20-1: งานแต่งงาน ก็แค่อีกวันเหนื่อยๆ วันหนึ่ง เท่านั้นเอง
เรา 2 คนตั้งใจนิมนต์พระภิกษุมาฉันเช้า และให้ศีลให้พร... ก่อนเวลางานตอน 7 โมงก็แอบหงุดหงิด วุ่นวายใจเล็กน้อย แต่พอถึงเวลา ได้กราบพระรัตนไตรเท่านั้น อนุสัยที่เริ่มสั่งสมมา ก็พาให้ระลึกถึงองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กราบ 3 ครั้ง กำลังของสติจึงกลับมหาศาล ตั้งมั่นยิ่ง หลังเสร็จงาน มาคุยกับเจ้าสาว... เรา 2 คนรู้สึกเหมือนกัน คือ เห็นอารมณ์ สภาวะ ลอยไปมา เกิดขึ้นเหมือนเกิดกับคนอื่น นั่นทำให้ไม่มีความประหม่า ตกใ หงุดหงิด มาย้อมใจได้เลย เรา 2 คนเลยดูจะแจ่มใสตลอดทั้งวัน ไม่ได้ทุกข์ไปกับอารมณ์อันเป็นอกุศล ไม่ได้สุขไปกับอารมณ์อันเป็นกุศล แต่เบิกบาน หรืออุเบกขา... อยู่กับการรู้สึกตัว เท่านั้นเอง ไม่ค่อยโดนอะไรมาย้อมใจเท่าไรเลย
งานเย็นเจ้าสาวจะเบิกบานกว่าผมเยอะหน่อยในตอนแรกๆ เพราะผมมัวแต่ห่วงงาน ว่าจะเป็นอะไร อย่างไร รู้ทันบ้างว่ากำลังกังวล แต่แป๊บเดียวก็กลับมากังวลใหม่ มาเต็มตื่นจริงก็ตอนเดินจากหน้างานเข้าไปที่เวที เจ้าสาวทักว่า เดินเหมือนเดินจงกรมนะพี่... โอ้ มันทั้งทางโลกด้วยน่ะนะครับ เจ้าสาวเตือนให้รู้ตัว ร่วมกับมาเห็นแขกในงาน เห็นภาพรวมในงานว่าก็พอ ok เลยไม่มีผัสสะมากระทบให้กังวลอีก...
พิธีกรเองก็เป็นว่าที่พระโสดาบัน เพราะงั้น บนเวทีจึงเต็มไปด้วยสติ จะถามจะตอบอะไร รู้สึกตัวบ่อยมากทีเดียว เนื้อหาสาระก็ เข้าทางซะส่วนใหญ่ จะคุยอะไรก็ดูไม่ประหม่ากันเลย วุดก็ถามซะ ธรรมะธรรโมเชียว ถามด้วยนะครับว่า คู่รักที่ควรเสมอกัน 4 ประการนั้น มีอะไรบ้าง... ผมเองตอบในโลก cyber นี้บ่อยๆ ร่วมกับสติเกิดบ่อยบนเวที จึงหวังว่า จะตอบได้ชัดเจน จนทำห้หลายคนเข้าใจนะครับ :}
ผมเองผมเห็นคนทั้งหลายในงานข้างล่างนั้น เหมือนไม่มีอะไร เหมือนเป็นก้อนๆ อะไรไม่รู้ เดินไปเดินมา แอบถามเจ้าสาวทีหลัง กิ๊บก็ว่า รู้สึกเหมือนภาพและอารมณ์ต่างๆ ผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้เข้ามากระทบจนกระเทือนเอาซะเลย...
อีกหนึ่งวันธรรมดา อาจจะเหนื่อยหน่อย แต่ก็ผ่านไปเหมือนวันอื่นๆ... อีกวัน
Create Date : 21 มกราคม 2552 |
|
4 comments |
Last Update : 21 มกราคม 2552 0:09:13 น. |
Counter : 485 Pageviews. |
|
|
|