"อ้าวมาแล้วเหรอ" แม่เปิดประตูบ้านมาทักผมที่กำลังถอดผ้าใบ"ไม่เห็นได้ยินเสียงเห่าเลย" พี่สาวปรายตาไปที่ไอ้ก้อนกระจุกสีดำที่ส่ายหางให้ผมดิ๊กๆ"รู้จักกันแล้ว เน้อ" ผมหันไปพูดกับแบ็คมันกระดิกหางรับ เอ้อ ผมเริ่มพูดกับมันได้รู้เรื่องแล้ว หลังจากเสียเงินไปสิบบาทเมื่ออาทิตย์ก่อนเพื่อเซ่นลูกชิ้นหมูปิ้งให้มันสองไม้มันเป็นหมาตะกละนะ ผมว่าพี่บ่นว่ามันอ้วนขึ้น ก็แหงล่ะ ทุกคนหน้าใหม่(สำหรับมัน) ต้องเอาของมาเซ่นมันเพื่อที่จะได้เข้าบ้านของตัวเอง พวกเราพากันแปลกใจ ตอนที่พี่บอกว่าเลี้ยงหมา ทุกที เราจะมีหมาสาธารณะประจำซอย นั่นคือบ้านไหนจะให้อาหารก็ได้ มันก็จะอยู่เฝ้าซอยให้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ กรูไม่ไปไหนหรอก จะมาไล่ก็ไม่ไป มีไรมั้ยเธอคือคุณลำไย สีมันเป็นน้ำตาลอ่อน แม้ผมจะจากไปสักสามสี่เดือน กลับมาทีไร คุณลำไยก็วิ่งมาต้อนรับเปรียบเสมือนเป็นหมาตัวสนิทได้เลยทีเดียว"มันไม่ยอมไป เผลอเปิดให้มากินข้าวในบ้านทีเดียว มันไม่ยอมออกจากบ้านอีกเลยหลังจากนั้น"นั่นคือเหตุการณ์ที่พี่เสียทีพลาดพลั้งให้กับเจ้าแบ็ค หมาหลงจากไหนก็ไม่รู้อืมม .. กลยุทธนี้ก็ดีไม่น้อยคุณอย่าเผลอเปิดรับผมเข้าไปกินข้าวบ้านคุณเชียว ผมไม่ยอมออกง่ายๆจริงๆนะเออผมไม่ตะกละด้วยนา แค่เลี้ยงขนมผมวันละครั้งก็พอแล้วหลังจากนั่งคุยพักใหญ่กับคนในบ้าน ผมก็ได้ออกมาเดินเล่นนอกบ้านพี่ชายที่แวะมา ตัดต้นไม้รอบบ้านซะเป็นระเบียบถ้าให้พ่อตัด ก็ต้องทะเลาะกับแม่ คนหนึ่งปลูก คนหนึ่งตัดก็น่าเห็นใจแม่ พอมันจะออกยอดอ่อนหรือเริ่มเลื้อย มันก็เจอมีดพร้าของพ่อ จนบางต้นเหนื่อยใจจนตัดสินใจตายไปเลยพี่ตัดต้นไผ่ซะเกรียน ต้นโมกเองก็ถูกตัดเรียงให้สูงเท่าๆกัน น่าแปลก คราวนี้โมกออกดอกน้อยกว่าปกติ สงสัยคงจะนึกขี้เกียจต้นแก้วต้น ต้นเฟื่องฟ้า ต้นพุทธรักษา ต้นอะไรต่อมิอะไรที่ผมจำชื่อไม่ได้ ยังคงเรียงอัดแน่นอยู่ริมรั้วแคบๆ ผมเสเดินไปต้นปีบของบ้านตรงกันข้าม มันออกดอกยั่วยวนใจให้ผมเดินเข้าไปดูมากๆบ้านเราไม่มีที่พอ แม่จึงไม่ปลูกต้นปีบอย่างที่ผมอยากได้ ต้นปีบบ้านเขา ก็เหมือนต้นปีบบ้านเรา ผมสรุปเอาเองง่ายๆ ก่อนเดินไปดมมันถึงต้นมันปลูกอยู่นอกรั้ว ดังนั้นก็เปรียบเสมือนสมบัติส่วนกลางของซอยเหมือนคุณลำไยนั่นล่ะผมได้ดอกที่ร่วงอยู่รอบๆต้นมาหนึ่งกำมือ ก่อนจะเข้าบ้านเพราะพ่อเริ่มมาด้อมๆมองๆหาว่า ผมออกมาทำอะไร"งานเยอะเหรอลูก" พ่อถามผมที่ค้นๆเป้ และควักแฟ้มมาหนึ่งแฟ้ม"ก็เยอะเป็นปกติละฮะ" ผมตอบท่าน พลางเหลือบมองพี่ชายผมเองที่นั่งทำงานหน้าคอมตั้งแต่ผมเข้าบ้านมาพี่สาวก็ไปมหาวิทยาลัย เพื่อจัดการกับงานด่วนเช่นกันพ่อกับแม่คงชินกับพวกเราแล้ว ผมเดินไปบีบนวดไหล่พี่ชายด้านหลัง พี่หัวเราะแล้วก็ทำงานต่อพี่ตัวโตมาก ตัวโตกว่าผมเยอะ จำได้ว่าตอนเด็กๆแม้ว่าผมจะตีจะต่อยพี่เท่าไร แต่พี่ไม่เคยทำอะไรไอ้น้องดื้อคนนี้เลยจำได้ว่า ผมเคยแอบเขียนโน๊ตบอกพี่ไว้ว่า อย่าสูบบุหรี่เลยนะ เดี๋ยวพ่อตีเอา ตอนที่ผมแอบจับได้ว่าพี่สูบบุหรี่ตอนพี่อยู่ ม 4ท้ายสุด พี่ก็ถูกพ่อตีอยู่ดี ผมออกมานั่งทำงานที่โต๊ะไม้หน้าบ้านเอ .. ทำงานเหรอ คงไม่ใช่ เพราะผมไปค้นหนังสือการ์ตูนปกแข็งเล่มใหญ่ๆที่ผมสะสมไว้ลงมากองจนปิดแฟ้มจนมิดกลับบ้านทีไร ผมเหมือนได้กลับไปหาขุมสมบัติของตัวเอง"ไปโกรกผมมาเหรอ สีแดงกว่าปกติ" แม่ทักตอนที่เดินมานั่งที่โต๊ะหน้าบ้านด้วยกันผมมองแม่ตาโต แม่เห็นมันด้วยปกติสีผมธรรมชาติของผม ออกสีน้ำตาลยู่แล้ว การที่ผมเติมสีน้ำตาลไปเพิ่มจึงแทบไม่มีใครสังเกตเห็นได้นักแต่แม่นี่สิ ผมคาดว่า แม้ผมจะมีขี้แมลงวันขึ้นใหม่สักเม็ดที่ท้ายทอย แม่ก็จะเห็นมันความรักทำให้คนเราสายตาดีกว่าปกติกับคนที่เรารัก ผมว่านะตกตอนค่ำ พี่ชายอีกคนกับครอบครัวมาถึง จริงๆแค่จะแวะผ่านมาหาพ่อกับแม่ และก็อิดออดไม่ยอมค้าง แต่ในที่สุดพวกเราก็ชนะจนได้บ้านเล็กๆของเราน่ะ ทำมาเพียงพอสำหรับจุลูกทุกคน มันเป็นน้ำพักน้ำแรงของพ่อและแม่เลยทีเดียวก่อนนอน พวกเราจับกลุ่มคุยกันเรื่องบ้านเมือง ความคิดเห็นหลากหลาย แตกต่างแต่ไม่ได้แตกแยกอะไรคืนนั้นฝนตกหนักผมหลับไปพร้อมกับอากาศเย็นๆ รู้สึกสบายอกสบายใจ "อ๊า ทำไมไม่เรียกกันเลย" ผมตื่นขึ้นมาโวยวาย ตอนที่รู้ว่าทุกคนออกไปเดินออกกำลังกายกันแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่พี่สะใภ้และหลานตัวเล็กที่ไม่สบายนิดหน่อยดูดี๊ ขนาดไอ้แบ็คมันยังไม่รอผมเลย เอาลูกชิ้นคืนมาเลยนะเอ็งผมเดินมาทันพวกเขาตอนกำลังกลับทุกคนดูสดชื่นดี มีขนมติดมือมาฝากให้กินกับกาแฟตอนเช้าด้วยดีเหมือนกัน นานๆผมจะได้กินกาแฟรสชาติห่วยแต่ให้ความรู้สึกดีๆความรู้สึกแบบนี้ มันไม่เกิดเมื่อดื่มกาแฟคนเดียวอย่างไร้ชีวิตชีวา เหมือนทุกวันที่ผ่านมา และวันถัดๆไปจากวันนี้ตอนเที่ยง พวกเราโบกมือร่ำลากัน ผมกอดแม่แน่นๆหนึ่งครั้ง "กินยารึยัง" แม่โทรมาถามข่าวคราวผมตอนเย็นพวกเราไม่สบายติดกันเป็นลูกโซ่ เหลือแต่แม่คนเดียวที่ยังดูสบายดีผมเองก็ผ่านค่ำคืนวันอาทิตย์ไปอย่างทรมาน แต่ก็ตื่นมาอย่างสดชื่นในตอนเช้าสงสัยแม่คงส่งกำลังใจมาให้ แม่คงเหนื่อยทีเดียว เพราะต้องส่งไปให้หลายคน"หายแล้วฮะแม่" ผมรีบโทรไปรายงานเช้าวันรุ่งขึ้น แม่จะได้สบายใจส่วนพ่อก็มารับโทรศัพท์และคุยกับผมแบบเสียงอู้อี้ๆ แม่หัวเราะอย่างสบายใจ อย่างน้อยลูกหนึ่งในหกของแม่ก็หายแล้ว ที่เหลือก็คนอื่นๆแม่ฮะ เหนื่อยมั้ยอ่ะ ที่มีพวกผมซะเยอะขนาดนี้ผมรู้นะ ว่าแม่มีความสุขเวลาที่พวกเราไปอยู่ด้วยกันอย่างเมื่อวันก่อนผมจะพยายามไปหาแม่บ่อยๆนะฮะ
อรุณสวัสดิ์
วันฟ้าสวย แดดใสกิ๊งง..
...
พาม๊าไปเดินเล่นด้วย ดีจัง
วันนี้ตื่นเช้า
แวะไปถวายของพระ
มาถึงที่ทำงานพักนึงล่ะ
วุ่นวายโทรตาม คนส่งของอยู่ ^^