BlogGang.com : : Yupin : .. ดีใหม หากจะเลิกเรียก แมนยู เจอ ลิเวอร์พูล ว่า ศึกแดงเดือดซะที ..

ขอขอบคุณ คุณrutdy ที่ให้โลโก้มาเผยแพร่คร๊าบบ

มีนาคม 2550

				1	2	3
4	5	6	7	8	9	10
11	12	13	14	15	16	17
18	19	20	21	22	23	24
25	26	27	28	29	30	31

12 มีนาคม 2550

.. ดีใหม หากจะเลิกเรียก แมนยู เจอ ลิเวอร์พูล ว่า ศึกแดงเดือดซะที ..

.. ดีใหม หากจะเลิกเรียก แมนยู เจอ ลิเวอร์พูล ว่า ศึกแดงเดือดซะที ..

.. สมัยที่ผมเริ่มดูบอลใหม่ๆ ย้อนไปจากนี้ สิบกว่าปี ..
.. แม้ว่าจะมีบอลเยอรมัน ถ่ายทางช่องสาม .. แต่ตัวเลือกที่ผมสามารถเชียร์ก็คือ ผี กับ หงส์
..
..ในช่วงก่อน ข่าวสารมันไม่เข้าถึงเหมือนตอนนี้หรอกครับ ..ถ้าคุณอยากอ่านข่าวเยอะๆ อยากดูบอลบ่อยๆ คุณก็ต้องเชียร์สองทีมนี้ และแน่นอน ผมก็เชียร์ตามที่สื่อมันเอามาให้เลือกและด้วยความที่ไม่ค่อยได้ดูบอลมากเท่าไร เพราะมันไม่ค่อยมีให้ดู .. สิ่งทุกสิ่งที่เขียนอยู่ในหนังสือพิมพ์ กีฬา คือทุกอย่างที่ผมคิดว่ามันถูกต้องและผมควรจะเชื่อ ..
..
.. ผมดูบอลอังกฤษ คลั่งและบ้า สตีฟ แม็กมานามาน จนแม็กก้า ย้ายไปมาดริด ผมจึงเริ่มมีความคิดว่า อยากจะเชียร์ อยากจะดูทีมอื่น เพราะโลกฟุตบอลมันกว้างใหญ่กว่า คำว่า ลิเวอร์พูล .... จากนั้น ผมกับลิเวอรืพูลก็จบลง

นับจากนั้น

ผมเกลียดบอลอังกฤษ เพราะเราสามารถคาดหวังแชมป์ได้เลยในนัดแรกที่เปิดฤดูกาล ไม่มีทีมใดล้มแมนยูได้แน่ๆ
..
..
.. นั่นทำให้ หลายๆปี บอลอังกฤษ น่าเบื่อมาตลอด
.. จนนฤดูกาล 2001-2002 ผมเชื่ออย่างแน่แท้ว่า แมนยู จะโดนล้มโดยอาเซนอลครับ ..
.. จำได้เลยว่า ในฤดูกาลนั้น มีสองนัดที่ผมประทับใจไม่รู้ลืม ..และผมก็ยังเก็บมันไว้ ที่ห้อง (ไปสั้งอัดซีดี )..
.. หนึ่งคือ วันเปิดฤดูกาล ที่ไปเยือนแล้วถล่มสิงห์แดง ..สี่ลูก ..
..
..
.. โรแบร์ ปีแรส ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในนักเตะในดวงใจผม ..
.. ผมจะย้อนกลับไปเล่าเรื่องราวของเกมส์นั้นให้คุณฟังครับ ..

อาเซนอล คือทีมที่เปิดฟ้าใหม่ให้กับบอลอังกฤษ ..
..
..
..
..
.. เกมส์ๆนี้ เป็นเกมส์ที่ผมจำได้ขึ้นใจ เพราะนอกจากเป็นวันที่ผมตัดสินใจเชียร์อาเซนอลแล้ว บรรยากาศยังพาไปและผมยังจำเรื่องราวในคืนนั้นได้ดี ..
..
.. ช่วงนั้นผมยังเรียนอยู่เลยครับ ไอ้ช่วงที่อยู่ ปีสาม ปีสี่เนี่ย เนื้อมันหอม คือเทียบกับช่วงอยู่ปีหนึ่งปีสองแล้ว ไม่รู้ทำไมไอ้ตอนเด็กๆจีบใครก็ไม่ติด .. แต่พอโตขึ้นไกล้จบเนีย .. กลายเป็นว่า เข้าก็วิน ซึ่งในช่วงนั้น สาวที่ผมควรอยู่ด้วยคือ รุ่นพี่ วิดวะซึ่งเรียนจบแล้วครับ .. เรารู้จักกันใน สถาบันเรียนภาษา ซึ่งก็นั่งติดกันนั่นล่ะ ..
..
.. จำได้ว่าวันนั้นไปนั่งกินบะหมี่ ทีร้านประจำของนักศึกษาที่มหาลัย (จบแล้วก็จะไปกินบัวลอยร้านโรแมนติก ๆ กันต่อ ) ..
..
.. พอดีนั่งกินแล้วที่ร้านเปิดบอลขึ้นมาพอดีเลย .... ก็เลยสัญญากันว่า เราจะเริ่มเชียร์อาเซนอล ด้วยกัน
.. ในปีนั้นคือหนึ่งปีก่อนที่จะเริ่มบอลโลกที่ญี่ปุ่น
..
..ทีมชาติฝรั่งเศส ทดลองให้ ปีแรส สวมบทจอมทัพตรงกลางสนาม แทนที่ซีดาน ซึ่งเป็นการลองสูตรใหม่ในกรณีที่ไม่มี ซีดาน (แต่ไม่ได้รู้เลยว่า ในช่วงบอลโลกหนึ่งปีจากนั้น ฝรั่งเศส จะไม่มีทั้งซีดาน และ ปีแรส )..
..
..ภายใต้การนำของ ปีแรส และ วิเอร่า .. ฝรั่งเศส เป็นแชมป์คอนเฟิดโดยการเอาชนะญี่ปุ่นลงได้ ..
..และแผนการเล่นตรงนี้เองครับ เวนเกอร์เอามาปรับใช้กับทีมของเค้าเช่นกัน ..
..
..
..
...............วิลตอร์.....................อองรี................
..ลุงเบิร์ก......ปีแรส........วิเอร่า...........พาร์เลอร์.
...โคล.........อดัม.........แคมเบลล์.........โลลอง...
...............................ซีแมน..................................
..
..นี่คือสิบเอ็ดตัวจริง ในเกมส์ๆนั้น ..
..
..

.. ปีแรส คือนักเตะที่ผมคิดว่าเป็นปีกที่ผมชื่นชอบมากที่สุด พอๆกับหลุยฟิโก้ ซึ่งมันเริ่มมาจากฤดูกาลนั้น ..
.. ขณะที่ มิลเดิ้ลเบอร์ พวกเค้านำทีมโดยเซาท์เก็ต ในแผงหลัง อินซ์ ในแผงกลางและ บ๊อกซิส ในแดงหน้า ..
.. ที่พวกเราประทับใจกันมากคือ การที่ พาร์เลอร์โดนไล่ออกในต้นครึ่งหลัง แต่อาเซนอลก็ยังบุกถล่ม ทีมเจ้าบ้านที่มีตัวมากกว่า ..
..
..และปีแรส ก็เริ่มที่จะโชว์ให้เห็นถึงเซนต์บอลที่สุดยอดของเค้า ..ในเกมส์ๆนี้ ..

..การจ่ายบอลที่แน่นอน ไม่มีการเล่นหวือหวา แต่แม่นยำและมีคุณภาพ แถมยังเล่นได้ทุกจุดในแดนกลาง ..
.. อองรี อายุพึ่งจะครบยี่สิบสี่หมาดๆ
.. และ เบิร์กแคมป์ ก็ลงมาช่วยละเลงเกมส์ในครึ่งหลัง ..
..
..
.. และหลังจากนั้น ก็ถึงเวลาถล่ม ๆ..
..
..
..
.. จุดเริ่มระหว่างผมกับอาเซนอล ..
.. วันเวลาโรแมนติก ..

.. โรแบร์ ปีแรส””
.. และปฏิบัติการยึดแชมป์จากแมนยู เริ่ม จากจุดตรงนั้น ..
..
..
..
.. ส่วนอีกนัดนึง คือการฝังแมนยู คาโรงละครแห่งความ(เฟ้อ)ฝัน แล้วเป็นแชมป์ในรังของพวกมัน .. (อันนี้ ปีแรสเจ็บไปแล้วไม่ได้ลง ก็เลยไม่ได้อัดไว้ แต่ก็ประทับใจมิรู้ลืมเลย )
.. นั่นคือหนึ่งในนัดที่ประทับใจที่สุด เท่าที่ผมดูบอลมาในชีวิตนี้เลย ..
..
..
.. ผมอัดดีวีดี การจับผีลงหม้อ ของปืนโต ในฤดูกาลนี้ไว้ทั้งสองนั้น แต่ความสะใจมันยังไม่ถึงครึ่งนึงของฟุตบอลนั้นนั้นเลย ..
..
..
..ผมเชียร์บอลสนุก เพราะตามเชียร์นักเตะที่ตนเองชอบ ..
..และในอีกทางนึง ผมเชียร์บอลสนุกเพราะได้เกลียดแมนยู ..
..
..มันไม่มีอะไรมากนัก นอกจากวันที่ผมเดินจากพวกแม่ง ไปเชียร์สามทหารเสือของลิเวอร์พูล อย่างแม็กก้า เร็ดแนป และ ฟาวเลอร์ เพราะมันทำกับนักเตะที่ผมชอบที่สุดในตอนเริ่มดูบอล อย่าง อินซ์และ แคนๆ อย่างไม่มีอะไรดี ..
..
..ผมหันหลังให้พวกแม่งนับแต่วันนั้น ..แต่หันหลังจากลีกอังกฤษด้วยเมื่อต้องทนดูพวกแม่งชนะ ๆ ๆ เรื่อยๆ ในลีกที่ ทีมเล็กกับทีมใหญ่แม่งโคตรจะห่างชั้นกัน ..
..
.. และผมเดินกลับมา เมื่อคิดว่าถึงเวลาที่พวกมันจะต้องเสียใจบ้างแล้ว ..
.. ตลอดสี่ปีที่กลับมาดูบอลอังกฤษ
.. ผมสนุก กับการเชียร์ อาเซนอล ให้เล่นงานแม่ง ..
.. และแม้ว่าปีนี้จะไม่ได้แชมป์อะไร แต่การฝังพวกแม่งไปกลับ จะมีอะไรที่มันยอดกว่านี้อีก ..
..
..
.. ผมไม่รู้ว่า แฟนลิเวอร์พูล เกลียด ผีแดง ขนาดใหน ..
.. แต่หากว่าล้มทีไรแล้วโดนพวกแม่ง ถากถางอยู่ตลอดในเวลาที่ผ่านมา ผมว่ามันก็คงเกลียด ไม่แพ้อาเซนอล (หรือเชลซีที่โดนถากถางมาตลอด โดนเฉพาะในเน็ตแม้จะชนะพวกมัน )..
..
.. แต่ยังไงๆ แล้ว ผมเชื่อว่า ศึกแดงเดือด ควรเปลี่ยนจาก แมนยู เจอ ลิเวอร์พูล ไปเป็นการเจอกันอาเซนอลมากกว่า ..
..
.. ทำไม ..
..
..
.. ตลอดสี่ปีที่ผ่านมานี้ ..
..ไม่มีนัดใดเลย ที่เกมส์แดงเดือดมีรัศมีความเกลียดชัง เท่ากับวันที่อาเซนอล เจอกับแมนยู ..
.. อาจเป็นเพราะผมไม่ได้ติดตามบอลอังกฤษ ก่อนบอลโลกที่อเมริกา ..
..แต่ผมเชื่อว่าหลังจากนั้น ไม่เคยมีเกมส์ใดเลย ระหว่างการเจอกันของลิเวอร์พูล และ แมนยู ที่ควรเรียกว่าแดงเดือด เพราะลิวเอร์พูล มันสู้ไม่ได้ ..
..
..
..
.. การโดนข่มมาตลอด แม้จะเคยชนะได้บ้าง ทำให้อะไรๆ มันดูเนือยลงไป..
..ซึ่งต่างจากวันที่ แมนยู เจอ อาเซนอล..
..
.. ยกตัวอย่าง เกมส์ระดับโลกอย่างบาร์ซ่า มาดริด ..
.. ที่สำคัญที่สุดในเกมส์นี้คือรัศมีความเกลียดชัง ..
..
.. ยอดกลับไป วันที่ฟิโก้ไปเยือนคัมป์ยู หลังบอลยูโร ที่ฮอนแลนด์ ..
..พูดได้เลยว่า เกิดมาผมไม่เคยได้ดูเกมส์ใดที่มีรัศมีความเกลียดชังมากไปกว่านี้อีก ..
..
..
.. และหากว่า จะพยายามยกเกมส์ใดเกมส์นึงที่เล่นกันในอังกฤษ ไปทาบเกมส์ๆนี้ ..
.. หากไม่ใช่ อาเซนอล เจอกับแมนยู ..ที่เกลียดกันในทุกอณูของฟุตบอลแล้วล่ะก็ ..
.. กรุณาอย่างเรียกแม่งว่า วันแดงเดือดเลยครับ .. แม่งกระดากปากว่ะ ..
..
..

.. ปีกที่ดีที่สุด หกคนในใจผม ..
..
....อังเดร แคนเชลสกี้..
.. นักเตะปีกคนแรกที่อยู่ในดวงใจของผม ในช่วงที่เริ่มดูบอล ... จังหวะกระชากไปถึงริมเส้น แล้วเปิดเข้ามาอย่างแม่นยำ รวมทั้งการลากเข้าไปทำประตูด้วยตนเอง ทำให้หมอนี่คือนักเตะขวัญใจคนแรกในสมั้ยที่ผมเริ่มดูบอล หลังจากบอลโลกที่อเมริกา แต่ผมก็พยายามหาเทปของแมนยูก่อนหน้านั้นมาดูตลอด และที่อยากดูก็ แคนๆคนนี้ล่ะ ( ชอบพอๆกับคันโตน่า และ อินซ์)
..
..
....สตีฟ แม็กมานามาน..
.. หลังจาก แคนๆ ย้ายออกไปจากแมนยู .. นักเตะที่ผมชอบที่สุดจากนั้นคือแม็กมานามาน .. ผมชอบแม็กก้า ขนาดว่า เลิกดูบอลอังกฤษไปพักนึงหลังจากที่แม็กก้าย้ายออกไป ด้วยความที่ตอนเด็กขี้ก้าง และเล่นปีกเหมือนกัน ผมพยายามลอกเลียนแบบการเล่นของแม็กก้า จนเพื่อนๆ เรียกผมว่า สตีฟ แทนที่จะเรียกชื่อเล่น .. ไม่มีอะไรมาก แต่หากถามว่า ใครคือตำนานใจใจของผม ตลอดชีวิตการดูบอล ..เค้าคือ สตีฟ แม็กมานานมานคนนี้ .
..

..หลุย ฟิโก้ ..
.. บาร์ซ่า ..คือทีมที่ผมอยากจะดูมากสุดเวลาที่มีบอลสโมสรยุโรป ก่อนปีสองพัน ..... ผมไม่เคยดูปีกคนใดที่เก่งไปกว่าฟิโก้อีก ..และหมอนี่คือคนที่ทำให้ผมคิดว่า บางครั้ง เพลเม็กเกอร์ ก็อาจมีความสำคัญในสนามน้อยไปกว่า ปีก .. บาร์ซ่า ใช้ ริวัลโด้ และ ฟิโก้ ทำแบบนั้น และทำให้ผมล้มเลิก ความคิดที่หนังสือพิมพ์ในตอนนั้นพยายามเขียนว่า เบ็คและ กิกซ์ คือปีกที่ดีที่สุดในโลก ..
..

.. บิเซนเต้ โรดรเกวช ..
.. ฟอร์มก่อนบอลยูโรที่ฮอลแลนด์ ..ทำให้ผมเลือก หมอนี่เข้ามาในหนึ่งในหก ปีกที่ผมชื่นชอบมากที่สุด .. เหมือนกับได้เห็น แคนๆเล่นอีกครั้ง แต่เป็นแคนๆ ที่ผสมกับ ปีแรส .. บิเซนเต้ ทำให้การเชียร์บาเลนเซีย ในลาลีก้า ในปี 03/04 เป็นฤดูกาลที่ประทับใจที่สุดเท่าที่ได้ดูลาลีก้ามา และผมคิดว่าบิเซนเต้คือปีกที่เก่งที่สุดในโลกเท่ากับ ปีแรส เหนือฟิโก้ด้วยซ้ำในช่วงนั้น (ในปี 03/04)
..

.. โรแบร์ปีแรส ..
.. แม็กก้า คือไอดอนของผม ในช่วงก่อนปีสองพัน แต่หลังจากนั้น เปลี่ยนมาเป็นปีแรส .. บอลที่ออกจากเค้าของปีแรส เชื่อได้เลยว่าน้อยครั้งมากที่จะเสีย และมันต้องมีความหมายตลอด .. ผมเชื่อว่าหากฟิโก้คือปีกขวาที่เก่งที่สุดในรอบสิบปี .. ปีแรสก็จะเป็นปีกซ้ายที่ดีที่สุกเช่นกัน ..
..

..
.. ไบรอัน เลาวดรูป ..
.. ปีกคนสุดท้ายที่ผมเลือกเข้ามาคือเลาว์ดรูป ผู้น้อง .. จริงๆ ผมชอบพี่น้องคู่นี้ เพราะเวลาไปเล่นบอลผมก็จะไปเล่นกับน้องชาย ..ได้ดูหมอนี่เล่นตลังจากบอลโลกที่ฝรั่งเศส และผมคิดว่าเค้ามีกศักยภาพคล้ายๆปีแรส เพียงแต่เล่นในลีกอังกฤษ ไม่นานเท่าไรทำให้ได้ดูเลาว์ดรูปเล่นไม่กี่ปีเอง แต่ช่วงเวลานั้นก็ทำให้ผม ชื่นชอบและเชียร์เชลซีครับ ..

..นากามูระ...
นี่คือไอดอลของผมเพราะผมเขียร์เค้ามาตั่งแต่เค้าไม่ดัง หมอนี่เป้นนักเตะเอเชียคนเดียวที่ผมคิดว่า อนาคตของเคาต้องอยู่ที่ยุโรปแน่นอน และก็จริงตอนนี้ นากามูระคือตัวเอ้ ของทีมชาติญี่ปุ่น และเซลติก ..ผมว่าศักยภาพโดยรวมๆแล้ว นากามูระเก่งเท่ากับเบ็คแฮม นอกจากรูปร่างที่บางกว่าแล้วผมไม่เห้นมีอะไรที่เค้าจะต้องไปกว่าเบ็คแฮม แถมจะเหนือกว่าอีกเมื่อเข้ามาทำเกมส์กลางสนามรวมทั้ง ฟอร์มและ ฟรีคิกส์ในเวลาปัจจุบัน

Savio

หมอนี่คือปีกที่อาจจะชื่อไม่ดังมากมายอะไรนัก แต่ในปีที่มาดริด คว้าแชมป์บอลยุโรปสมัยถล่มบาเลนเซียในนัดชิง ซาวิโอ คือปีกคนแรกที่ผมคิดว่าเค้าดีกว่า ทั้ง แคนๆ และ กิกซ์ซึ่งสื่อหนังสือพิมพ์บ้านเรากล่อมให้ผมเชื่อว่านี่คือปีกซ้าย ขวาที่ดีที่สุด ในโลก ไม่นับเบ็คแฮมอีกคน จนบัดนี้ดูบอลมา มีเพียง บิเซนเต้ในฟอร์มสุดยอดเท่านั้นที่สามารถเทียบกับซาวิโอในวันนั้นได้ ถึงวันนี้ผมยังประทับใจ มาดริด ในฤดูกาลนั้นไม่เคยลืม

Mido

มีโด้คือปีกซ้ายที่ผม ใช้เวลาการดูเค้าเล่นแค่สองนัด ในบอลอุ่นเครื่อง อัมสเตอร์ดัม ทัวนาเมนท์ แล้วเอาเค้ามาอยู่เป็นหนึ่งในปีกในดวงใจ ฤดูกาลหลังจบบอลยูโรสองพัน อิบราฮิโมวิช พึ่งย้ายมาอาแจ็ค เค้า มิโด้ และ ฟานเดมัยเดอร์ ทำผมตะลึงกับศักยภาพเด็กของอาแจ็ค แต่ในสองเกมส์นั้น มิโด้ เด่นสุด จริงแล้ว หากมิโด้สามารถรักษาฟอร์มแบบวันนั้นได้ตลอดล่ะก็ ทั้ง เมสซี่ และ โรนัลโด้ จะมีคู่แข่งที่น่ากลัวที่สุดเป็นแน่แท้

Create Date : 12 มีนาคม 2550

Last Update : 24 มีนาคม 2550 17:55:11 น.

7 comments

Counter : 924 Pageviews.


คุณ Yupin ค่ะ มีคำถาม 1 ข้อคะ ไม่แน่ใจว่าคุณ Yupin อยากให้ถามในนี้ หรือถามทาง e-mail คะ

โดย: Argentine girl IP: 202.44.135.35 วันที่: 14 มีนาคม 2550 เวลา:10:16:16 น.


อิอิอิ ผมรู้ว่าคุณจะถามอะไรและสิ่งที่คุณคิดไม่ผิดครับ

โดย: ปีแรส (Yupin

) วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:20:22:32 น.


ถ้าอย่างนั้น จะให้เม้าส์ที่บล็อกไหนดีคะ ส่วนหลังไมค์ คงไม่สะดวก เราใช้ได้เฉพาะยามฉุกเฉินเท่านั้น

โดย: Argentine girl IP: 58.9.189.145 วันที่: 15 มีนาคม 2550 เวลา:23:51:54 น.

ทนไม่ไหวแล้ว ขอเม้าส์เลยดีกว่า

คุณ Yupin เห็นกระทู้ที่โหวตให้เราออกจากห้องเทนนิสหรือยังคะ//www.pantip.com/cafe/supachalasai/topic/S5219556/S5219556.html

ตอนแรก เรานึกว่าจะโดนคลับเฟดถล่มเละแน่ ไปๆมาๆ กลายเป็นว่าผิดคาด เราดีใจที่เห็นบอร์ดยังมีความเป็นธรรมอยู่บ้าง ไม่ยอมให้นักเลงมาคุมง่ายๆ

บอกตรงๆนะค่ะคุณ Yupin ว่ารำคาญคลับเฟดมาก โดยเฉพาะประธานคลับ ตั้งกระทู้ยกคนที่ตัวเองเชียร์จนไม่เห็นหัวคนอื่น พอเราตั้งกระทู้แขวะกลับบ้าง ทำเป็นรับไม่ได้
เข้าข่ายที่ว่า "ฉันทำอะไรก็ไม่ผิด แต่คนอื่นทำอะไรก็ผิดไปหมด"

วันหลังจะยกกระทู้ที่ประธานคลับเฟดเคยตั้งมาให้ดูคะ

โดย: Argentine girl IP: 58.9.189.145 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:0:42:29 น.

ได้อ่านกระทู้ที่มีคนเอาเทปรายการชูวิทย์ วาไรตี้ มาให้ดูแล้วคะ อย่างฮาคะคุณ Yupin มุขคุณเด็ดจริงๆ อยากให้ทำรายการนี้อีกคะ

ไม่เหมือนมุขสร้างหนังของนายหมูย่าง ที่อ่านกี่เรื่อง ก็ไม่ขำ แป็กสนิท เห็นมีแต่พวกเดียวกันมาช่วยขำ ตรงกับคติพจน์ประจำชมรมของเขาที่ว่า "ชื่นชมกันเอง ครื้นเครงในกะลา"

เราชอบประโยคนี้มากเลยคะ อ่านกี่รอบ ก็ขำกลิ้งทุกรอบ ขออนุญาตเอาไปสวนกลับพวกคลับเฟดบ้างได้ไหมคะ
คือว่าข้างบนเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของสัตว์ชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในนี้ ดังนั้น พวกเราเป็นคน ก็อ่านให้เข้าใจก็พอครับ ไม่จำเป็นต้องตอบ หรือด่าไปด่ากันมา ไม่มีประโยชน์อะไร เราเป็นมนุษย์ชั้นสูงควรสำรวมอย่าลดตัวลงไปครับ

ป.ล. ขออภัยที่พูดมากไปหน่อยนะคะคุณ Yupin เผอิญอัดอั้นมานาน

โดย: Argentine girl IP: 58.9.189.145 วันที่: 16 มีนาคม 2550 เวลา:0:57:28 น.

เซ็งจังคะคุณYupin มีคนกดลบกระทู้เรา เราแค่เข้าไปชี้แจงว่าคนๆหนึ่งปากอย่างใจอย่าง พอเรายกตัวอย่างกระทู้ของคนๆนั้นและพฤติกรรมของคลับเฟดบางคน ก็โดนลบทิ้ง ไม่รู้ว่ารับความจริงกันไม่ได้หรือยังไง

คุณYupin อย่ายอมออกจากโต๊ะศุภฯนะค่ะ เดี๋ยวพวกมา(กันเป็น)หมู่จะได้ใจ พอไม่พอใจใคร ก็เกณฑ์คนมากดดัน ไม่อยากให้ใครเป็นเหมือนคุณสาวใช้ฯที่ต้องออกไปเพราะอำนาจเถื่อนของคนกลุ่มหนึ่ง

โดย: Argentine girl IP: 58.9.195.110 วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:21:14:31 น.

คุณArgentine girl ผมอยากให้คุณใจเย็นหน่อยครับ
อย่าไปใส่ใจอะไรมากเลยครับ คุณต้องให้คนอื่นเดินตามเกมส์ของคุณไม่ใช่คุณเดินตามเกมส์ของพวกเค้า ..เมื่อไรที่คุณรู้สึกเสียใจ ขุ่นใจจากการเล่นเน็ตเมื่อนั้นคุณกำลังเดินตามเกมส์ของพวกเค้านะครับ

โดย: ปีแรส (Yupin

) วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:22:06:17 น.

Yupin

Location :

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

สิ่งที่มนุษย์ควรมี นั่นคือ ศีล สมาธิ ปัญญา และ การมีสติ

ผมเชื่อว่า การที่คนเราละอายต่อการทำบาบ ละอายต่อการทำความผิด นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด ประเทศบ้านเมืองไมจำเป็นต้องมีกฏเกณฑ์ อะไรมากมายหากคนเราละอาย และเกรงกลัวต่อการทำบาบ เพราะนั่นทำให้คนเราเกรางกลัวที่จะทำมาจากในใจของตนเอง

การทุจริต โกงกินประเทศชาติ การขับรถโดยไม่สนใจกฏของสังคม และสิ่งต่างๆ สิ่งเลวๆที่เกิดขึ้นนั่นเพราะ คนเมื่อเชื่อในเรื่องบุญบาบ

เราไม่สามารถจะไปควรคุมคนอื่นได้ แต่เราสามารถควบคุมการการทำของตัวเราเองได้

ผมเชื่อว่าคนเราเกิดมาไม่นาน และการมีชีวิตอยู่ในโลก คือโอกาสของการได้กระทำความดี

ทำดี คิดดี คิดให้มีความสุข จิตใจผ่องใส่ นั่นคือสิ่งที่คนเราควรทำ

ผมว่าชีวิตเราอยู่ง่ายๆครับ

1.ไม่ฆ่าสัตว์
2.ไม่ลักทรัพย์
3.ไม่ประพฤติผิดในกาม(แย่งลูกเมียคนอื่น)
4.ไม่พูดปด
5.ไม่ดื่มสุรา

แค่นี้ชีวิตก็อย่สบายและมีสุขแล้ว ผมจะขอเพิ่มอะไรเข้าไปนิดนึงครับ นั่นคือ ลองคิดก่อนเราจะทำอะไรทุกๆอย่าง ว่า
กับสิ่งที่เรากำลังจะทำ ถ้าคนไทยทุกคนทำเหมือนเรา เมืองไทยเราจะเป็นอย่างไร ถ้าลองคิดดูแล้วว่า มันเป็นเรื่องดี จะนำพามาซึ่งความสุขแล้วล่ะก็ ทำไปเถอะ แต่ถ้ามันเป็นทางตรงกันข้าม อย่าทำเลย

บันฑิต บางคนบอกว่า มันคือ คำที่ใช้เรียกคนที่ร่ำเรียนจบ ปริญญาตรี
แต่ในความเป็นจริง ที่เรียก บัณฑิต ได้นั้น คนๆนั้น จะต้องมีความรู้
เพราะ บัณฑิตนั้น แปลว่า ผู้รู้

แล้วรู้อะไร..
รู้ว่าสิ่งใหนควร สิ่งใหนไม่ควร
สิ่งใหนถูก สิ่งใหนผิด
สิ่งใหนควรทำ สิ่งใหนไม่ควรทำ และ ควรทำเวลาใด
และที่สำคัญที่สุด บัณฑิตต้องรู้จักกาล รู้จักบุคคล รู้จักสถานที่

รู้จักกาล คือ รู้ว่าเวลาใหน ตอนใหน ควรทำอย่างไร วางตัวเช่นไร จึงจะเหมาะสม

รู้จักบุลคล คือ รู้ว่ากับบุลคลเช่นนี้ เราควรปฏิบัติตนกับเค้าอย่างไร ควรทำอย่างไร วางตัวเช่นไร จึงจะเหมาะสม

รู้จักสถานที่ คือ อยู่ ณ ที่แห่งนี้ เราควรทำอะไร ควรทำอย่างไร วางตัวเช่นไร จึงจะเหมาะสม

อะไรดี อะไรเลวง่ายๆ แค่ลองคิดดูว่า หากทุกคนทำแบบที่เรากำลังจะทำ มันจะเป็นอย่างไร ถ้าเกิดว่าหลังตาแล้วเห็นแต่ความวิบัติ นั่นล่ะ เค้าเรียกว่า สิ่งเลว แต่หากเห็นแต่ สิ่งดีสิ่งงาม นั่นล่ะ คือ สิ่งดีที่เรา ควรจะทำ

ทำเลว แม้ไม่มีคนเห็น มันก็เป็นสิ่งเลววันยังค่ำนั่นล่ะ

**********************************
Blue(11) ---> คนไทยที่รักในฟุตบอลของตัวเอง เพื่อกนาคตของพวกเราเอง
************************************
Red ---> คนไทยที่เป็นทาสบอลนอก
************************************
Yellow ball ---> โอกาสของไทย กับคำว่า "ฟุตบอลโลก"
************************************
Blue (17) ---> Mr.Chuwit !!!
************************************

เพลง สายเกินไป

ศิลปิน ริบบิ้น&ใหม่

อัลบั้ม เต้นรำระบำยอดหญ้า

[Add Yupin's blog to your web]

Bloggang.com