Bloggang.com : weblog for you and your gang
Group Blog
My Journey
Flower's Time...
Private Me
สัพเพเหระ..
Soul Asylum
มีอะไรในเว็บบล็อก?
SMS
My Gallery
<<
กุมภาพันธ์ 2549
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
5 กุมภาพันธ์ 2549
Vanilla Industry
++ จดหมาย +++
All Blogs
Giant Resto @ Future Park Rangsit
ของขวัญจากกระเป๋ารถเมล์
a book fair...
ตะแล็บแก็บ
จนได้...
ปิดเทอมใหญ่ มาบ้าดารา (สปอยล์)
ร้อน....
วานวาน - ไม่ไปโรงเรียนได้ไหมเนี่ย
Love Chocolate
Caffe Nero by Black Canyon (Asoke Rd)
Annual Report 2007
Magazine & Book Fair @ Siam Paragon
ฤดูกาลแห่งโลชั่น
เดินร่อนที่งานหนังสือ
Piano - Jie Lun - HKPO
ส่งการบ้าน T a g
14th Blood donation
Happy birthday to Google...
:-) มีอายุ 25 ขวบแล้ว
โปสการ์ดจากต่างแดน
Mechanics Alive !! at TCDC
Classical music in my life
The Competition
ไปดู Piano & Vocal Recital มาจ้ะ
เหตุเกิดที่เฉลียง..
My busy day...
A night with Guitar Solo Concert
Once in my lifetime when Classics meet Jazz
Happy Sunday with ละครถาปัด
ก๋วยเตี๋ยวร้านโปรด
it's time to say Goodbye ..
สี่แยกร่มพัง
บริหารกล้ามแขนที่งานหนังสือ
เพื่อนเก่า..มีด้วยหรือ?
บริจาคเลือดกันเถิด.. (บันทึกย้อนหลัง)
ฮิฮิ+ภูฏาน+Nada So So
ความจริงที่ไม่อยากยอมรับ .. ภาวะโลกร้อน
ความเข้าใจผิด
ชิงชิงกับห้องแห่งความลับ...
Big Echo & TBT ...
บทส่งท้าย.. (ปี)
More than a Monarch
ของที่ระลึกจากภูฏานในงาน OTOP
ลมหนาว..
สถาปัตย์คนจัดฝัน (I'm an Architect)
4 of 9 Best
My dad, My Hero...
ดอกไม้บานในใจฉัน
เรื่องเล่าวันพุธ...
Accidentally Be Mine...
กรุณาอย่าเอาตูดพิงเสา...
New books on the shelf
In search of lost time in Česká republika
blood donation...
dinner & ซัมซุก
วัย(ไม่)รุ่นเซ็ง..
bla bla bla...
กินข้าวที่ iberry
ฉันรักในหลวง
ละครประเพณี
Madeleine
เด็กอวดของเล่น
ปลาพันธุ์ใหม่???
ร้อนนนนน ....
[word for the day]
ก๋วยเตี๋ยวเรือนไม้ วัดมะขาม ปทุมธานี
บาย บาย แดจังกึม
Friday...I'm @ home ^_^
Still with Sam Shiki
Sam Shika...
Monday's morning with Lin Jun Jie...
My Name is Hyun Bin
Me and Jimmy Liao.....
Vanilla Industry
++ จดหมาย +++
Happy Birthday to Jie Lun...
La Marche de L'Empereur
Jay Chou and Jet Li....
Fate and Betrayal...
++ จดหมาย +++
ตั้งแต่เด็ก เวลาดูละครหรือหนังที่มีฉากพระเอกนางเอกเขียนจดหมายถึงกัน ฉันรู้สึกสนใจกับจดหมายในเรื่องมากเป็นพิเศษ นึกสงสัยว่าเขาเขียนอะไรกัน เขียนยังไง อยากมีจดหมายเป็นของตัวเองบ้าง คงเป็นความรู้สึกที่ดีถ้ามีจดหมายถึงตัวเอง จำได้ว่าเริ่มเขียนจดหมายครั้งแรกสมัยม.1 เพราะเพื่อนที่สนิทกันต้องย้ายไปเรียนต่างจังหวัด ฉันเลยได้โอกาสเขียนจดหมาย ต่อมาก็เริ่มหา pen friend ต่างประเทศเพื่อเริ่มฝึกเขียนจดหมายภาษาอังกฤษ ฉันรู้สึกสนุกในการเขียนหาเพื่อนต่างประเทศ รู้สึกว่าประเทศไหนๆ ก็น่าสนใจไปเสียหมดเลย แต่ที่คุยกันได้นานๆ ตอนนั้นเป็นเพื่อนชาวอิตาลี อยู่เมืองอะไรก็จำไม่ได้แล้วแฮะ แม้แต่ชื่อยังลืม
ฉันมีเพื่อนต่างประเทศที่เป็น pen-friend หลายเชื้อชาติทีเดียว ที่แปลกที่สุดน่าจะมาจากสโลวีเนีย แต่ตอนนี้เลิกติดต่อกันไปแล้วหล่ะ
เพื่อนทางจดหมายเวอร์ชันไทยก็มีนะ ตอนนั้นบ้าบอล อ่านคอลัมน์ของบิ๊กจ๊ะในซ็อคเกอร์ทุกวัน แล้วก็จะมีบางคนที่เขียนจดหมายมาน่าสนใจอ่านแล้วรู้สึกว่าชอบอะไรเหมือนๆ กัน ทั้งบอลและดนตรี ก็เลยเขียนติดต่อกัน ช่วงม.ปลาย เป็นช่วงที่มีจดหมายมิตรรักทั้งไทยและเทศเยอะมากๆ เลย ไม่รู้ว่าคนอื่นจะมองว่าฉันเป็นบ้าหรือเปล่า ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจในตัวเอง
ฉันชอบเขียนจดหมาย ชอบเขียนเล่าเรื่องราวต่างๆ ผ่านตัวหนังสือ รู้สึกว่าได้เรียบเรียงความคิดได้ดีกว่าเวลาพูด การเขียนทำให้ฉันสามารถอธิบายเหตุการณ์หรืออารมณ์ความรู้สึกออกมาได้เป็นฉากๆ แต่ถ้าให้ฉันพูด อาจเล่าได้แค่สามประโยค
ฉันรู้สึกสนุกที่ได้เล่าว่าตอนนี้ฉันกำลังชอบอะไร ฟังเพลงของใคร หนังสือเล่มไหนสนุก รู้สึกชอบและไม่ชอบใครรอบๆ ตัว
เหมือนเป็นการปลดปล่อยระบายความเครียดอย่างหนึ่ง
แต่พอโตมา เริ่มเรียนมหาลัยและทำงาน เริ่มเขียนจดหมายน้อยลง เพราะเพื่อนๆ ก็มีอะไรให้รับผิดชอบมากขึ้น ไม่ค่อยมีเวลามาใส่ใจเหมือนก่อน บางคนก็ไม่ได้ชอบอะไรเหมือนกันเสียแล้ว เลยไม่รู้สึกอยากเขียน แต่สำหรับฉัน ถ้าใครยังมีเวลาเขียนมาหา ฉันจะตอบกลับเสมอ แม้บางทีจะดองไว้นานนนหน่อย
เพราะไม่ว่างจริงๆ
ถึงตอนนี้ ก็มีเพื่อนต่างประเทศที่เรายังเขียนโต้ตอบไปมาเสมอ ก็นานหลายปีพอดูแล้วหล่ะ ทั้งๆ ที่เขาก็อายุน้อยกว่าฉันมาก (เพิ่งเรียนมหาลัยปี 2 เอง) แต่เราก็คุยกันได้มาตลอดรอดฝั่ง เพื่อนคนนี้เป็นคนเดนมาร์ก น่าแปลกที่เราสองคนมักชอบอะไรคล้ายๆ กัน เลยทำให้คุยไปในแนวเดียวกันได้ ตอนที่ฉันบอกเขาว่าฉันชอบเจ้าชายของประเทศเธอ เขายังแปลกใจว่าทำไมฉันถึงได้รู้จักเจ้าชายของเขาได้
เพื่อนคนไทย ที่คุยกันทางจดหมายที่กลายมาเป็นเพื่อนจริงๆ ก็มีเหมือนกันนะ ไม่ได้เขียนจดหมายหากันนานแล้ว แต่ใช้อีเมล์แทน ไม่ได้คุยกันบ่อยๆ เหมือนเคย แต่ก็ไม่ได้ห่างเหินไปไหน (วันก่อนก็เพิ่งได้เจอกันเอง)
จนถึงวันนี้ วันที่การสื่อสารก้าวไปไกลสุดๆ อีเมล์เข้ามาแทนที่กระดาษจดหมาย แต่ฉันก็ยังชอบเขียนจดหมายอยู่นั่นเอง ฉันชอบความรู้สึกที่ได้เลือกกระดาษสวยๆ ได้นั่งเขียนเล่าอะไรยาวเป็นฉากๆ พับกระดาษใส่ซองและติดแสตมป์ ฉันจะดีใจถ้ากลับบ้านแล้วเห็นจดหมายจ่าหน้าซองถึงฉันมากกว่าการที่เข้าเว็บเช็คเมล์แล้วบอกว่ามีข้อความใหม่ จริงอยู่อีเมล์เร็วกว่า และฉันเองก็ใช้มันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันจับต้องไม่ได้อยู่ดี เมื่อปิดคอม ข้อความก็หายไป ถ้าอยากอ่านอีกก็ต้องเสียบปลั๊กคอมใหม่ เปลืองไฟอีก ไม่เหมือนจดหมายที่หยิบขึ้นมาอ่านได้ตลอดเวลา แต่ทุกวันนี้ดูเหมือนร้างรากับการเขียนจดหมายเหลือเกิน เพราะไม่มีใครเขียนมาหา
อ้อ ฉันเคยคิดเล่นๆ ว่า ฉันส่งจดหมายบ่อยมากๆ บริษัทไปรษณีย์ไทยน่าจะออก member card ให้ฉันบ้างนะ ส่งตั้งแต่มัธยมต้นยันปัจจุบัน
ไปรษณีย์ที่บ้านเดิมนะ ขนาดเขียนซอยผิด แต่จ่าหน้าถึงฉัน ยังส่งถูกเลย
เขาคงจำได้ว่าชื่อนี้มันอยู่ซอยนี้ มาส่งเกือบทุกวัน แต่ถึงบริษัทไปรษณีย์ไทยจะไม่ออก member card ให้ ฉันก็ยังคงเป็นผู้ใช้บริการต่อไปอยู่ดีหล่ะนะ
Create Date : 05 กุมภาพันธ์ 2549
Last Update : 5 กุมภาพันธ์ 2549 21:56:59 น.
3 comments
Counter : 350 Pageviews.
Share
Tweet
เราก็คิดเหมือนกันว่าจดหมายมันมีชีวิต มีเสน่ห์มากกว่า แถมบอกได้ด้วยว่าตอนนั้นคนเขียนอยู่ในอารมณ์ไหน ถ้าเริ่มแกะลายมือไม่ออก หรือเขียนผิดบ่อยๆ ก็แปลว่าเริ่มง่วงแล้ว อิอิ
ถึงตอนนี้เรามีเพื่อนที่ยังติดต่อกันทางจดหมายอยู่เหลืออยู่คนเดียวเองแหละ แต่ก็อย่างที่ Qingqing ว่า ความถี่ในการโต้ตอบมันก็น้อยลงเมื่อเทียบกะเมื่อก่อน โชคดีที่เพื่อนเราเข้าใจ (หรือปลงก็ไม่รู้) เคยคุยกะเพื่อนว่าแล้วไว้วันนึงที่เลิกเขียน จม. หากันแล้ว จะเอา จม. เก่าๆ มาคืนให้กัน เป็นการรีวิวความรู้สึกนึกคิด ก็หวังว่าคงอีกนานกว่าจะถึงวันนั้น แหะแหะ
ปล. ตอนที่ยังอยู่บ้านนอก บุรุษไปรษณีย์ก็จำชื่อเราได้เหมือนกันนะ มีครั้งนึงเพื่อนลืมใส่ชื่อถนน แต่บุรุษไปรษณีย์ก็ส่งให้ได้ถูกบ้าน เก่งจัง
โดย:
Nungkwak
วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2549 เวลา:15:56:54 น.
i want some friend who was very friendly
โดย: poopae IP: 124.120.180.200 วันที่: 9 ตุลาคม 2550 เวลา:0:49:24 น.
อาจารย์ให้หา เพื่อนชาวต่างชาติเพื่อส่งจดหมายโต้ตอบจนปัญญามากๆๆ
ไม่รู้ว่าจะหาจากที่ไหนเพื่อนๆๆ มีใครพอจะช่วยเราได้บ้าง.....จนปัญญาแล้วค่า ใครพอจะมีเว็บเพื่อนต่างชาติช่วยด้วยค่า
shingi_gp@hotmail.comโปรดช่วยอนาคตของชาติ
โดย: แนน IP: 58.137.83.34 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2550 เวลา:16:54:05 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
Qingqing
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
ชิงชิง กิ๊กทั่วราชอาณาจักร รักอะราวด์เดอะเวิลด์
Friends' blogs
แพนด้ามหาภัย
ตงเหลงฉ่า
Nungkwak
BBwindy
Nessa
-`๏- Sunsnow -`๏-
baabuu
โซจู
เลขาตัวซน
บะหมี่เผ็ดร้อน
ทำไมต้องล็อกอิน
pikku
ขอโทษนะคร้าบ ขอแจมด้วยคน
beer87
xiaof
เสี่ยวป้างจื่อ
tokei/tookei
Thaisoloclub
popcutesweet
Twin dolphin
Webmaster - BlogGang
[Add Qingqing's blog to your web]
Links
เจย์ดุ
ข้าวโพด
เช็คแมว..
วินทร์ เลียววาริณ
Kuensel Online
BBS
Kuzuzangpo
My Space on MSN
CU Radio
wan wan new home
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.
ถึงตอนนี้เรามีเพื่อนที่ยังติดต่อกันทางจดหมายอยู่เหลืออยู่คนเดียวเองแหละ แต่ก็อย่างที่ Qingqing ว่า ความถี่ในการโต้ตอบมันก็น้อยลงเมื่อเทียบกะเมื่อก่อน โชคดีที่เพื่อนเราเข้าใจ (หรือปลงก็ไม่รู้) เคยคุยกะเพื่อนว่าแล้วไว้วันนึงที่เลิกเขียน จม. หากันแล้ว จะเอา จม. เก่าๆ มาคืนให้กัน เป็นการรีวิวความรู้สึกนึกคิด ก็หวังว่าคงอีกนานกว่าจะถึงวันนั้น แหะแหะ
ปล. ตอนที่ยังอยู่บ้านนอก บุรุษไปรษณีย์ก็จำชื่อเราได้เหมือนกันนะ มีครั้งนึงเพื่อนลืมใส่ชื่อถนน แต่บุรุษไปรษณีย์ก็ส่งให้ได้ถูกบ้าน เก่งจัง