|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
Shot fic shinhwa .... ก้าวเดียว ...Special Jin-Dy ep.10
ก้าวเดียว Special Jin-Dy ep.10 สายไปรึเปล่า สำหรับคำขอโทษ...
. . . . .
แสงจากดวงจันทร์ดวงกลมโตสีเหลืองนวล สาดส่องให้ผืนฟ้าทั้งผืนคลายตัวจากความมืดมิด มีดวงดาวดวงเล็กดวงน้อยกระพริบไหว ประกอบเป็นแบล็คกราว มองไปก็เหมือนภาพวาดมากค่าในแกลอลี่หรูๆ ซักแห่ง
ฟ้าสลัว เหมือนในฝันไม่มีผิดเพี้ยน แค่หวนนึกถึงก็ชวนให้ร่างกายที่กำลังเปลือยท่อนบนขนลุกซู่ขึ้นมาเพราะความเหน็บหนาวอีกรอบ แต่ความเหน็บหนาวจากสายลมที่พัดเอื่อย ๆ เทียบกันไม่ได้ซักนิดกับความเหน็บหนาวจากขั้วหัวใจเมื่อครู่ ...หนาวราวกับมีใครจงใจจับเจ้าก้อนเนื้อก้อนเล็กเท่ากำปั้นก้อนนี้ยัดไว้ในช่องแช่แข็งยังไงยังงั้น
. . . นมอุ่นหน่อยนะ จะได้รู้สึกดีขึ้น แก้วใสที่บรรจุของเหลวสีขาวนวล ถูกยื่นมาตรงหน้าชายหนุ่มร่างสูง เค้าเพียงแค่ยิ้มและคว้ามันเข้าปากเงียบ ๆ . . .
พี่เหมือนออมม่าที่คอยปลอบลูกชายคนเล็กเวลาที่เค้าไม่สบายใจเลยฮะ
อืม! ก็ถ้ามันจะทำให้นายดีขึ้นน่ะนะ
ขอบคุณฮะ ดีขึ้นจริงๆ แต่จะดีกว่านี้นะ ถ้าพี่จะป้อนให้ด้วย
ถ้านายอายุ 5 ขวบ ชั้นก็จะทำแบบนั้นล่ะ .. ว่าแต่ไม่อยากเล่าจริง ๆ น่ะเหรอ
ดวงตาสดใสหลบวูบลงต่ำ เอื้อมมือวางแก้วนมอุ่นที่ดื่มไปจนเหลือเพียงก้นแก้วไว้บนโต๊ะ ก่อนดึงเอาร่างบางตรงหน้าเข้ามากอดกระชับไว้หลวม ๆ นึกดีใจที่ใครคนนั้นไม่พูดอะไรออกมาซักคำ เพราะแบบนี้ มันช่วยทำให้เค้าสามารถเรียบเรียงประโยคยุ่ง ๆ ในหัวได้ดีกว่า
ผมทำให้พี่เสียใจ แล้วพี่ก็กำลังจะหนีผมไป เสียงนุ่ม ๆ กระซิบคลอเคลียอยู่บริเวณริมใบหู สองแขนบอบบางจึงยกมือขึ้นโอบกอดร่างหนาไว้บ้าง ลูบไปบนแผ่นหลังเบา ๆ ให้คลายใจจากความวังวลนั้น
ชั้นหนีนายไปไหนงั้นเหรอ
ไปอยู่กับมูริ ถึงผมจะรู้ว่าพี่รักมันมากก็เถอะ แต่ผมก็ไม่ชอบแบบนั้นอยู่ดี
ชั้นอยู่ตรงนี้ต่างหาก นายน่ะเครียดมากไปแล้ว มันก็แค่ฝัน ชายหนุ่มร่างสูงคลายอ้อมกอด ดึงคนตรงหน้าออกห่างนิดหน่อย ดวงตาเรียวดุที่เคยคิดว่ามันมีเสน่ห์และเย้ายวนที่สุดเวลามอง ยังคงความรู้สึกแบบนั้นไว้ไม่เลือนหาย ริมฝีปากบาง ๆ ที่เคยชิมจนรู้ว่าหวานปานขาดใจ คิด ๆ แล้วมันก็ยังคงรสชาติเดิมไม่เปลี่ยนแปลง มือแกร่งยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามรูปปากสวยอยากถวิลหา ไม่มีอีกแล้วความลังเลและสิ่งที่เฝ้ากังวลถึงใครอีกคนเมื่อก่อนหน้านี้ ...
ผมขอโทษนะ ถึงพี่จะไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ช่วยยกโทษให้ผมเถอะ
อืม! ชั้นยกโทษให้นาย คนตรงหน้าตอบอย่างแทบไม่ต้องคิด รอยยิ้มหวาน ๆ นั้นดึงดูดให้ใบหน้าคมโน้มตัวลงมาฝังรอยจูบประทับไว้บนเรียวปากที่อ่อนนุ่มที่สุดในโลก ชายหนุ่มนึกเบาใจที่คนรักยินยอมแย้มเผลอริมฝีปากให้ลิ้นร้อน ๆ ของตนได้มีโอกาสรุกรานความชื้นด้านใน ดวงตาคมหลับตาพริ้มเมื่อลิ้นทั้งคู่แตะเคล้าคลึงกัน
มันหวานก็จริงอยู่ แต่ทำไมถึงเย็นเฉียบขนาดนี้นะ ร่างกายบอบบางที่โอบกอด เบาหวิวราวปุยนุ่นจนแทบสัมผัสถึงเนื้อหนังไม่ได้ อ้อมแขนที่เคยพันธนาการทั้งคู่ไว้ด้วยกันกลับว่างเปล่าเหมือนสายหมอกที่ปรากฏภาพขึ้นมาให้เห็นแล้วจู่ ๆ ก็จางหายไปพร้อมแสงอาทิตย์อุ่น
คิ้วเข้มขมวดกันยุ่ง ปรือเปลือกตาขึ้นมาหวังมองหน้าคนรัก แต่กลับพบเพียงเงาจาง ๆ ที่กำลังเลือนหายไปที่สุด ยิ้มสุดท้ายที่ดวงตาคู่คมมองเห็น มันคือรอยยิ้มที่ไม่คุ้นเคย รอยยิ้มแห่งความเจ็บปวด และรอยยิ้มแห่งความเสียใจ..
พี่ ...
พี่เฮซอง
มือหนาไขว่คว้าร่างที่กำลังหายไปราวเงาจาง ๆ ไว้อีกครั้ง หัวใจบีบอัดจนรู้สึกเจ็บปวดไปหมด
อีกแล้วเหรอ ... นี่เค้ากำลังโดนหลอก หรือกำลังหลอกตัวเองกันแน่ รอยจูบเย็นเยียบยังตราตรึงอยู่บนริมฝีปาก แผ่นหลังที่ร่างบางลูบไล้ประโลมปลอบยังทิ้งร่องรอยอุ่น ๆ แล้วทำไม
... . .
ทำไมนะ ... ทำไม
พี่เฮซอง ... พี่ .... พี่~~~~~~ ..
............... ... . . . .
พี่จิน ... พี่จินฮะ ..
เสียงแผ่วหวิวลอยมาอีกครั้งจากที่ไกลแสนไกล คราวนี้รอบตัวสว่างไสว ไม่มีแผ่นฟ้าสลัวดั่งเคย
จอนจินกระพริบตาปริบ ๆ ให้ดวงตาชินกับแสงจ้า ๆ ของดวงไฟหลากดวงบนเพดาน รอบ ๆ ห้องก็ล้วนมีแต่สีขาวจนตาพร่าไปหมด
ที่นี่ที่ไหน
เสียงแหบสั่นถูกขับออกจากลำคอที่แห้งผากประหนึ่งตัวเองเพิ่งเดินผ่านทะเลทรายมาหลายสิบกิโล ก็ไม่ปาน
โรงพยาบาลน่ะฮะ พี่จินเป็นลม
เสียงตอบกลับนุ่มนวล แม้จะดูเหมือนฝืนที่จะพูดให้ทุกพยางค์ชัดเจนก็เถอะ
เค้าเป็นลมงั้นเหรอ ใช่สิ เค้ากลัวเลือด ..แม้แค่รอยมีดบาดนิดหน่อยก็หน้าซีด แต่นี่ ...เลือดที่ไหลเป็นแอ่งราวบ่อน้ำน้อย ๆ บนถนนนั่น .. แถมเลือดนั้นยังเป็นเลือดของ ...
หมายความว่า...
ไม่ต้องห่วงนะฮะ พี่เฮซองปลอดภัยแล้ว
เฮซอง? ปลอดภัย?... แอนดี้! นี่เรากำลังจะบอกพี่ว่า ... ไม่ต้องรอคำตอบจากคนตัวเล็กที่ก้มหน้างุด เพราะเบื้องหน้าเค้า เตียงนอนขาวสะอาดได้รองรับร่างที่นอนสงบนิ่งไว้ร่างหนึ่ง.. ร่างที่เหมือนกันกับใครคนนึงที่ยืนโอบกอดเค้าเมื่อครู่ ร่างที่ยิ้มให้เค้าด้วยแววตาเศร้าหมองก่อนจะเลือนลางจนจางหายไปต่อหน้าต่อตา..
จอนจินผลุดลุกจากโซฟาอย่างเร็วจนหน้ามืด แต่ก็ยังตะเกียกตะกายไปถึงเตียงนอนตรงหน้าจนได้
ไม่เป็นอะไรมากหรอกฮะ แขนซ้ายหัก เข้าเฝือกแล้ว และก็รอยแผลถลอกตามตัวนิดหน่อย เสียงแอนดี้ดังแทรกขึ้นมา ขณะที่เค้าพยายามเอื้อมมือไปแตะบริเวณหน้าผากที่มีผ้าก็อตพันไว้เหนือคิ้วซ้าย แพขนตานิ่ง เปลือกตาพริ้มมองเผิน ๆ ก็เหมือนนอนหลับธรรมดา แต่เฝือกสีขาวที่หุ้มแขนไว้ข้างลำตัวนี่สิ มันทำเอาเค้ารู้สึกผะอืดผอมชอบกล เพราะมันตอกย้ำให้เค้าได้รู้ว่าเรื่องทั้งหมด มันไม่ใช่ความฝัน
... นี่สินะ ความจริง ...
. . . จอนจินถูกแม่ของเฮซองไล่ให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน แม้จะยืนยันว่าตนอยากนอนเฝ้าคนป่วยเองก็ตาม เหตุผลเพราะพรุ่งนี้เค้าต้องมีเรียน แต่ในเวลาแบบนี้ จะเอากะจิตกะใจที่ไหนมาใส่ใจบทเรียนได้ เฮซองบาดเจ็บเพราะเค้า เป็นเพราะเค้า ... แล้วแบบนี้ยังจะให้อภัยตัวเองได้ยังไง
และสุดท้าย เค้าก็ต้องยอมเดินคอตกกลับไป โดยที่ผู้ป่วยเองก็ยังไม่ฟื้นจากนิทรา ถึงแม้ว่าจะปลอดภัย แต่ใครจะรับประกันได้ว่าจะไม่มีอะไรร้ายแรง เค้าอยากอยู่ดูให้ชัดเจน อยากเป็นคนที่เฮซองเห็นคนแรกหากลืมตาตื่น ถึงแม้จะรับประกันไม่ได้ว่าหากคนรักของเค้ารู้สึกตัว จะยังต้องการมองหน้าเค้าอีกมั้ยก็ตาม
...............
แอนดี้ลืมตาขึ้นมาก็พบเพียงห้องที่ว่างเปล่า ดวงตาที่แฝงความเหน็ดเหนื่อยไว้จนปิดไม่มิดกระพริบถี่ ๆ รับแสงอาทิตย์ยามเช้า เหมือนตัวเองเพิ่งข่มตาหลับลงได้ไม่กี่ชั่วโมงนี่เอง
เมื่อคืนหลังกลับจากโรงพยาบาล เค้าก็ตรงดิ่งกลับบ้าน ไม่ได้แวะไปหาเอริคที่ห้องเหมือนทุกครั้ง ไม่แน่ใจว่าเอริคจะรู้เรื่องทั้งหมดรึยัง เพราะทั้งเอริคและเฮซองก็อยู่มหาลัยเดียวกัน แล้วถ้ารู้ล่ะ เอริคจะคิดยังไงกับเรื่องนี้
RRRRRRRRR~~~
เสียงโทรศัพท์มือถือหัวเตียงดังขึ้นมาทำให้คนตัวเล็กสะดุ้ง จำใจลุกขึ้นมารับสาย
ตื่นรึยังแอนดี้ สายแล้ว
ตื่นแล้ว
เย็นนี้จะไปเยี่ยมเฮซองที่โรงพยาบาล นายรู้แล้วใช่มั้ยว่าซองมันโดนรถชน ไว้เจอกันหน้าโรงบาลนะ
เย็นนี้ไม่ว่างน่ะ มีงานที่โรงเรียน นายไปเหอะ
งั้นเหรอ ...งั้นไว้เจอกันที่บ้านนะ
วันนี้จะนอนกับแม่น่ะ แค่นี้นะ ต้องอาบน้ำแล้ว แอนดี้กดวางสายดื้อ ๆ เสียงเอริคทำเอาหัวใจดวงน้อยห่อเหี่ยวลงไปอีก ..
ถ้านายรู้ นายจะเกลียดชั้นมั้ยนะ เอริค
ที่โรงเรียน วันนี้จอนจินไม่ได้มาเรียนเหมือนที่คิดไว้ ก็ดี เพราะถ้าเจอหน้ากัน ไม่แน่ใจว่าจะต้องตีสีหน้ายังไง ... แอนดี้เดินเอื่อย ๆ ไปยังหลังตึก เปิดประตูห้องเก็บของที่เค้าไม่ได้แวะเวียนเข้ามานาน แล้วขังตัวเองไว้ในนั้นตลอดทั้งวัน ...
เก้าอี้ถูกเปลี่ยนที่จากกลางห้องไปอยู่อีกมุมหนึ่ง แต่โต๊ะที่เคยนอนยังคงอยู่ที่เดิม เด็กน้อยเอนตัวลงกับที่พักประจำอย่างเหนื่อยล้าหัวใจ ช่องอกที่เหมือนเป็นแผลกรวงโบ๋แปลก ๆ แม้ความกังวลจะเกาะกินความรู้สึกจนไม่มีช่องว่างอื่นให้ได้สอดแทรก แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการนอนดึก และเพิ่งผ่านเหตุการณ์น่าหวาดกลัวมาหยก ๆ เด็กน้อยจึงเผลอหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน ..
..
ร่างโปร่งในชุดผู้ป่วยสีขาว เอนตัวหนุนหมอนโดยมีเสบียงอาหารมากมายเบื้องหน้า ใบหน้าที่นิ่ง แววตาดุดันที่เคยไหวระริกกลับเย็นชาจนน่าใจหาย ใครบางคนส่งเสียงออดอ้อนอยู่ข้าง ๆ กาย แต่ก็ยังไม่สามารถทำให้บรรยากาศดีขึ้นไปกว่านี้ได้เลย
ทานหน่อยนะฮะ ไม่งั้นพี่ก็ไม่หายหรอก อยากฉีดยาเหรอ
วางไว้เถอะ แล้วนายก็กลับไปซะจอนจิน ชั้นจัดการเองได้
พี่... ผม... ผม
พอเถอะ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น.. ชั้นเข้าใจดีทุกอย่าง
พี่ไม่ได้เข้าใจดีหรอกนะฮะ พี่กำลังเข้าใจผิด ผู้ป่วยที่ดูแข็งแรงขึ้นมานิดหน่อยจากเมื่อวาน พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หันกลับมามองหน้าคนตรงหน้า แม้สายตาขอโทษ น้ำเสียงวิงวอน และอาการเอาอกเอาใจจะประเดประดังเข้ามาอย่างไม่ยั้ง แต่มันก็ยากจริง ๆ นะ หากจะให้ลบภาพวันนั้นไปได้
ชั้นไม่ได้ตาบอด ชั้นไม่ได้คิดไปเอง ถ้านายจะบอกว่านายไม่ได้ตั้งใจ ชั้นก็เข้าใจแล้ว และขอให้นายกลับไปดีกว่า
ทะเลาะอะไรกันน่ะ ดังไปถึงหน้าห้องเลย แล้วนี่ทำไมไม่ทานข้าวล่ะซองกี๊
ไม่มีอะไรหรอก ผมแค่รอแม่มาป้อนข้าวให้น่ะครับ
หืม! รอแม่มาป้อน เราน่ะเจ็บมือข้างซ้ายนะ คิดว่าป่วยแล้วจะอ้อนงั้นสิ หญิงสาวสูงอายุยิ้มใจดีให้ เฮซองมองใบหน้ามารดาของตัวเองฝืนยิ้มแย้มให้อย่างไร้พิรุธ
มันไม่ถนัดน่ะ ผมจับส้อมกับช้อนในมือเดียวกันไม่ได้หรอกนะครับแม่
ให้จอนจินป้อนสิ ประโยคแห่งความหวัง ทำเอาคนที่นั่งหน้าเศร้าเผลอยิ้มอย่างยินดี กำลังจะเอื้อมมือไปหยิบช้อนเพื่อทำหน้าที่โดยเต็มใจอยู่แล้ว หากแต่ ...
ไม่เอาอ่ะ แม่ป้อนดีกว่า จอนจินเค้าต้องกลับแล้วล่ะครับ ใช่มั้ย? ผู้ป่วยหันมาเลิ่กคิ้วใส่คนร่างสูงที่มีสีหน้าสลดลงอย่างเห็นได้ชัด มันอาจดูเป็นคำถาม แต่ความจริงเหมือนคำสั่งซะมากกว่า
ฮะ ผมจะกลับและฮะแม่
งั้น ป้อนก็ป้อน โตแล้วนะยังจะอ้อนแม่อยู่อีก จอนจินยอมลุกขึ้นเสียสละเก้าอี้ให้หญิงสาวนั่ง ส่วนตัวเองได้แค่ยืนมองคนรักทานอาหารตรงหน้าด้วยความเอร็ดอร่อย แต่ความรู้สึกภายในนั่น คงบอบช้ำไม่ต่างกันนัก ... ทำไมเค้าถึงรู้น่ะเหรอ ก็ดวงตาของคนร่างบางคู่นั้นบ่งบอกความรู้สึกได้ดียิ่งกว่าคำพูดน่ะสิ ...
และตอนนี้ ดวงตาเรียวดุมันบอกเป็นนัย ๆ ให้เค้ารู้แล้วว่า ... ครั้งนี้ การให้อภัย คงไกลไปสำหรับเรา ..
แล้วมันก็ยังไม่จบลงง่าย ๆ
อารัยกานเนี๊ยะ
คอมเม้นทุกคอมเม้นมีค่า ระวังมันจะกลายมาเป็นพล็อต เหอ ๆ ๆ
...
Create Date : 20 มีนาคม 2552 |
|
16 comments |
Last Update : 20 มีนาคม 2552 20:09:36 น. |
Counter : 1621 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: wizze IP: 124.120.107.181 20 มีนาคม 2552 23:45:40 น. |
|
|
|
| |
โดย: praery_za IP: 58.10.170.7 21 มีนาคม 2552 1:28:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไอ้หนูลูกพ่อ IP: 58.8.39.47 21 มีนาคม 2552 11:09:50 น. |
|
|
|
| |
โดย: ket_dd IP: 202.151.41.53 21 มีนาคม 2552 11:17:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: Best IP: 124.120.157.195 21 มีนาคม 2552 13:58:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: piyawan IP: 118.172.241.45 21 มีนาคม 2552 14:23:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: andyBE IP: 58.9.192.115 21 มีนาคม 2552 21:46:05 น. |
|
|
|
| |
โดย: โบ_andyholic IP: 119.31.37.195 21 มีนาคม 2552 22:28:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: duckie IP: 124.121.27.207 29 มีนาคม 2552 21:17:00 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ซองเจ็บจริง..(คิดถึงหน้าซองตอนนี้แล้วถึงกับกลืนน้ำลาย..เพราะซองหล่อเกินกว่าจะเจ็บ~)
แต่ยังทะเลาะกับจินได้ขนาดนี้คงไม่เป็นไรแล้ว
อืม..ความจริงเราควรสงสารจินที่ต้องตามง้อซอง
แต่ทำไมเรารู้สึกดีใจ..ที่สองคนนั้นจูบกันจริง~
อ่ะ...ตอนนี้อยากรู้ซะแล้วว่าป๋ารู้เรื่องสองคนนี้เมื่อไหร่กัน
ขอรู้ด้วยตัวเอง..แทนซองบอกได้ไหมพี่พุด?
สาวกสนับสนุนดี้นอกใจริคขอเชียร์ออกนอกหน้า~ 55+