พฤษภาคม 2559

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
เมืองหลอน เด็กประหลาด Ransom Riggs เขียน




 
 
หลายคนซื้อผิดมาซื้อเล่มนี้เป็นเล่มแรก เพราะชื่อและปกคล้ายคลึงกัน ขอบอกว่าเล่มนี้คือเล่มสองจ้า กลับไปซื้อเล่มแรกด่วน เรื่องราวต่อกัน ไม่สามารถแยกอ่านได้ค่ะ
 
 
 
 
เมืองหลอน เด็กประหลาด (Hollow City ชุด Miss Peregrine’s Peculiar Children เล่ม 2)
Ransom Riggs เขียน  วิกันดา จันทร์ทองสุข แปล
สำนักพิมพ์แพรวเยาวชน ในเครืออมรินทร์
289 บาท  400 หน้า
 
หลังปก
 
อสุรกาย...
 
พวกมันใช้เชาวน์ปัญญาเพื่อทำลายล้างโลก ทำให้สิ่งมีชีวิตต้องล้มตาย เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อให้พวกมันมีชีวิตนานขึ้นอีกนิด ให้พวกมันมีพลังมากขึ้นอีกหน่อย และจะได้ปกครองโลกรอบตัวพวกมัน ปกครองสรรพสัตว์ทั้งหลายที่พวกมันไม่ได้แยแสใส่ใจเลย
 
และตอนนี้พวกมันก็กำลังจะทำให้เรากลายเป็นเศษซาก พาเราไปยังทุ่งสังหารสักที่ที่พวกมันจะสอบสวนแล้วก็กำจัดเราซะ
 
พระเจ้าโปรดช่วยเราด้วยเถิด
 
 
คุยกันหลังอ่าน
 
เล่มนี้จะเข้าสู่เนื้อหาของเด็กอัศจรรย์เต็มตัวแล้ว
 
เด็กๆ ต้องออกจากเกาะ ไปผจญภัยกับสิ่งต่างๆ โดยพึ่งได้แค่ตัวพวกเขาเอง
 
ศัตรูของพวกเขาไม่ใช่แค่อสูรและอสรุกาย แต่ยังมีสงครามกลางเมืองเข้ามาเอี่ยว
 
เจคอบค่อยๆ เรียนรู้ทักษะความสามารถของตนเอง ส่วนเด็กคนอื่นๆ ก็ใช้ความสามารถของตนเองช่วยเหลือพรรคพวก
 
เหล่าเด็กอัศจรรย์ ในการเดินทางที่แสนอัศจรรย์ครั้งนี้ มี
 
เอ็มมา เป็นผู้นำ กล้าหาญ (ความสามารถ - เสกไฟจากมือได้)
ฮอเรซ เนี้ยบ กลัวตาย (ความสามารถ - ฝันพยากรณ์)
โอลีฟ ขี้กลัว เพ้อฝัน (ความสามารถ - ตัวเบากว่าอากาศ)
บรอนวิน แข็งแรง มีความเป็นแม่ (ความสามารถ - มีพละกำลังล้นเหลือ)
มิลลาร์ด เจ้าเล่ห์ รอบรู้ (ความสามารถ - ล่องหน)
อีน็อค ขี้โมโห มองโลกในแง่ร้าย (ความสามารถ - ปลุกสิ่งมีชีวิตที่ตายหรือสิ่งไม่มีชีวิตโดยใช้หัวใจสัตว์เทียมได้ ระยะเวลาที่ตื่นนั้นขึ้นกับประเภทของสิ่งที่ปลุกและขนาดของหัวใจ)
ฮิวจ์ เข้าใจผู้อื่น (ความสามารถ - เลี้ยงผึ้งในร่างกายตัวเอง สามารถสั่งการผึ้งได้)
ฟิโอนา เพราะเหตุการณ์ในอดีตเลยไม่พูดอีกเลย (ความสามารถ - ควบคุมพืชพันธุ์ได้)
แคลร์ น้องเล็กสุดในกลุ่ม (ความสามารถ - มีปากสองปาก ปากที่สองอยู่ด้านหลังศีรษะ)
 
และเจคอบ เด็กหนุ่มจากปัจจุบันซึ่งเพิ่งเรียนรู้การเป็นคนอัศจรรย์
 
 
เนื่องจากตัวละครหลักเป็นเด็ก การตัดสินใจหรือวิธีรับมือเลยมีช่องโหว่อยู่มาก หายนะเลยมาเยือนบ่อยครั้ง เพราะฉะนั้นอ่านๆ ไปอาจจะหงุดหงิดบ้างว่าทำไมทำอย่างนี้อย่างนั้น การเอาตัวรอดก็แบบง่ายๆ อาศัยโชคเป็นส่วนมาก แต่พอนึกว่าตัวละครยังเด็ก ยังคิดอ่านไม่รอบคอบ และเพราะมีอุปสรรคจึงทำให้เรื่องมีเหตุการณ์ต่างๆ ให้ลุ้นมากมาย ก็เพลินไม่น้อย
 
เล่มนี้โอชอบมากกว่าเล่มก่อนค่ะ โทนจะดาร์กกว่าเล่มที่แล้ว หดหู่กับความคิดของกลุ่มคนบางกลุ่มที่ส่งผลกระทบเลวร้ายต่อคนหมู่มาก แล้วเนื้อเรื่องก็เดินตลอด เด็กๆ แทบจะไม่ได้พักก็มีเรื่องใหม่ให้หืดขึ้นคออีกละ ตัวละครสลับกันมีบทบาทได้ดี และแม้จะอยู่ในช่วงท้อถอยก็ยังมีมุกตลกแทรกมาให้หัวเราะได้บ้าง
 
โอรู้สึกตั้งแต่เล่มที่แล้วว่าเหมือนผู้เขียนจะเขียนเรื่องจากรูป คือใช้รูปแล้วเขียนเรื่องมาผูกโยงเรื่องราวเข้าด้วยกัน
 
 
4
 
 
 
 
เล่าเรื่องเล่มหนึ่งถึงเล่มสองนะคะ 
 
***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ***
 
เจคอบค้นพบกลุ่มเด็กอัศจรรย์ที่ปู่เคยเล่าถึง และที่นี่เขาก็คือคนอัศจรรย์เช่นกัน ความสามารถเจคอบคือมองเห็นอสุรกายด้วยตาเปล่า ขณะที่คนอื่นๆ จะมองไม่เห็น หรือมองเห็นได้เพียงเงาเท่านั้น
 
บ้านของเด็กอัศจรรย์อยู่ในวงเวียนกาลเวลาที่เกาะแคร์นโฮล์ม เด็กๆ ใช้ชีวิตวนเวียนในรอบวันที่มีการทิ้งระเบิด ไม่มีพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้คือวันนี้ที่ย้อนกลับมาใหม่ เจ็ดสิบปีที่เด็กๆ ไม่โตขึ้นแม้แต่น้อย
 
กาลวิญญู มีร่างแปลงเป็นนก (หรือสัตว์ปีกอื่นๆ) นั้นสามารถควบคุมวงเวียนกาลเวลาได้ วงเวียนนี้เองที่ทำให้เกิดการบิดเบือนของเวลา เกิดการรักษาสภาวะที่ทำให้เหล่าเด็กอัศจรรย์ไม่แก่เฒ่า และใช้ชีวิตในวันเดียวกันนั้นได้นานเท่านาน 
 
ความสามารถที่มีประโยชน์นี้ทำให้กลุ่มคนอัศจรรย์บางกลุ่มอยากได้เพื่อที่จะสร้างโลกใหม่ของกลุ่มตนขึ้น คนกลุ่มนี้จึงทำการทดลองดัดแปลงความสามารถ เกิดการระเบิดครั้งใหญ่ และสิ่งมีชีวิตน่าขยะแขยงที่เรียกว่าอสุรกายนั้นก็เกิดขึ้นจากการทดลองเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เอง อสุรกายกินเนื้อสัตว์ เนื้อคน และเนื้อคนอัศจรรย์ เมื่ออสุรกายพัฒนาจนถึงระยะหนึ่งจะสามารถเปลี่ยนไปเป็นอสูร ซึ่งก็คืออสุรกายในร่างแปลงมนุษย์
 
มิสเพเรกริน กาลวิญญู ครูใหญ่ผู้ดูแลเด็กๆ ในวงเวียนแคร์นโฮล์ม ถูกอสูรจับตัวไป แม้เด็กๆ จะช่วยกลับมาได้ แต่ครูใหญ่ก็ไม่สามารถกลายร่างและใช้ความสามารถตัวเองดูแลวงเวียนได้อีก
 
ทางเดียวที่ช่วยได้คือเด็กๆ ต้องตามหานก หรือกาลวิญญูคนอื่นเพื่อช่วยรักษามิสเพเรกริน เด็กๆ จึงต้องเดินทางไปลอนดอน สถานที่ที่มีเบาะแสว่ากาลวิญญูคนสุดท้ายที่ยังไม่ถูกจับตัวไปอยู่ที่นั่น
 
เจคอบเองก็ตัดสินใจอยู่ในยุคอดีตของวงเวียนของเด็กอัศจรรย์กลุ่มนี้เพื่อช่วยเหลือมิสเพเรกริน ซึ่งในยุคนี้เกิดในระยะสงครามนาซีเยอรมัน ซึ่งปู่ของเจคอบเองก็เป็นเด็กชาวยิวที่หนีรอดมาจากการกวาดล้างครั้งนี้ได้
 
เหล่าเด็กอัศรรย์เก็บของ ขึ้นเรือพายสามลำเพื่อพายออกจากเกาะที่เคยอยู่มานับสิบๆ ปี น่าเสียดายที่ทรัพย์สินเกือบทั้งหมดหล่นหายไปในพายุกลางทะเล
 
เมื่อขึ้นแผ่นดินใหญ่ เด็กๆ ตามหาวงเวียนกาลเวลาได้จากเบาะแสในนิทาน ที่นี่พวกเขาพบวงเวียนสวนสัตว์ป่า ซึ่งเป็นวงเวียนที่รักษาเหล่าสัตว์อัศจรรย์ไว้ แต่วงเวียนนี้ไม่มีกาลวิญญู พวกเขาจำต้องทิ้งแคลร์ (หนูน้อยที่มีปากอยู่ข้างหลังศีรษะ) เพราะเธอป่วย และฟิโอนา (เด็กสาวที่ควบคุมพันธุ์พืชได้) อาสาดูแล ส่วนพวกเด็กๆ ที่เหลือต้องเดินทางเข้าลอนดอน ระหว่างทางต้องคอยหลบเหล่าอสูรและอสุรกาย เกือบพลาดท่าหลายครั้งหลายคน แต่ก็ยังดีที่มีเพื่อนๆ คอยช่วยเหลือกันและกัน 
 
ในลอนดอน พวกเด็กๆ เจอวงเวียนกาลเวลา และได้เหล่าเด็กอัศจรรย์เพื่อนร่วมทางใหม่คือโจเอล ปีเตอร์ สองพี่น้องตาบอด (แต่สามารถใช้หูฟังแปลงเป็นภาพ และสามารถมีจิตสื่อสารกันได้) และเมลีนา (ควบคุมเคลื่อนย้ายสิ่งของไม่มีชีวิตได้)
 
จนในที่สุด เหล่าเด็กอัศจรรย์กเจอมิสเวรน กาลวิญญูคนสุดท้าย มิสเวรนช่วยเหลือให้มิสเพเรกรินกลายร่างได้
 
แต่นกที่พวกเด็กๆ พามาตลอดการเดินทางอันยากลำบากนั้น ไม่ใช่มิสเพเรกริน แต่เป็นน้องชายของเธอ ผู้เป็นอสูร
 
เด็กๆ ถูกจับ
 
 
 
ต้องรอติดตามในเล่ม 3 (เล่มจบ) ฉบับภาษาอังกฤษชื่อ Library of Souls ส่วนฉบับภาษาไทยยังไม่ออก สำนักพิมพ์ว่ากำลังอยู่ในขั้นตอนการแปลค่ะ Smiley
 
 
 
 
หน้าสีขั้นบท เป็นสีน้ำตาลเหมือนเล่มที่แล้ว แต่คนละลายค่ะ เรียบ หรู ดูดีเหมือนเดิม
 
 
 
และยังมีรูปภาพประกอบข้างในเหมือนเดิม
 
 
 
 
 
 
.
.
.
 
...เรารวมตัวกันรอบลำเรือเพื่อสำรวจดูว่าสูญเสียอะไรให้ทะเลไปบ้าง มันคือการตรวจนับที่ปวดร้าวเหลือเกิน ตอนนี้เกือบทุกอย่างที่เราขนมาด้วยกระจายเกลื่อนอยู่ตรงก้นทะเลแล้ว
 
สิ่งที่เหลืออยู่คือเสื้อผ้าที่เราแบกไว้บนหลัง อาหารเล็กน้อยในกระป๋องขึ้นสนิม แล้วก็หีบใส่ของโบราณขนาดเท่ารถถังของบรอนวินซึ่งไม่มีวันพังและดูเหมือนจะไม่มีวันจม --- แถมยังหนักอึ้งเหลือเชื่ออย่างที่ถ้าไม่ใช่บรอนวินก็อย่าหวังว่าจะยกขึ้นเลย เราดึงสลักเหล็กบนหีบออก ตื่นเต้นอยากเจออะไรบางอย่างที่มีประโยชน์ หรือจะดียิ่งกว่านั้นถ้ากินได้ แต่สิ่งที่อยู่ในนั้นมีเพียงนิทานภาคต่อสามเล่ม ชื่อ ตำนานมนุษย์อัศจรรย์ หน้ากระดาษพองย่นเพราะน้ำทะเล และมีพรมเช็ดเท้าสวยเก๋ปักตัวอักษร เอแอลพี ชื่อย่อของมิสเพเรกริน
 
"หูย สวรรค์โปรด! ยังดีนะที่มีคนหยิบผ้าเช็ดเท้ามาด้วย" อีน็อคทำหน้าตาย "เรารอดแล้ว"
 
หน้า 25  บทที่ 2
 
.
.
.
 
 
เรื่องนี้มี e-book ด้วยค่ะ

แต่โอหาไม่ครบชุดแฮะ เจอแค่เล่มนี้เล่มเดียวในชุด


 
Thumbnail Seller Link
เมืองหลอนเด็กประหลาด
แรมซัน ริกส์ / วิกันดา จันทร์ทองสุข
www.mebmarket.com
อสูรกาย...พวกมันใช้เชาว์ปัญญาเพื่อทำลายร้างโลก ทำให้สิ่งมีชีวิตต้องล้มตาย เพื่ออะไรน่ะเหรอ ก็เพื่อให้พวกมันมีชีวิตนานขึ้นอีกนิด ให้พวกมันมีพลังมากขึ้น...



Create Date : 20 พฤษภาคม 2559
Last Update : 23 มกราคม 2564 7:51:03 น.
Counter : 6741 Pageviews.

7 comments
  
น่าอ่านอยู่นะ เลยไม่อ่านสปอยล์ แต่ปกดูล้อนหลอนอ้ะโอ

พี่ไปวัดมา เพิ่งออก เลยเพิ่งมาตอบน้าา

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
บ้านต้นคูน Food Blog ดู Blog
ออโอ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 22 พฤษภาคม 2559 เวลา:12:53:22 น.
  
555555555555 น้ำแห้งหมดโลกแหง ถ้าใช้รดตะวัน
ขอบคุณสำหรับโหวตนะคะ


ตอนเข้ามาเจอชื่อบนปกยังงงว่าโหวตไปแล้วนี่

แต่เอ๊ะไหงไม่มีคอมเม้นท์หว่า

อ้าวที่แท้เป็นเล่ม 2 นี่เอง หน้าปกไม่เหมือนสักหน่อยแต่ก็หลอนเหมือนเล่มแรกเลย

ยังยืนยันว่าอยากดูเป็นหนังมากกว่า ยิ่งอ่านรีวิวยิ่งอยากดู



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
อาจารย์สุวิมล Travel Blog ดู Blog
zungzaa Photo Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Literature Blog ดู Blog
ออโอ Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 22 พฤษภาคม 2559 เวลา:20:47:19 น.
  
พี่สาวไกด์ฯ ไม่หลอนเลยค่า กลัวผีก็อ่านได้สบายมาก แต่เล่มนี้จะหม่น ดาร์กมืดมนกว่าเล่มที่แล้วหน่อย ขอบคุณที่โหวตบล็อกให้ค่ะ

คุณเรียวรุ้ง หน้าปกกับชื่อคล้ายกันค่ะ หลายคนเข้าใจผิดมาแล้ว โอก็รอดูหนังค่ะ ชอบน้อง Asa กับเพลงประกอบ และอยากรู้ว่าบทจะปรับอย่างไรบ้าง ขอบคุณที่โหวตบล็อกให้ค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 22 พฤษภาคม 2559 เวลา:23:17:43 น.
  
เดี๋ยวรอครบ 3 เล่ม แล้วค่อยสอยทีเดียวเลยละกัน ^ ^
โดย: Serverlus วันที่: 4 มิถุนายน 2559 เวลา:8:01:23 น.
  
คุณเอ้ อ่านรวดเดียวไม่ต้องค้างเนอะ
โดย: ออโอ วันที่: 7 มิถุนายน 2559 เวลา:22:04:58 น.
  
เรื่องนี้ที่มีหนังเรื่องบ้านประหลาดใช่มั้ยคะ
โดย: MaLonVan IP: 182.232.78.101 วันที่: 2 ตุลาคม 2561 เวลา:20:47:35 น.
  
คุณ MaLonVan ใช่แล้วค่ะ
โดย: ออโอ วันที่: 15 ตุลาคม 2561 เวลา:19:51:17 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ออโอ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]



โอเป็นคนชอบอ่านหนังสือมาก อ่านได้ทุกแนว เสาะแสวงหาเรื่องสนุกๆ แนวใหม่ๆ ตลอด หลายเรื่องไม่มั่นใจก็ค้นหารีวิว ถ้าชอบถ้าใช่ก็ลอง ลองแล้วชอบแล้วประทับใจก็อยากบอกต่อ บางครั้ง อ่านครั้งแรกรู้สึกอย่างนี้ อยากเก็บไว้เพื่อเป็นเรื่องราว บันทึกไว้กันลืม กลับมาย้อนอ่านก็จะได้รู้ว่า ครั้งหนึ่งที่เราเคยอ่าน เรารู้สึกอย่างนี้ เวลาผ่านไป เมื่อกลับมาอ่านอีกครั้ง ก็อาจจะได้มุมมองใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น "ขอให้ทุกคนสนุกกับการอ่าน" รู้สึกดีที่โลกนี้มีหนังสือ-โอ
New Comments