กว่าจะมาเป็นเจย์เจย์
หลังจากเดินสายทำงานมาหลายประเทศ อยู่ที่ละไม่กี่เดือน ในที่สุดก็มาติดแง๊กอยู่มาเลย์เซีย ปาเข้าไปหกเดือนยังไม่มีวี่แววว่าจะหลุดออกไปได้ บวกกับงานที่หนักถึงขั้นเสียสติ เลยมานั่งคิดว่าเราควรจะหาอะไรให้กับตัวเองเพื่อเป็นแรงบันดารใจในการทำงานก็เลยไปตระเวณตามร้าน pet shop ดูหมาดูแมว (มันไปเกี่ยวกับแรงบันดารใจในการทำงานยังไงฟะ )หลังจากตระเวณมาหลายที่ ก็ไปจ๊ะเอ๋กับน้องเจย์ ที่ถูกขายอยู่ในกรง ในขณะที่แมวตัวอื่นๆในร้านจะไปอยู่รวมกันในห้องเลี้ยง ( ที่ร้านนี้เค้าเอาแมวมาเลี้ยงในห้องกระจก ไม่ได้ใส่กรง) ทีแรกก็คิดว่าคงเพราะเค้าจะโฆษณากรงเลยเอาเจย์มาใส่กรงไว้ตัวเดียว ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดจะเลี้ยงจากนั้นก็ยังตระเวณไปดูที่อื่นเรื่อยๆ (ผ่านไปได้เดือนกว่า) ก็ไปเจอะกับแมวเปอร์เซียอายุสามเดือนกำลังน่ารัก พันธ์แท้นำเข้าจากออสเตรเลีย เลยตัดสินใจจะเอาตัวนี้กลับบ้าน( ดูมาหลายรอบแล้วเหมือนกัน เดินเข้าเดินออกร้านนี้หลายวัน) แต่พอจะขอเค้าดูปรากฏว่าแมวไม่สบาย เค้าเลยยังไม่ขายก็เลยตัดใจแล้วว่าไม่เลี้ยงละ เพราะจะเอามาแต่แมวมาป่วยซะนี่ คงไม่มีวาสนาจะได้เลี้ยงแล้ว แล้วก็ตั้งเป้าหมายว่า ถ้าไม่ได้ american short hair ก็ไม่เอาอะไรแล้วตั้งท่าว่าจะกลับบ้าน แต่คิดยังไงไม่รุ เห็นว่ายังเช้าอยู่เลยแวะไปเดินอีกห้างก่อนดีกว่า ห้างนี้คือห้างที่มีร้านที่น้องเจย์อยู่ เราก็เดินเข้าไปดูในร้าน ผ่านไปแล้วเดือนกว่า ยังเห็นเจย์นอนอยู่ในกรง ตัวโตขึ้น น้องเจย์นอนหลับอยู่ พอชะโงกหน้าไปดูใกล้ๆ เจ้าเจย์ลืมตาขึ้นมาทำตาโต เอียงคอ เอามือมาตบๆ จะเล่นกับผมเราที่ยาวแล้วจิ้มไปโดนกรงโอ้ แมวอะไรกันเนี่ย แอคทีพสุดๆ เพิ่งลืมตาตื่นจะเล่นแล้วเกิดอาการชอบขึ้นมาทันที เลยเดินไปถามเข้าของร้านเรื่องราคา เจ้าของร้านเค้าก็เดินมาที่กรงแล้วบอกว่าหยิบออกมาดูก่อนได้ พอเปิดกรง น้องเจย์กระโดดออกมาทันที เห็นแล้วยิ่งสงสารว่าคงจะอยู่แต่ในกรงมานาน(ขอบอกว่ากรงเล็กมากๆ ถ้าเทียบกับแมวอายุหกเดือนแล้ว) อยากออกมาเต็มที ตอนนี้อาการหน้ามืดกำเริบ ให้ออกมาแล้ว ไม่มีทางจะให้กลับเข้าไปในกรงแน่นอน เลยตัดสินใจบอกเอาทันทีที่ร้านเค้ามีโปรโมชั่นให้ไปตรวจสุขภาพฟรี แล้วค่อยกลับมาจ่ายเงิน (ร้านหมอก็อยู่ในร้านนี้แหละ คือร้านมันใหญ่มากๆ มีหลายส่วนอยู่ในร้านเดียวกัน) พอเราอุ้มไปให้หมอตรวจ ปรากฏว่า น้องเจย์เป็นโรคไรในหู น่าสงสารหูดำปี๋ แถมเป็นโรคเชื้อราที่ผิวหนัง ที่หางเป็นเยอะมาก ด้านหลัง หู เหนือตา คือดูรวมๆแล้ว เป็นคนอื่นคงไม่เอาแล้ว เพราะหมอบอกว่ามันใช้เวลารักษานาน อาจจะต้องมาทำ ทรีทเมนต์ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะเยอะแต่ด้วยอาการหน้ามืด ตอนนั้นไม่สนอะไรทั้งนั้น จะเอากลับบ้านให้ได้ ไม่อยากให้มันกลับไปอยู่ในกรงอีกแล้ว ยิ่งเห็นสภาพแล้วยิ่งทนไม่ได้เลยไปต่อรองราคากับเจ้าของร้าน เพราะแมวหกเดือนแล้ววัคซีนก็ไม่มี เป็นโรคผิวหนัง เป็นไรในหู เจ้าของเค้าเลยลดให้พันนึง ส่วนวัคซีนให้เอาไปฉีดแล้วก็เอาบิลมาเบิกได้ แถมคูปองซื้อของในร้านทุกอย่าง วันนี้ลดไปอีกยี่สิบเปอร์เซ็น ( คือเค้ากะว่า ถ้าไอ้คนนี้ไม่เอา รับรองไอ้ตัวนี้ขายไม่ออกอีกแล้วแน่นอน ต้องลดแลกแจกแถมสุดๆ)จริงๆ มันไม่ลดไม่แจกไม่แถม เราก็จะอุ้มกลับมาเพราะสงสารมันมาก วันแรกที่มาถึงบ้าน เจย์วิ่งเอาเป็นเอาตาย ข้าวปลาไม่กิน เล่นตลอดเวลา วิ่งจนคิดว่ามันกินยาบ้ามาเปล่าวะเนี่ยหลังจากเข้าวันที่สาม อาการคลั่งที่ได้ออกจากกรงเริ่มสงบ เจย์ก็เริ่มหันมากินข้าวและไม่วิ่งเป็นวิ่งตายเหมือนสองวันแรก โอ๊ะ เกือบลืมเล่าว่า ชื่อเจย์เจย์นี้ได้มายังไง คือคิดอยู่นานว่าจะให้ชื่อไรดี คิดอยู่นั่นแหละ แล้วอยู่ๆก็ไปตั้งว่า ยองเจย์ คิดว่าหลายคนคงจำได้ ก็ชื่อพระเอกฟูลเฮาท์นี่แหละ แต่พอเรียกแล้วรู้สึกแปลกๆ คนที่บ้านไม่เรียกเลยบอกกระดากปาก งั้นเปลี่ยนก็ได้วะ แล้วชื่อไรดีหละเนี่ย โอ๊ะโอ คิดออกแล้ว ชื่อ JJ ละกัน แล้วมาได้ไงละเนี่ยชื่อนี้ ฮิฮิ ก็แม่มันชื่อย่อใน msn ว่า JJ เลยได้ชื่อตามชื่อแม่มันมา ส่วนชื่อเต็มของน้องเจย์ ก็ คือ เจย์จูเนียร์ เพราะแม่มันบ้า เจย์ โจว เจี๋ยหลุน รูปนี้ถ่ายสองวันหลังจากเพิ่งมาอยู่ที่บ้าน หูดำเชียว