ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ พรานเด จะขับ E-car ในสไตล์ Initial D พก DEATH NOTE พาคุณแป้งไปดูหงส์แดงแข่งนัดชิง UCL ที่ TOKYO
<<
ธันวาคม 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
24 ธันวาคม 2550
 
 
เล่าเรื่องผับๆ เธคๆ ซัก 7-8 ปีก่อน





ขณะนี้ 03.03 น. ถ้าเป็นเมื่อซัก 7 ปีที่แล้ว ผมก็พึ่งจะกลับถึงห้องนอน ไม่ได้ไปเที่ยวเธคเที่ยวผับแบบที่ชื่อกระทู้เขียนไว้หรอกครับ แต่พึ่งจะเลิกงานจากเธค จากผับต่างหาก กลับมาถึงแล้วก็อย่าหวังว่าจะได้นอนแบบสบายๆ นัก ถ้าวันนั้นเกิดไม่มีเรียนตอนเช้า ก็จะมีเพื่อนตัวดีหลายๆ คนรอท่าอยู่ โดยเฉพาะพวกผู้หญิง พวกมันรออะไรกันเหรอก็รอกินเนื้อย่างเนื้อก้อยเช้ามืดกันนะซิครับ ในสมัยนั้น ม.ขามเรียงยังไม่สร้างเลย ที่ซื้อเนื้อก็คือแถบบ้านดินดำ หรือไม่ก็เลยเข้ามาถึงบ้านขามเรียง ผมกับไอ้มิกกี้ คู่หูเด็กเสริฟ (โฟดา มิกกี้ บัดดี้จอมเสริฟ ประจำสตาร์เกท) ก็ต้องสละ ทิป อันน้อยนิดให้พวกมันไปซื้อเนื้อกันมาทำกินกัน ที่ประทับใจก็คือพวกผู้หญิง 4 -5 เต็มใจตื่นขึ้นมาทำเนื้อให้พวกผู้ชายกินโดยที่ตัวเองไม่ได้กินอะไรด้วยเลย ทำเสร็จก็กลับไปนอนซะงั้น

ผมออกนอกเรื่องไปซะเยอะ ที่อยากเล่าจริงๆ ก็คือ บรรยากาศ 1 คืน ในเธคทั้งในวันธรรมดา และวันที่มีคอนเสิตร์มาลง ผมขอเล่าวันธรรมดาๆ ละกันนะครับ ถ้าเป็นวัน อาทิตย์ ถึง วันพฤหัส เหตุการณ์ต่างๆ ก็ดูจะปกติดี ผมกะไอ้มิกกี้ออกจากหอพักกันประมาณ 1 ทุ่ม โดยในช่วงแรกๆ ไปกันโดยจักรยานที่ผมไปยืมมาจากเพื่อนอีกคน อ่อ ลืมบอก ผมไปสมัครทำงานที่เธคแห่งนี้ในช่วงปิดเทอมเดือนมีนาคม – มิถุนายน ในตำแหน่งเด็กเสริฟ เงินเดือน 1,100 บาทถ้วน มาสายหักนาทีละ 1 บาท ทำงานกันหูหลูบ 7 วันต่อสัปดาห์ ช่วงหลังๆ ผมเก็บเงินซื้อ รถป็อป ฮอนด้า ชาลี ราคา 7000 บาท ได้หนึ่งคัน (เก็บตังค์ไว้วันละ 100 บาท) เราจะถึงหน้าออฟฟิคซัก 19.30 หลังจากตอกบัตรแล้ว ก็ออกมากินบะหมี่หน้าโรงแรมวสุกัน พอ 2 ทุ่ม ก็กลับเข้าไปในออฟฟิค

เรียกซะหรู แต่จริงๆ แล้วมันก็คือตัวเธค สตาร์เกท นั่นเอง ตอนที่ผมเข้าไปนั้น DJ กำลังลองเครื่องเสียงอยู่ ผมกับเพื่อนร่วมงานอีกประมาณ 10 คน ก็ทยอย ไปยกเก้าอี้ลงมาจากโต๊ะ จัดเรียงให้ได้สวยงาม ส่วนใหญ่แล้วจะ 4-5 ที่ต่อโต๊ะ 1 ตัว โต๊ะช่วงไหนที่มีคนจองก็จะจัดเอาป้ายจองมาวาง โดยมากจะเป็นบริเวณหน้าบูท DJ นั่นเอง หลังจากนั้นก็มานั่งรอให้แขกเข้า ซึ่งในตอนนั้นเรายังไม่มีการแบ่งโซน แบ่งเขตแต่อย่างใด ใครขยันวิ่งแขกก็จะได้ทิปเยอะหน่อย ของแบบนี้ก็ใครดีใครได้ละนะ แต่โดยมากตามมารยาทเราก็จะแบ่งๆ กันไปไม่ค่อยมีการเอาเปรียบกันมากนัก แต่ถ้าสังเกตดีดี พวกเด็กเสริฟที่เก๋าๆ หน่อย จะไม่ค่อยไปนั่นดักแขกที่บริเวณหน้าประตู พวกนี้จะนั่งอยู่ด้านหลังหรือชั้น 2 คอยสังเกต และเลือกแขกบางประเภทเท่านั้น ทำไมนะเหรอ เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังต่อไป

หลังจากนั้นแขกก็เริ่มทยอยเข้า โดยมากในช่วงหัวค่ำจะเป็นพวกหน้าใหม่ๆ นานๆ มาที เป็นเด็กหนุ่มๆ มากันเป็นกลุ่มๆ เด็กพวกนี้เงินไม่ค่อยมีมากนัก ซึ่งจะใช้วิธีซื้อบัตรเข้ามาราคา 80 บาท ซึ่งจะนำมาแลกเบียร์ได้หนึ่งกระป๋องหรือสปายหนึ่งขวด ถ้าบัตรราคา 60 บาทก็แลกได้แป๊บซี่ 1 กระป๋อง ซึ่งถ้ากลุ่มนี้เข้ามาก็อย่าหวังว่าจะได้ทิปอะไร แต่สิ่งที่เด็กเสริฟเก๋าๆ ทำได้ก็คือพากลุ่มนี้ไปนั่งที่ไกลๆ หลบๆ มุมหน่อย แล้วเสนอแลกเปลี่ยนคูปองที่พวกเค้าซื้อเข้ามา โดยมากแล้วจะเป็นบัตรเป๊ปซี่โดยมากแล้วคนกลุ่มนี้จะซื้อบัตรราคาถูกที่สุดเข้ามา การแลกเปลี่ยนนั้นก็แล้วแต่เทคนิคการพูดของแต่ละคน โดยที่ต้องไม่ให้แขกรู้ว่าตัวเองนั้นเสียเปรียบ เช่น การเสนอเบียร์สดหนึ่งเหยือกแลกกับบัตรเป๊บซี่ 6 ใบ แต่เบียร์สดนั้นก็ราคา 240 บาท เช่นกัน เด็กเสริฟจะควักตังค์ตัวเองซื้อเบียร์กระป๋องแทน 2 กระป๋อง 160 บาท แล้วไปขอเหยือกกับน้ำแข็งจากคนจ่ายของที่เคาน์เตอร์ ( ต้องมีพวกครับ แบบนี้ต้องแบ่งคนจ่ายของด้วย ) เอาเบียร์มาเท ใส่น้ำแข็งแยะหน่อย และยกไปให้แขก เสร็จแล้วก็เอาบัตรที่ได้ไปแลกเป๊บซี่แทนโต๊ะอื่นๆ ที่สั่งเป๊บซี่ โดยเก็บเงินสดไว้แทน แบบนี้ก็ได้ไปแน่ๆ แล้ว 140 บาท (ถ้าขายบัตรได้หมดละนะ) แต่ ครับ แต่ ยังมีอีกแบบแบบนี้ค่อนข้างเสี่ยงก็คือให้คนจ่ายของ กดเบียร์สดมาให้ปล่าวๆ เลย 1 เหยือก เพราะเบียร์สดนั้นค่อนข้างจะนับปริมาณที่ขายได้ยากอยู่แล้ว แบบนี้ได้เต็มๆ 240 แต่หาคนทำแบบนี้ยาก ยกเว้นวันที่มั่วกันจริงๆ เท่านั้น และต้องสนิทกะคนจ่ายของอย่างยิ่งยวด ไม่งั้นถ้าโดนหักหลังก็ถูกไล่ออกสถานเดียวครับ

นอกจากนั้นยังมีเทคนิคการหาสตังค์แบบแปลกๆ ของเด็กเสริฟอีกมาก เล่าไปจะพาลให้เที่ยวเธค เที่ยวผับกันไม่สนุกปล่าวๆ แต่คนเล่าสนุก 55 งั้นเล่าต่อ โซดาตราสิงห์ซ่ายาว ซ่านาน จริงๆ เด็กเสริฟรับประกันได้ เพราะมีบางคนที่เก็บโซดาจากวันก่อนๆ ที่แขกใช้ไม่หมด บางทีสั่งมาเปิดตอนเธคเลิก โดยที่ยังไม่ได้รินเลย เราจะเก็บไว้โดยการปิดฝา อัดให้แน่น วันต่อมาเมื่อเปิดฝา ถ้ามันยังซ่าอยู่ก็เป็นอันว่าเอาไปเสริฟได้สบาย โซดานี่ขวด 60 บาทนะ วันนึงทำซัก 5 ขวด ก็สบายแล้วไม่ต้องรอทิปใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับทิปเพียวๆ นั้น คืนหนึ่งทิปที่ได้ก็ประมาณ 100 -200 บาท ถ้าเป็นคืนวันศุกร์ วันเสาร์ ก็อาจจะถึง 300 บาท ถ้าเป็นคืนที่มีคอนเสิตร์ รับประกันที่ 500 ขึ้น ผมเคยได้สูงสุดคืนที่คอนเสิตร์โลโซเข้า วันนี้รับไป 1300 บาท โดยที่ไม่ต้องไปทำโจรๆ แบบที่เล่าๆ มานะครับ

ชีวิตในเธคก็ดำเนินไป 3-4 ทุ่ม วงดนตรีเริ่มเล่น ผมเข้าไปทำงานใหม่ๆ ก็สนุกคึกคัก แต่พอฟังนานเข้าก็เฉยชา ชินชัง อยู่ทุกวัน วงมันก็เล่นแต่เพลงเดิมๆ มุกตลกก็เดิมๆ แต่แขกที่มาก็คงสนุกกันอยู่ตามประสา ผมเองมีแขกประจำเป็นพี่ๆ นักเที่ยว มาจนจำหน้ากันได้ พี่ๆ ก็จะเรียกใช้แต่ผม คืนไหนที่พี่ผู้หญิงพาอาเสี่ยมือเติบมาก็เป็นอันว่าผมก็พลอยอู้ฟู่ไปด้วย ผมก็ตอบแทนแกด้วยการหาโต๊ะดีดี ชงเหล้าถี่ๆ หน่อย และไม่โกงพี่แกด้วยโซดาเก่า ( เหอๆ นานๆ ทำทีครับ ถ้าร้อนเงิน) เด็กเสริฟเก๋าๆ จะปล่อยให้เด็กเสริฟหน้าใหม่ๆ วิ่งวุ่นกับการเสริฟเหล้า รับแขก โดยที่ตัวเองนั้นคอยเล็งแขกที่เจ๋งๆ เท่านั้น มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันน่าดู พรรคพวกผมก็มีนะ ไอ้มิกกี้ละคนนึง และก็ไอ้หนิง มันเป็นผู้หญิงคนเดียวในที่นั้น แต่บุคลิกมันจะออกทอมบอยหน่อยเลยไม่มีใครคิดว่ามันเป็นผู้หญิงนัก พอถึงตีหนึ่งวงดนตรีเล่นเพลงสุดท้ายไปแล้ว DJ เริ่มเปิดเพลงชุดสุดท้ายเช่นกัน นักเต้นทั้งหลายก็ทยอยกันกลับ คืนไหนที่โชคไม่ดีก็จะมีการตีกันเป็นระยะๆ พอให้สนุกสนาน ตีหนึ่งครึ่งไฟสว่างไปทั่วบริเวณ เราทยอยกันเก็บขวดเหล้า ขวดโซดา ใส่ลัง เก็บเก้าอี้ขึ้นวางบนโต๊ะ ในบางทีอาจะพบเศษตังค์หล่นอยู่ตามพื้นบ้าง ผมเองก็เคยพบแบงค์ร้อยอยู่ครั้งนึงเหมือนกัน พอตี 2 ทุกอย่างก็เรียบร้อย พื้นเราไม่ต้องกวาด ปล่อยให้เป็นงานช้างของแม่บ้านในวันรุ่งขึ้น ผมกับไอ้มิกกี้ออกมาปั่นจักรยานกลับกัน โดยไม่ลืมตอกบัตรกันก่อน (เงินเดือน 1100 บาท อะนะ) เราจะถึงที่พักประมาณ 02.30 แล้วอาจจะเจอเพื่อนรอท่าอยู่ ถ้าไม่แวะกินก๋วยเตี๋ยวกันก่อน การแวะกินก๋วยเตี๋ยวนั้นเราก็อาจจพบเหล่านักเที่ยวหลายต่อหลายคนกำลังโซ้ยอยู่เช่นกัน

ที่เล่าไปเป็นแค่งานประจำใน 1 วันเท่านั้น และไม่ละเอียดนัก แต่เขียนมาเท่านี้ก็กลัวจะไม่มีคนอ่านอยู่แล้ว ยังมีเกร็ดอีกมากมายที่ผมเจอะเจอกับการใช้ชีวิตอยู่ในนั้นกว่า 6 เดือน ก่อนที่จะเลิกเพราะเปิดเทอมมาได้ 2 เดือน ผมไปเรียนแทบไม่ไหว ตอนที่ยังปิดเทอมนั้นกว่าจะตื่นนอนก็เที่ยงเข้าไปแล้ว คืนไหนที่กินก้อยกินลาบกันก็นอนกัน 6 โมงเช้า ไม่ต้องไปไหนกันละ ตื่นมาอาบน้ำกินข้าว ก็แทบจะต้องไปเข้างานต่อเลย แต่ตอนนั้นทำงานด้วยความนุกสนานเพราพลังยังเหลือเฟือกัน (เพื่อนอีกกลุ่มไปทำงานเซเว่นหนักกว่าผมอีก)

ใช้เวลาเขียน 2 ชม. 7 นาที พอดี ไว้โอกาสหน้าเล่าต่อนะครับ ไปนอนก่อนละ

นอน น๊อน น่อน นอน เธอต้องนอนเพราะเราเป็นห่วงเธอ



Create Date : 24 ธันวาคม 2550
Last Update : 25 ธันวาคม 2550 10:46:42 น. 4 comments
Counter : 758 Pageviews.

 
หวัดดีคะ



แวะมาทักทาย


โดย: plozizme (ปลายฟ้า...พาฝัน ) วันที่: 24 ธันวาคม 2550 เวลา:12:15:55 น.  

 
ที่เล่ามาคือเธคตามต่างจังหวัดนะครับ ถ้าใน กทม คงไฮโซ ขึ้นอีกเยอะเลย ในยุคสมัยนั้นผับธรรมดาๆ นี่ปิด 6 โมงเช้าครับ


โดย: เด็กแคสติ้ง วันที่: 25 ธันวาคม 2550 เวลา:10:49:48 น.  

 

หวัดดีก๊าบ..ป๋ม!...คุงป้าหู้บอกเล่าได้หนุกหนานดีกั๊บบ....

ไปเที่ยวบ้านสวน"บางน้ำผึ้ง"กะป๋มนะกั๊บบ...

ตาม"ป๋มม..นายสุนทร"ไปเลยก๊าบบบ

จิ้มที่”พุง”ป๋มเล้ยยยย....





โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:15:21:57 น.  

 


โดย: ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์ วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:0:16:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 

เด็กแคสติ้ง
Location :
ขอนแก่น Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




หวัดดีครับพี่น้อง เจ้าเด พรานคนสุดท้ายของหนองน้ำแห้งมาอัพบล็อคกันปีละหน
[Add เด็กแคสติ้ง's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com