอนนี้ก็เหมือนกัน ผมคือผู้ชายคนนั้น คนที่คุณเลือกด้วยตัวเอง”

เขาไม่ยอมปล่อยมือเธอและไม่ปล่อยให้สมองเธอว่างพอจะคิดหาคำพูดมาโต้แย้งหญิงสาวหันกลับไปมองที่รถอย่างว้าวุ่นบุษบาเหมือนจะรู้สึกถึงความผิดปกติแล้วจึงเปิดประตูและลงจากรถธารารินรีบดึงมือกลับแต่เขาจับไว้มั่น

“ฌอนคะ นั่นพี่เลี้ยงฉัน อย่าทำให้เธอสงสัยให้มันเป็นเรื่องของเราสองคน ได้โปรดเถอะนะคะ” เธออ้อนวอนอย่างไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

ชายหนุ่มเม้มปากนิดเหลือบตามองผู้หญิงวัยสี่สิบเศษที่กำลังเดินตรงมาด้วยสีหน้าเป็นกังวลพร้อมสะกิดเอาผู้ชายอีกคนมาด้วยฌอนหงุดหงิดเบาๆ ที่ถูกขัดจังหวะ แต่สายตาวิงวอนของธารารินก็จัดการเขาเสียอยู่หมัดชายหนุ่มถอนใจและยอมปล่อยมือ จังหวะเดียวกับที่พี่เลี้ยงของหญิงสาวกับคนสวนมาถึงแล้วดึงร่างเธอเข้าไปใกล้ด้วยท่าทีหวงแหนและปกป้อง

“ทำไมคุยกันนานจังเลยคะคุณหนูมีปัญหาอะไรรึเปล่า ต้องเรียกตำรวจไหมคะ” บุษบาถาม สายตาจ้องมองพ่อฝรั่งตัวโตอย่างไม่เป็นมิตร

“ไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอกค่ะพี่บุษเขาแค่หลงทางและยังไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนดี” ธารารินจำต้องโกหกไปก่อน

“แต่คนขับแท็กซี่เพิ่นถามหานาพ่อตู้เทียนนะครับคุณแธมบ่น่าแม่นคนหลงทางมา” นายสง่าแย้งเพราะได้คุยกับคนขับแท็กซี่เอง

หญิงสาวสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะแก้ตัวไปว่า“น่าจะเป็นคนชื่อเหมือนกันค่ะน้าหง่า แต่คุยกันแล้วไม่ใช่คุณตาเทียนของแธมหรอก”

“ข้อยบ่เคยได้ยินว่ามีผู้ใดซื่อเทียนอีกนะครับแถวนี้”

“เหรอคะ งั้นเขาคงจะมาผิดหมู่บ้านแล้วปล่อยไว้แบบนี้ก็น่าเห็นใจ แธมอาจจะต้องพาเขาเข้าไปส่งในเมืองนะคะพี่บุษเดี๋ยวแวะส่งพี่บุษที่บ้านเช่าก่อนก็แล้วกันค่ะ”ธารารินหาทางอยู่กับฌอนตามลำพังเพื่อจะได้คุยกันโดยสะดวก

ฌอนฟังที่หญิงสาวคุยกับคนของตัวเองไม่รู้เรื่องสักคำจนเมื่อเธอหันมาบอกเขาว่า

“คืนนี้ฉันจะพาคุณเข้าไปหาห้องเช่าในเมืองก่อนนะคะพรุ่งนี้จะไปส่งที่สนามบินด้วย ถ้าคุณต้องการ”

“ให้ตายเถอะแธม! ผมไม่ไปไหนทั้งนั้นแหละไม่สนด้วยว่าคนของคุณจะสงสัยรึเปล่า ผมจะอยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะยอมรับผม”ชายหนุ่มว่าพลางทิ้งเป้ที่สะพายหลังลงกับพื้นก่อนเท้าสะเอวจ้องหน้าเธออย่างดื้อรั้น

“เขาว่าอะไรคะคุณหนู ท่าทางเหมือนจะโกรธ”บุษบาถามอย่างไม่สบายใจ มือข้างหนึ่งกำโทรศัพท์มือถือแน่น ร่ำๆจะโทรแจ้งตำรวจให้รู้แล้วรู้รอด

“เปล่าค่ะเขาแค่...หมดอาลัยตายอยากในชีวิตที่...หาตาเทียนไม่เจอ” ธารารินต้องโกหกอีกครั้งแล้วก็นึกโกรธชายหนุ่มขึ้นมาที่เป็นต้นเหตุให้เธอต้องมุสาพี่เลี้ยงและนายสง่าครั้งแล้วครั้งเล่า

“ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรนะแธมรู้ไว้เลยว่าผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ดูนี่นะ”

เขาควักกระเป๋าสตางค์โยนทิ้งลงไปในแอ่งน้ำที่เปียกชุ่มต่อหน้าต่อตาหญิงสาวรวมถึงล้วงเอาเงินทั้งหมดจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนออกมาโยนทิ้งไปด้วยกันทั้งหมด

“ผมหมดตัวแล้ว ไปไหนไม่ได้ ทีนี้คุณยังจะไล่ผมไปอีกมั้ย”

หญิงสาวเม้มปากแน่น จ้องเขาด้วยแววตาตำหนิก่อนจะรีบตามไปเก็บของที่ชายหนุ่มโยนทิ้งรวมถึงซองเงินห้าพันดอลลาร์นั่นด้วยเพื่อส่งคืนให้เขาแต่ผู้ชายวายร้ายนั่นกลับยืนกอดอก พูดออกมาหน้าตาเฉยว่า

“ผมไม่ได้ขายตัว ถึงคุณจะจ่ายมากกว่าห้าพันผมก็ไม่นอนกับคุณหรอก เว้นแต่คุณจะอ้อนวอน”

“ฉันไม่ได้จะซื้อคุณซักหน่อยแต่นี่มันของของคุณนะ” ธารารินหน้าแดงแปร๊ด ทั้งโมโหทั้งอับอายดีเท่าไหร่ที่นายสง่ากับพี่เลี้ยงของเธอฟังภาษาอังกฤษไม่ออกไม่งั้นเธอคงได้มุดดินหนีอายแน่

“ผมทิ้งแล้วก็ไม่ใช่ของผม ที่สำคัญผมไม่เคยรับเงินค่าตัวห้าพันนั่นของคุณต่างหาก”

“เขาว่าอะไรคะคุณหนู แล้วโยนของทิ้งทำไมเงินก็ทิ้ง เสียดายแย่ ดูสิเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดเลย”บุษบาสงสัยใคร่รู้เป็นที่สุดเป็นครั้งแรกในชีวิตเลยก็ว่าได้ที่เธออยากเรียนภาษาปะกิดกับเขาบ้าง

ฌอนเห็นสีหน้าของบุษบาก็รู้ว่าอีกฝ่ายคงสงสัยเต็มแก่แล้วว่านี่มันเรื่องอะไรเขาจ้องหน้าธารารินและเอ่ยอย่างจริงจัง “บอกพี่เลี้ยงกับคนของคุณไปสิว่าผมจะอยู่ที่นี่คุณยังไม่ต้องยอมรับผมก็ได้ แต่ให้โอกาสผม ให้โอกาสเราสองคนผมยินดีรอจนกว่าคุณจะยอมรับว่าผมเป็นได้ทั้งสามีและพ่อของลูกคุณ”

หญิงสาวกัดริมฝีปาก ผิวแก้มร้อนผ่าวว้าวุ่นปั่นป่วนไปหมดกับฐานะที่เขาเรียกร้องขอโอกาสเพื่อครอบครองมัน

‘สามี’ และ ‘พ่อของลูก’ เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่าทั้งสองคำจะก่อให้เกิดปฏิกิริยารุนแรงกับเธอถึงเพียงนี้

ฌอน...นี่คุณทำอะไรกับฉันกันแน่คะ...

ชายหนุ่มมองเห็นความหวั่นไหวในดวงตาสีนิลของเธอนั่นทำให้เขามีกำลังใจขึ้นเป็นกอง จึงวอนขอด้วยเสียงนุ่มทุ้มแต่หนักแน่น“แธม...ให้โอกาสผม ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังเลย”

“เขาพูดว่าอะไรคะคุณหนู ช่วยแปลหน่อยสิคะพี่บุษอยากรู้” บุษบาเร่งเร้าเมื่อเห็นหญิงสาวเงียบงันไปนานแก้มก็ขึ้นสีแดงเรื่อเหมือนคนจับไข้

พ่อฝรั่งตัวโตนี่พูดอะไรบ้างหนอถึงทำให้คุณหนูของเธอถึงกับไข้ขึ้นแบบนี้!

ธารารินมองสบนัยน์ตาสีน้ำตาลอุ่นคู่นั้นที่เธอไม่มีวันลืมลงในที่สุดก็ถอนใจอย่างยอมแพ้ บอกกับบุษบาว่า“เขาทิ้งของทุกอย่างเพราะมันเป็นของปลอมน่ะค่ะ ตอนนี้เขา...หมดตัวแล้วก็...ไปไหนไม่ได้”

“ตายจริง! น่าสงสารจังพ่อคุณ คงโดนผู้หญิงตุ๋นมาล่ะสินะเวรกรรมแท้ๆ แล้วทีนี้จะทำยังไงต่อไปล่ะ” บุษบารำพึงแววตาที่แต่เดิมค่อนข้างไม่เป็นมิตรก็กลับอ่อนลงด้วยความเวทนาสงสาร

“คงต้องให้เขา...อาศัยอยู่กับเราไปก่อน...ซักพักรอเขาติดต่อญาติได้ค่อยทำเรื่องกลับประเทศ ดีไหมคะพี่บุษ”

ประโยคสุดท้ายธารารินลองเสี่ยงดวงปล่อยให้โชคชะตาอยู่ในกำมือของพี่เลี้ยง หากบุษบาบอกว่าไม่ดี เธอก็จะเชื่อตามนั้นและยืนยันให้เขากลับไป

“ก็ดีนะคะ ลูกหมาลูกแมวหลงทางมาเรายังสงสาร ให้ข้าวให้น้ำ เผลอๆ เลี้ยงมันไว้ด้วยซ้ำ นี่คนแท้ๆ พูดไทยก็ไม่ได้ขืนไล่ไปก็ไม่รู้จะสื่อสารกับคนอื่นยังไงเงินทองอะไรก็ไม่มีติดตัวเพราะโดนหลอกไปหมดแล้ว หิวข้าวก็คงขอกินไม่เป็นแบบนั้นลำบากแน่ๆ นี่ดีนะคะที่มาเจอคุณหนูเข้า พี่บุษเพิ่งเห็นประโยชน์ของโรงเรียนสองภาษาก็วันนี้แหละสมแล้วที่ค่าเทอมแพงหูดับตับไหม้ คุณหนูช่วยเขาไว้ถูกแล้วค่ะถือซะว่าช่วยลูกนกลูกกาตาดำๆ ก็แล้วกัน”

“พี่เลี้ยงคุณว่ายังไงเหรอแธมแปลให้ผมฟังได้ไหม” ฌอนถามอย่างสนใจเพราะอีกฝ่ายพูดยาวมาก

ธารารินถอนใจอีกเฮือกไม่รู้ว่าหนักใจหรือโล่งใจกันแน่ เธอรู้แค่ว่าคงสลัดฌอนออกไปจากชีวิตไม่ได้ง่ายๆเหมือนตอนทิ้งเขาไว้ในโรงแรมที่ลอสแอนเจลิส

“คุณอยู่ได้”

ชายหนุ่มยิ้มกว้างตั้งท่าจะโผเข้าไปกอดคนพูด แต่เธอขึงตาดุและถอยห่างออกไปหนึ่งก้าว ก่อนพูดต่อ

“แต่ต้องอยู่กับน้าหง่าและเมียเขาที่นี่ฉันบอกพวกเขาว่าคุณหลงทางมาและโดนหลอกเลยหมดเนื้อหมดตัว ไม่มีที่ไปทำตัวให้เรียบร้อยด้วย แล้วอย่ามาทำรุ่มร่ามกับฉันนะคะ ฉันยังไม่ได้ให้โอกาสคุณฉันแค่เหนื่อย คิดอะไรไม่ออก แล้วขี้เกียจเถียงกับคุณด้วย นี่ก็มืดแล้วฉันจะขอให้น้าหง่าดูแลหาข้าวหาน้ำให้คุณกิน ไม่ต้องพยายามคุยกับเขาล่ะเขาฟังที่คุณพูดไม่รู้เรื่องหรอก อ้อ แต่ถ้าคุณคิดว่าอยู่ที่นี่ไม่สะดวกสบายจะกลับไปก็ได้นะคะ ฉันจะยินดีมาก” หญิงสาวจบประโยคด้วยรอยยิ้ม

ฌอนอารมณ์ดีเกินกว่าจะถือสาการพยายามผลักไสเขาในประโยคหลังมองหน้าเธอด้วยรอยยิ้มซุกซน “คิดว่าผมทนความลำบากไม่ได้ใช่ไหมคุณรู้จักผมน้อยไปแล้วแธม”

“ถูกค่ะ ฉันแทบไม่รู้จักคุณเลย”

ชายหนุ่มพยักหน้า“งั้นจากนี้ไปเราจะค่อยๆ เรียนรู้กันและกัน ตกลงนะ”

“ฉันไม่ตกลงอะไรด้วยทั้งนั้นบอกแล้วว่าวันนี้เหนื่อย ขี้เกียจเถียง” ธารารินตัดบทอย่างอ่อนใจ

“เขายิ้มแล้วนี่คะคุณหนูคงดีใจที่ไม่ถูกไล่ไป” บุษบาแทรกพร้อมรอยยิ้มบ่งบอกความเอ็นดู

ฌอนเห็นแบบนั้นก็อยากรู้อยากเห็นด้วย“พี่เลี้ยงคุณเหมือนจะพูดถึงผมนะแธม เธอยิ้มให้ผมด้วย เธอพูดว่าอะไร แปลหน่อยสิ”

“อยากรู้ก็เรียนภาษาไทยสิคะจะได้คุยเองรู้เรื่อง” เธอบอกปัด

“งั้นคุณสอนผมได้ไหม” ฌอนถามอย่างกระตือรือร้น

ไม่รู้ภาษาไทยยังสร้างปัญหาให้เธอได้ขนาดนี้ขืนรู้ก็ยิ่งแย่น่ะสิ!

หญิงสาวถอนใจแผ่วเบาก่อนจะบรรจงส่งยิ้มแสนหวานให้เขาแล้วบอกว่า “ลืมเรื่องนั้นไปได้เลย!”

____________________________________________

ฉากเดียวทั้งตอน หนุ่มฌอนมาพร้อมความเวิ่นเว้อค่ะ 5555




 

Create Date : 09 มีนาคม 2560
3 comments
Last Update : 9 มีนาคม 2560 10:16:42 น.
Counter : 1013 Pageviews.

 

สู้ๆๆ

 

โดย: sakeena IP: 49.228.197.243 9 มีนาคม 2560 16:24:01 น.  

 

แค่เจอก็โดนไล่กลับซะแล้ว ต้องรีบเรียนภาษาไทยแล้ว ฌอน

 

โดย: goldensun IP: 61.91.4.3 10 มีนาคม 2560 21:26:21 น.  

 

สวัสดีนะจ้ะ แวะมาเยี่ยมนะจ้าาา sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้ว 3 มิติ
ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ

 

โดย: สมาชิกหมายเลข 4057910 23 สิงหาคม 2560 17:46:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ระตา
Location :
นครปฐม Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 17 คน [?]




รู้สึกอยู่เสมอว่าการได้มีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้คือความมหัศจรรย์...และการอ่านออกเขียนได้คือรางวัลของชีวิต...
Friends' blogs
[Add ระตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.