|
เปิดมาจะเป็นไง แต่มันก็บ่แน่ดอกนาย
สวัสดีวันอาทิตย์ครับ มาดูกันหน่อยว่าพรุ่งนี้จะเป็นไง
tf week แท่งเทียนที่เกิดเป็นแท่งเขียวเหนือเส้น5วันมีใส้ล่างยาวทะลุเส้น5วันแและchanelลงมา สัญญาณเป็นขึ้นหมด tfนี้น่าจะขึ้นต่อ ต้าน1030 รับ 996
tf day ระยะยาวยังเป็นขึ้นอยู่ ระยะสั้นอยู่ในสามเหลี่ยมทางข้าง แท่งเทียนที่เกิดเป็นแท่งเขียวเหนือเส้น5วันมีใส้ยาวด้านบน สัญญาณมีทั้งขึ้นลง divยังอยู่ tfนี้อาจจะออกทางข้างได้ ต้าน 1010 1020 1030 รับ 990 983 980 966
tf 60 นาที ระยะยาวยังเป็นขาขึ้น ระยะสั้นอยู่ในสามเหลี่ยมทางขึ้น สัญญาณเป็นขึ้นหมด แท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งแดงอยู่กลางเส้น5วันมีใส้ยาวทะลุลงมาหยุดที่เส้น20วัน tfนี้น่าจะกลับตัวเป็นขึ้นหรือไซต์เวย์อัพ ต้าน 1015 1018 1021 1025 รับ 1007 1005 1000 995
tf 15 นาที อยู่ในสามเหลี่ยมทางขึ้น สัญญาณมีทั้งขึ้นลง แท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งเขียวใต้เส้น5วันและ20วัน tfนี้มีสิทธิ์ขึ้นต่อหรือไปทางข้าง ต้าน 1011 1014 1021 รับ 1006 1004 1000 998 996
สรุป ไม่ขึ้นต่อก็ไซต์เวย์อัพล่ะครับ
ไปดูpttกันมั่งครับ
tf day ระยะยาวยังขึ้นอยู่ ระยะสั้นอยู่ในสามเหลี่ยมทางลง สัญญาณเป็นลงหมด แท่งเทียนเป็นแดงตันอยู่กลางเส้น5วันและ20วัน tfนี้มีสิทธิ้์ลงต่อครับ ต้าน 358 368 375 รับ 341 338 331
tf 60 นาที อยู่ในสามเหลี่ยมทางข้าง สัญญาณมีทั้งขึ้นลง แท่งเทียนล่าสุดเป็นแท่งแดงตันกำลังผ่านเส้น5วัน 20วัน ละbbaลงมา tfนี้จึงลงต่อได้หรือไม่ก็ไซต์เวย์ดาวน์ ต้าน 348 351 354 รับ 341
tf 15 นาที อยู่ในสามเหลี่ยมทางข้าง สัญญาณเป็นลงหมด tfนี้ก็ถ้าไม่ลงต่อก็ไซต์เวย์ดาวน์ครับ ต้าน 348 351 353 รับ 341
สรุป ลงหรือไซต์เวย์ดาวน์ครับ
พรุ่งนี้ดูกันครับว่าจะเป็นตามนี้หรือจะพลิกผันไปไงอีก ขอให้โชคดีทุกท่านนะครับ บายครับ 
| Create Date : 02 มีนาคม 2556 |
|
74 comments |
| Last Update : 3 มีนาคม 2556 14:14:40 น. |
| Counter : 1562 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 37 คน [
ย่อมประจักษ์ต่อการเรียนรู้ของกระเรียนกับงูเหลือม
กระเรียน แม้มีจงอยปากคมแต่ยังไม่กล้าจู่โจมตามอำเภอน้ำใจตน เนื่องจากเรียนรู้สัญชาตญาณของงูเหลือม ดูว่าหลังจากขดเป็นวง หัวหางติดต่อกันแล้วจะมีความคล่องแคล่วปราดเปรียวยิ่งกว่าสายฟ้าแลบ
หากมันใช้จงอยปากจิกหัว ขาทั้ง 2 ย่อมถูกหางงูรัด ขณะเดียวกัน หากจิกหางงูก็ยากยิ่งจะไม่ถูกหัวงูฉกทำร้าย
จากนี้กระเรียนจึงได้บทสรุปโดยสัญชาตญาณของมันเอง โดยการยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหว รอกระทั่งงูเหลือมมิอาจอดรนทนได้จำต้องจู่โจมก่อน มันจึงได้ใช้จงอยปากอันคมและแข็งจิก พิชิตงูเหลือมได้โดยราบคาบ
อาฮุยเรียนรู้จากกระเรียนและงูเหลือมมาอย่างนี้
น่าสนใจก็ตรงที่ในยุทธนิยายเรื่องมังกรคู่สู้สิบทิศ มหากาพย์ของท่านหวงอี้ กลับกลายเป็นคุณชายมากรัก โหวซีไป๋ ได้สรุปบทเรียนจากการยุทธ์ของราชสีห์และเสือเอาไว้อย่างแหลมคม
แก่ ฉีจื่อหลิง และ โค่วจง มังกรแห่งหยางโจว
ราชสีห์กับเสือ ล้วนเป็นนักล่าตัวฉกาจ สัตว์ป่าทั้ง 2 ชนิดมีความแตกต่างที่ราชสีห์ออกล่าเหยื่อเป็นฝูงจนได้รับสมญาว่า เจ้าป่าแห่งทุ่งราบ
เสือดาวกลับเป็นวิญญาณร้ายแห่งพงไพร ปฏิบัติการตามลำพังเสมอมา
ก่อนที่ฝูงราชสีห์จะออกล่าเหยื่อล้วนออมกำลังจนอยู่ในสภาพเตรียมพร้อมถึงที่สุด พวกมันไม่เคยกระทำการโดยผลีผลาม
หากแต่วางกลยุทธ์เป็นมั่นเหมาะ ภายใต้ภูมิประเทศที่แตกต่างกลยุทธ์ก็ต่างกัน
ก่อนอื่น คือจับตาดูเหยื่อ โดยแบ่งกำลังออกเป็น 2-3 กลุ่ม ซุ่มอยู่รอบนอกของเหยื่อ บางครั้งสามารถรอถึงหลายชั่วยาม
เมื่อพวกมันหยั่งความตื้นลึก หนาบางของเหยื่อเป็นมั่นเหมาะจะปล่อยให้ราชสีห์ 2-3 ตัวพุ่งกระโจนออกไปก่อนขับไล่เหยื่อจนแตกกระเจิง เมื่อเหยื่อหนีเตลิดถึงตำแหน่งที่พวกมันกำหนดไว้ฝูงราชสีห์จะเผ่นโผนออกมาผลัดกันไล่ต้อนและบุกจู่โจม
นี่ย่อมต่างไปจากกระบวนยุทธ์ของเสือดาว
หากเป็นช่วงระยะสั้นๆ ไม่มีสัตว์ชนิดใดวิ่งเร็วกว่าเสือดาว ยุทธการและเป้าหมายของมันคือ เข้าใกล้เหยื่อได้อย่างไร ดังนั้น เสือดาวเป็นนักซุ่มโจมตี ขอเพียงอยู่ในระยะห่างช่วงหนึ่ง จะสามารถโจมตีประสบผลทุกคราว
จะเลือกเป็นราชสีห์หรือเสือดาวจึงขึ้นกับกาละและเทศะ
ไม่ว่าเรื่องราวของกระเรียนกับงูเหลือมจากการเฝ้าสังเกตของอาฮุย ไม่ว่าเรื่องราวของราชสีห์กับเสือดาวจากบทสรุปของคุณชายมากรัก โหวซีไป๋
คล้ายกับเป็นเรื่องของธรรมชาติ เป็นเรื่องของสัญชาตญาณ
กระนั้น เมื่อผ่านการกรองจากสมองก้อนโตของคนล้วนอยู่ภายในกระบวนการขบคิดพิจารณาและประเมินโดยคน
เรื่องกระเรียนกับงูเหลือมกลายเป็นรากที่มาของ-สงบสยบเคลื่อนไหว
ขณะที่ฝ่ายหนึ่งเคลื่อนไหว หากฝ่ายหนึ่งสงบอย่างศึกษา เรียนรู้ ประมวล สังเคราะห์และวิเคราะห์ก็จะนำไปสู่บทสรุป
เป็นบทสรุปอันนำชัยชนะมาให้
เช่นเดียวกับ กระบวนการเรียนรู้การยุทธ์ผ่านราชสีห์ ผ่านเสือดาว เมื่อเป็นการเรียนรู้โดยคนก็ต้องนำมาปรับประสาน หากไม่รู้จักปรับประสานก็จะผิดฝาผิดตัว นำเอาการยุทธ์ไปใช้อย่างผิดเพี้ยนจากสภาพความเป็นจริง
ความเป็นจริงของเทศะ ความเป็นจริงของกาละต่างหากที่สำคัญ
จากนี้จึงเห็นได้ว่า เรื่องราวทั้งปวงล้วนต้องผ่านการศึกษา กลั่นกรอง ประมวลผล ประเมินและวิเคราะห์ ตามความเป็นจริง
ที่ว่าหาสัจจะจากความจริงก็คือจุดนี้
การศึกษาเรียนรู้จากธรรมชาติ จากสัตว์และจากคนด้วยกันจึงมีความสำคัญเป็นอย่างสูง
ไม่ว่าคนนั้นจะชื่ออาฮุย ไม่ว่าคนนั้นจะชื่อโหวซีไป๋ ไม่ว่าธรรมชาตินั้นจะเป็นกระเรียนหรืองูเหลือม ไม่ว่าธรรมชาตินั้นจะเป็นราชสีห์หรือเสือดาว
ทุกอย่างล้วนเป็นครูได้ทั้งสิ้น
(ลอกมาให้อ่านเล่นๆครับ แต่ใช้ได้ผลแน่นอนครับ)