Group Blog
 
 
มิถุนายน 2558
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
18 มิถุนายน 2558
 
All Blogs
 

ความกดดัน + ฝันของพ่อ

15+4  สัปดาห์จ้า

เดี๋ยวนี้พุงแม่ชัดแล้ว ชอบจังๆ  เอาไว้ลูบเล่น


มีวันนึงแม่รู้สึกเหมือนลูกดิ้นแล้ว  พ่อหนูเอามือจับมั่งก็ว่าไม่แน่ใจ อ่ะ ดิ้นก็ดิ้น
แต่จริงๆ  ในเวบบอกอย่างน้อยน่าจะ 18 wk  ก่อน

แม่เล่าให้น้าเก๋ฟัง น้าเก๋สรุปทันทีว่า "มโน"
แม่เถียง ว่าพ่อก็รู้สึกนะ  น้าเก๋ว่า  "มโนคู่"

โอเค ยอม



Cr little monster//FB



ตั้งแต่รู้ว่าหนูมาแล้ว  เราต้องลุ้นแทบจะทุกอาทิตย์

อาทิตย์แรก ค่าฮอร์โมนขึ้น แปลว่าแม่ท้องแล้ว  กำลังจะดีใจ ซึ้ง ตื่นเต้นจะได้เป็นแม่  
หมอสูติว่าอย่าเพิ่งดีใจ สัปดาห์หน้าฮอร์โมน HCG ต้องขึ้น double ทุก 2 วัน  จากสิบกว่าๆ  ต้องกลายเป็นหลักพัน ค่าฮอร์โมนจากรังไข่ต้องได้เกินเท่านั้นเท่านี้  แล้ว ultrasound ต้องพบถุงการตั้งครรภ์ตำแหน่งเหมาะสม  

และจะมีการบ้านประมาณนี้ทุกๆรอบที่ต้องเจอ

แม่เจาะเลือดครั้งละ 20-30 cc  ลุ้นค่าฮอร์โมนทุกๆ รอบ   รอลุ้นหัวใจเต้น  ลุ้นศีรษะกับกระดูกส่วนหลังปิด ไม่มีปัญหา neural tube defect   โรคนี้คือ ทารกที่มีปัญหาบางอย่างทำให้หลอดประสาทไม่ปิด  ทารกจะเสียในครรภ์หรือคลอดออกมาไม่กี่วันก็ไป  ลุ้นโครงใบหน้าจะมีปากแหว่งเพดานโหว่มั้ย  มีแขนขามั้ย ตัวยาว ศีรษะโตเรื่อยๆ ตามเกณฑ์มั้ย   

หลายเคส มีบางอย่างไม่ปรกติ หมอสูติจะให้ยุติการตั้งครรภ์ บางเคสก็ฉีดยาให้ทุกอย่างหลุดลอกออกมา  

ความกลัวกดความดีใจ ให้เป็นความชาๆ เนือยๆ  
กดซ่อนความกลัวไว้ลึกๆ ไม่อยากพูด ไม่อยากคิดถึง ไม่อยากมองแง่ร้าย แต่ก็ไม่กล้าประมาท หรือลิงโลดใจ 

แม่หนูเป็นคนแบบนี้นะ 
เวลาเจอ stress จะกดให้ความรู้สึกชาๆ ชอบทำเหมือนไม่มีอะไร เพราะระบบทุกอย่างกดให้ชาๆ ไม่เจ็บมาก ทำงานการอื่นได้แต่ยังมีก้อนทุกข์ชาๆ หนักอึ้งในใจ ไม่อยากพูดถึง ไม่อยากระบายกับคนอื่น ถ้าพูดออกมาจะรู้สึกเหมือนถูกกวนตะกอนให้เจ็บมากขึ้น ชอบปล่อยให้ชาๆ ขุ่นๆ ในใจลึกๆ อยู่คนเดียว  หาทางออกคนเดียว และทนชาๆ จนถึงปากทางออกได้

ช่วงนั้นบางทีเจอใครถามว่ามีข่าวดียัง เราอึดอัดที่จะตอบ  เราไม่อยากโกหกว่ายังค่ะ 
เราอยากอวดใจจะขาดว่าท้องแล้ว แต่ แต่....  แต่หมอสูติก็บอกอย่าเพิ่งดีใจ อย่าเพิ่งอวด
ได้แต่ตอบเลี่ยง ที่เป็นกลางๆ ว่ารออยู่ค่ะ

เพื่อนบ้านคงงง ว่าอาทิตย์ที่แล้วเพิ่งบอกว่ารออยู่
อีกอาทิตย์ก็บอกว่าท้องมา 3 จะ 4 เดือนเข้านี่แล้ว 


ครั้งนึงแม่คุยกับกลุ่มเพื่อนๆ 

น้าคนแรก   มีข่าวดีหลานเก่งสอบเข้าสาธิตได้ 
น้าคนสอง   ของเรา ขอแค่ลูกยอมทำการบ้านก็ดีใจแล้ว
แม่    ของเราสิ แค่หวังให้ลูกรอดเกิน 12 สัปดาห์ ก็ดีใจที่สุดแล้ว


แม่พูดอย่างนั้นก็จริง แต่ก็รู้ดี  ในความจริงแล้ว
ความหวังของคนเราไม่หยุดอยู่แค่นี้หรอกลูก

หนูแข็งแรงจน 12 สัปดาห์ แม่ยังต้องลุ้นจนหนูคลอด โตมาก็ต้องลุ้นอีก จะเป็นเด็กแบบไหนกันนะ เลี้ยงยากไหม กินเก่งหรือเปล่า เรียนดีไหม แข็งแรงหรือเปล่า ปรับตัวกับเพื่อนและคุณครูได้มั้ย พัฒนาการจะเป็นยังไง จนสอบเข้ามัธยม อยากเรียนอะไรต่อ สอบเข้ามหาลัยได้ไหม จบแล้วทำงานอีก ไหนจะเรื่องแฟนอีก จบเรื่องลูกแม่ก็ห่วงหลานแม่ต่ออยู่ดี

ความรักของแม่คงวนเวียน เฝ้าห่วงลูกไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของแม่อยู่ดี



พ่อของหนู มีวิธีรับ stress ไม่เหมือนแม่

พ่อจะพูดไปเรื่อยๆ  ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มไม่เลิก ต้องอ่าน คิด ถาม แล้วต้องพูด ต้องวางแผนสรุปออกมา อยู่กับคนอื่น เวลาทำงานการ พ่อปิดสวิทช์เรื่องที่่กังวลได้สนิท กลับบ้านมาอยู่กับแม่ค่อยเข้าโหมดกังวลต่อ 




คืนวันพฤหัส ตอนหนูอายุครรภ์ 10 สัปดาห์
พ่อฝันเห็นเลือดสีน้ำตาลเข้มหนึ่งหยด  ไหลแล้วหยดลงมา
พ่อไม่ได้เล่าเรื่องความฝัน เช้ามาก็รีบไปบอกว่าวันนี้มีประชุมใหญ่คงเดือดน่าดู

ตกบ่ายวันนั้น แม่มีเลือดสีน้ำตาลเข้มออกมา  1 หยด 
แม่แอบร้องไห้อยู่คนเดียว  ปรึกษาหมอสูติ  หาข้อมูลในเนต
หมอสูติว่าไม่น่าห่วง  ให้รอเข้ามาตรวจวันอาทิตย์ได้เลย  ไม่น่ากังวลอะไร

แต่ความจริงแม่กลัวมาก กลัวไปหมดทุกสิ่งอย่าง
พ่อกลับบ้าน หน้าตาสดใส  บอกประชุมไม่เห็นมีอะไรเลย สบายๆ แต่ดูง่วงนอนมาก

แม่ชั่งใจจะบอกพ่อเลยดีไหม เห็นหน้าตาง่วงนอนแต่ดูแฮปปี้ของพ่อแล้วพูดไม่ออกจริงๆ
ถ้าพ่อรู้ พ่อคงนอนไม่ได้ คงนั่งเปิดเนตค้นอยู่นั่น อาจรีบติดต่อหมอรพ.อื่น อาจทำอะไรอีกเยอะแยะ 

แม่จับท้ายทอยทุยๆ ผมดกนิ่มๆ ของพ่อเล่น  กดน้ำหนักเหมือนระบายแทนความรู้สึก 
กอดพ่อแน่นกว่าปกติ บอกให้พ่อไปอาบน้ำเถอะจะได้เข้านอน 
แม่บอกพ่อไม่ลงจริงๆ ขอเลือกเก็บความทุกข์ใจไว้คนเดียว

เวลาแม่ทุกข์  ใจชาๆ ของแม่พอจะแบกทุกข์รอไปอีกสองวันได้ 
แต่ถ้าพ่อทุกข์ไปด้วยอีกคน แม่จะยิ่งเสียใจมาก
แถมวิธีรับ stress ของพ่อ ที่ต้องค้นต้องคุยปัญหาไปเรื่อยๆ จะยิ่งทำให้แม่ใจเสียมากขึ้น

แม่ปรึกษาและเล่าอาการให้หมอสูติฟังทุกวันจนถึงวันนัด หมอยืนยันว่าไม่ซีเรียส
เลือดออกวันละหยด รวมเป็น 3 หยด สีจางลงเรื่อยๆ แล้วก็หายไป

แม่เล่าให้พ่อฟังที่รพ. ก่อนเจอหมอสูติ  
พ่อหน้าซีดแล้วก็เริ่มคล้ำ 
ถ้าพ่อหนูโกรธแก้มจะป่องออกมา หลอดเลือดจะพองแล้วสีหน้าจะคล้ำๆ ตามทันที
บ่นพึมพำว่าเรื่องใหญ่ขนาดนี้ทำไมถึงไม่บอก
สองชม. ที่เรารอผลแลบ รอพบหมอ มันยาวนานมากจริงๆ  

ผลตรวจคือ ฮอร์โมนบางตัวเคยขึ้นสูงมากๆจากฤทธิ์ยา พอเริ่มลดยา ต่อให้เป็นระดับที่ดำรงครรภ์ได้ แต่ก็กลายเป็นตกเร็วเกินไป เยื่อบุบางส่วนเลยเกิดปรากฎการณ์ withdrawal defect  ร่วมกับเวลานั้นรกจากลูกยังสร้างฮอร์โมนได้ไม่พอ  จุดเลือดออกอยู่นอกส่วนที่ลูกนอน  แต่ก็ใกล้มาก สรุปคือลูกแม่ปลอดภัย แต่แม่โดนอัพฮอร์โมนใหม่ ปรับยา เจาะเลือดกันใหม่ มีทั้งยาฉีดยากิน 

แม่โดนพ่ออบรมอย่างยาว  
แต่ก็แอบนึกดีใจที่พ่อต้องทนทุกข์เรื่องนี้แค่ 2 ชม.เอง   ไม่ใช่ 2 วันแบบแม่
บางทีการแสดงความรัก  อาจจะไม่ถูกต้อง หรือไม่ถูกใจอีกฝ่ายก็ได้เนอะลูกเนอะ



แม่มียาฮอร์โมนที่ต้องกินประจำ2 เม็ดต่อวัน กินยาวจนใกล้คลอดลดโอกาสคลอดก่อนกำหนด  ต้องกินวิตามิน และ folic

folic นี่เป็นวิตามินบีกลุ่มนึง ที่ป้องกันความพิการให้ลูกได้ แต่ก่อนแม่เคยให้แต่คนไข้ thalassemia
จนหลังแต่งงานหนึ่งเดือน น้านกก็ทักว่ากินหรือยัง เริ่มกินได้แล้ว กินก่อนท้องดีที่สุด 
แม่กินมาสองปีก่อนมีหนู  อาจจะมีลืมบ้าง แต่ไม่ได้ลืมบ่อย  

พ่ออ่านเรื่องวิตามินกับสารอาหารทุกวัน  วิตามินรวมสำหรับคนท้องโดยเฉพาะมีสามสี่ยี่ห้อใหญ่ๆ ที่นิยมใช้กัน  ตัวนึงไม่มีขายในเมืองไทย  ต้องฝากน้าเก๋ซื้อจากออสเตรเลีย พ่ออยากได้อีกขวดก็เสิชเนตและขับรถข้ามเมืองไปดูของจริงที่ร้านก่อนซื้อ ไม่ยอมซื้อผ่านเนตกลัวได้ของไม่ดีพอ ได้มาแล้วเอามาลูบดูทีละด้านแบบจับผิดของปลอมอีกแน่ะ

เรื่อง folic อย่างเดียวนี่พ่ออ่านมาเป็นอาทิตย์ๆ  ศัพท์บางคำ โรค หรือวิตามินอื่น ที่พ่อไม่รู้จักจะเปิดอีกหน้าจอคู่กันทั้ง ipad กับ note  ยิ่งพอพ่อหาข้อมูลโรค neural tube defect มาก พ่อยิ่งเป็นเอามาก ดูกังวลมากว่าที่ผ่านมาแม่ลืมกินไปกี่วัน บ่อยมากมั้ย 

ถ้าพ่อได้้ไปตามห้างเวลารอรับแม่ พ่อจะไปคุยกับเภสัช มีกลับมาให้คะแนนด้วยเภสัชคนนี้เก่ง คนนี้พูดไม่จริงเอาแต่ขายของ 

พ่อจำได้เปรี๊ยะๆ ว่าวิตามินรวมของยี่ห้อไหน ขาดอะไร ขาดเท่าไหร่ และมาตรฐานคนท้องต้องการเท่าไหร่   พ่อออกแบบวิตามิน เลือกให้หมด เลคเชอร์ได้เป็นฉากๆ   วิตามินแต่ละอย่างบ้านเรามีสามสี่ยี่ห้อ เพราะบางทีพ่อไปเจอยี่ห้อใหม่ที่ดีกว่าก็ซื้อไว้  มีแบบไว้เก็บที่บ้านและคอนโด   มีทั้งวิตามินรวม โฟลิค แคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินซีไว้อมเล่นแก้คลื่นไส้  รวมไปรวมมา แม่กินยา 6 เม็ดต่อวัน 

คนท้องท้องอืดง่ายอยู่แล้ว  แม่ว่า แม่คลื่นไส้จากผลข้างเคียงของวิตามินพ่อนั่นแหละ
โดยเฉพาะธาตุเหล็กระคายง่าย   พ่อยืนยันให้แม่ทนฝืนกินหน่อยเพราะถูกเจาะเลือดบ่อยมาก

พ่อไม่หยุดแค่เรื่องวิตามิน  พ่อเป็นเอามากไปถึงสารอาหารด้วย
สมมติแม่บอกอยากทานอะไรซักอย่าง  พ่อจะลงไปค้นในเนตก่อน ว่าของนั้นทานได้ไหม
ทั้งทางแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทยด้วย  ถ้ามี "ธาตุร้อน"  แม่จะอด

บางวัน แม่จะเห็นพฤติกรรมสุดติ่งของพ่อด้วยความซาบซึ้ง น่ารัก น่าเอ็นดู ขอบคุณ เป็นปลื้ม
แต่ก็มีบางวัน แม่รู้สึกหงุดหงิด  บางวันก็ออกแนวรำคาญ  ถึงขนาดโมโหก็ยังเคย

ถึงที่ทำงาน พ่อจะ line มาวันละสามสี่เวลา ว่ากินอะไรแล้วบ้าง  กินวิตามินอะไรไปแล้วบ้าง
ถ้าของที่แม่เลือกทานพ่อไม่ถูกใจ จะบ่นอยู่นั่น  

พ่อเริ่มไม่เรียกชื่อผักผลไม้เป็นภาษาสวนครัว แต่จะเรียกเป็นสารอาหาร 
บ่อยๆ จะมีคำสั่งลงมาว่า   "น้องเติมเบต้าแคโรทีนหน่อยจ้ะ"  หรือ "เพิ่มโปรตีนหน่อย"

พ่อคัดสรรนมผงสูตรเฉพาะของคุณแม่ตั้งครรภ์  ในท้องตลาดมีสักสองสามยี่ห้อ
พ่อไปยืนอ่านที่ห้างหลายรอบ  อ่านแล้วค้นเนตประกอบ  จนเลือกสุดยอดมาได้หนึ่งยี่ห้อ 

คำนวณเสร็จสรรพ  ถ้าวันนี้กินอันนี้ วิตามินยี่ห้อนี้คู่กับแคลเซียมยี่ห้อนี้  วิตามินอีกยี่ห้อมีข้อดีข้อเสียอย่างนี้ ให้คั่นสลับกันกินสามวันต่อสัปดาห์ ถ้าวิตามิน elevit ต้องคู่กับแคลเซียมของ mega เติม Zinc ต่างหากอีกเม็ด เพราะในนั้นมีแค่ 11     ถ้ากิน obimin หยุดเหล็กได้ หยุด folic ได้ เปลี่ยนกินแคลเซียมอีกสูตรนึงที่ดูดซึมน้อยกว่า เพราะมีเติมให้เยอะแล้ว  

ตอนเช้าพ่อจะจัดยาให้ ถ้าแม่จัดยาไปแแล้วพ่อจะเรียกขอดูซ้ำ 
ยาวิตามิน elevit มีฟอยด์หนาหุ้ม พ่อจะค่อยๆ บรรจงตัดลบคมให้มนๆ กลมๆ  
กลัวมุมฟอยด์จะตำมือแม่

https://plus.google.com/photos/105342084337705981846/albums/6172470966387354497/6172470979304467186?pid=6172470979304467186&oid=105342084337705981846


พ่อใครเนี่ย  "เยอะ"  ได้มากมายขนาดนี้


มีช่วงนึงแม่ปวดท้อง แล้วก็ท้องเสีย  ทั้งๆ ที่ทานอาหารปกติ แต่ช่วงนั้นวิตามินของพ่อเยอะมาก
แม่เชื่อว่าจากวิตามินของพ่อนั่นแหละ  พ่อกลับดีใจบอกว่าปกติคนท้องจะท้องผูก นี่พ่อเสิชหายาระบายของคนท้องโดยเฉพาะและหาซื้อเตรียมไว้ให้แล้วนะ  นี่ดีจังเลย ท้องไม่ผูก ท้องเสียดีกว่า

กรี๊ดด  

ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่แม่มองว่าพ่อน่ารัก  ก็จะทำตามพ่อได้ทุกอย่าง
แต่บางวัน ก็หงุดหงิดรำคาญเหมือนกัน

วันที่เรารู้สึกแย่ 
อย่าโทษว่าเป็นความผิดของอีกฝ่าย เพราะเขาเป็นมานานแล้ว ถ้าเขาผิดเราควรรู้สึกไม่ดีทุกๆ วันสิ

แต่ถ้าเรารู้สึกแย่ เราต้องมีวิธีการสื่อสารให้อีกฝ่ายเข้าใจ 
พูดดีๆ นิ่มๆ ก่อนที่เราจะโกรธ และอารมณ์จะทำให้เราเลือกใช้คำได้แรงเกินไป  

แม่อยากให้ลูกดูตัวอย่างไว้
ชีวิตคู่ ชีวิตครอบครัว หรือชีวิตที่เราจะอยู่ร่วมกันสามคนต่อไปก็จะเป็นแบบนี้

เราทุกคนคือดาวหนึ่งดวง มีวิธีคิด และวงโคจรของตัวเอง
และเราก็โคจรอยู่ล้อมรอบกันและกันด้วย

ด้วยเหตุการณ์เดียวกัน
บางวันเราจะรู้สึกดี เราจะแสดงอาการขอบคุณ ให้อีกฝ่ายทราบ
วันที่เรารู้สึกไม่ดี ก่อนจะรู้สึกแย่ เราจะค่อยๆ บอกความรู้สึกของเราให้อีกฝ่ายได้ทราบ
บอกดีๆ ได้  บอกก่อนอารมณ์จะกลายเป็นความโกรธฉุนเฉียว

ขอบอกแล้ว เราจะรับฟังอีกฝ่ายด้วยความสงบ 
พื้นเดิมของความรัก และความผูกพันต้องไม่ขาด

หนูโตขึ้นจะเห็นข้อผิดพลาดของบางความสัมพันธ์
เรื่องที่เกิดมานานแล้ว ฝ่ายนึงทน ฝืน กว่าจะพูดออกมาก็ระเบิดปะทุรุนแรงใช้คำสกปรกจนกลบความรักความผูกพันที่สร้างมานานล้มครื่น 

สัมพันธภาพคนเราเริ่มจาก basic trust  แล้วเป็น basic love
ถ้าคนนึงวูบวาบ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย คาดเดายาก 
เราทำแบบนี้มานาน วันนึงชมสุดๆ วันนึงร้อนวูบใช้คำแรงเสียจนเหมือนไม่อยากเจอกันอีกต่อไป
แล้วความรู้สึกดีๆ จะมีเหลือให้ได้อีกนานแค่ไหน

แม่จะค่อยๆ สอนให้ลูกรู้สึกอารมณ์ตัวเอง อารมณ์พ่อแม่  อารมณ์คนอื่น 
ยิ่งเรียนรู้มาก จะยิ่งเข้าใจตัวเองได้มากขึ้น นะลูกนะ


วันนึงที่พ่อพีคสุดๆ กับความกังวลว่าเราแม่ลูกจะได้รับวิตามินพอไหมหนอ
พ่ออ่านเนตทุกวัน  ยิ่งมีคนแชร์ประสบการณ์สูญเสียจากแม่รับวิตามินไม่ครบ พ่อยิ่งเครียด
และก็มาเผลอกดดันแม่เข้าอีกต่อ 

อยู่ๆ  เช้าวันนึงพ่อก็เปลี่ยนไป

อยู่ๆ พ่อก็ดูสบายๆ กว่าปกติ ไม่วุ่นวายบ่นเรื่องวิตามินเหมือนเดิม
พ่อเล่าว่า  พ่อฝันเห็นคล้ายๆ รูปปั้นคน ที่นอนอยู่บนลานกว้าง  พอเดินไปใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่าเป็นหน้าเด็ก ที่ยิ้มแย้ม น่ารัก สดชื่น และดูอารมณ์ดีมากๆ   รูปปั้นนั้นบอกพ่อว่า "มาถึงตอนนี้ ทุกอย่างปกติสมบูรณ์ดีน้า ไม่ต้องห่วง"  แล้วยิ้มเหมือนแกมหัวเราะๆ 
รูปปั้นนั้นมีป้ายเขียนว่า "ทินกร"

แม่ชอบรบเร้าให้พ่อเล่าให้ฟังซ้ำบ่อยๆ 
ฟังแล้วชื่นใจ ฟังแล้วก็อยากฟังซ้ำๆ อีก  

ลูกสบายดีใช่ไหมจ้ะ




วันนึงพี่พยาบาลเล่าแกมบ่นๆ  ว่าถูกสามีดุว่าเลี้ยงลูกยังไงให้ป่วย

หือ?
ยังไงนะ?  เอาใหม่ซิ   เป็นลูกพยาบาลก็ป่วยได้สิเน้อ

เป็นลูกหมอลูกพยาบาลก็ป่วยได้  ไข้สูงได้  ไข้สูงก็ชักได้เหมือนๆ กันแหละค่า
ลูกหมอก็เป็นหวัด ปอดบวม ทำวัคซีนไข้ขึ้นได้นะคะ

หรือพวก เลี้ยงลูกยังไงให้เถียงไม่ตกฟาก  เลี้ยงลูกยังไงให้ซนจัง ผอมไป สู้บ้านนู้นก็ไม่ได้

ฮาที่สุดคือ  "เลี้ยงลูกยังไงให้ยุงกัดได้"

โว๊ะ จริงๆ ใน little monster ก็มีการ์ตูนล้อเลียนนะแต่แม่หาไม่เจอ
เค้าว่า   "คนเป็นแม่ทุกคนจะต้องเจอ ถ้าลูกถูกยุงกัด  ยุงไม่ผิดนะค๊ะ"
ทำนองว่า คนผิดคือแม่ค่า.........

ต่อไป ต่อให้มีความกดดันมากแค่ไหน
แม่ของหนูก็ยังเป็นคนเดิม 

เราไม่หวั่นไหวตามความคิดเห็นของใคร แน่ใจว่าดีทำถูกแล้วแม่จะทำต่อ
ใครขัดใจ หรือทำให้ไม่พอใจ แม่จะแย้งด้วยเหตุผลตั้งแต่ก่อนจะโมโหหน้ามืด
พูดดีๆ ก่อนจะโกรธ

แม่ไม่คาดหวังว่าจะทำตัวได้ถูกต้อง ตรงใจคนทุกคน
เพราะสิ่งนั้นเป็นไปไม่ได้

หรือกระทั่ง

วันนึงแม่ก็ต้องทำอะไรที่ไม่ตรงใจหนู
หนูอาจจะโกรธแม่  
ไม่อาจละ แม่ลูกทุกบ้านก็เคยมีช่วงพอใจกันมั่ง ไม่พอใจกันมั่งทั้งนั้นเป็นปกติ

แม่ขอให้หนูใช้วิธีเดียวกับแม่
คือดูอารมณ์ของตัวเอง ถ้ารู้สึกว่าสิ่งที่แม่ทำรบกวนหนู กวนหนู ทำให้หนูไม่พอใจ

หนูต้องมีวิธีบอกแม่นิ่มๆ อย่างสุภาพ ก่อนที่หนูจะโมโห

เราไม่พูดด้วย you message  คือคำไม่มีคุณภาพ เน้นเพ่งโทษคนอื่นก่อน
อย่าง ลูกนี่แย่มากเลยนะ เล่นของกองเกลื่อนเลย ไม่ไหวเลย แย่มาก หรือ  แม่เอาแต่บ่นผม

เราจะพูดกันด้วย i message
เช่น    
แม่รู้สึกเหนื่อยที่เห็นของเล่นกองเต็มบ้านครับ หนูเลือกเอาลงมาเล่นทีละชิ้น ที่เหลือเก็บหน่อยนะครับ   
แม่รู้สึกไม่ดี ที่ค่ำแล้วหนูยังไม่ยอมอาบน้ำแปรงฟัน อยากให้หนูไปอาบน้ำก่อนแล้วค่อยมาเล่นต่อ

แล้วแม่อยากให้ลูกพูดภาษา i message กับแม่ด้วย
อาจเป็น แม่ครับ ผมหิวมากเลย ขอทานขนมก่อนแล้วค่อยไปทำการบ้านนะ อยากให้แม่หาขนมให้กินหน่อย 

ok มั้ยจ้ะ




Cr  Little monster//FB





 

Create Date : 18 มิถุนายน 2558
0 comments
Last Update : 22 กรกฎาคม 2558 19:13:05 น.
Counter : 970 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


พิมพการัง
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




. .
Friends' blogs
[Add พิมพการัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.