ณ เส้นรอบวงที่คาบเกี่ยวกัน

ภูติ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [?]




.......

....



ภายใต้ผิวน้ำที่เรียบนิ่ง

มีปลาทองขี้เกียจอยู่หนึ่งตัว


...


...


...........
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 ธันวาคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ภูติ's blog to your web]
Links
 

 
.. ได้เวลากลับบ้าน ..





หนึ่งเดือนกว่า ถึงเวลากลับบ้าน







เข้าบ้านครั้งที่สอง มีหนุ่มหน้าใหม่มาต้อนรับ
เจ้านี่เดินตามเรือของยามในหมู่บ้านต้อย ๆ









ทำหน้าที่เป็นยามให้กับหมู่บ้าน แวะดูบ้านนั้น บ้านนี้ ไปพร้อม ๆ กับพี่ยาม
รับรองว่า เมื่อน้ำแห้งแล้ว มันจะกลายเป็นขวัญใจคนแถวนี้พอ ๆ กับพี่ยามที่มันเดินตามอยู่ตอนนี้










ถนนที่กลายเป็นคลองหน้าบ้าน มีปลาตัวเล็กตัวน้อยว่ายเล่นกันกิ๊วก๊าว
พี่ข้างบ้านเอาถังน้ำมันมาทำเป็นแพ คงใช้ขนของ เสร็จแล้วก็จอดไว้หน้าบ้าน
พวงชมพูบ้านนู้นที่ผมไปถ่ายรูปบ่อยๆ ยังคงอยู่ดี










ต้นปีบของเรา (ต้นปีบบ้านเขา ก็เหมือนต้นปีบบ้านเรา) เริ่มแสดงอาการ หลังจากแช่น้ำมาเป็นเดือน
"อดทนไว้นะ" ผมบอกมัน พลางลูบลำต้นมันที่โผล่เหนือน้ำ หวังว่ามันจะได้ยินผม









ที่ห้อยคอวัว เราเอามาห้อยไว้ที่บ้าน เสียงไม้ดังก้องกังวาล เหมือนต้อนรับเรากลับเข้าบ้าน
"กลับมาแล้ว" ผมพึมพำบอกมันเบา ๆ








อาทิตย์ที่แล้ว เราขนโต๊ะกับตู้ที่เสียหายในบ้านมากองไว้ในที่แห้งหน้าบ้านก่อน ในบ้านจะได้ไม่มีกลิ่นและไม่มีเชื้อราเพิ่มเติม
อาทิตย์นี้ เห็ดงอกขึ้นมางามทีเดียว
"สวัสดีและลาก่อน" ผมบอกมัน








เณรน้อยและตัวอื่น ๆ ที่เคยอยู่รอบบ่อปลาคราฟ ถูกเอาขึ้นมาทำความสะอาดและโดนพี่ชายของผมนิมนต์ไปชมวิวบนรั้วบ้านพลางๆ








บ้านเรามีแต่รูปปั้นที่มีแต่รอยยิ้มและหน้าหัวเราะ เณรยิ้ม เด็กหัวเราะ ควายหัวเราะ .. เฮฮากันตลอดเวลา
ผมหวังว่า คนที่เดินลุยน้ำผ่านบ้านเราจะยิ้มออกมาได้บ้านเมื่อมองผ่านรั้วบ้านเรา








ปลายรั้วอีกด้านเป็นที่ตั้งของกระถางทั้งหลาย
ต้นโมกนอกรั้วเรายังคงไม่ตาย ผมภาวนาว่ามันจะยังอดทนอยู่ด้วยกันต่อ
"เข้มแข็งอีกหน่อยนะ" ผมบอกพวกมัน









ท่าเทียบเรือหน้าบ้าน พี่ข้างบ้านให้เรายืมเรือเพื่อขนขยะเอาไปทิ้งข้างนอกที่เกาะกลางถนนใหญ่ เพื่อให้สะดวกกับ กทม. ในการเก็บไปจัดการ
น้ำท่วมหนนี้ น้ำใจท่วมท้น สูงกว่าน้ำท่วมมากกว่ามาก

ผู้อพยพอย่างพวกเราเอง ก็ติดอาหารแห้งมาให้พวกพี่ผู้ประสบภัยและไม่รู้จะไปไหนได้เหมือนกัน
แบ่งปันให้กันและกัน เป็นกำลังใจให้กัน สังคมมันควรเป็นแบบนั้น ผมว่านะ










อาหารเที่ยงริมน้ำ กินกันแบบเท้าแช่น้ำเลยทีเดียว
พี่ชายและพี่สาวกินกันไป คุยกันไป ชมวิวกันไป โชคดีที่น้ำหน้าบ้านเรายังไม่ถึงกับเน่าส่งกลิ่นรบกวน








พืชอีกอย่างที่ดูจะมีความสุขช่วงน้ำท่วม ก็คงเป็นบัวหลวงในบ้านตรงกันข้ามนั่นละ








กระบองเพชรพวกนี้ ก็สู้ชีวิตดีเหมือนกัน
ดูจากคราบน้ำแล้ว น้ำมาสูงกว่าที่วางกระถางกระบองเพชรเหล่านี้ซะอีก








เราเก็บขยะออกไปทิ้ง ตอนนี้เราต้องพึ่งตัวเองก่อนใคร เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนกลางก็งานเต็มมือเช่นกัน
อุปกรณ์กวาดถนนปกติ ถูกวางแช่น้ำไว้ก่อน ขณะที่พวกพี่ๆทำความสะอาดของ กทม. จัดการแยกขยะที่คนเอามาทิ้ง ส่วนหนึ่งก็เก็บไปขายต่อ อีกส่วนก็เพื่อทิ้ง








จักรของแม่ฮุ่ยก็โดนกำจัดทิ้งเหมือนกัน
เสียงของแม่เสียดายมาก จักรคู่ชีพ แม่เคยซ่อมและเย็บอะไรหลาย ๆ อย่างให้เราได้ใช้กัน ตอนนี้เหลือแค่หัวจักร ตัวจักรเราตัดสินใจทิ้งไป (แน่นอนว่า เราทิ้งมันแบบไม่สอบถามแม่ก่อน)









แก้วคู่นี้ ถูกแยกมาวางไว้ ไม่แน่ใจว่าจะถูกเอาไปทำอะไรต่อ
น้ำท่วมปีนี้ เหมือนเทศกาลแบ่งของกันใช้ เทศกาลขายของเก่า กระจายรายได้ ... ดีเหมือนกัน









เราออกจากหมู่บ้านกันอย่างเหน็ดเหนื่อยเมื่อหมดวัน
เราอยู่ที่นี่กันมาเป็นสิบกว่าปีแล้ว ไม่เคยรู้ว่า มันจะเป็นหมู่บ้านริมน้ำได้ด้วย
พี่สาวเคยนึกอยากมีบ้านริมน้ำ ดูเหมือนว่า พี่จะได้มันสมใจแล้ว ^^








เข้าบ้านวันที่สาม เจอน้องหมาข้างบ้าน
เราทักทายกันอย่างดีอกดีใจ ปกติ กี้เป็นหมาที่ไม่ส่งเสียงแสดงอารมณ์มากนัก ผิดกับไอ้อ้วนบ้านผม แต่วันนี้ผมได้ยินเสียงมันร้องอย่างดีใจ

น้ำท่วมก็ดี ทำให้เรารู้ว่า เราผูกพันกันแค่ไหน
(เรา = คนกับสิ่งมีชีวิตที่เราคุ้นเคยกัน เช่น คน หมา เป็นต้น)









บ่อน้องปลาคราฟ กลายเป็นที่ผึ่งแผ่นไม้จากเตียงแม่ฮุ่ยกับพ่อช่วงที่เอาออกมาขัดล้าง
ส่วนน้องปลาคราฟ ผมได้ข่าวจากคนอีกซอยที่เดินแบกสวิงสวนกับผมว่า เขาเคยเห็นปลาคราฟแถวบริเวณใกล้ๆ
ผมมั่นใจว่า เจ้าปลาคราฟบ้านผมก็คงว่ายไปแถวนั้นแน่ๆ ผมหวังว่าพวกมันจะปลอดภัยและมีความสุขดีอยู่ในคลองไหนสักแห่ง








เราจัดการล้างคราบดินบนพื้นและคราบราในผนังบ้านก่อน ส่วนนอกบ้านคงเป็นแห่งสุดท้ายที่เราจะทำ
ระดับน้ำ ย้ำเตือนเราว่าน้ำท่วมปีนี้มาสูงแค่ไหน
คราบดินบอกระดับน้ำสูงสุดและระดับน้ำที่ค่อย ๆ ลด ดูเป็นลวดลายสวยดี แต่ผมมั่นใจว่าพี่สาวคงไม่ทิ้งศิลปะธรรมชาตินี้ไว้นานแน่ๆ








ภารกิจสั่งการตรงจากพ่อฮุ่ยที่ประจวบฯ .. ยกจักรยานขึ้นที่สูง
พี่ชายผมก็เลยแขวนไว้ซะสูงเลย ทั้งๆที่มันแช่น้ำไปหนึ่งเดือนแล้ว
แต่อย่างน้อย มันก็จะไม่เปียกน้ำที่ยังปริ่ม ๆ ในบริเวณบ้านอีกต่อไป







ชุดกินข้าวที่เป็นไม้เนื้อแข็ง ไม่มีปัญหากับน้ำ
แค่ขัดดินกับคราบราออก ทุกอย่างก็ดูเหมือนใหม่








พักกินข้าวเที่ยงกันริมน้ำเหมือนเคย วันนี้มีเก้าอี้สะอาดนั่งด้วย
พี่สาวกำลังตะโกนเรียกเจ้ากี้ข้างบ้านมากินข้าว เพราะพี่เจ้าของออกจากบ้านไปส่งภรรยาตั้งแต่เมื่อวาน









กี้ยืนรอข้าวด้วยความอดทน มันเป็นหมาที่มารยาทดีทีเดียว
มันจึงเป็นที่รักของคนทั้งซอย










จบการทำความสะอาดบ้านสองวันเต็ม มือผมระบมและบวมพอง แต่คุ้มค่า
เราจัดการเคลียร์ขยะและขัดพื้นในบ้านได้หมดแล้ว เหลือผนังห้องอีกสองห้องเล็ก ๆ ที่ต้องกลับมาขัด อย่างน้อยพี่สาวจะมีห้องสะอาดให้กลับมาทำงานได้

ขัดบ้านหนนี้ ลูกทุกคนผลัดกันขึ้นมาช่วยกันทำ ลงกันวันละสี่คน สนุกสนาน
นอกเหนือจากเหงื่อ ก็คือความรักที่ไหลริน

เรากอดกันเมื่อส่งกันกลับบ้าน แม้บ้านนี้ พ่อกับแม่จะยกให้พี่สาวและผม แต่นั่นมันก็แค่แผ่นกระดาษ มันคือบ้านของครอบครัวเรา









ท่วมได้ แต่อย่าท้อ
แล้วมันก็จะผ่านไป



.............................................



ระดับน้ำสูงสุดแถวบ้าน น่าจะสัก 1 เมตร - 1.20 เมตร
น้ำเข้าตัวบ้าน 50-60 เซนติเมตร
เฟอร์นิเจอร์เสียหายบางส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้ามีแค่รอลุ้นว่าเครื่องซักผ้าที่โดนน้ำไปหน่อย จะใช้ได้รึเปล่า
ไฟชั้นล่าง ต้องต่อใหม่หมด


ที่เสียหาย คือ สิ่งของ ที่หาใหม่ได้
ที่ได้มา คือ หัวใจ น้ำจิตน้ำใจ ของคนในบ้านและคนแถว ๆ นั้น

มันไม่ใช่การแลกเปลี่ยนว่า เสียแล้วได้อะไร มันเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ควรต้องมีการสูญเสีย หรือเสียหายน้อยกว่านี้ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน หากมีการจัดการและการประสานงานที่ดี
ผมหวังว่า เราจะเรียนรู้กับสิ่งที่เกิดขึ้น

ผมคิดว่า พวกเราได้ะเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติกันมากขึ้น
ปีหน้า หากน้ำมาอีก ผมว่าเราหลายคนจะทำใจอยู่กับมันได้ดีขึ้น

แต่น้องน้ำไม่ต้องมาเยอะขนาดนี้ก็ได้นะ น้องมาเยอะขนาดนี้ แม้จะเข้มแข็งและทำใจได้ แต่ผมก็หวั่นไหวเป็นเหมือนกัน










Create Date : 05 ธันวาคม 2554
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 0:07:35 น. 4 comments
Counter : 1760 Pageviews.

 

คลิ๊กบนภาพเพื่อดูขนาดขยายฮะ



โดย: ภูติ วันที่: 5 ธันวาคม 2554 เวลา:23:53:30 น.  

 
เป็นอีก 1 คนที่มองเรืองของน้ำท่วมเป็นเรื่องที่
เรา "รับมือได้" ทั้งก่อนและหลัง ...

มันท่วมแล้วทำไรไม่ได้ก็ต้องทำจิตใจ
ให้เข้มแข็ง แล้วมันก็จะผ่านไป .. เหนื่อยนัก
แต่ความคุ้มค่าของการมองสิ่งต่างๆ ที่เรา
ไม่เคยได้มอง ได้เห็น ได้รู้สึก เราก็ได้รับ
มันมาแล้ว ถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้มทีเดียวค่ะ




โดย: JewNid วันที่: 6 ธันวาคม 2554 เวลา:9:05:16 น.  

 

กำลังจะเข้าไปขัดบ้านอีกรอบบ่ายนี้ เพราะพี่สาวกำลังจะกลับมาอยู่แบบถาวรแล้ว อยากให้พี่ได้อยู่ในบ้านที่สะอาดๆ ทั้งพี่และหมาอ้วนจะได้มีความสุขเสียที

ไปมาสามหน ขัดกันซะข้อมือเคล็ดเลย .. แต่คุ้ม !

(มาทำงานด้วยข้อมือที่พันเทปผ้าประคองไว้ มีแต่คนถาม .. ได้เห็นความห่วงใย คุ้ม !)


โดย: ภูติ วันที่: 8 ธันวาคม 2554 เวลา:11:39:36 น.  

 
อาจจะมีบางอย่างจมน้ำบ้าง
สิ่งเดียวที่ขอไว้ หัวใจ อย่าให้จมไปกับน้ำเลย
( อันนี้ ตอบ สิ่งที่อยากรักษาไว้ )

บ้านเราระดับน้ำในบ้าน สูงกว่าบ้านฟ้าประมาณ 2 บล็อค
พิม กำลังคิดอยู่ว่า จะทาสีใหม่หรือว่าติดกระเบื้องดี
ผนังกระเบื้องทำให้ทำงานง่ายเนอะถ้าหากปีหน้าต้อง
ทำความสะอาดใหญ่ ^^

อยากเขียนเสื้อว่า
ท่วมได้ แต่อย่าเยอะ
ทางนี้ไม่เป็นไรค่ะ ไปช่วยทางอื่นก่อน

ปล. เข้ามาที่นี่ จากทางที่ฟ้าแปะไว้ค่ะ
สงสัยตอนฟ้าได้เวลากลับบ้าน พิมก็กลับบ้านเหมือนกัน ไม่ได้เข้าเนทเลยไม่เห็นค่ะ ^^


โดย: พิม IP: 110.49.235.39 วันที่: 16 ธันวาคม 2554 เวลา:16:21:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.