...ออกกำลังกาย...

เป็นเด็กป่วยบ่อยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
จนคนอ่านไดฯ เก่าพากันทักว่าทำไมป่วยอีกแล้ว
แหะ แหะ นี่ขนาดป่วยน้อยกว่าสมัยเด็กๆ แล้วนะ
แบบว่าไม่ค่อยออกกำลังกาย ไม่ค่อยประมาณตน
ชอบใช้พลังงานที่มีจนหมดแล้วก็ปล่อยให้ตัวเองน็อค
ก่อนจะลาพักเป็นการชาร์จแบต...ไม่ดีเลย


ขอบคุณพี่ชายคนรองที่ต้องแวะฟิตเนสทุกวัน
ทำให้เราได้ไปวนเวียนเดินๆ ยกๆ อะไรบ้าง
ถึงจะแป๊บเดียวก่อนไปนั่งดูทีวีรอ ก็ยังได้ทำอะไรหน่อย
ขอบคุณหนูยุ้ยเพื่อนร่วมขบวนการไปฟิตเนส
ที่แม้จะไปมั่งไม่ไปมั่งตามความมาคุของงานก็ยังได้ไป
ขอบคุณคุณท่าน(อดีตเด็กอ้วนที่ตอนนี้)หัวเหม่ง
สำหรับการไปฟิตเนสเย็นวันพุธ และการชวนไปวิ่ง
ที่ถึงแม้เราจะทำได้แค่เดินเร็ว (ก็หนูวิ่งไม่ไหวอ่ะ)
ก็ยังถือว่าได้ออกกำลังกายมากกว่าที่เคยล่ะน่า


สองเดือนมาแล้วที่ไม่ได้ออกกำลังกาย เอาแต่เครียด
ตั้งแต่ยื่นใบลาออกจากงานเก่า จนเริ่มทำงานที่ใหม่
รู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดี รู้สึกสุขภาพจะทรุดโทรมลงไปทุกที
ผ่านหน้าฝนไปอย่างยากลำบากเพราะอาการภูมิแพ้
และก็ทำท่าว่าจะผ่านหน้าหนาวไปแบบทุลักทุเล
ถ้ายังนั่งเครียดไปเครียดมาไม่ได้ออกกำลังกายแบบนี้


สุดท้ายก็ตัดสินใจ...จริงๆ คือหาเรื่องเสียเงิน
สมัครเป็นสมาชิกฟิตเนสก็ได้ ไหนๆ ก็ไม่มีของฟรีให้ใช้
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วเริ่มใช้บริการครั้งแรกไปเล่นโยคะ
วันอาทิตย์คนน้อย แอร์เย็นเฉียบ เล่นหนึ่งชั่วโมงติดใจมาก
แต่ไหงวันจันทร์เมื่อยไปทั้งตัว แบบว่าเดี้ยงสุดๆ
ถึงอย่างนั้นวันจันทร์เช้าก็ยังไปเดินๆ อยู่ครึ่งชั่วโมง
วันอังคารพักให้หายเมื่อยก่อน อาการดีขึ้น
ก่อนที่วันพุธจะไปเดินตอนเช้าก่อนเข้าทำงาน
แล้วตอนเย็นก็ไปเข้าคิวเล่นโยคะอีกหนึ่งชั่วโมง
โยคะตอนเย็นไม่สบายเหมือนตอนสายวันอาทิตย์แฮะ
คิดว่าถ้าไม่มี Class ที่น่าสนใจจริงๆ จะไม่ไปแล้วล่ะ
วันพฤหัสอยากไปโยคะตอนเย็นเพราะมี Class ที่อยากเรียน
(อ่านชื่อกับสรรพคุณแล้วมันดูดี แต่จริงๆ เป็นไงไม่รู้)
แถมที่เรียนเมื่อวันพุธเป็นอะไรที่เบาๆ กลับมาไม่เดี้ยง
แต่ต้องไปงานเปิดตัวรถที่สยาม เลยพักโยคะไว้ก่อน
(เรียนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เปิดตัวรถมีรุ่นละครั้งอ่ะ มันสำคัญ)
วันศุกร์ก็เหมือนเดิม ใส่ชุดกีฬาหอบเสื้อผ้าออกจากบ้าน
ไปเดินตอนเช้าตรู่ก่อนเข้าทำงานเหมือนเคย


ครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เริ่มใช้บริการฟิตเนสมา ก็ดีนะ
วันนี้ทีแรกตั้งใจจะเข้าโยคะสอง Class เพราะน่าสนใจ
แต่บังเอิญหนึ่งในนั้นเข้าไปแล้วเมื่อวันพุธ ก็เลย Class เดียวพอ
ของวันนี้เหนื่อยเท่าวันอาทิตย์ก่อนเลย ไม่รู้วันจันทร์จะเดี้ยงไหม
แต่ค่อยๆ เล่นนานๆ ไปเดี๋ยวมันก็น่าจะชินแล้วหายเดี้ยงเองแหละ


เสียตังค์...มากกว่าเสียค่าหมอตลอดทั้งปีอีกนะเนี่ย
(ก็ค่าหมอเบิกประกันได้แต่ค่าฟิตเนสเบิกประกันไม่ได้นี่นา)
แต่ก็เอาเหอะ เพราะทุกครั้งที่เสียตังค์ก็แปลว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย
ที่มันเริ่มๆ จะรวน และต้องการการซ่อมแซมจากบรรดายาต่างๆ
แล้วเมื่อทานยาไปซ่อมมันแล้ว ก็ไม่รู้เจ้าส่วนที่ว่ามันจะกลับดีเหมือนเดิม
แบบตอนที่มันยังไม่เริ่มรวนต้องการการดูแลรึเปล่า อาจจะไม่เหมือนก็ได้
ถือซะว่าเป็นการเสียตังค์รักษาสุขภาพ ป้องกันไม่ให้มันแย่ไปกว่านี้แล้วกัน
พยายามท่องไว้...ทีเอาตังค์ไปทำเรื่องไร้สาระอย่างอื่นยังทำได้
ทีรักษาสุขภาพตัวเองดันคิดแล้วคิดอีก...ประสาทจริงๆ แฮะเรา


ปล 1. ดีที่เช้าวันแรกก่อนไปเรียนโยคะบอกหมอกระดูกว่าจะไป
หมอเลยบอกบรรดาท่าที่เอาหัวกับไหล่ยันพื้นแล้วขาชี้ฟ้าห้ามทำ
พอเข้า Class วันแรกอาจารย์สอนให้ทำ Shoulder Stand เลย
บอก Step จนทำเป็นท่าเสร็จก่อนบอกว่าคนที่มีปัญหากระดูกคอห้ามทำ
เออ...ดีนะที่เราไหวตัวทันได้รับคำเตือนมาก่อนเลยไม่ได้ทำตามอ่ะ
ไม่รู้จะโกรธอาจารย์ดีรึเปล่าที่ไม่บอกข้อจำกัดของท่าก่อนสอนทำ
หรือจะโกรธตัวเองดีที่ไม่รู้จักบอกข้อจำกัดตัวเองก่อนอาจารย์สอน


ปล 2. วันพฤหัสเป็นวันของการเตรียมงานแต่งงานจริงๆ
ตอนเที่ยงพี่น้องเหมียวโทรมาให้ช่วยหาคนทำ Presentation งานแต่งให้
สุดท้าย...ก็ไอ้คนรับโทรศัพท์พี่น้องเหมียวแหละที่จะเป็นคนทำ
มีเวลาเกือบเดือนในการฝึกหัดใช้โปรแกรม ขอลองดูก่อนฮับ
ตอนหัวค่ำพี่ที่ทำงานเก่าที่ชิงลาออกไปก่อนโทรมา
ขอเพลงแต่งงานจะเอาไปทำ Presentation งานแต่งปลายปี
ไม่กล้าอาสาทำ Presentation ให้เพราะของพี่น้องเหมียวยังงงๆ อยู่เลย
แต่รับปากว่าจะหาเพลงมาให้ กะว่าจะไปตบเพลงจากน้องเต้มา
ตอนดึกเพื่อนรักที่จะแต่งงานปลายปีหน้าโทรมา
บอกว่าเพื่อนของเพื่อนจะแต่งงาน ขอเบอร์โทรร้านเค้กหน่อย
กลับบ้านมีโบรชัวร์ร้านอยู่พอดี เลยรีบ SMS ไปให้ก่อนที่จะลืม
(พอดีเป็นร้านเค้กที่ฝ่ายสั่งเลี้ยงวันเกิดกันบ่อย เค้กอร่อยใช้ได้
เข้าเว็บไปเห็นเค้ามีเค้กแต่งงานด้วยเลยส่งให้บรรดาเพื่อนๆ ที่จะแต่ง
เพื่อนเลยจำได้ว่ามี แต่จำเบอร์ติดต่อไม่ได้ ต้องโทรมาขอ)
กลับไปบอกกับที่บ้านแบบขำๆ บอกว่าวันนี้มีว่าที่เจ้าสาวสามคนโทรมา
อาบอกว่าดูลู่ทางเป็น Wedding Planner เลยลูก เหมือนในหนังไง
ทีแรกนึกว่าเหมือนใน The Wedding Planner ที่สุดท้ายจะได้เจอพี่แมทธิว
แต่หนังที่อาว่าดันเป็นละครเจ้าสาวมืออาชีพที่มาช่าเล่น ไม่เอาง่ะ


ปล 3. ช่วงนี้เป็นเด็กไฮเปอร์ สงสัยกดดันจากการไม่มีงานทำ
เริ่มจากอาสารวบรวมรูปงาน Wedding Shower เอามาทำ Present
แล้วจะ burn ใส่ CD สีชมพูหวานแหววแจกคนที่ไปงานวันนั้นทุกคน
ก่อนรับอาสาว่าที่เจ้าสาวทำ Presentation ในงานแต่งซะอีก (เอาเข้าไป)
โทรหารถไฟ รถทัวร์ ที่พัก หารายละเอียดทำแผนการเที่ยวปลายปี
พร้อมทั้งประมาณค่าใช้จ่ายให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ในแก๊งค์ได้ตัดสินใจ
เดินช้อปปิ้งตอนสองทุ่มกว่า เลือกของไปบวกน้ำหนักไปในใจ
ทั้งๆ ที่ไม่รู้หรอกว่าคนรับอยากจะรับรึเปล่า แต่คนให้อยากซื้ออ่ะ...สนุกดี
หาเพลงแต่งงานให้เจ๊ที่ออฟฟิศเก่า มีเพลงอะไรบางหว่า นึกๆๆ
(ปกติเป็นคนไม่ค่อยจำชื่อเพลงซะด้วย ซวยแล้วครับท่านผู้ชมงานนี้)

Create Date : 16 ตุลาคม 2548		2 comments
Last Update : 16 ตุลาคม 2548 18:49:25 น.
Counter : 492 Pageviews.
Share Tweet