|
...คุณเภสัชกร...
ปล่อยให้ตัวเองเป็นภูมิแพ้น้ำมูกยืดอยู่พักนึง แบบว่ากะให้มันหายเอง ไหนๆ ก็ออกกำลังกายแล้ว แต่ลืมไปว่ากรุงโรมไม่ได้สร้างเสร็จภายในวันเดียว เพราะฉะนั้นภูมิแพ้ที่เป็นมายี่สิบกว่าปี จะหายเพราะออกกำลังกายไม่กี่เดือนได้ไงฟะ? กว่าจะตั้งสติได้เริ่มทานยา ก็พบว่าสายเกินไป หูชั้นกลางอักเสบไปเรียบร้อย แง๊ เอาอีกแล้วตู
ไปหาคุณหมอบอกว่าคุณหมอคะหูหนูเหมือนมีอะไรดันๆ คุณหมอดูๆ อ๋อ หูชั้นกลางอักเสบค่ะ เป็นภูมิแพ้ใช่ไหมคะ พลิกๆ ดูประวัติการรักษา อืม...แพ้ยาเยอะนะคะ ว่าแล้วคุณหมอก็ทำในสิ่งที่คุณหมอคนอื่นๆ ทำมาแล้ว ประมาณว่าเกือบกุมขมับ มันแพ้ยาเยอะขนาดนี้ จะให้มันทานยาตัวไหนได้บ้างล่ะเนี่ย ที่มันจะไม่ตาย แล้วเป็นเหตุให้ที่บ้านมันมาฟ้องคุณหมอเอาทีหลัง (ยิ่งตอนนี้ฮิตฟ้องหมอกับโรงพยาบาลกันอยู่) สุดท้ายก็ได้ยาแก้อักเสบกับยาแก้แพ้มาตามฟอร์ม ทานยาไปวันแรก เอ่อ...ไม่หายแถมยังปวดหูด้วย (วันก่อนที่ไปหาหมอก็ไม่รู้จักปวด เซ็งจริงๆ) เอาไงดี...แวะไปซื้อยาหยอดหูก่อนขึ้น BTS ดีกว่า ไปถึงร้านขายยา คุณเภสัชกรหยิบยามาให้ อ่านข้างกล่อง...ห้ามใช้ยานี้ในผู้ที่แพ้ เพราะอาจมีอาการ...ฯลฯ ถามคุณเภสัชกรว่าจะรู้ได้ไงอ่ะคะว่าแพ้ยานี้ คุณเภสัชกรเลยถามว่าแพ้ยาอะไรบ้าง เท่านั้นแหละ คุณเภสัชกรเริ่มทำหน้ายุ่ง อ่านแล้วอ่านอีก เอ่อ...ตัวนี้ก็แพ้ ตัวนั้นก็แพ้ ตัวโน้นก็ไม่ได้ หยิบยาขวดแล้วขวดเล่ามาอ่านๆๆ ก่อนจะวางกลับที่เดิม สุดท้ายคุณเภสัชกรหยิบยามาหนึ่งขวด บอกว่าอันนี้แหละไม่แพ้ แต่...ไม่ยอมส่งให้ ขอดูยาแก้อักเสบที่คุณหมอให้ทาน ก่อนบอกว่าน้องแพ้ขนาดนี้ ทานยาตามที่คุณหมอสั่งเถอะ การรักษาต้องใช้เวลา อย่าเอายาหยอดไปเลย แค่ทานยาแก้อักเสบมันก็ช่วยได้แล้ว ยาหยอดน่ะไม่จำเป็น จะได้ไม่เสี่ยงต่ออาการแพ้ คุณเภสัชกรก็ไม่เสี่ยงต่อคุกด้วย คุยไปคุยมาก็เลยเอาฟะ ออกจากร้านขายยาโดยไม่มียา นานๆ เจอคุณเภสัชกรมีจรรยาบรรณทีก็ดีเหมือนกันนะ ว่าแล้ว...ก็ทนปวดหูต่อไป งือๆ เมื่อไหร่จะหายฟะ? Note: คงหายหรอก เครียด+นอนน้อย = ภูมิแพ้กำเริบ ภูมิแพ้กำเริบ = หูอักเสบ (ดีกว่าคออักเสบไหมนะ?)
ว่าแล้วก็เซ็งจิต...พยายามออกกำลังกายต่อไป สักวันจะได้มีสุขภาพเป็นปกติอย่างคนอื่นเค้าบ้าง (แต่นี่ก็ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะแล้วนะ >__< )
อ่านที่ตัวเองเขียนวันก่อนพร้อม comment ใน Blog จู่ๆ ก็ถามตัวเองขึ้นมาว่า...มันจะยากตรงไหนกันแค่เปลี่ยนวิธีคิด ถ้าเราเชื่อมั่นว่าเราสามารถเปลี่ยนวิธีคิดได้...เราก็จะทำได้ เมื่อเรารู้ว่าการเปลี่ยนวิธีคิดแม้เพียงนิดหน่อย ก็อาจสร้างความสุขในชีวิตได้มากมาย แล้วเป็นพวกชอบความเจ็บปวดหรือไง...ถึงไม่ยอมเปลี่ยน พอมาอ่านที่ตัวเองเขียนอีกครั้งพร้อม comment ใน di ก็ต้องขอบคุณหนึ่งความเห็น ที่เขียนสิ่งซึ่งกำลังคิด ให้เห็นกันชัดๆ ในหน้า di พอดิบพอดี
เปลี่ยนวิธีคิด มันยากตรงไหนหรอครับ ถ้าคิดใหม่ว่า การเปลี่ยนวิธีคิด มันง่ายนิดเดียว ก็จะพบว่า เออ มันก็ง่ายนิดเดียว จริงจริงด้วย นิว : 18 ม.ค. 2549 เวลา 00:33 น.
พระเจ้าได้ให้ความเข้มแข็งนี้กับคุณเช่นกันใช่ไหม?
Create Date : 20 มกราคม 2549 |
|
7 comments |
Last Update : 20 มกราคม 2549 14:19:02 น. |
Counter : 540 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: ซัน IP: 203.146.226.33 วันที่: 20 มกราคม 2549 เวลา:14:00:01 น. |
|
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.11.1.31 วันที่: 21 มกราคม 2549 เวลา:20:16:24 น. |
|
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.11.1.156 วันที่: 22 มกราคม 2549 เวลา:19:34:56 น. |
|
โดย: นิ๊ด...นึง IP: 149.169.139.237 วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:0:24:15 น. |
|
โดย: ต่อตระกูล วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:10:44:23 น. |
|
| |
|
Nontagorn |
|
|
|
|
และอยู่ในที่ ที่อากาศดี ไม่ค่อยีมลภาวะน่ะค่า