รับราชการมาจนจะเกษียณ เลยหาอะไรไว้ทำที่ได้ตังด้วย พรรคพวกไปทำสวนบ้าง เป็นที่ปรึกษาบริษัทบ้าง เราไม่เอาดีกว่าไม่อยากเหนื่อยหรือเป็นขี้ข้าใครอีก เคยเล่นหุ้นก่อนวิกฤติต้มยำกุ้งบางตัวขายทัน ที่ขายไม่ทันจากห้าหมื่นเหลือบาทเดียวหุ้นเดียว เร็วๆนี้มีคนมาเทคโอเวอร์แบงก์ที่ถืออยู่เขาขอซื้อเจ็ดบาทห้าสิบเลยขายไป เว้นไปเป็นสิบๆปีกลับมาปัดฝุ่นอีกที เริ่มที่หุ้นเมื่อเดือนก.ค.ที่แล้ว ได้เรื่องเลยมันเริ่มลงอีกแล้วเลยขายล้างพอร์ตขาดทุนไปซัก7% หันมาศึกษาtfexจะได้ไม่ต้องวอรี่ว่าหุ้นจะขึ้นหรือลง ขอแรงๆหน่อยละกัน คิดว่าเป็นคำตอบสุดท้ายแล้วสำหรับกิจกรรมหลังเกษียณ
|
แม่นานา อ่านให้ฟัง ช่างซึ้งใจ พ่อนานา มาเล่าใหม่ ใช้คำกลอน
มีสามี ภรรยา อยู่หนึ่งคู่ พวกเขาอยู่ เป็นคู่เคียง ร่วมเรียงหมอน
รักกันดี มีความสุข ทุกช่วงตอน ช่างสุขใจ ไม่เดือดร้อน นอนสบาย
แต่เคราะห์กรรม ช้ำใจ ให้อาเพศ อุบัติเหตุ ภรรยา ตาเสียหาย
เธอตาบอด มองไม่เห็น แทบเป็นตาย ต้องร้องไห้ ฟูมฟาย ตายทั้งเป็น
แต่สามี ดียิ่งนัก รักภรรยา ถึงแม้ว่า ตาทั้งสอง มองไม่เห็น
เฝ้าอดทน ปรนนิบัติ จัดเช้าเย็น ไม่เคยห่าง ไม่ว่างเว้น เช่นนี้ไป
ไม่อยากมา เป็นภาระ กะสามี หางานดี มีให้คน ตาบอดไหม
หางานได้ ในที่สุด แสนดีใจ ถึงต้องไป ไกลก็เอา ทุกเช้าเย็น
คุณสามี ไม่รีรอ ขอรับส่ง กลัวเมียหลง คงลำบาก และยากเข็ญ
ไม่อยากให้ เมียลำบาก ยากลำเค็ญ มองไม่เห็น ไม่เป็นไร ไปส่งเอง
คอยรับส่ง เมียสุขล้น ผัวคนขับ เช้าไปส่ง เย็นไปรับ กระฉับกระเฉง
หลายเดือนผ่าน ผัวขอให้ เมียไปเอง เธอเริ่มสั่น เริ่มหวั่นเกรง แต่เกรงใจ
เขาลองพา เธอไปขึ้น รถเมล์ดู ถึงอดสู ต้องรับกรรม ทำให้ไหว
ให้ลองดู เขาอยู่ข้าง นั่งเมล์ไป ยังอุ่นใจ เขาไปด้วย ช่วยได้ดี
พอลองถึง หนึ่งสัปดาห์ สามีว่า เธอแกร่งกล้า น่าไปเอง ได้แล้วนี่ !
จะได้ช่วย ตัวเอง ได้สักที ! เธอเจ็บแปลบ โดนแบบนี้ ชีช้ำใจ
แสนรันทด ต้องอดทน ไปคนเดียว ช่างห่อเหี่ยว ชอกช้ำ น้ำตาไหล
สามีเค้า ไม่รักเรา แล้วหรือไร ถึงปล่อยให้ ไปรถเมล์ ตามลำพัง
แสนรันทด ต้องอดทน ไปคนเดียว ช่างห่อเหี่ยว ชอกช้ำ น้ำตาไหล
สามีเค้า ไม่รักเรา แล้วหรือไร ถึงปล่อยให้ ไปรถเมล์ ตามลำพัง
พอก้าวขึ้น รถเมล์ เซถลา แต่ยังดี มีคนมา พาไปนั่ง
พอจะลง คนมาช่วย ด้วยดีจัง ช่วยระวัง ป้องกันหก ตกบันได
สามีให้ ไปคนเดียว เหี่ยวใจจริง เราตาบอด เขาทอดทิ้ง เราไปไหน
แต่ทุกครั้ง ก็มีคน ช่วยด้วยใจ เธออดทน จนทำได้ ไม่ยากเกิน
ตามืดมัว ตัวพึ่งตน ทนเอาหนา ยืนบนขา ตัวดีกว่า น่าสรรเสริญ
ช่วยตัวเอง เริ่มเก่งแล้ว แววเจริญ สามีเมิน เดินเองได้ ไม่พึ่งพา
อีกไม่นาน สามีซวย มาป่วยหนัก เขาย้ำนัก รักภรรยา เป็นนักหนา
มีจดหมาย ก่อนตาย ให้ภรรยา ให้คนอื่น อ่านให้นา ขอลาตาย
สามีตาย แต่ยังต้อง ขึ้นรถเมล์ เดินโซเซ เอ๊ะ!ชอบกล คนช่วยหาย
กระเป๋ารถ เดินเข้ามา พูดทักทาย ถามถึงชาย ที่ช่วยหาย ไปไหนนา ?
งงเลยเรา กระเป๋ารถ ถามถึงใคร มีคนไหน ใครมาช่วย ด้วยหรือหวา ?
คุณกระเป๋า จึงเล่าความ ตามออกมา ภรรยา ฟังแล้วอึ้ง ตะลึงลาน
กระเป๋าว่า มาทุกวัน เช้ากับเย็น เป็นต้องเห็น ชายคนหนึ่ง ซึ่งภูมิฐาน
ขึ้นรถเมล์ ป้ายก่อนคุณ มาไม่นาน นั่งหน้าบาน เหมือนรอผ่าน บ้านคุณเลย
รถจอดป้าย ชายนั้นหนอ รอคุณอยู่ คอยเฝ้าดู ประตูหน้า หานิ่งเฉย
ประตูเปิด คุณขึ้นปั๊บ เขารับเลย ใครที่เห็น เป็นชมเชย เขาทุกคน
คุณนั่งแล้ว เขายืนดู อยู่ไม่ห่าง ตลอดทาง อันร้อนอับ และสับสน
พอคุณลง ตรงปลายทาง ห่างผู้คน เหมือนเป็นเงา เขาตามก้น จนจากไป
ตกตอนเย็น เห็นเขาก่อน เหมือนตอนเช้า เหมือนกับเขา คอยเฝ้าอยู่ คุณรู้ไหม
ผู้โดยสาร ทุกคนเห็น เป็นชื่นใจ ชายผู้นั้น เขาเป็นใคร ไม่รู้ฤา...