ตุลาคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
19 ตุลาคม 2552

ความประทับใจท่ามกลางลมหายใจแห่งความตาย

ความประทับใจท่ามกลางลมหายใจแห่งความตาย

เดือนตุลาคม 2552 ช่วงกลางเดือนหลังเป็นเวลาปิดเทอมอันแสนหวาน ผมเก็บเสื้อผ้าสองสามชิ้นใส่กระเป๋า ออกเดินทางจากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาฬสินธุ์ บ้านเกิดเมืองนอน โดยมีน้องสาวอยู่ ร้านอาหารสโมสรบางคนขอติดรถไปด้วย แต่ผมปฏิเสธเพราะเกรงว่าจะถูกล่อลวงไปในทางมิดีมิร้าย (ขอโทษน้องๆนะครับ พูดเล่น ความจริงคือเรากลับบ้านไม่ตรงวันกัน)

ผ่านสระบุรี เข้าโคราชประมาณเที่ยงวัน แต่เพราะความใจลอยคิดถึงใครบางคน ทำให้ลืมเลี้ยวซ้ายไปทางขอนแก่น แต่ทะลึ่งตรงไปทางบุรีรัมย์แบบมีน ๆ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปนานพอสมควร

(นิทานเรื่องนี้สอนว่า ขับรถอย่าคิดถึงใครบางตนให้มันมากนัก ฮา)
บ่ายสองกว่าๆ แวะเข้าจังหวัดมหาสารคาม อีกไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็ขับผ่านตัวจังหวัดกาฬสินธุ์

และเมื่อผ่านโรงพยาบาลประจำจังหวัด ความทรงจำเก่าก็ผุดขึ้นมาแบบไม่ต้องขอ เป็นความทรงจำทั้งแย่และดี ผสมผสานกันไป

+++++
หลายปีก่อน คุณแม่ผมเป็นโรคพยาธิตัวตืดเข้าไปฝังในสมอง กลายเป็นแคลเซียม เกาะสมอง ทำให้มีอาการชัก ไม่รู้ตัว ประมาณว่าคุยกันอยู่ดี ๆ แม่ก็ล้มลงขาดสติจนต้องส่งโรงพยาบาล

ผมลางานไปเยี่ยมแม่ ซึ่งอยู่โรงพยาบาล อยู่ห้องทั่วไป มีคนไข้อยู่หลายเตียง แต่ละเตียงอาการโคม่า ผมไปอยู่กับแม่ ไม่มีที่นอนเพราะญาติคนป่วยเยอะมาก ผมต้องนอนใต้เตียงคนไข้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ คนอื่นก็ทำแบบเดียวกัน อากาศร้อนจนเหงื่อไหลทั้งวันทั้งคืน แต่ตอนนั้นเหมือนไม่สนใจ เพราะคนอื่นๆหลายสิบคนก็ทนอยู่แบบนี้ แบบเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน

ทุกวัน มจะเห็นคนไข้ในห้องตายไปต่อหน้าต่อตา ศพถูกนำออกไป พวกนางพยาบาลยกมือไหว้ศพทุกศพเหมือนขอโทษที่ไม่สามารถรักษาชีวิตคนไข้ไว้ได้ เห็นความทรมานของคนไข้ใกล้ตายเพราะเตียงอยู่ข้าง ๆ กันนั่นเอง เป็นสังคมอีกแบบหนึ่งที่ผมไม่เคยเจอมาก่อนเลย

ท่ามกลางกลิ่นไอแห่งความตาย ผมเริ่มรู้จักเพื่อนในห้อง หมายถึงคนเป็นญาติมาเยี่ยมดูแลคนไข้

ไม่ถึงวันด้วยซ้ำไปพวกเราเริ่มคุ้นเคยกัน เริ่มช่วยเหลือกัน ปกติผมจะคอยเช็ดตัวให้คุณแม่เพราะอากาศร้อนและท่านไม่ได้สติ ผมหิวข้าวหรือเข้าห้องน้ำ เพื่อนร่วมชะตากรรมจะพากันมาช่วยดูแลคุณแม่ผมโดยไม่ต้องร้องขอ พวกเราช่วยเหลือกันยามยาก มีอาหารเล็กๆ น้อยๆ ก็แบ่งปันกัน โดยที่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่ถามกัน เราไม่เคยคิดเรื่องจีบกัน รู้แค่ว่าเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน

เธอคนนั้นอายุน้อยกว่าผมนับสิบปี มากับญาติหลายคน ห้องคนไข้คับแคบจนพวกเราบางครั้งต้องขอตัวออกมานั่งระเบียงนอกห้อง เมื่อน้องชายของผมเดินทางมาจากต่างจังหวัด ผมจึงมีเวลาพักบ้าง

ผมรู้แค่ว่าเธออยู่อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นเด็กบ้านนอก แต่นิสัยดีมาก เธอมาช่วยผมดูแลคุณแม่อย่างมีน้ำใจตลอดหลายวันเหมือนเป็นญาติของเธอ เธอดูแลคุณแม่ของผมเหมือนเป็นคุณแม่ของเธอหลายวัน เป็นน้ำใจที่ผมไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้รับ

คุณปู่ของเธออาการหนัก ใช้เครื่องช่วยหายใจคลอดเวลาและมีอากาศตัวบวมมือเท้าบวม หมอบอกคนไข้ไม่มีอาการตอบสนองแล้ว ผมไม่มีโอกาสดูแลปู่ของเธอเท่าที่ควรเพราะเธอมีญาติมาหลายคนช่วยดูแล

อีกไม่กี่วัน ผมย้ายคุณแม่ไปโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขอนแก่น มีน้องสาวซึ่งทำงานอยู่โรงแรมโฆษะ รับช่วงต่อ ผมรู้สึกผ่อนคลายลงเมื่อมีน้องสาวมาดูแลคุณแม่อีกแรง วันที่คุณแม่ผมย้ายออกเป็นวันเดียวกับคุณปู่ของเธอสิ้นลมข้างเตียงคุณแม่ซึ่งกำลังจะย้ายพอดี ผมไม่มีโอกาสบอกลาเธอเพราะยุ่งๆ อยู่หลายเรื่อง

ท่ามกลางกลิ่นไอแห่งความตาย ผมไม่เคยคิดว่าในสถานการณ์เลวร้าย ยังมีสิ่งหรือเรื่องดีๆ อยู่เสมอ

เธอชื่ออะไร ผมยังไม่รู้เลย

ผมเสียดายที่เราไม่รู้จักกันมากกว่านี้ แต่ไม่เสียใจเพราะสิ่งที่เธอเหลือไว้ในความทรงจำคือสิ่งดีๆ

คนดี ๆ กับความทรงจำดีๆ ก็น่าจะพอแล้ว


ผมขับรถผ่านโรงพยาบาลพร้อมกับความจำเก่าๆ นี้วิ่งเข้ามาในสมอง
น่าจะห้าปีแล้วแต่ผมยังจำได้เสมอ

คุณแม่ผมปัจจุบันท่านยังคงมีชีวิตอยู่ มีชีวิตเกินค่าเฉลี่ยของคนเป็นโรคนี้
มีชีวิตอยู่นานกว่าที่คุณหมอประเมิน

วันนี้ ผมขับรถออกจากตัวเมือง ในใจปลื้มปิติกับความจำดีๆ นั้น

15 ต.ค. 2552









 

Create Date : 19 ตุลาคม 2552
11 comments
Last Update : 19 ตุลาคม 2552 20:40:14 น.
Counter : 912 Pageviews.

 

อ่านแล้วน่าตื้นตันใจจริงๆค่ะ มิตรภาพอันใสสะอาดและความทรงจำที่อบอุ่น

 

โดย: พัด (pattysb ) 19 ตุลาคม 2552 21:44:25 น.  

 

อ่านเเล้ว ดีครับ ค่าของมิตรภาพไม่ได้อยู่ที่ระยะเวลา เเต่อยู่ที่ช่วงเวลานั้นมากกว่า

 

โดย: Boka:!!~ (Boka ) 19 ตุลาคม 2552 21:58:42 น.  

 

รู้สึกดีไปด้วยเช่นกันค่ะ

 

โดย: คนอ่อนไหวที่แกล้งใจแข็ง (Tukta21 ) 19 ตุลาคม 2552 23:18:08 น.  

 


บางครั้ง..ความประทับใจที่สุด มักบังเกิดขึ้น ท่ามกลางเหตุการณ์อันเลวร้ายที่สุด

เพราะในสถานการณ์เหล่านั้น สัญชาตญาณบริสุทธิ์ของมนุษย์มักถูกจุดให้เกิดขึ้น

และเหนืออื่นใด.. นั่นคือความรู้สึกสูงสุดอันมีค่า ซึ่งก็คือ ความรัก มิตรภาพ และการเห็นอกเห็นใจ

แต่ก็แปลกนะ.. ในเวลาปกติ ทำไมคนเรามักจะลืมสิ่งเหล่านี้ ?

โรงพยาบาลคือสถานที่เกิดแห่งสัจธรรม การเกิด เจ็บ และตาย ดังนั้นจึงมักเป็นแหล่งรวมอะไรดีๆอย่างมากมาย

ดีใจค่ะ.. ที่ได้ทำงานในโรงพยาบาล เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้สัจจธรรมแห่งชีวิตมากมายเลย ^__^

ขอให้คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรงนะคะ
ยังคิดถึงเพื่อนเก่าที่ชื่อ GTW เสมอเช่นกัน
แต่ไม่รู้ว่าจะยังจำกันได้อีกไหมนะ ^^

 

โดย: กานต์จิรา (ธีตภากร ) 20 ตุลาคม 2552 9:47:31 น.  

 

อินไปกับเรื่องนี้เลยค่ะ อาจเป็นเพราะว่าเคยตกอยู่ในเหตุการณ์อย่างเดียวกันกับพี่ชายมาแล้วก็ได้ แต่ของอินนี่เป็นความทรงจำที่อยู่ข้างจะแย่นิดนึง แต่แย่กับหมอนะคะ ไม่ใช่กับบรรดาญาติผู้ป่วยที่อยู่เตียงข้างๆ (แย่ประมาณวันหนึ่งๆ อยากกระโดดต่อยหน้าหมอสัก 3 เวลาหลังอาหารนั่นล่ะค่ะ)

 

โดย: อินทรายุธ 22 ตุลาคม 2552 11:47:27 น.  

 

เพิ่งได้เข้ามาอ่านค่ะ อ่านแล้วน้ำตาซึม มนเองมีแต่ลูกชายหวังว่าวันหนึ่งเมื่อเค้าโตขึ้นคงจะรักแม่ดูแลแม่เหมือนที่พี่ชายรักนะคะ

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องดีๆแบบนี้แต่ก็เศร้าใจไปกับเรื่องราวที่ได้รับรู้ เหมือนที่พี่พูดนะคะว่าในความเลวร้ายยังคงมีแสงแห่งความดีงามแทรกมาให้เห็นอยุ่เสมอ

ดีใจที่พี่ชายได้เจอเธอผู้มากด้วยน้ำใจคนนั้น เสียดายไม่ได้รู้จักถามไถ่ชื่อกันเอาไว้ อย่างไรก็คนบ้านเดียวกัน ติดต่อกันไว้น่าจะดีนะคะ

ปีใหม่นี้ขออวยพรให้คุณแม่ของพี่และครอบครัวของพี่ชายมีความสุขมากๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงนะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะคะ อย่ามัวแต่ดูแลคนอื่น

ปล.เกือบลืม ใจลอยขับรถระวังนะคะจะไปโผล่ประเทศเพื่อนบ้านเอา 555+

 

โดย: มนต้นไม้ (Setakan ) 29 ธันวาคม 2552 20:43:51 น.  

 

ขอบคุณ

คุณ พัด (pattysb

คุณBoka:!!~

คุณ คนอ่อนไหวที่แกล้งใจแข็ง (Tukta21

คุณ กานต์จิรา (ธีตภากร

คุณ อินทรายุธ

คุณ มนต้นไม้ (Setakan

ขอบคุณมากๆๆที่แวะมาเยือนครับ
ดีใจมากเลย




 

โดย: Psycho man 12 มกราคม 2553 1:13:03 น.  

 

ดีใจที่ได้อ่านเรื่องสั้นที่ไม่สยดสยองเรื่องนี้ แม้จะเขียนมาตั้งปีหนึ่งแล้ว

ผมชอบมากครับ พอจะบันเทาความคิดถึงได้ครับ

 

โดย: เจียวต้าย 23 กุมภาพันธ์ 2553 8:31:39 น.  

 

หากปอมอ่านเรื่องนี้ตอนปี 52 ปอมคงมีความรู้สึกต่างจากตอนนี้ . . .

วันที่แม่ปอมต้องเข้าโรงพยาบาล . . . เข้าๆออกๆห้องฉุกเฉินเป็นว่าเล่น . . .

วันที่แม่ที่เคยแข็งแรง . . . กลับเจ็บป่วยอย่างต่อเนื่องแบบที่ปอมกับพี่ชายตั้งตัวกันแทบไม่ทัน . . .

จากคนที่แทบไม่เคยอยู่บ้าน นอกจากเวลานอน . . .

ปอมกลายมาเป็นทั้งมือ และ ดวงตา . . .ของแม่

จากคนที่ไกลครัว . . . มาเป็นคนทำอาหารให้แม่ทาน . . .

อาบน้ำ เช็ดตัว แต่งตัวให้แม่ . . .

ปอมก็ว่าปอมโชคดีที่มีโอกาสทำอะไรให้แม่บ้าง . . ถึงเทียบไม่ได้เลย กับที่แม่ทำเพื่อปอม . . .

ร่วมดีใจกับจารย์จี ที่คุณแม่กลับมาแข็งแรง นะคะ . .

และยังได้ประสบการณ์ดีๆเหมือนปอม . . .

ท่ามกลางวิกฤติ . . . ก็ยังมีความงดงามของน้ำใจผู้คนเสมอจ้า

ขอบคุณมากๆที่ส่ง link เรื่องราวดีๆ ที่น่าประทับใจให้ปอมได้อ่านนะคะ

 

โดย: กาปอมซ่า 23 มิถุนายน 2555 22:31:20 น.  

 

สิ่งดีๆ เกิดรอบตัวเสมอ ถ้าเราเปิดโอกาสรับเข้ามา อบอุ่น

 

โดย: มาโซคิส 26 ตุลาคม 2555 18:08:30 น.  

 

คนไทยยังไม่ขาดแคลนน้ำใจ...

มิตรภาพที่ดี เกิดขึ้นตลอดเวลา เพียงแค่จะมองและลองค้นหาหรือเปล่าคะ
แต่อ่านแล้วยิ้มได้เลย... น่ารักค่ะเรื่องนี้

 

โดย: ฆโนทัย 14 กรกฎาคม 2556 23:18:22 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


Psycho man
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




[Add Psycho man's blog to your web]